โกเบ-อากาชิ-ฮิเมจิ : สำรวจที่เที่ยวตามเส้นทางรถไฟซันโยสายตะวันตกที่ทำให้หัวใจเต้นแรง 

โกเบ – อากาชิ – ฮิเมจิ
by Sanyo Electric Railway

เคยเป็นไหม เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็ตามแล้วชอบสถานที่ใดที่หนึ่งมาก มากซะจนไม่อยากให้ใครรู้ และจะไม่บอกใคร นอกเสียจากเขาคนนั้นจะเป็นคนที่เราอยากชวนออกเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน สำหรับใครที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่เราขอแสดงความยินดี เพราะคุณคือเขาคนนั้นที่เราอยากบอกต่อ บทความที่แล้วเราไปเที่ยวตามลิสต์นิยมของคนโลคอลที่เมืองโกเบฝั่งตะวันออกด้วยรถไฟฮันคิวและฮันชิน คราวนี้เราจะชวนเปลี่ยนสายมานั่งรถไฟซันโย (Sanyo Electric Railway) ย้อนกลับไปทางฝั่งตะวันตกของเมือง โกเบ (West Kobe) ยาวไปจนถึงเมือง อากาชิ (Akashi) และเมือง ฮิเมจิ (Himeji) ของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) 

ซึ่งมีสถานที่ชวนให้รู้สึกอยากแพ็คกระเป๋าออกเดินทางมาพบเจอ สัมผัส และทำความรู้จักกับสถานที่กิน ช็อป เที่ยวใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองแสนคึกคัก หรือแม้แต่พื้นที่ชานเมืองแสนห่างไกลก็ยังมีสิ่งน่าสนใจรออยู่

หากตามอ่านมาโดยตลอด เราได้บอกไปในฉบับเดือนพฤษภาคมว่า นี่จะเป็นทริปวิถีสโลว์ไลฟ์ในคันไซกันยาวๆ ถ้าเริ่มรู้สึกอิ่มจากการเดินเล่นในโกเบแล้ว เราแนะนำให้เดินไปต่อคิวซื้อตั๋วรถไฟ แล้วนั่งออกไปนอกเมืองสักนิดหน่อยที่เมืองอากาชิและฮิเมจิ เพราะแอบรู้มาว่าบริเวณนั้นมีสถานที่ที่น่าไปอยู่ไม่น้อย ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้ขีดวัดระดับความรู้สึกดีที่มีต่อจังหวัดเฮียวโงะแห่งนี้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

People in Kobe Recommend | คนโกเบแนะนำ

Suma Aqualife Park

คนที่มีใจรักสัตว์น้ำน่าจะรู้ดีว่าที่ญี่ปุ่นมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกระจายตัวอยู่มากจนให้เลือกไปกันไม่หวาดไม่ไหว แต่อะไรที่ทำให้เราต้องตกลงปลงใจเดินทางมาที่ Suma Aqualife Park พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำย่านชานเมืองของเมืองโกเบแห่งนี้

สังเกตไหมว่าเขาเลือกใช้คำว่า Aqualife แทนที่จะเป็น Aquarium แม้ไม่ได้แตกต่างทางกายภาพ ที่ดูเหมือนจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไป แต่แตกต่างทางความรู้สึก เราชอบมากที่พิพิธภัณฑ์เปิดโอกาสให้คนธรรมดาได้ให้อาหาร เล่นกับโลมาและเพนกวินแสนขี้เล่น หรือสัมผัสเนื้อหนานุ่มของแมวน้ำตัวกลม (ภายใต้การดูแลของพนักงาน) ทำให้ผู้ที่ได้มาเยือนทั้งเด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ต่างก็สนุกกับการเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมากขึ้นอีก

สิ่งมีชีวิตถึง 600 สายพันธุ์ จำนวนมากกว่า 13,000 ตัว ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ ถูกจัดสรรปันส่วนพื้นที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี มีทั้งตู้ปลาขนาดน้อยใหญ่ที่ปล่อยให้ปลาหลากชนิดแหวกว่ายในตัวอาคารหลัก, Amazon World อุโมงค์สัตว์น้ำจืดหายากที่มี Pirarucu (ปลาช่อนอเมซอน) เป็นดาวเด่นของโซน, Dolphin Live Pavillion พื้นที่จัดแสดงโชว์โลมาแสนน่ารักที่ใครๆ ต่างก็อยากมาชม, Sea Otter House บ้านนากทะเลหน้าตาคิขุที่ว่ายน้ำเล่นอย่างเพลิดเพลิน และสัตว์อื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง

