5 จุดชมซากุระในจังหวัดฟุกุชิมะที่คนญี่ปุ่นแนะนำ

มาไกลถึงฟุกุชิมะทั้งทีก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีจุดชมซากุระสวยๆ เพราะยิ่งไกลจากเมืองหลวงเท่าไร ก็ยิ่งมีพื้นที่อันซีนแสนจรรโลงใจเปิดให้ชมซากุระให้ได้ตื่นเต้นจนใจฟูอยู่เพียบ สำหรับครั้งนี้เราคัด 5 จุดชมซากุระ ในจังหวัด ฟุกุชิมะ ซึ่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นของเราแนะนำมาว่าดีมาก ถึงไม่เชื่อเราก็ไม่เป็นไร แต่ลองเปิดใจเชื่อคนญี่ปุ่น 100% กันดูเถอะว่าสถานที่เหล่านี้มันบรรยากาศดีมาก

สำหรับคนที่ไม่เคยไปเที่ยวมาก่อน เราขอแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับฟุกุชิมะอีกนิด ฟุกุชิมะเป็นจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ (ภาคอีสานของญี่ปุ่น) สามารถเดินทางจากโตเกียวโดยชินคันเซ็นใช้เวลา 2 ชั่วโมงโดยประมาณ ด้วยความที่อยู่ค่อนข้างไกลจากโตเกียวคนจึงนิยมแพลนเที่ยวจังหวัดใกล้เคียงด้วย เช่น มิยากิ ยามากาตะ อาคิตะ เป็นต้น มีบัตรโดยสารราคาประหยัดสำหรับใช้เดินทางในโซนโทโฮคุคือ JR East Pass (Tohoku Area) ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวว่าคุ้มนักหนา

01 สวนฮานามิยามะ | Hanamiyama Park

อุทยานธรรมชาติขนาดใหญ่ตั้งอยู่ไม่ไกลสถานีรถไฟฟุกุชิมะ ภายในถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันจากดอกไม้นานาพันธุ์ตามฤดูกาลมากกว่า 30 ชนิด อาทิ ซากุระ บ๊วย พีช คาโนล่า คามีเลีย ฯลฯ โดยเฉพาะดอกซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะ (Someiyoshino) ออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งกระจายไปทั่วเนินเขาแบบที่หันกล้องไปทางไหน ถ่ายรูปมุมใดก็สวยถูกใจไปหมด

ด้านบนนี้มีบางส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ถึงอย่างนั้นผู้เป็นเจ้าของก็ใจดีเปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาใช้เวลาดื่มด่ำในบรรยากาศแสนผ่อนคลายที่สวนดอกไม้แห่งนี้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ การเดินทางไปสวนจากสถานีฟุกุชิมะ จะมี Shuttle Bus รถบัสรับ-ส่งเฉพาะสวนฮานามิยามะ ซึ่งวันให้บริการแตกต่างกันไปในแต่ละปี พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือตลอดช่วงดอกซากุระบาน มาถึงแล้วสามารถไปซื้อตั๋วและขึ้นรถที่ป้ายรสบัสหมายเลข 6 ได้เลย แต่หากไปในฤดูกาลอื่นๆ แนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่ก็ใช้เวลาราว 15 นาทีเท่านั้น

Info
Entrance Fee: ฟรี
Sakura Period: ต้น-ปลายเมษายน
Nearest station: สถานีฟุกุชิมะ (JR Fukushima Station)
Access: ขึ้นรถบัสที่ป้ายหมายเลข 6 อยู่ตรงทางออกทิศตะวันออก ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจากสถานีฟุกุชิมะ (มีเฉพาะช่วงเทศกาลซากุระ) มาลงที่ป้ายทางเข้าสวนฮานามิยามะ จากนั้นเดินเท้าต่อประมาณ 10 นาทีจากป้ายรถบัส
Note: แต่ละปีจุดขึ้นรถบัสอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบก่อนใช้บริการ

02 มิฮารุ ทากิซากุระ | Miharu Takizakura

ต้นซากุระเก่าแก่กว่า 1,000 ปีในตำนานที่ครองผลโหวตมากมายทั้งซากุระที่สวยอันดับ 1 หรือ 1 ใน 3 ต้นซากุระที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นก็อยู่ที่จังหวัดฟุกุชิมะนี่เอง ‘มิฮารุ ทากิซากุระ’ ซากุระสายพันธุ์เบนิชิดาเระซากุระ (Beni Shidare Zakura) ต้นใหญ่ที่สูงถึง 13.5 เมตร และมีกิ่งก้านที่แผ่ขยายไปทุกทิศทางอีกด้านละมากกว่า 10 เมตร ตรงปลายโค้งย้อยลงด้านล่างคล้ายน้ำตก จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘ทากิซากุระ’ ซึ่งหมายถึงซากุระน้ำตกนั่นเอง อีกทั้งตอนกลางคืนจะมีจัดแสดงไฟประดับที่สวยงามไปอีกแบบ

