สารบัญ

กลีบซากุระร่วงโรย เวลาก็ล่วงเลยผ่านเดือนเมษายนมา ก็ถึงเวลาถอดเสื้อตัวหนาเหลือไว้แค่เสื้อตัวบางด้านใน สายแอคทีฟอย่างฉันที่อ่อนไหวกับธรรมชาติและชอบเที่ยวญี่ปุ่นตอนต้นฤดูร้อนที่สุด เพราะเราไม่จำเป็นต้องแบกสัมภาระให้รุงรัง อีกทั้งอากาศกำลังดี ทำให้เดินชมนกชมไม้เขียวชอุ่มได้สบายมาก บทความนี้จะชวนคุยไปเที่ยวไปในช่วงต้น ฤดูร้อน (ปลายเม.ย.-ถึงปลายมิ.ย.) ของภูมิภาค โทโฮคุ เพราะจริงๆ ก็มีกิจกรรมและสถานที่ที่เปิดให้บริการพิเศษในช่วงนี้โดยเฉพาะ

ซึมซับบรรยากาศและสัมผัสธรรมชาติสีเขียวขจีในช่วงต้น ฤดูร้อน ของภูมิภาค โทโฮคุ

เป็นเรื่องปกติที่คนจะอยากเดินทางมาญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อดูซากุระ ฤดูหนาวเพื่อเล่นหิมะขาวหรือจะเป็นชาวตามเก็บใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง แต่สำหรับคนชอบอุณหภูมิสูงหน่อยอย่างใน ฤดูร้อน แบบที่ใส่เสื้อผ้าแบบที่มีในเมืองไทยได้สบาย ช่วงกลางปีแบบนี้ก็อาจเป็นจังหวะดีที่จะมาเดินเล่นท่ามกลางทัศนียภาพเขียวขจีของภูมิภาค โทโฮคุ ตั้งแต่โซนเหนือของเมืองเซนไดขึ้นไป ได้แก่ อาโอโมริ อาคิตะ อิวาเตะ มิยากิ และยามากาตะ

ทีมนักท่องเที่ยวสายประหยัดคงจะพอรู้กันว่าสถานที่แต่ละแห่งในโทโฮคุนั้นอยู่ค่อนข้างห่างไกลกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีบัตรโดยสารสำหรับใช้แทนตั๋วรถไฟ ที่จะช่วยประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะจริงๆ และถ้าจะเที่ยวภูมิภาคนี้ก็ต้องซื้อบัตร JR EAST PASS (Tohoku area) พกติดตัวไว้ให้อุ่นใจ ก็น่าเพิ่มเลเวลความสนุกในการเดินเที่ยวได้อีกเยอะ

 

ข้อมูลบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)

บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)เที่ยวทั่ว โทโฮคุ ในช่วงต้น ฤดูร้อน ด้วยบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)

เที่ยวให้โทโฮคุให้คุ้มค่าก็ต้องมีบัตรโดยสารซึ่งใช้แทนตั๋วสำหรับโดยสารรถไฟ แนะนำให้รู้จักกับ JR EAST PASS (Tohoku area) ที่ใช้นั่งทั้งชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น รถไฟท่องเที่ยว Joyful Train (บางขบวน) ในเส้นทาง JR EAST Lines ได้ฟรีทั้งหมด รวมถึงสามารถใช้โดยสารรถ JR BUS TOHOKU นั่งรถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะ หรือ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน

ราคา: ผู้ใหญ่ 20,000 เยน, เด็ก 10,000 เยน
เงื่อนไข: ต้องใช้ 5 วัน ติดต่อกัน
จุดจำหน่าย: ซื้อผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋วบางสถานี, เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว หรือซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทย
วิธีใช้งาน: สอดบัตรโดยสารกับเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟได้เลย
หมายเหตุ: ราคาและเงื่อนไขการใช้ดังกล่าวจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2021 เป็นต้นไป
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.kiji.life/jr-east-pass-price-2021

 

Aomori

เดินป่าตามเส้นทางชมธรรมชาติ Oirase

ลำธารโออิราเสะที่เมื่อนานมาแล้วเคยเป็นแหล่งภูเขาไฟ พอปะทุบ่อยเข้าก็เกิดเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่จนกลายเป็นลำธารน้ำใสในภายหลัง ปัจจุบันเส้นทางเลียบลำธารโออิราเสะนี้กลายเป็นเส้นทางชมธรรมชาติระยะทาง 14 กิโลเมตร ที่ฮอตฮิตจนทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

บรรยากาศภายในลำธารโออิราเสะ (Oirase) ช่วงต้น ฤดูร้อน ของจ.อาโอโมริ ภูมิภาค โทโฮคุ ผู้คนต่างนิยมมาเที่ยว โทโฮคุ ในช่วง ฤดูร้อน ที่ ลำธารโออิราเสะ (Oirase) จ.อาโอโมริ