นอกจากนี้ยังมีโซนเครื่องเล่นสำหรับเด็กร้านอาหาร และร้านขายของฝากที่นำเอาคาแรคเตอร์น่ารักๆ ของสัตว์ในพิพิธภัณฑ์มาทำเป็นสินค้าหลากประเภท เมื่อรวมสิ่งเหล่านี้กับเสียงผู้คนที่กำลังตื่นเต้นกับสิ่งมีชีวิตนานาชนิดในพิพิธภัณฑ์ ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้ช่างมีชีวิตชีวาสมกับชื่อ Aqualife แบบที่เขาตั้งใจเลยล่ะ

Info
Suma Aqualife Park
Hours: 9:00-17:00 น.
Close: วันพุธ (ของเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์)
Ticket: ผู้ใหญ่ 1,300 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 800 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมต้นหรือต่ำกว่า 500 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเข้าฟรี
Website: www.sumasui.jp
Station: Sanyo Tsukimiyama Station

Sumaura Sanjo Yuen Park

เชื่อว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จัก Sumaura Sanjo Yuen Park สวนสนุกชื่อไม่คุ้นตา แต่เพื่อนชาวโกเบแนะนำเราว่าเป็นสวนสนุกที่ดี สายเที่ยวสวนสนุกอย่างเราก็ไม่ปฏิเสธที่จะตีตั๋วมาลงที่สถานี Sanyo Sumaurakoen ซึ่งเป็นจุดเชื่อมสำหรับการต่อกระเช้าขึ้นไปสวนสนุกเก่าแก่ที่แอบซ่อนตัวอยู่บนภูเขาเล็กๆ ในแถบชานเมืองโกเบ

จากสถานีปลายทางของกระเช้าต้องนั่ง Carlator ก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกันที่ต้องนั่งยานพาหนะที่เลื่องลือว่านั่งไม่สบายที่สุดในญี่ปุ่น สูงขึ้นไปอีกจนถึง Observation Tower หอคอยหลักด้านในมีร้านอาหาร โซนตู้เกม และด้านบนสุดเป็นดาดฟ้าที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวเมืองโกเบได้ 360 องศา จากที่นี่มองเห็นสะพาน Akashi Kaikyo ด้วยล่ะ ถ้ากำลังมองหาที่ที่คนไม่พลุกพล่านแต่ได้สัมผัสเมืองโกเบจากมุมสูง ก็ควรปักหมุดสวนสนุกแห่งนี้ไว้ได้เลย

เครื่องเล่นต่างๆ ภายในสวนสนุกแห่งนี้ อาจไม่ใช่เครื่องเล่นที่ผาดโผนหรือหวาดเสียวมากนัก เน้นเครื่องเล่นที่สามารถชมวิวและซึมซับบรรยากาศมากกว่า เช่น Sightseeing Lift เหมือนนั่งชิงช้ากลางอากาศ, Cycle Monorail คล้ายการปั่นจักรยานลอยฟ้าชมวิว เป็นต้น ผู้คนที่เดินทางมาที่นี่ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่พาลูกมาเล่นพร้อมชมวิวงาม ยิ่งถ้าได้มาในวันอากาศแจ่มใส ก็น่าจะได้เก็บความทรงจำดีๆ จากสวนสนุกแห่งนี้กลับไปเป็นกอบเป็นกำแน่นอน

Info
Sumaura Sanjo Yuen Park
Hours: 10:00-18:00 น.
Close: วันอังคาร
Ticket:
Course A (Ropeway / Carlator / Revolving Observation Tower / Sightseeing Lift)
– ผู้ใหญ่ 1,800 เยน
– เด็ก 1,350 เยน
Course B (Ropeway / Carlator /Revolving Observation Tower)
– ผู้ใหญ่ 1,200 เยน
– เด็ก 750 เยน
Website: www.sumaura-yuen.jp
Station: Sumaurakoen Station