ความยิ่งใหญ่อลังการและความสวยงามเป็นเหตุให้ในทุกๆ ปีจะมีผู้คนจองตั๋วนั่งรถไฟมาชมให้เห็นเองกับตา การเดินทางไปที่นี่ไม่มีรถไฟไปถึง วิธีการที่สะดวกที่สุดคือ นั่งรถไฟมาลงที่สถานีมิฮารุ (Miharu Station) แล้วนั่งรถบัสที่ให้บริการพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลซากุระจากสถานีไปลงที่จุดชมซากุระโดยตรงใช้เวลาราว 20 นาที

Info
Period: กลาง-ปลายเมษายน
Enrtrance Fee: ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนชั้นประถมและต่ำกว่าเข้าฟรี
Nearest station: สถานีมิฮารุ (Miharu Station)
Access: จากสถานีโคริยามะ (Koriyama Station) ให้นั่งรถไฟบังเอ็ตสึอีสต์ (Ban’etsu East Line) มาลงที่สถานีมิฮารุประมาณ 13 นาที แล้วนั่งรถบัสจากด้านหน้าสถานีประมาณ 20 นาที (บัสให้บริการเฉพาะช่วงเทศกาลซากุระเท่านั้น)
Website: miharukoma.com
Note: ใช้ JR East Pass (Tohoku Area) ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟธรรมดาสายบังเอ็ตสึอีสต์ได้

03 จุดชมซากุระแม่น้ำคันนนจิ | Kannonji River Sakura

นั่งรถไฟท้องถิ่นสายบังเอ็ตสึเวสท์มาลงที่สถานีคาวาเกตะ เพราะใกล้ๆ สถานีมีจุดชมซากุระริมแม่น้ำคันนนจิ ด้วยโลเคชั่นแล้วดูเหมือนจะเป็นแม่น้ำใสที่ไหลผ่านหมู่บ้านธรรมดา แต่ในฤดูใบไม้ผลิบริเวณนี้จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่หวังจะมาผ่อนคลาย ณ ริมน้ำแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าคนแพ้ทางดอกซากุระอย่างเราก็เป็นหนึ่งในนั้น

พอเข้าเดือนเมษายนต้นซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะ (Someiyoshino) และชิดาเระ (Shidare) จะค่อยๆ บานสะพรั่งขนาบสองข้างของแม่น้ำคันนนจิยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และจะฟูลบลูมช่วงกลางถึงปลายเมษายน ที่นี่คนไม่ค่อยพลุกพล่านจาก ใครก็ตามที่ได้เห็นก็เชื่อว่าต้องอมยิ้มและหยิบกล้องออกมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกจนได้

Info
Entrance Fee: ฟรี
Sakura Period: กลาง-ปลายเมษายน
Nearest Station: สถานีคาวาเกตะ (Kawageta Station)
Access: จากสถานีโคริยามะ (Koriyama Station) ให้นั่งรถไฟสายบังเอ็ตสึเวสท์ (Ban’etsu West Line) มาลงที่สถานีคาวาเกตะใช้เวลาประมาณ 40 นาที แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 7 นาที (500 เมตร) ก็จะถึงจุดชมซากุระแม่น้ำคันนนจิ
Note: ใช้ JR East Pass (Tohoku Area) ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟธรรมดาสายบังเอ็ตสึเวสท์ได้

04 ปราสาทสึรุกะ | Tsuruga Castle (Tsuruga-jo)

ถ้าอินกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันก็รักการชมซากุระด้วย ขอแนะนำให้มาที่ ‘ปราสาทสึรุกะ’ สถานที่สำคัญของจังหวัดฟุกุชิมะหรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ‘ปราสาทไอสึวากามัตสึ’ ด้วยเพราะเคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางแคว้นไอสึในอดีต ของเดิมถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1384 แต่ที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นเป็นปราสาทที่บูรณะขึ้นใหม่หลังจากถูกทำลายลงในปี ค.ศ. 1874 นั่นเอง

นอกจากอาคารหลักแล้วยังมีโรงน้ำชาริงคาคุ (Rinkaku) ที่ถูกสร้างใหม่ขึ้นพร้อมๆ กัน ภายในมีพิธีชงชาแบบดั้งเดิมให้คนทั่วไปได้เข้าร่วม บริเวณโดยรอบปราสาทยังมีสวนสาธารณะปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle Park) ที่นับเป็น จุดชมซากุระ ยอดนิยมในฤดูใบไม้ผลิของ ฟุกุชิมะ แนะนำว่าให้ซื้อขนมนมเนยมานั่งปูผ้าปิกนิกชมวิวซากุระบานก็ชิลล์ไปอีกแบบ อีกทั้งยามฟ้ามืดจะมี Illumination ไฟหลากสีประดับประดาก็ยิ่งทำให้ซากุระและปราสาทดูสวยน่ามองขึ้นไปอีก