คนที่รักการเดินป่าน่าจะเพลิน และถ้าชอบเดินแบบที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวขจี แนะนำว่าช่วงเดือนก่อนฤดูร้อนจะเหมาะสม เพราะสามารถสูดกลิ่นดินชุ่มชื้นใบไม้เขียวแตกยอดอ่อนได้อย่างสบายใจเลยล่ะ ถ้าจะเดินตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทางก็ใช้เวลาราว 4-5 ชั่วโมง แล้วแต่กำลังขาและกำลังใจ แต่อยากเดินนิดหน่อยพอให้ใจเต้นเร็วขึ้นก็ได้ ระหว่างทางมีป้ายรถบัสให้ขึ้นลงได้ตลอดทางด้วยเช่นกัน ไฮไลท์ที่อยากแนะนำคือ Kumoinotaki Falls (ป้าย Kumoinotaki) และ Choshi-otaki Falls (ป้าย Choshi-otaki) น้ำตกแลนด์มาร์คที่มีช่างภาพมาถ่ายรูปกันเพียบ

สถานที่เที่ยวในภูมิภาค "โทโฮคุ" ฤดูร้อน - ลำธารโออิราเสะ (Oirase) จ.อาโอโมริ

Info
Oirase Gorge
Location: ระหว่างป้ายรสบัส Yakeyama กับ Nenokuchi (8 ป้าย)
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ นั่งรถ JR BUS TOHOKU ที่ป้ายหมายเลข 11 ข้างๆ Tourist Information Center Aomori City ไปลงที่ป้าย Yakeyama ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางชมธรรมชาติโออิราเสะ
Note: หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) นั่งฟรี

 

ล่องเรือและเดินเล่นริมทะเลสาบ Lake Towada

สถานที่เที่ยวในภูมิภาค "โทโฮคุ" ฤดูร้อน - ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) จ.อาโอโมริ

ทะเลสาบโทวาดะเชื่อมต่อกับเส้นทางชมธรรมชาติโออิราเสะ นับเป็นอีกจุดชมธรรมชาติที่สวยงามของอาโอโมริ นอกจากจะได้ผ่อนคลายไปกับแสงระยิบระยับยามแดดอ่อนๆ กระทบกับน้ำทะเลสาบและเหล่าต้นไม้นานาพันธุ์โดยรอบแล้ว ยังมีภูเขาฮักโกดะ (Mt. Hakkoda) เป็นฉากหลังเสริมให้ที่นี่สวยทวีคูณขึ้นอีก

ล่องเรือสำราญชมวิวทะเลและภูเขา อีกหนึ่งกิจกรรมฤดูร้อนห้ามพลาดในทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada)

จากโออิราเสะสามารถนั่งบัสยาวมาลงที่ทะเลสาบโทวาดะได้เลย โดยให้นั่งมาลงที่ป้ายสุดท้ายจะเจอ JR HOUSE TOWADA บริเวณนี้มีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า วัดวา และศาลเจ้า ทั้งยังมีกิจกรรมถีบเรือเป็ดและพายเรือแคนูสำหรับคนเบื่อริมฝั่ง แต่ถ้าเมื่อยล้าจากการเดินหลายชั่วโมง แนะนำกิจกรรมล่องเรือสำราญ ซึ่งจะได้เปลี่ยนบรรยากาศไปชมวิวในอีกรูปแบบหนึ่ง

Info
Lake Towada
Period: เรือสำราญ, เรือแคนู และเรือเป็ด ให้บริการเฉพาะปลายเดือนเมษายนถึงกลางพฤศจิกายน
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ นั่งรถ JR BUS TOHOKU ที่ป้ายหมายเลข 11 ข้างๆ Tourist Information Center Aomori City ไปลงสุดสายที่ป้าย Lake Towada (Yasumiya) ซึ่งเป็นทะเลสาบโทวาดะพอดี แต่ถ้าจะล่องเรือให้ลงป้าย Nenokuchi ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
Website: www.towadako.or.jp/en
Note:
– หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) นั่งฟรี
– ไม่สามารถชำระด้วย IC Card (สมาร์ทการ์ด)
– JR BUS TOHOKU ให้บริการแบบ First come, First served ใครมาถึงก่อน ก็สามารถขึ้นรถได้ก่อนตามรอบที่มีให้บริการ ก่อนเดินทางแนะนำให้ตรวจสอบรอบรถทางเว็บไซต์ www.jrbustohoku.co.jp/en

 

ชมดอกแอปเปิ้ลขาวที่สวนในเมือง Hirosaki

กิจกรรม ฤดูร้อน ในภูมิภาค "โทโฮคุ" - ชมดอกแอปเปิ้ลขาวที่สวนในเมืองฮิโรซากิ (Hirosaki)