Patisserie Tooth Tooth Seaside Cafe

Tooth Tooth เป็นทั้งชื่อร้านอาหาร ร้านขนม และบริการรับจัดงานแต่งงาน ที่มีหลายสาขาในญี่ปุ่น แต่สำหรับสาขาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Sanyo Sumaurakoen และตั้งอยู่ริมทะเลในเมืองโกเบนี้ เป็นคาเฟ่ที่เน้นจำหน่ายขนมหวานเป็นหลัก แต่ถ้าหิวจัดก็มีอาหารง่ายๆ อย่างสปาเก็ตตีให้เลือกด้วยเช่นกัน หากเริ่มเหนื่อยจากการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ก่อนนั่งรถไฟกลับเราแนะนำให้ลองแวะกินขนม จิบชา กาแฟหอมๆ ริมทะเลก็ผ่อนคลายดีเหมือนกันนะ

Info
Patisserie Tooth Tooth Seaside Cafe
Hours: 11:00-20:00 น.
Close:  –
Website: www.toothtooth.com
Station: Sumaurakoen Station

West Kobe Good Views | ชมวิวโกเบ

Akashi Kaikyo Bridge

ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าได้เดินเล่นบนโครงสร้างสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกจะเป็นยังไง

สะพานอาคาชิไคเกียว (Akashi Kaikyo Bridge) สะพานแขวนที่ยาวถึง 3,991 เมตร หรือยาวราวๆ 4 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเส้นทางคมนาคมหลักระหว่างเมืองโกเบกับเกาะอาวะจิแทนการคมนาคมทางน้ำตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 แต่ด้วยความสวยงามของสะพานยามต้องแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นและตกดินก็ทำให้วิวสะพานกลายเป็นหนึ่งในจุดชมวิวแสนงามและเป็นสถานที่โปรดยามต้องการผ่อนคลายของชาวเมืองโกเบไปโดยปริยาย  

ความชิคคูลอยู่ที่สะพานฝั่งโกเบ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวชมสะพานอย่างเป็นกิจลักษณะ เราอยากแนะนำให้ลองไป Maiko Marine Promenade อาคารสูงที่มีพื้นที่เดินเล่นใต้โครงสร้างสะพานบนความสูง 47 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และมีทางเดินพื้นกระจกใสจนมองเห็นคลื่นน้ำทะเลสีฟ้าด้านล่างเป็นไฮไลท์ ใครที่กลัวความสูงน่าจะมีอาการเสียวท้องหรือขาสั่นกันบ้างแหละ ภายในอาคารยังมี Tom’s Cafe คาเฟ่จำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากโกเบ, ร้านขายของที่ระลึก, Observation Lounge พื้นที่นั่งชิลล้อมรอบไปด้วยผนังกระจกรอบทิศ เผยให้เห็นวิวทะเลและสะพานอาคาชิไคเกียวด้านนอกและห้องฉายวิดีโอเผยแพร่ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสะพานอยู่ด้วย

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่น่าสนใจ อาทิ Sun Yat-sen Memorial Hall อนุสรณ์สถานทรงแปดเหลี่ยมที่บรรจุเรื่องราวความสัมพันธ์ในประวัติศาสตร์ระหว่างเมืองโกเบกับดร.ซุน ยัด เซ็น ผู้นำการปฏิวัติประเทศจีน, Maiko Park สวนสาธารณะริมทะเลที่แอบเห็นผู้คนหลากวัยมาเดินเล่นสูดอากาศ บ้างนั่งอ่านหนังสือ บ้างก็วิ่งออกกำลังกาย เป็นต้น ถือเป็นพื้นที่ที่เราอยากให้ลองมาสัมผัสและใช้เวลากันอย่างเพลิดเพลิน จนลืมความเหนื่อยล้าที่เคยสั่งสมมาไปให้หมดที่สะพานแห่งนี้

Info
Maiko Marine Promenade
Hours: 9:00-18:00 น.
Close: วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมถึงมีนาคม
Ticket:
จ.-ศ.
– ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป 100 เยน
– ผู้ใหญ่ 250 เยน
– เด็กต่ำกว่ามัธยมปลาย เข้าฟรี
ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์
– ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป 150 เยน
– ผู้ใหญ่ 300 เยน
– เด็กต่ำกว่ามัธยมปลายเข้าฟรี
Website: www.hyogo-maikopark.jp
Station: Maikokoen Station