Info
Hours: 8:30-17:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: Castle Tower และ Rinkaku ผู้ใหญ่ 520 เยน, นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 150 เยน, เด็กเล็กและผู้ทุพพลภาพ เข้าฟรี
Nearest Station: สถานีไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 30 นาที (2.7 กิโลเมตร) จากสถานีไอสึวากามัตสึ
Website: www.tsurugajo.com/language/eng/

05 จุดชมซากุระนิชชูเซน | Nicchusen Weeping Cherry Tree

นั่งรถไฟออกมาที่เมืองคิตะคาตะ (Kitakata) หนึ่งในเมืองน่าเที่ยวของจังหวัด ฟุกุชิมะ โด่งดังในฐานะของเมืองแห่งราเมน ได้กินราเมนอร่อยๆ ว่าดีแล้ว เมืองนี้ยังกระชากใจนักท่องเที่ยวให้ตกหลุมรักให้ลึกลงไปอีกด้วย จุดชมซากุระ นิชชูเซน พื้นที่แสนผ่อนคลายเปิดให้คนทั่วไปได้ดื่มด่ำกับเส้นทางเดินและปั่นจักรยานชมซากุระยาว 3 กิโลเมตร ที่มีมากกว่า 1,000 ต้นเชียวล่ะ โดยมีจุดเด่นตรงที่เป็นซากุระสายพันธุ์กิ่งย้อยสวยไปอีกแบบ ในอดีตเส้นทางนี้เคยเป็นทางรถไฟสาย Nicchu Line ที่วิ่งระหว่างเมืองคิตะคาตะและหมู่บ้านอัตสึชิโอะออนเซ็น (Atsushio Onsen) นั่นเอง

แม้ปัจจุบันจะไม่มีเส้นทางรถไฟนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีขบวนรถจักรไอน้ำคันเก่าจอดไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทำความรู้จักด้วย จุดเริ่มต้นของถนนสายนี้อยู่ใกล้ๆ กับสถานีคิตะคาตะ เดินเท้าได้ระยะทางราว 400 เมตร แต่ถ้าจะไปจุดที่มีรถจักรไอน้ำโบราณ จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถเดินได้เรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย คงเพราะเหล่าซากุระสีชมพูคอยปลอบประโลมใจจนลืมเหนื่อยก็เป็นไปได้

Info
Sakura Period: กลาง-ปลายเมษายน
Nearest Station: สถานีคิตะคาตะ (Kitakata Station)
Access: เส้นทางชมซากุระที่ใกล้ที่สุดสามารถเดินเท้า 5 นาที (400 เมตร) จากสถานีคิตะคาตะ

แผนที่จุดที่ใกล้ที่สุด

แผนที่จุดที่มีรถจักรไอน้ำจอดอยู่

วิธีไปฟุกุชิมะ (Fukushima) 

จากโตเกียวให้สำรองที่นั่งโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) หรือยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) ไปลงที่สถานีฟุกุชิมะ (Fukushima Station) ได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

หากมีแพลนเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุแนะนำให้ซื้อบัตรโดยสาร JR East Pass (Tohoku Area) จะคุ้มมาก ด้วยเพราะใช้โดยสารรถไฟในภูมิภาคโทโฮคุ ทั้งรถไฟท้องถิ่น ชินคันเซ็น รถไฟท่องเที่ยว Joyful Train จะสำรองที่นั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวไปลงโคริยามะหรือฟุกุชิมะ หรือจากสนามบินนาริตะสามารถใช้บัตรโดยสารต่อรถไฟ Narita Express เข้าตัวเมืองโตเกียวได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

วิธีซื้อ JR East Pass Tohoku Area แบบง่ายที่สุด

วิธีซื้อ JR East Pass Tohoku Area แบบง่ายที่สุด ก็คือซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทยที่เชี่ยวชาญเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะได้ราคาที่ถูกกว่าการไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Wendy Tour, HIS และ JTB สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ทางโทรศัพท์หรือเว็บไซต์ต่อไปนี้ 

Wendy Tour	Tel: 02-214-1763 Website: www.wendytour-th.com/JR-East.html
HIS	Tel: 02-022-0933 Website: th.his-bkk.com/japan-rail-pass/jr-east-pass
JTB	Tel: 02-344-4688 / 02-344-4600 Website: www.jtbthailand.com/th/jr-east-pass