เมืองฮิโรซากิ เป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น เหมาะกับคนที่อินกับแอปเปิ้ลขั้นสุด เพราะมีทั้งสวนและร้านพายแอปเปิ้ลกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง ขนาดที่ว่าแจก Apple Pie Map ให้หยิบแล้วสามารถตามเก็บได้ทั่ว

เทศกาลชมดอกแอปเปิ้ล (Hirosaki Apple Flower Festival)

ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมหลังจากที่ดอกซากุระร่วงโรย เมืองฮิโรซากิจะมีเทศกาลชมดอกแอปเปิ้ล (Hirosaki Apple Flower Festival) ขอแนะนำให้แวะไป Hirosaki Apple Park หนึ่งในสวนผลไม้อันดับท็อปๆ ของเมืองนี้ ชวนชมดอกแอปเปิ้ลสีนวลเริ่มเบ่งบานเป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ อีกทั้งภายในงานจะมีผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลมาออกร้านให้ผู้มาเยือนลองลิ้มรส หรือจะซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านก็ได้ทั้งนั้น

Info 
Hirosaki Apple Park
Period: Hirosaki Apple Flower Festival ต้นถึงกลางพฤษภาคม
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday:
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access: นั่งแท็กซี่จากสถานีฮิโรซากิ ใช้เวลา 14 นาที

 

เดินป่าชมสระมรกต Aoike ในพื้นที่มรดกโลกชิราคามิ

กิจกรรม ฤดูร้อน ในภูมิภาค "โทโฮคุ" - เดินป่าในเทือกเขาชิราคามิ (Shirakami Sanchi) จ.อาโอโมริ

ต้นฤดูร้อนแบบนี้ สายแอคทีฟอย่าพลาดไปเดินป่าในเทือกเขาชิราคามิ (Shirakami Sanchi) มรดกโลกทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 อุดมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มนานาพันธุ์โดยเฉพาะต้นบีชญี่ปุ่นในพื้นที่กว้างที่สุดในโลกราว 812,500 ไร่

สถานที่เที่ยวในภูมิภาค "โทโฮคุ" ฤดูร้อน - สระมรกตอาโออิเคะ (Aoike) จ.อาโอโมริ

มาแล้วอย่าลืมแวะไปที่สระมรกตอาโออิเคะ (Aoike) ซึ่งไม่ไกลจากสถานีจูนิโกะด้วย สีเขียวมรกตสวยๆ ของน้ำเกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาตินั่นเอง

Info
Aoike
Nearest Station: สถานีจูนิโกะ (Juniko Station)
Access: นั่งรถบัสจากด้านหน้าสถานีจูนิโกะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินเท้าต่ออีกเล็กน้อย

 

+Special Guide
Resort Shirakami

เที่ยว "โทโฮคุ" ช่วงต้น ฤดูร้อน โดยรถไฟ Resort Shirakamiภาพ: East Japan Railway Company

ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเที่ยวภูเขาหรือทะเล ขอให้นึกถึง Resort Shirakami รถไฟสายธรรมชาติที่พาวิ่งเลียบหาดของเทือกเขาชิราคามิ (Shirakami Sanchi) มรดกโลกทางธรรมชาติที่สวยจับใจและวิวป่าเขาลำเนาไพรที่ทำให้สดชื่นชุ่มฉ่ำหัวใจในทันตา บวกกับดีไซน์และบรรยากาศอบอุ่นจากไม้ภายในขบวนที่เหมือนยกป่าโทโฮคุมาไว้ในรถไฟ

เส้นทาง: ระหว่างสถานีอาคิตะ (Akita Station) จังหวัดอาคิตะ กับสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) จังหวัดอาโอโมริ
วันให้บริการ: ส่วนใหญ่รถไฟจะวิ่งวันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) ให้บริการเกือบทุกวัน
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.jreast.co.jp/e/joyful/shirakami.html

 

เดินเทรลริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก Michinoku Coastal Trail

กิจกรรม ฤดูร้อน ในภูมิภาค "โทโฮคุ" - เดินเทรลริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก Michinoku Coastal Trailภาพ: www.visithachinohe.com

ช่วงประมาณเดือนมิถุนายนที่อากาศกำลังดี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินเทรลชมธรรมชาติสบายๆ เป็นที่สุด บริเวณริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างเกาะคาบุชิมะ (Kabushima Island) ในเมืองฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) จังหวัดอาโอโมริ กับมัตสึกาวะอุระ (Matsugawaura) เมืองโซมะ (Soma) ในจังหวัดฟุกุชิมะ มี Michinoku Coastal Trail เส้นทางเทรลเป็นระยะทางราว 1,000 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นหลายคอร์ส แต่ถ้าเดินทางมาเที่ยวอาโอโมริพอดีก็ขอแนะนำรูทฮาจิโนเฮะไว้ในอ้อมใจ