West Kobe Shopping Guide | ช็อปปิ้งไกด์

Uo no tana Fish Market

เที่ยวเมืองติดทะเลอย่างโกเบทั้งที ขอชวนมาเดินเล่นกันที่ Uo no tana โชเทนไกที่มีร้านค้าท้องถิ่นญี่ปุ่นอยู่ริมสองฝั่งถนน ที่นี่เป็นแหล่งขายอาหารทะเล ทั้งของสดหรือปรุงสุกก็ล้วนหาซื้อได้ที่นี่ อาหารขึ้นชื่อของโชเทนไกแห่งนี้คือ Akashiyaki ลักษณะคล้ายทาโกยากิแต่จะแตกต่างตรงที่มีไข่เป็นส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามา และวิธีการกินที่ต้องจุ่มลงไปในซุปดาชิหอมๆ ก่อนกิน ยิ่งทำให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น แอบเห็นคนญี่ปุ่นสั่งข้าวมาด้วยก็กลายเป็นมื้ออาหารที่ดี ใครมีโอกาสแวะมาที่โชเทนไกแห่งนี้เราแนะนำว่าต้องลอง

Station:  Sanyo Akashi Station

Mitsui Outlet Park Marine Pia Kobe

เอาท์เล็ทติดทะเลในโกเบที่ทำให้การช็อปปิ้งกับการเดินเที่ยวถ่ายรูปเล่นเป็นเรื่องเดียวกัน นอกจากจะอัดแน่นไปด้วยแบรนด์สินค้าชั้นนำจากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศแล้ว ตัวสถาปัตยกรรมอาคารของที่นี่ยังถูกทำให้เป็นเหมือนเมืองท่าทางยุโรปตอนใต้ อีกทั้งมีโซนร้านอาหารและโซนกิจกรรม เพราะฉะนั้นแม้คุณจะไม่ใช่สายช็อป แต่การเดินสำรวจภายในพื้นที่เอาท์เล็ทแห่งนี้ก็จะทำให้เพลิดเพลินได้แน่นอน ที่สำคัญเดินทางแสนสะดวก จากสถานีรถไฟ Sanyo Tarumi มี Shuttle Bus รับส่งฟรีถึงที่เอาท์เล็ทเลยล่ะ

Info
Mitsui Outlet Park Marine Pia Kobe
Hours: ร้านค้า 10:00-20:00 น., ร้านอาหาร 10:00-22:00 น.
Website: www.mitsui-shopping-park.com/mop/kobe/english
Station: Sanyo Tarumi Station

Train to Himeji | นั่งรถไฟไปฮิเมจิ

ปิดท้ายทริปนี้กันที่เมืองฮิเมจิในจังหวัดเฮียวโงะ เรารู้มาว่าที่นี่มีสถานที่น่าสนใจอยู่มาก เส้นทางที่เราอยากแนะนำสำหรับการเดินทางไปเมืองฮิเมจิคือโดยสารรถไฟซันโย ซึ่งวิ่งเส้นทางระหว่างโกเบกับฮิเมจิในเฮียวโงะอยู่แล้ว นั่งเพียงไม่กี่อึดใจในที่สุดเราก็มาถึงสถานีรถไฟ Sanyo Himeji

เราว่าใครต่อใครที่ตั้งใจมาเมืองฮิเมจิ ก็เพื่อมาชมปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ความอุดมสมบูรณ์จากทั้งเรื่องราวในประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 400 ปี จนได้รับคัดเลือกจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ธรรมชาติโดยรอบที่ขอยืนยันว่าสวยงามทุกฤดู และสถาปัตยกรรมที่ย้งคงโครงสร้างของตัวอาคารเดิมเอาไว้ แม้จะเคยถูกระเบิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวบริเวณโอซาก้าและโกเบเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนก็ตาม

แม้ว่าในอดีตที่นี่จะเคยผ่านเรื่องเศร้าโศก แต่ก็สอนอะไรบางอย่างให้กับคุณรุ่นหลัง คือไม่ว่าจะมีเรื่องแย่ที่ทำให้รู้สึกอ่อนแอผ่านเข้ามาในชีวิต ก็จงเข้มแข็งและยืนหยัดให้ได้เหมือนปราสาทฮิเมจิ เวลาจะผ่านมานานแค่ไหนที่นี่ยังสวยงาม ทรงคุณค่า และเต็มไปด้วยเรื่องราวรอผู้คนแวะเวียนเข้ามาสัมผัส สิ่งเหล่านี้ก็ทำเอาเรารู้สึกดีขึ้นมาที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสมาเยือนปราสาทแห่งนี้

