EAST KOBE : เที่ยวโกเบ
ー

เที่ยวคันไซง่ายๆ ด้วยรถไฟ
Kintetsu, Hankyu, Hanshin และ Sanyo  

เก็บกระเป๋าให้พร้อม คิจิจะชวนคุณใช้วันลาพักร้อนออกเดินทางไปเที่ยวภูมิภาคคันไซในญี่ปุ่น จากนั้นต่อรถไฟคินเท็ตสึไปนาราและเกียวโต และใช้บริการรถไฟฮันคิว ฮันชิน ตะลอน เที่ยวโกเบ ถ้าพลังเหลือและยังเที่ยวไหวก็ลากกระเป๋าขึ้นรถไฟซันโยไปเที่ยวกันต่อที่เมืองอากาชิและเมืองฮิเมจิในจังหวัดเฮียวโงะ

East Kobe |
ลัดเลาะที่ เที่ยวโกเบ ฝั่งตะวันออกในแบบที่ไม่คุ้นเคย

คราวก่อนเราเปิดเส้นทางเที่ยวนาราและอุจิกันจนเต็มอิ่ม แต่ถ้ายังไม่หนำใจ คราวนี้จะพานั่งรถไฟจากนารามาเที่ยวกันต่อแบบชิลๆ ที่เมืองโกเบ (Kobe)

โกเบสำหรับเราให้ความรู้สึกน้อยแต่มาก เป็นเพียงเมืองเล็กในจังหวัดใหญ่ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) แต่กลับเป็นที่รู้จักของกลุ่มคนที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น อาจจะไม่ใช่สไตล์ญี่ปุ่นจ๋าซะทีเดียว เนื่องจากเป็นเมืองท่าสำคัญที่ทำการค้าระหว่างประเทศมาตั้งแต่โบราณ แต่ข้อดีของโกเบคือล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทะเล คงเพราะแบบนี้ที่ทำให้โกเบมีเสน่ห์และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปแบบไม่ขาด ขนาดตัวเราเองที่แม้จะเคยไปโกเบมาแล้วหลายครั้ง ก็ยังอยากกลับไปอีก

ทริปนี้เราจะชวนคุณไปเที่ยวโกเบแบบอินไซด์ ขอแบ่งออกเป็นสองพื้นที่ให้เข้าใจง่ายๆ คือ “โกเบฝั่งตะวันตก” และ “โกเบฝั่งตะวันออก” บอกไว้ตรงนี้เลยว่าจะไม่มีชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่เห็นบ่อยๆ ในรีวิวตามหน้าอินเทอร์เน็ต อย่างภูเขารกโกะ อาริมะออนเซ็น แหล่งช็อปปิ้งบริเวณสถานีซันโนมิยะ หรือย่านบ้านพักชาวต่างชาติคิตะโนะ แม้สถานที่ที่ปรากฏต่อไปนี้อาจฟังดูไม่คุ้นหู อ่านดูไม่คุ้นตา แต่ขอยืนยันว่านี่คือสถานที่ที่คนโกเบนิยมไปกัน และจากที่ได้ตะลอนเที่ยวมาหลายวัน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมืองโกเบช่างเหมาะสมกับการเดินทางมาพักผ่อนของนักท่องเที่ยวทุกวัย ตั้งแต่เด็กน้อย วัยกลางคน ไปจนถึงผู้สูงอายุ ก็น่าจะชอบโกเบได้ไม่ยาก

บทความนี้ขอชวนไปชิลฝั่งตะวันออกกันก่อน เริ่มจากรถไฟ Kintetsu จากนารา ไปเปลี่ยนเป็นสาย Hanshin ที่สถานี Osaka-Namba เพื่อไปลงที่สถานี Sannomiya ในเมืองโกเบ เนื่องจากเราจองโรงแรม Hotel Okura Kobe เอาไว้ ซึ่งมี Shuttle Bus รับส่งฟรีจากสถานี ถึงโกเบแล้วรีบพุ่งตัวเอาสัมภาระไปฝากให้เรียบร้อย ก็ได้เวลาออกไปทักทายเมืองโกเบในแบบที่ไม่คุ้นเคยกันแล้ว!