ภาพ: www.visithachinohe.com

ระหว่างเดินจะได้เพลิดเพลินกับสิ่งรอบกาย ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมตามท้องถิ่นที่เดินผ่าน บางจุดก็มีกิจกรรมให้ร่วมสนุก เช่น การสะสมสแตมป์เพื่อไปแลกเป็นรางวัลเพื่อยืนยันว่าคุณเดินมาจนจบคอร์สแล้ว เป็นต้น

Info
Michinoku Coastal Trail (Hachinohe Route)
Nearest Station: สถานีซาเมะ (Same Station)
Access: จากสถานีซาเมะ เดิน 12 นาที
Route Map: www.tohoku.env.go.jp/mct/english/top/pdf/01_hachinohe_map.pdf
Website: www.tohoku.env.go.jp/mct/english/

 

+Special Guide
TOHOKU EMOTION

เที่ยว "โทโฮคุ" ช่วงต้น ฤดูร้อน โดยรถไฟ TOHOKU EMOTIONภาพ: East Japan Railway Company

รถไฟร้านอาหารที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อช่วยฟื้นฟูท้องถิ่น เพราะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสึนามิเมื่อปี ค.ศ. 2011 ซึ่งเดือนมีนาคมนี้ครบรอบสิบปีพอดี ทั้ง 3 ตู้ของรถไฟขบวนนี้ทำหน้าที่เป็นร้านอาหารที่ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารรสเลิศโดย Executive Chef จากห้องอาหารชื่อดัง วัตถุดิบที่นำมาใช้ก็เป็นของดีในท้องถิ่น เคล้าบรรยากาศชายฝั่งซันริกุที่รสชาติอร่อยทั้งอาหารและวิว

เส้นทาง: ระหว่างสถานีสถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe Station) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) กับคุจิ (Kuji Station) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
วันให้บริการ: รถไฟจะวิ่งวันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) ให้บริการในวันศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ จันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.jreast.co.jp/e/joyful/tohoku.html

 

Akita

เดินเล่นในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ Misato Lavender Field 

สถานที่เที่ยวในภูมิภาค "โทโฮคุ" ฤดูร้อน - ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ที่เมืองมิซาโตะ (Misato) จ.อาคิตะ

ทุ่งลาเวนเดอร์ที่คุณรู้จักอาจอยู่ในฮอกไกโด แต่อันที่จริงจังหวัดอาคิตะก็มีทุ่งลาเวนเดอร์ให้แวะมาวิ่งเล่นได้เช่นกัน พิเศษเฉพาะช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคมของทุกปี ที่เมืองมิซาโตะ (Misato) จะมีเทศกาลชมดอกลาเวนเดอร์หลากสายพันธุ์ประมาณ 20,000 ต้นสุดลูกหูลูกตา มองผ่านๆ เหมือนกำลังถูกห่มด้วยผ้าสีม่วงละมุน

กิจกรรม ฤดูร้อน ในภูมิภาค "โทโฮคุ" - เดินเล่นในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ Misato Lavender Field

ในช่วงเทศกาลจะมีร้านอาหารท้องถิ่นรวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ลาเวนเดอร์เป็นส่วนประกอบมาออกร้านให้เลือกช็อปมากมาย อีกทั้งจะได้สัมผัสประสบการณ์เก็บดอกลาเวนเดอร์ ส่วนใครที่พาเด็กเล็กไปก็ไม่ต้องกลัวจะเบื่อ เพราะเขามีโซนเครื่องเล่นเด็กให้บริการด้วย เหมาะมากสำหรับการแวะมาพักผ่อน ทุ่งลาเวนเดอร์นี้เข้าชมได้ฟรีด้วยนะ

Info
Misato Lavender Field
Period: กลางเดือนมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคม
Hours: 9:00-17:00 น.
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีโอมาการิ (Omagari Station)
Access: จากสถานีโอมาการิ นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาที

 

สูดกลิ่นธรรมชาติและชื่นชมความงามของน้ำตกที่ Dakigaeri Gorge

สถานที่เที่ยวในภูมิภาค "โทโฮคุ" ฤดูร้อน - หุบเขาดาคิกาเอริ (Dakigaeri Gorge) จ.อาคิตะภาพ: www.tohokukanko.jp

อยู่ในเมืองใหญ่นานๆ ก็อาจมีบ้างที่คิดถึงการสูดกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า หุบเขาดาคิกาเอริเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมืองเซมโบกุ ว่ากันว่าถ้าเดินทางมาในฤดูร้อนสีเขียวของเหล่าพรรณไม้ที่แตกยอดอ่อนก็ให้ความรู้สึกสดชื่นมาก เอกลักษณ์ของที่นี่คือแม่น้ำทามะ (Tama River) ที่ไหลผ่านช่องเขาจะเป็นสีฟ้าสด

ศาลเจ้าดาคิกาเอริ (Dakigaeri Shrine) สะพานคามิโนะอิวาฮาชิ (Kami no Iwahashi Bridge)

