ชวนเก็บเชอร์รี่สดๆ กินจากต้นที่ Ohsyo Fruits Farm

ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายนของทุกปี ใครมาเที่ยวที่เมืองเทนโด (Tendo) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) แล้ววันท้ายๆ หมดมุกว่าจะเที่ยวไหนต่อ (เพราะไอ้ที่ได้แพลนไว้ก็ไปมันซะหมดทุกที่แล้ว) คิจิขอนำเสนอไอเดียสนุกๆ อย่างการไปกินเชอร์รี่ญี่ปุ่น (Sakuranbo) สดๆ จากต้นแบบไม่อั้นกันที่ Ohsyo Fruits Farm (王将果樹園) ฟาร์มผลไม้ตามฤดูกาลขนาดใหญ่ที่สุดในยามากาตะ 

เก็บเชอร์รี่ที่ Ohsyo Fruits Farm

ด้วยความที่ทริปนี้เรามีความจำเป็นที่จะต้องพักในฟุกุชิม่า (Fukushima) และนึกครึ้มว่ามาญี่ปุ่นทั้งทีก็อยากสนุกมันซะตั้งแต่อยู่บนรถไฟ ประกอบกับมี JR East Pass Tohoku Area อยู่ในมือเลยลงมือสำรองที่นั่งขบวน Toreiyu Tsubosa รถไฟชินคันเซ็นพาร์ทของ Joyful Trains ที่มีออนเซ็นขนาดย่อมให้เราได้สปาเท้าระหว่างเดินทางไปสถานี Sakuranbo Higashine ในจังหวัดยามากาตะ จุดหมายที่เราตั้งใจจะไปกินเชอร์รี่ญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ในคราวนี้

Toreiyu Tsukuba

 

Perfect Season of the Sakuranbo 

เทศกาลผลเชอร์รี่

โอโชเป็นฟาร์มผลไม้ที่เปิดให้เราได้เดินไล่ไปตามต้นแล้วเด็ดผลที่เล็งไว้กิน สดๆ แบบบุฟเฟ่ต์ตลอด 30 นาที ที่นี่ปลูกทั้งเชอร์รี่, พีช, องุ่น และแอปเปิ้ลตามแต่ฤดูกาล อย่างในช่วง ที่เราไปนั้นเป็นหน้าของเชอร์รี่ เลยได้มีโอกาสเห็นผลเชอร์รี่ญี่ปุ่นแบบที่ยังอยู่บนต้น ไม่ใช่เวอร์ชั่นแพ็กลงกล่องใสพร้อมจำหน่ายเหมือนที่เคยเห็นในห้างสรรพสินค้า

ก่อนจะนั่งรถบัสไปเก็บเชอร์รี่เท่าที่ใจอยาก ต้องเริ่มจากการแจ้งจำนวนผู้ร่วมทริปพร้อมจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ใส่หมวกเชอร์รี่ของฟาร์มเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยมานั่งรอรถบัสเพื่อรับเราไปยังโรงเรือนที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เมื่อไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่ของฟาร์มยื่นแก้วกระดาษพร้อมไม้หนีบมาให้ นัยว่าไม้หนีบเนี่ยเอาไว้ยึดแก้วกับอะไรก็ตามบนตัวของเรา เพื่ออำนวยความสะดวกให้การเก็บเชอร์รี่นั้นคล่องตัวมากขึ้น อีกอย่างคือเมื่อกินเสร็จแล้วรู้สึกอยากคายเม็ดทิ้งเมื่อไหร่ ก็ขอให้คายลงแก้วที่ให้ไปนั่นเอง         

ฤดูกาลเชอร์รี่ที่ Ohsyo Fruits Farm

fresh cherry at Ohsyo Fruits Farm

วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ในโรงเรือนเลยเต็มไปด้วยครอบครัวชาวญี่ปุ่น ภาพของเด็กๆ ที่พยายาม เขย่งเท้าเก็บเชอร์รี่บนบันไดเหล็กทรงเอระหว่างที่ปากก็กำลังเคี้ยวเชอร์รี่อยู่ตุ้ยๆ นั้นน่าเอ็นดูซะจนลืม โฟกัสไปเลยว่าเรามีเวลากินเชอร์รี่แค่ 30 นาที และที่ Ohsyo Fruits Farm เขายังมีกฎระเบียบให้เราทุกคนได้ทำตามกันอยู่ว่าเชอร์รี่ที่เก็บๆ ไปนั้นไม่สามารถนำออกจากโรงเรือนไปกินทีหลังได้ ดังนั้นจงกินให้หนำใจและสนุกไปกับ Vibes ดีๆ ก็พอ        