Nara to Kobe | จากนารา ไป โกเบ

Kobe People Recommend | คนโกเบแนะนำ

Nishinomiya Shrine

“ค้าขายดี มีกำไร ทำการค้ากับใครก็คล่องตัว”

ใช่แล้ว เรากำลังจะชวนคุณไปสักการะเทพเจ้าเอบิสึ (Ebisu God) เทพแห่งการค้า โชคลาภ และความสุขสมบูรณ์ เรานั่งรถไฟ Hanshin ไปลงที่ Nishinomiya Station เดินต่ออีกแค่ราวๆ 5 นาทีก็ถึง Nishinomiya Shrine จุดหมายของเราแล้ว ใครที่นับถือเทพเอบิสึน่าจะรู้กันดีว่านี่เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น วันปกติที่นี่อาจเป็นเพียงศาลเจ้าธรรมดา แต่ในวันที่ 9 ถึง 11 มกราคมของทุกปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ ว่ากันว่ามีผู้คนที่ศรัทธาหลั่งไหลมาสักการะกว่า 1 ล้านคน และมียะไต (ซุ้มขายอาหาร) มากกว่า 800 ร้าน ความธรรมดาเป็นพิเศษแบบนี้หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะ

เรามีโอกาสไปโกเบในช่วงนั้นพอดี ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศงานวัดสไตล์ญี่ปุ่น บริเวณศาลเจ้าคลาคล่ำไปด้วยผู้คนตั้งแต่ทางเดินเท้าก่อนเข้าศาลเจ้า มียะไตขายอาหารญี่ปุ่นคาวหวานจำนวนมาก รสชาติถูกปากแถมราคาก็ไม่แพง ถูกใจสายกินแบบเราสุดๆ หลายกิจกรรมก็คล้ายงานวัดบ้านเราอยู่เหมือนกัน มีทั้งบ้านผีสิง ยิงกระป๋อง ตักปลา ฯลฯ    

แม้จะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่ก็ยังรู้สึกสนุกสนานดี หนังสือท่องเที่ยวเล่มหนึ่งบอกเอาไว้ว่าหากคนเราออกเดินทางเพื่อตามหาประสบการณ์ใหม่ๆ ถ้าเราจะไม่เข้าใจภาษาหรืออ่านไม่ออกบ้างก็ช่างมันปะไร ถือว่าได้รู้จักสิ่งใหม่ของโลกใบนี้ ในทางเศรษฐศาสตร์เราอาจเสียโอกาสที่ไม่เลือกไปเที่ยวในที่ที่เราเข้าใจภาษา แต่เราก็ได้ประสบการณ์ใหม่ที่คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วมาแทน บางทีอาจได้มากกว่าที่คิดไว้จนกลายเป็นได้กำไร เออ เราว่าเที่ยวเล่นที่ศาลเจ้าครั้งนี้ก็คุ้มดีแฮะ

Kobe Oji Zoo

สวนสัตว์ที่เมืองไทยไปบ่อยแล้ว ลองไปสวนสัตว์ที่ญี่ปุ่นกันดูบ้างไหม?

นั่งรถไฟ Hankyu ไม่นานก็ถึง Ojikoen Station สถานีเป้าหมายใกล้สวนสัตว์ Kobe Oji Zoo ที่เราตั้งใจเดินทางมา ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันไซ ไฮไลท์ของที่นี่คือเจ้าแพนด้ายักษ์ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ที่น่าสนใจอีกมากมายกว่า 130 ชนิด ในพื้นที่แสนกว้างของสวนสัตว์ แต่ไม่ได้กว้างเกินไปกว่าใจเจ้าของพื้นที่ เพราะที่นี่จัดโซนเป็นอย่างดี มีแผนที่ครบทุกภาษาและป้ายบอกทางอย่างละเอียดสำหรับชาวต่างชาติ แม้จะเดินทางมาคนเดียวก็สนุกได้แบบไม่ต้องกังวล