ใบหุบเขามีหลายจุดน่าชม ตรงสะพานคามิโนะอิวาฮาชิ (Kami no Iwahashi Bridge) เป็นหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดนิยม และอย่าแวะลืมไปขอพรที่ศาลเจ้าดาคิกาเอริ (Dakigaeri Shrine) ถ้าเดินย้อนกลับไปอีกฝั่ง จะเจอเส้นทางชมธรรมชาติ 1.5 กิโลเมตร มีอุโมงค์หินเหมือนในการ์ตูนสตูดิโอจิบลิ พ้นอุโมงค์ออกมาจะพบกับน้ำตกมิคาเอริ (Mikaeri Falls) อยู่ทางด้านขวามือ ลองจับเวลาเดินเอื่อยๆ ชมนกชมไม้มาเรื่อยๆ ก็ราว 30 นาที

น้ำตกมิคาเอริ (Mikaeri Falls)ภาพ: www.tohokukanko.jp

Info
Dakigaeri Gorge
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station)
Access: จากสถานีคาคุโนะดาเตะ นั่งแท็กซี่ประมาณ 15 นาที
Website: www.city.semboku.akita.jp/en

 

จุดชมวิวหมุนได้ Kanpuzan Rotating Observatory

ภาพ: www.tohokukanko.jp

ถ้าบอกว่านี่คือหอคอยสำหรับชมวิวพาโนรามา 360 องศา ตั้งอยู่บนเขาคังปู (Mt. Kanpu) ในเมืองโองะ (Oga) อาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นเท่าไร แล้วถ้าบอกว่านี่คือหอคอยหมุนได้ล่ะ ดูเก๋และน่าไปขึ้นมาเลยไหม เราสามารถนั่งหรือยืนชม แล้วปล่อยให้ฐานหอคอยทรงกลมหมุนรอบตัวเองพาเราไปทอดสายชื่นชมทัศนียภาพได้ทุกองศาจริงๆ

หอคอยสำหรับชมวิวพาโนรามา 360 องศา บนเขาคังปู (Mt. Kanpu)ภาพ: www.tohokukanko.jpสถานที่เที่ยวในภูมิภาค "โทโฮคุ" ฤดูร้อน - เขาคังปู (Mt. Kanpu) เมืองโองะ (Oga)ภาพ: www.thegate12.com

หอคอยคังปูไม่ได้เปิดตลอดทั้งปี แต่จะให้บริการเฉพาะช่วงที่หญ้าบนเขามีสีเขียวขจีเท่านั้น จากด้านบนนี้จะได้เห็นทิวทัศน์สวยตรึงใจทั้งภูเขาคังปู คาบสมุทรโอกะ ท่าเรือโนชิโระ แหลมนิวโดซากิ ไปจนถึงเทือกเขาชิราคามิ (Shirakami Sanchi) ซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของญี่ปุ่นด้วย

Info
Kanpuzan Rotating Observatory
Period: กลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
Hours: 8:30-17:00 น.
Holiday:
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็ก 270 เยน
Nearest Station: สถานีวาคิโมโตะ (Wakimoto Station)
Access: จากสถานีวาคิโมโตะ นั่งแท็กซี่ประมาณ 12 นาที
Website: www.akita-chuoukotsu.co.jp/kanpuzan

 

Iwate

สวนไฮเดรนเยียใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น Michinoku Ajisai Garden

สถานที่เที่ยวในภูมิภาค "โทโฮคุ" ฤดูร้อน - สวนมิจิโนะคุอาจิไซ (Michinoku Ajisai Garden)ภาพ: www.ichitabi.jp

เชื่อว่าคนที่เคยเดินทางมาญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม น่าจะเคยเห็นดอกไฮเดรนเยียเบ่งบานตามข้างถนนบ้างล่ะ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามีสวนมิจิโนะคุอาจิไซ เป็นทุ่งไฮเดรนเยียขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่เมืองอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki)

สวนมิจิโนะคุอาจิไซ (Michinoku Ajisai Garden) สวนไฮเดรนเยียใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นภาพ: www.tohokukanko.jp

สวนนี้ใหญ่ขนาดที่ว่ามีแผนที่เส้นทางเดินชมแจกก่อนเข้า ภายในเต็มไปด้วยไฮเดรนเยียหลากหลายสีสันประมาณ 400 สายพันธุ์ ทั้งชนิดสวยและหายากละลานตาจำนวนกว่า 40,000 ต้น เลาะตามทางไปเรื่อยๆ ก็มีคาเฟ่และร้านอาหารให้นั่งพักพร้อมๆ กับชมวิวดอกไม้ แต่ถ้าเดินไม่ไหวก็มีรถกอล์ฟให้บริการด้วย