เชอร์รี่ของที่ฟาร์มมีทั้งพันธุ์ซาโตะ นิชิกิ (Sato Nishiki) และ นโปเลียน (Napoleon) ซึ่งเรา สามารถแยกออกได้ด้วยสีของริบบิ้นที่ทางฟาร์มผูกเป็นสัญลักษณ์เอาไว้ ว่ากันด้วยรสชาติพันธุ์ซาโตะ นิชิกิจะหวานกลมกล่อม ส่วนนโปเลียนนั้นรสจะออกเปรี้ยวหน่อยพอให้เราได้หยีตาเบาๆ ระหว่างเคี้ยวสิ่งที่เราทำก็คือลองเอาทั้งสองพันธุ์มากินพร้อมกัน รสชาติที่ได้ช่างอร่อยครบรสจนอยากจะกินมันไปเรื่อยๆ จนกว่าท้องจะไม่มีที่ว่าง    

Picking the Cherry at Ohsyo Fruits Farm

 

Oh! Show! Cafe 

ผลิตภัณฑ์แปรรูปของฝากจาก Ohsyo Fruits Farm

ของฝากจาก Ohsyo Fruits Farm

ที่นี่ไม่เพียงแต่จะมีฟาร์มผลไม้ตามฤดูกาล เขายังมีโซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปขึ้นชื่อของจังหวัดยามากาตะ เผื่อคนไหนอยากจะซื้อหาเป็นของฝากก็สามารถเดิน เลือกได้เลยตามใจชอบ เอาจริงๆ จะบอกว่ามีครบทั้งคาวหวาน พร้อมๆ กับที่ร้านก็มีของทำมือหน้าตาน่ารักๆ ฝีมือชาวท้องถิ่นที่ช่างล่อเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวอย่างเราให้ควักซะอยู่เรื่อย  

Oh! Show! Cafe

ในบริเวณเดียวกันยังมีมุม Oh! Show! Cafe เน้นเสิร์ฟซอฟต์ครีมและพาร์เฟ่ต์รสผลไม้ตามแต่ฤดูกาลนั้นๆ ที่ฟาร์มจะมีผลผลิตเป็นอะไร เราเลือกสั่งเป็นไอศกรีมรสเชอร์รี่มิกซ์กับวานิลลาแต่งหน้าด้วยเชอร์รี่สดใส่โคนเพราะใจบอกว่ารูปที่ออกมาน่าจะน่ารักกว่าใส่ถ้วย แม้วันนั้นอากาศจะสบายๆ เลย 20 องศาไปนิดหน่อย แต่เพราะได้ลิ้มรสไอศกรีมอร่อยๆ บรรยากาศเลยเป็นใจกว่าเดิมลดเพิ่มเติมไปอีก 5 องศา

ไอศกรีมรสเชอร์รี่มิกซ์กับวานิลลาแต่งหน้าด้วยเชอร์รี่สดจาก Ohsyo Fruits Farm

 

Thing that make me traveling easier

ตามแผนที่วางเอาไว้ก็คือเราต้องกลับไปยังสถานี Sakuranbo Higashine แล้วนั่งชินคันเซ็นไปอีกที่เพราะมีภารกิจอื่นต่อ แต่เพราะไม่แน่ใจเรื่องเวลาเที่ยวชินคันเซ็นต่อไปว่าจะเทียบชานชลาเมื่อไหร่

โชคดีที่คราวนี้พกพ็อกเก็ตไวไฟของ Wise World Wi-Fi มา เราเลยมีอินเทอร์เน็ตเช็คตารางการเดินรถแบบทันใจได้ว่าอีก 20 นาทีถ้านั่งรถจากฟาร์มไปสถานีตอนนี้น่าจะทันรถไฟเที่ยวต่อไปได้ไม่ยาก และจากที่ใช้มาหลายๆ ทริป เจ้าพ็อกเก็ตไวไฟนี้ก็ไม่มีปัญหา สามารถใช้งานแบบอึดๆ ได้ถึง 8 ชั่วโมง พกพาสะดวกไม่กินพื้นที่กระเป๋า แถมค่าใช้จ่ายตกวันละ 150 บาท เอาเป็นว่าราคานี้หารกับเพื่อนได้แบบสบายๆ ถ้าสนใจสามารถเข้าไปถ่ายรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ wiseworldwifi.com            

Info
Service Fees: ตั้งแต่ 20-31 พฤษภาคม ราคาบุฟเฟ่ต์ต่อคน 3,000 เยน (ผู้ใหญ่), 2,800 เยน (เด็ก), 2,000 เยน (เด็กเล็ก), ตั้งแต่ 1-15 มิถุนายน 2,700 เยน (ผู้ใหญ่), 2,500 เยน (เด็ก), 1,800 เยน (เด็กเล็ก)
Hours: 08:30-16:00 น.
Website: www.ohsyo.co.jp/ 

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