ยังมีพื้นที่ที่เราชอบมากอีกคือโซนสวนสนุกขนาดย่อม โซนคาเฟ่ร้านขนมหวาน และโซนพิพิธภัณฑ์ มีจุดน่ารักๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก เพลินจนเราเองก็เกือบลืมไปว่ายังอยู่ในสวนสัตว์ คนในพื้นที่ยังบอกกับเราอีกว่า รอบๆ บริเวณสวนสัตว์มีต้นซากุระและต้นเมเปิ้ลกระจายตัวอยู่ด้วย หากมาตรงตามฤดูกาลก็จะสามารถชมซากุระบานสะพรั่ง หรือไม่ก็จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีไปทั่วทั้งสวนสัตว์เลย ราวกับเป็นจุดชมซากุระดีๆ ซึ่งหากได้ใช้เวลาร่วมกับใครบางคนที่นี่ก็คงจะโรแมนติกน่าดู เราไม่แปลกใจเลยถ้า Kobe Oji Zoo จะกลายเป็นสถานที่ในดวงใจของชาวโกเบ และอาจจะกลายเป็นสถานที่ในดวงใจของเราด้วยเช่นกัน

สวนสัตว์มักถูกมองว่าเป็นพื้นที่สำหรับพ่อแม่พาลูกมาเที่ยวหรือโรงเรียนพาเด็กมาทัศนศึกษา แต่ไม่ใช่สำหรับ Kobe Oji Zoo เพราะบ่อยครั้งที่สวนสัตว์แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่กระชับความสัมพันธ์ เราแอบเห็นคู่รักชวนกันมาออกเดท ผู้สูงวัยต่างก็มานั่งชมความงามของเหล่าซากุระในวันอากาศดีของฤดูใบไม้ผลิ หรือเป็นจุดนับพบของก๊วนเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน จะว่าไปแล้วการได้ใช้เวลาร่วมกันที่สวนสัตว์ก็เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นใจดีเชียวแหละ

Info
Kobe Oji Zoo
Admission: ผู้ใหญ่ 600 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมต้นหรือต่ำกว่าเข้าฟรี
Hours: พฤ.-อ. 9:00-17:00 น. (เฉพาะ พ.ย.-ก.พ. เปิดถึง 16:30 น.)
Holiday: วันพุธ
Website: www.kobe-ojizoo.jp

East Kobe Cafe Guide | คาเฟ่ไกด์

Okamoto

เราได้ยินชื่อ “โอคาโมโตะ (Okamoto)” ครั้งแรกจากปากของเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งเป็นคนโกเบแต่กำเนิด ที่เอ่ยขึ้นมาระหว่างบทสนทนา บอกตามตรงว่าไม่คุ้นหูเราเลยสักนิด เขาเล่าว่าเป็นชื่อย่านแถวบ้านของเขาเอง โดยปกติเป็นย่านบ้านคนและมีแคมปัสของมหาวิทยาลัย จึงคับคั่งไปด้วยคนท้องถิ่นและเหล่านักศึกษา

จนภายหลังร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ก็ค่อยๆ ทยอยมาเปิดจนละลานตา ทั้งร้านขายสินค้าในชีวิตประจำวัน คาเฟ่น่ารัก ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น อีกทั้งร้านอาหารและร้านขนมหวานชื่อดังก็เปิดบริการแถวนี้ทั้งนั้น เขายังบอกอีกว่า ร้านไหนที่ประสบความสำเร็จในย่านโอคาโมโตะก็จะโด่งดังไปทั่วประเทศ แอบคิดในใจนิดหน่อยว่า แหนะ แอบอวดความชิคคูลแถวบ้านตัวเองรึเปล่าเนี่ย แต่เห็นแก่ที่ตั้งใจสาธยายขยายความย่านนี้ให้เราฟังมาขนาดนี้แล้ว ลองแวะไปย่านโอคาโมโตะที่ว่าสักหน่อยจะเป็นไร

เรานั่งรถไฟสาย Hankyu มาลงที่ Okamoto Station จุดสังเกตง่ายๆ ของย่านโอคาโมโตะ คือพื้นถนนที่ปูด้วยบล็อกหิน ระหว่างเดินให้ลองก้มมองที่พื้นเพราะถนนเส้นหลักของย่านนี้จะปูด้วยหินเป็นบล็อกๆ ตลอดทางนั่นเอง เดินเล่นตามถนนไปเรื่อยๆ ก็พบเจอร้านค้าชิคคูลอยู่เยอะมาก จนเราต้องแอบหายใจเข้าออกเพื่อตั้งสติไม่ให้ควักเงินออกมาช็อปเยอะจนเกินไป จากที่เดิน เดิน และก็เดินอยู่นาน เราก็มีคาเฟ่ 3 แห่ง ในย่านโอคาโมโตะมาแนะนำให้ลองไปกัน