Info 
Michinoku Ajisai Garden
Period: ปลายเดือนมิถุนายนถึงปลายกรกฎาคม
Hours: 8:00-17:00 น.
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 200 เยน
Nearest Station: สถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki Station)
Access: จากสถานีอิชิโนะเซกิทางออกตะวันตก (West Exit) ให้ขึ้นรถบัสที่จุดจอดรถบัสหมายเลข 7 ไปลงที่ป้าย Mizukami (水上) ประมาณ 30 นาที จากนั้นเดินประมาณ 15 นาที
Website: www.ichitabi.jp

 

ถ่ายภาพตามังกรที่ Kagami-numa (Hachimantai Dragon Eye)

ปรากฏการณ์ตามังกร (Dragon Eye) ที่บึงคากามินุมะ (Kagami-numa)

บึงคากามินุมะ บึงน้ำสีฟ้าสวยตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติฮาจิมันไต (Hachimantai) เป็นที่เลื่องลือในการเดินทางมาชมปรากฏการณ์ “ตามังกร (Dragon Eye)” ขนาดใหญ่ ซึ่งจะเผยให้เห็นเพียง 2 สัปดาห์ต่อปีเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นช่วงระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน จึงกลายเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่ใครๆ ต่างรอคอย

ในฤดูหนาวบึงน้ำนี้จะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและค่อยๆ ละลายเป็นน้ำสีฟ้า จนกระทั่งปลายเดือนพฤษภาคมหิมะรอบๆ จะละลายจนเหลือเพียงเกาะตรงกลาง และหิมะตรงจุดศูนย์กลางก็จะละลายเมื่อเข้าสู่ต้นเดือนมิถุนายน จนมีลักษณะคล้ายดวงตาของมังกรนั่นเอง ข้อควรระวังคือบางปีก็ไม่สามารถเห็นดวงตามังกรได้ แนะนำให้ตรวจสอบทางเว็บไซต์ล่วงหน้า

Info 
Kagami-numa (Hachimantai Dragon Eye)
Period: กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน
Hours: 9:00-16:00 น.
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีโมริโอกะ (Morioka Station)
Access: จากสถานีโมริโอกะ ให้ขึ้นบัสสาธารณะหรือ Shizen Sansaku Bus ไปลงที่ป้าย Hachimantai Summit (八幡平頂上) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
Website: www.hachimantai.co.jp

 

ล่องเรือโบราณที่หุบเขาหินเก่าแก่ Geibikei Gorge

เกบิเคเป็นหุบเขาหินเก่าแก่กว่า 100 ปี แม้จะได้ยินมาว่าหุบเขาเกบิเคเป็นที่นิยมเดินทางมาเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วง แต่ฤดูร้อนก็สวยไม่แพ้กัน เพราะจะได้เห็นสีเขียวชอุ่มของต้นไม้กับโขดหินผา มองเห็นปลาแหวกว่ายในน้ำใสสะอาดเพลินตา

ล่องเรือโบราณที่หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge)

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยคือ การล่องเรือ เพราะเรือไม้ของที่นี่ต่อด้วยมือทีละลำอย่างประณีตด้วยไม้สนซีดาร์ของญี่ปุ่น มีลักษณะส่วนหัวเรือกว้างและแบนราบไร้สิ่งกีดขวางเพื่ออำนวยผู้ทุพพลภาพให้สามารถนั่งได้ด้วย ระหว่างล่องเรือจะมีฝีพายมาขับกล่อมด้วยเพลงเกบิโออิวาเกะ (Geibi Oiwake) ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านญี่ปุ่นโบราณ ด้านในสุดของหุบเขามีช่องหินอธิษฐาน ที่เชื่อกันว่าหากขว้างหินผ่านเข้าไปในช่องได้ คำอธิษฐานของเราจะเป็นจริง

Info
Geibikei Gorge
Hours: 8:30-16:30 น.
Holiday:
Fee: ค่าบริการล่องเรือ (90 นาที) ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, นักเรียนชั้นประถม 900 เยน, เด็กเล็ก 200 เยน
Nearest Station: สถานีเกบิเค (Geibikei Station)
Access: จากสถานีเกบิเค เดินประมาณ 6 นาที จะถึงจุดขึ้นเรือ
Website: www.geibikei.co.jp/th

 

+Special Guide
POKÉMON with YOU Train

POKÉMON with YOU Trainภาพ: East Japan Railway Company

ถ้ามีแพลนจะไปหุบเขาเกบิเคในช่วงต้น ฤดูร้อน ลองนั่งรถไฟสุดคาวาอี้ขบวนสีเหลืองสดใสที่เต็มไปด้วยปิกาจูไปก็น่าสนใจทีเดียว จุดประสงค์หลักของรถไฟขบวนนี้ก็คือการสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ในแถบ โทโฮคุ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 2011