Coffee Syunju Kobe

หลายคนไม่ชอบดื่มกาแฟเพียงเพราะรสชาติขมปร่าของมัน แต่สำหรับเราแล้ว แม้จะขมไปบ้าง แต่ช่วงเวลาที่ร่างกายกลับมาสดใสอีกครั้งหลังได้จิบกาแฟดำสักแก้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกดีกับตัวเอง

เรารู้จัก Coffee Syunju จากคำแนะนำของเพื่อนชาวโกเบ ก็พบว่าที่นี่คือพื้นที่สำหรับคอกาแฟจริงๆ นอกจากความดีงามของรสชาติกาแฟแล้ว ยังมีเมนูอาหารโฮมเมดกินง่ายที่ทางร้านตั้งใจทำเพื่อกินคู่กับกาแฟโดยเฉพาะ บรรยากาศเงียบสงบอบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น ความเต็มใจบริการ และรอยยิ้มที่ส่งมายามเสิร์ฟกาแฟ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้แวะเข้ามาดื่มกาแฟที่ร้านนี้ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นมากเลย  

Info
Coffee Syunju Kobe 珈琲春秋
Hours: 7:00-23:00 น.
Holiday: –
Facebook: 珈琲春秋Kobe -Coffee Syunju Kobe-Coffee Syunju Kobe

Hitsuji Sabo

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่แพ้ทางให้กับคาเฟ่สีนวลชวนหยิบกล้องมาถ่ายรูปทุกครั้งที่ออกเดินทางแล้วล่ะก็ Hitsuji Sabo คาเฟ่สุดลึกลับที่ตั้งอยู่บนชั้นสองของตึกแสนธรรมดาแห่งนี้ ก็เป็นร้านที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน คาเฟ่ในห้องขนาดกะทัดรัดถูกจัดอย่างเป็นสัดส่วน และอาจเพราะเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ แสงไฟสีส้มสลัว เพลงดีที่เปิดคลอเบาๆ ในร้าน ของตกแต่งแสนน่ารัก และชั้นวางที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือดีที่เจ้าของร้านตั้งใจเลือก เราสั่งชีสเค้กโฮมเมดเซ็ต 3 ชิ้น กับชาร้อนเมื่อรวมกับมวลบรรยากาศทั้งหมดภายในร้านแล้วมันช่างเข้ากันดี ถ้าไม่ติดว่าต้องไปที่อื่นต่อ เราก็อยากจะนั่งแช่อยู่ที่ร้านนี้ไปตลอดทั้งวัน

Info
Hitsuji Sabo ひつじ茶房
Hours: จ.-ส. 9:30-18:00 น.
Holiday: วันอาทิตย์
Website: www.hitsuji658.exblog.jp

Manor House Motoyama

บ้านไม้ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนญี่ปุ่นแสนสบายตาหลังนี้ เปิดเป็นพื้นที่สำหรับ Tea Lovers ให้ความรู้สึกเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่นเปิดบ้านให้เราแวะเข้าไปจิบชาคู่กับเค้กโฮมเมดแสนอร่อย ด้านในมีชาให้เลือกหลากหลาย ชอบรสชาติแบบไหนสามารถขอคำแนะนำจากเจ้าของร้านได้เลย เธอพูดภาษาอังกฤษได้ นอกจากชาจะรสชาติดีมาก ที่ร้านยังมี Lunch Set ให้บริการด้วย แม้เราไม่ได้ลองชิมแต่แอบมองโต๊ะข้างๆ แล้ว หน้าตาชวนหิวใช้ได้ สามารถแวะมาฝากท้องกันได้ตั้งแต่ 11 โมงถึงบ่าย 3 โมงตรง หรือหากใครติดใจรสชาจะซื้อกลับไปฝากคนที่บ้าน ก็มีโซนของฝากให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วยเหมือนกัน

Info
Manor House Motoyama マナーハウス モトヤマ
Hours: อ.-ศ. 11:00-18:00 น., ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00-19:00 น.
Holiday: วันจันทร์

East Kobe Good Views | ชมวิวโกเบ

Kikuseidai

โกเบเที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืนจริงๆ เที่ยวตอนฟ้าสว่างจนหมดแล้ว ก่อนฟ้าใกล้มืดเราตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ตกบนภูเขามายะ (Mount Maya) ตรงพื้นที่ที่เรียกว่า “Kikuseidai” เนื่องจากจุดชมวิวตั้งอยู่บนภูเขาและตั้งอยู่ห่างไกลสถานีรถไฟ การเดินทางจึงอาจดูยุ่งยากไปสักหน่อย เพราะต้องมาต่อรถบัสเพื่อไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่สถานี Maya Cable Station แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากเกินความอยากจะชมวิวของเราหรอก

สุดท้ายเราก็มาไม่ทันพระอาทิตย์ตก แอบเสียดาย แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเชียวนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนกำหนดว่าอยากดูดาวต้องเงยมองฟ้าเพียงอย่างเดียว เพราะท่ามกลางความมืดมิดบนความสูงราว 700 เมตรของภูเขามายะแห่งนี้ อยากให้ลองก้มลงมองด้านล่าง ดวงไฟระยิบระยับสวยงามราวกับดวงดาวนับพัน เพิ่งแน่ใจก็วันนี้ว่าก้มหน้าก็มองเห็นดาว แม้จะไม่ใช่ดวงดาวของจริง แต่ก็ยังทำให้รู้สึกดีได้ไม่แพ้กัน  

Kikuseidai สวยงามจนอยากชวนใครบางคนมายืนมองด้วยกัน

Info
Kikuseidai
Admission: ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 1,540 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 770 เยน
Hours: พ.-จ. 10:00-21:00 น. (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล สามารถเช็คได้ทางเว็บไซต์)
Holiday: วันอังคาร
Website: www.koberope.jp/en

อ่านบทความเที่ยวโกเบฝั่งตะวันตก (West Kobe) ต่อได้ที่นี่

Kobe Sleep Well | ที่พักโกเบ

โรงแรมดี ชีวิตดีที่ Hotel Okura Kobe

เราคงจะนิยามโรงแรม Hotel Okura Kobe เป็นคำอื่นไปไม่ได้ นอกจากคำว่า “ครบ”

โลเคชั่นดีมาก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโกเบ ใกล้ทั้งสถานีรถไฟและสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Kobe Harborland, Kobe Port Tower และ Nankinmachi (ย่านไชน่าทาวน์ในโกเบ) เป็นเหตุผลหลักที่เราเลือกพักที่ Hotel Okura Kobe พอออกเดินทางจากนาราพร้อมสัมภาระอันหนักอึ้งมาถึงโกเบ ก็พบว่าโรงแรมแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่โลเคชั่น

เราได้รับการต้อนรับอย่างดีตั้งแต่เท้ายังไม่ถึงโรงแรม เพราะมีบริการ Shuttle Bus รับส่งจากสถานี Sannomiya Station ไปยังโรงแรม (จุดรับอยู่ตรงชานชาลารถบัสชั้น 1 ของอาคาร Mint Kobe) จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ เมื่อถึงโรงแรมก็มีพนักงานขนสัมภาระและพนักงานต้อนรับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มคอยให้บริการอยู่ตลอด ใครไม่ประทับใจก็บ้าแล้ว!

ห้องพักมีให้เลือกหลายประเภทและระดับราคา ซึ่งจะมีธีมแตกต่างกันไปในแต่ละชั้น ได้แก่ สไตล์ญี่ปุ่น, ตะวันตก และผสมผสาน แต่ก็มีความเรียบง่ายและงดงามเป็นเอกลักษณ์ และที่เก๋ไก๋สุดๆ คือทุกห้องจะสามารถมองเห็นวิวเมืองโกเบได้รอบทิศทาง (ขึ้นอยู่กับว่าที่ตั้งของห้องพักอยู่ด้านไหน) เช่น ฝั่งตะวันตก มองจากหน้าต่างจะเห็นเป็นวิว Kobe Port Tower หอคอยสีแดงสด สัญลักษณ์ของท่าเรือโกเบ หรือหากได้ห้องพักฝั่งเหนือ ก็จะได้เพลิดเพลินกับแสงไฟยามค่ำคืนของเมืองโกเบ ส่วนตัวเราได้วิวฝั่งตะวันออก บอกเลยว่ากรี๊ดมาก เพราะเป็นฝั่งที่หากตื่นเช้าก็จะได้ดื่มด่ำกับพระอาทิตย์ขึ้นตรงเส้นปลายขอบอ่าวโกเบ