เส้นทาง: ระหว่างสถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki Station) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) กับสถานีเคเซ็นนุมะ (Kesennuma Station) จังหวัดมิยากิ (Miyagi)
วันให้บริการ: รถไฟจะวิ่งวันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) และไม่ได้บริการทุกวัน ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดของนักเรียนทุกระดับชั้น (ช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาว)
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.jreast.co.jp/e/joyful/pokemon.html

 

Miyagi

สัมผัสบรรยากาศสงบในวัดดอกไฮเดรนเยีย Shifukuji Temple

ชมดอกไฮเดรนเยียที่วัดชิฟุกุจิ (Shifukuji Temple) ในเมืองเซนได จ.มิยากิ

ใครที่ชอบดอกไฮเดรนเยีย วัดชิฟุกุจิ วัดเล็กๆ ในเมืองเซนได จังหวัดมิยากิก็เป็นอีกหนึ่งพิกัดในญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาดเลย ภายในวัดเต็มไปด้วยพุ่มดอกไฮเดรนเยียมากมายสมฉายาน่ารักๆ ว่าเป็น “วัดแห่งดอกไฮเดรนเยีย”

วัดชิฟุกุจิ (Shifukuji Temple) ในเมืองเซนได จ.มิยากิ

อันที่จริงวัดชิฟุกุจิเป็นหนึ่งในห้าวัดของตระกูลดาเตะ (Date) ผู้ครองแคว้นเซนไดในอดีต หากไม่ใช่เดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมที่วัดนี้จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก แต่เมื่อฤดูกาลไฮเดรนเยียมาถึงเมื่อไร ที่วัดก็จะคึกคักไปด้วยผู้คน เพียงเดินทางมาถึงก็จะพบกับพุ่มดอกไฮเดรนเยียที่เบ่งบานต้อนรับตั้งแต่บันไดทางขึ้นวัด ผสานกับบรรยากาศสงบเงียบ เหมาะกับการเดินทอดน่องเอื่อยๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยที่สุด

Info 
Shifukuji Temple 
Period: ปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม
Hour: 24 ชม.
Holiday:
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีคิตะเซนได (Kita-Sendai Station)
Access: จากสถานีคิตะเซนได เดินประมาณ 15 นาที

 

แวะเช็คอินที่ทะเลสาบห้าสี Okama Crater

ทะเลสาบห้าสี โอคามะ (Okama Crater)

โอคามะเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการยุบตัวของปากปล่องภูเขาไฟจนเกิดเป็นหลุมใหญ่และกลายเป็นทะเลสาบในที่สุด อยู่ภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติซาโอะ (Zao Quasi-National Park) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดมิยากิและยามากาตะ จึงสามารถเดินทางได้จากทั้งสองจังหวัด ที่นี่มีเอกลักษณ์คือสีของน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเรียกว่า Goshikiko ซึ่งแปลว่า “ทะเลสาบห้าสี” นั่นเอง ที่พิเศษคือไม่ได้เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปีนะ ถ้าอยากเห็นต้องเดินทางไปใช้ช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น สายธรรมชาติที่ชอบเดินห้ามพลาดเชียว!

Info
Lake Okama 
Period: ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
Access: สามารถเดินทางไปได้ทั้งจากเซนไดและยามากาตะ
จากเซนได: นั่งโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) จากสถานีเซนไดไปลงที่สถานีชิราอิชิซาโอะ (Shiraishizao Station) ใช้เวลา 14 นาที จากนั้นต่อรถบัสจากป้ายด้านหน้าสถานีไปลงที่ป้าย Zao Katta Summit (รถบัสให้บริการเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดเท่านั้น)
จากยามากาตะ: นั่งรถไฟธรรมดาสายยามากาตะ (Yamagata Line) จากสถานียามากาตะไปลงที่สถานีคามิโนยามะออนเซ็น (Kaminoyamaonsen Station) ใช้เวลา 12 นาที แล้วนั่ง Shuttle Bus ฟรีจากหน้าสถานี (2 เที่ยวต่อวัน) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นต่อกระเช้าขึ้นไปที่ยอดเขาแล้วเดินต่อ 6 นาที
Website: www.zao-machi.com

 

Yamagata

ตะลอนเก็บเชอร์รี่ในเมืองแห่งผลไม้ Tendo

ไร่ผลไม้โอโช (OHSYO Fruits Farm) จ.ยามากาตะ

เมืองเทนโด ในจังหวัดยามากาตะ มีสวนผลไม้หลายแห่งให้เลือกแวะเด็ดลิ้มรสชาติสดๆ จากต้น บางแห่งก็แปรรูปผลไม้เป็นของฝากที่สามารถซื้อกลับบ้านได้ หรือบางแห่งก็เปิดเป็นคาเฟ่ผลไม้ให้นั่งชิลล์กันในบรรยากาศเขียวชอุ่มของสวนสวย จนใครหลายคนบอกว่าที่นี่คือ “อาณาจักรผลไม้”