นอกจากห้องพักดีบริการเยี่ยมแล้ว ที่ขาดไม่ได้ คืออาหาร ห้องอาหารของที่นี่กว้างขวาง และให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์หลากสไตล์ทั้งญี่ปุ่นและตะวันตก จะกินให้อิ่มจนจุกแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหุ่นพัง เพราะที่โรงแรมยังมีฟิตเนสและสระว่ายน้ำให้บริการสำหรับแขกที่รักสุขภาพและอยากออกกำลังกายด้วย

ครบครันขนาดนี้ โกเบคราวหน้าก็คงต้องพักที่ Hotel Okura Kobe ซ้ำอีกทีซะแล้วสิ

สนใจจองโรงแรม Hotel Okura Kobe คลิกที่นี่

การเดินทาง

มี 2 เส้นทางแนะนำคือ

1. จากนาราให้ใช้บริการรถไฟสาย Kintetsu-Nara Line ไปลงที่Osaka-Namba Station จากนั้นให้เดินไปขึ้นสาย Hanshin Line ไปลงที่ Sannomiya Station จากสถานีมี Shuttle Bus รับส่งถึงโรงแรม (อยู่ตรงชานชาลารถบัสชั้น 1 ของอาคาร Mint Kobe)
2. จากนาราให้ใช้บริการรถไฟสาย Kintetsu-Nara Line ไปลงที่ Osaka-Namba Station จากนั้นห้เดินไปขึ้นสาย Hanshin Line ไปลงที่ Motomachi Station จากสถานีสามารถเดินไปโรงแรมได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที (950 เมตร)

Info
Hotel Okura Kobe
Website: www.kobe.hotelokura.co.jp/en

Around Hotel |
Kobe Harborland

อย่างที่ได้บอกไปว่าโรงแรมอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองโกเบมากขนาดที่ว่าเดินไม่กี่นาทีก็ถึง ทั้ง Kobe Harborland, Kobe Port Tower, Nankinmachi (ย่านไชน่าทาวน์ในโกเบ) ฯลฯ เพราะอย่างนี้เราเลยจะชวนไปเดินสำรวจบริเวณรอบๆ โรงแรมกันให้รู้แล้วรู้รอด ซึ่งฉบับนี้เราจะชวนไปที่โซนท่าเรือโกเบกันก่อน

Kobe Harborland ย่านท่องเที่ยวสุดฮิตอยู่ติดกับท่าเรือโกเบ ใครที่ตั้งใจมาใช้เวลาแถวนี้ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเดินทั้งวันจะพอรึเปล่า เพราะมีพื้นที่น่าสนใจให้เข้าชมเยอะมาก เช่น Harbor Walk พื้นที่เดินเล่นที่เราแอบเห็นผู้คนมาวิ่งกันตอนเช้าๆ Kobe Port Tower หอคอยที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวเมืองโกเบจากมุมสูงได้ เราว่าที่นี่เป็นเหมือนจุดชมวิวดีๆ นี่เอง แต่ถ้ายังไม่สูงพอ เดินต่อไปอีกหน่อยจะพบกับ Mosaic Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์สูง 50 เมตร ที่ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ห้างฯ Mosaic และ Umie ขึ้นชมวิวโกเบได้ 360 องศาตั้งแต่เช้าจนถึงดึกๆ เลย หรือจะไปช็อปที่ Kobe Brick Warehouses คลังสินค้าเก่าสุดวินเทจ ที่ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นแหล่งช็อปปิ้งก็ได้เหมือนกัน

Hotel Okura Kobe บอกแล้วว่าจะพักหรือเที่ยว ที่เดียวครบ!

East Kobe Map | แผนที่ เที่ยวโกเบ ตะวันออก

ดาวน์โหลดแผนที่การเดินทางจากนารามาโกเบ (Nara to Kobe Map) และแผนที่เที่ยวโกเบฝั่งตะวันออก (East Kobe Map) คลิกที่นี่