ไอศกรีมเชอร์รี่ ของหวานยอดฮิตในช่วงฤดูร้อนของไร่ผลไม้โอโช (OHSYO Fruits Farm)

หนึ่งในนั้นคือไร่ผลไม้โอโช (OHSYO Fruits Farm) ฟาร์มผลไม้ตามฤดูกาลขนาดใหญ่ที่สุดในยามากาตะ ที่นี่เปิดให้เราได้เดินไล่ไปตามต้นแล้วเด็ดผลที่เล็งไว้กินสดๆ แบบบุฟเฟ่ต์ตลอด 30 นาที ที่นี่ปลูกทั้งเชอร์รี่, พีช, องุ่น และแอปเปิ้ลตามแต่ฤดูกาล ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นฤดูกาลของเชอร์รี่ญี่ปุ่น

Info 
OHSYO Fruits Farm
Hours: พฤ.-อ. 9:00-15:00 น.
Holiday: วันพุธ, 1 ธ.ค.-15 พ.ค.
Fee: บุฟเฟ่ต์เก็บเชอร์รี่ 20-31 พฤษภาคม ผู้ใหญ่ 3,000 เยน, เด็ก 2,800 เยน, เด็กเล็ก 2,000 เยน /  1-15 มิถุนายน ผู้ใหญ่ 2,700 เยน, เด็ก 2,500 เยน, เด็กเล็ก 1,800 เยน
Nearest Station: สถานีซากุรัมโบฮิกาชิเนะ (Sakurambo-Higashine Station)
Access: จากสถานีซากุรัมโบฮิกาชิเนะ นั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาที
Website: www.ohsyo.co.jp

 

เดินขึ้นบันไดหินกว่า 1,000 ขึ้นไปสักการะวัดบนเขา Yamadera

วัดริชชาคุจิ (Risshakuji Temple) หรือ วัดยามาเดระ (Yamadera Temple)

วัดยามาเดระเป็นวัดดังของจังหวัดยามากาตะ คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ววัดนี้มีชื่อว่า วัดริชชาคุจิ (Risshakuji Temple) แต่เพราะวัดตั้งอยู่บนภูเขา ชื่อวัดจึงมาจากคำว่ายามะที่แปลว่า “ภูเขา” และเทระ/เดระ แปลว่า “วัด” คนจึงนิยมเรียกยามาเดระตามสถานที่ตั้งมากกว่า

วัดยามาเดระ (Yamadera Temple) จ.ยามากาตะ

บรรยากาศภายในไม่ค่อยเหมือนวัดเท่าไรนัก ด้วยตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสน แม่น้ำ ต้นไม้ใบหญ้าน้อยใหญ่มากมาย จึงทำให้วัดดูสงบเงียบกว่าปกติ แนะนำให้แวะชม Konpon Chudo Hall วิหารหลักสร้างโดยไม้บีชที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปและจัดแสดงวัตถุโบราณเกี่ยวกับวัดให้ได้ชมกัน ถ้ากำลังขายังพอไหว ลองเดินขึ้นบันไดกว่าพันขั้นไปจนสุดถึงหอคอยโกไดโด (Godaido) โฟโต้สปอตที่มีคนมารอถ่ายรูปกันเพียบเลย ยิ่งถ้ามาช่วงต้นฤดูร้อนก็จะเห็นท้องฟ้าสีครามกับต้นไม้เขียวขจี แต่อย่าถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว เพราะวิวจากด้านบนนี้ก็สวยจนลืมเหนื่อยไปเลย

Info
Risshakuji Temple (Yamadera)
Hours: 8:00-17:00 น.
Holiday:
Entrance Fee: 300 เยน
Nearest Station: สถานียามาเดระ (Yamadera Station)
Access: จากสถานียามาเดระ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.rissyakuji.jp

 

+Special Guide
Toreiyu Tsubasa

Toreiyu Tsubasaภาพ: East Japan Railway Company

ในเมื่อจังหวัดยามากาตะมีชื่อเสียงเรื่องออนเซ็น เขาก็เล่นใหญ่ยกเอาบ่อออนเซ็นมาไว้ที่ท้ายขบวนรถไฟให้ผู้โดยสารได้มาแช่เท้าระหว่างเดินทางเพื่อผ่อนคลายกัน นอกจากนี้ยังมีเลานจ์เป็นเสมือนพื้นที่พักผ่อนชวนให้นั่งเอื่อยพลางจิบเครื่องดื่มท้องถิ่นหลังแช่เท้าด้วย

เส้นทาง: ระหว่างสถานีฟุกุชิมะ (Fukushima Station) จังหวัดฟุกุชิมะ กับสถานีชินโจ (Shinjo Station) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata)
วันให้บริการ: รถไฟจะวิ่งวันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) และไม่ได้บริการทุกวัน ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.jreast.co.jp/e/joyful/toreiyu.html

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