เดินเยื้องมาทางตะวันตกของตัวปราสาท จะพบกับ Koko-en Garden สวนสวยที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความยั่งยืนครบรอบ 100 ปีของเมืองฮิเมจิ ภายในสวนกว้างมี 9 สวนย่อยที่ต่างกันไป ประกอบด้วยน้ำตก ธารน้ำไหล สระน้ำ สะพานเก่าแก่ และพรรณไม้หลากสายพันธุ์เบ่งบานสลับกันไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ภายในพื้นที่ยังมีร้านอาหารและ Souju-an เรือนน้ำชาในสวน ที่อยากแนะนำให้ทุกคนลองไปสัมผัสวิธีการชิมชาแบบญี่ปุ่นแท้ พร้อมชมวิวงามของปราสาทฮิเมจิ ถือเป็นการปิดทริปที่ชวนให้อารมณ์ดีสุดๆ เลย

Info
Himeji Castle
Hours: 9:00-17:00 น.
Ticket: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, นักเรียนชั้นประถมถึงมัธยมปลาย 300 เยน (ตั๋วเข้า Himeji Castle + Koko-en Garden ผู้ใหญ่ 1,040 เยน, นักเรียนชั้นประถมถึงมัธยมปลาย 360 เยน)
Website: www.city.himeji.lg.jp/guide/castle
Station: Sanyo Himeji Station

Info
Koko-en Garden
Hours: เม.ย.-ส.ค. 9:00-18:00 น., ก.ย.-มี.ค. 9:00-17:00 น. 
Ticket: ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนชั้นประถมถึงมัธยมปลาย 150 เยน (ตั๋วเข้า Himeji Castle + Koko-en Garden ผู้ใหญ่ 1,040 เยน, นักเรียนชั้นประถมถึงมัธยมปลาย 360 เยน)
Website: www.himeji-machishin.jp/ryokka/kokoen/en
Station: Sanyo Himeji Station 

Kobe Sleep Well | ที่พักโกเบ

โรงแรมดี ชีวิตดีที่ Hotel Okura Kobe

เราคงจะนิยามโรงแรม Hotel Okura Kobe เป็นคำอื่นไปไม่ได้ นอกจากคำว่า “ครบ” 

โลเคชั่นดีมาก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโกเบ ใกล้ทั้งสถานีรถไฟและสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Kobe Harbor- land, Kobe Port Tower และ Nankinmachi (ย่านไชน่าทาวน์ในโกเบ) เป็นเหตุผลหลักที่เราเลือกพักที่ Hotel Okura Kobe พอออกเดินทางจากนาราพร้อมสัมภาระอันหนักอึ้งมาถึงโกเบ ก็พบว่าโรงแรมแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่โลเคชั่น

เราได้รับการต้อนรับอย่างดีตั้งแต่เท้ายังไม่ถึงโรงแรม เพราะมีบริการ Shuttle Bus รับส่งจากสถานี Sannomiya Station ไปยังโรงแรม (จุดรับอยู่ตรงชานชาลารถบัสชั้น 1 ของอาคาร Mint Kobe) จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ เมื่อถึงโรงแรมก็มีพนักงานขนสัมภาระและพนักงานต้อนรับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มคอยให้บริการอยู่ตลอด ใครไม่ประทับใจก็บ้าแล้ว!

ห้องพักมีให้เลือกหลายประเภทและระดับราคา ซึ่งจะมีธีมแตกต่างกันไปในแต่ละชั้น ได้แก่ สไตล์ญี่ปุ่น, ตะวันตก และผสมผสาน แต่ก็มีความเรียบง่ายและงดงามเป็นเอกลักษณ์ และที่เก๋ไก๋สุดๆ คือทุกห้องจะสามารถมองเห็นวิวเมืองโกเบได้รอบทิศทาง (ขึ้นอยู่กับว่าที่ตั้งของห้องพักอยู่ด้านไหน) เช่น ฝั่งตะวันตก มองจากหน้าต่างจะเห็นเป็นวิว Kobe Port Tower หอคอยสีแดงสด สัญลักษณ์ของท่าเรือโกเบ หรือหากได้ห้องพักฝั่งเหนือ ก็จะได้เพลิดเพลินกับแสงไฟยามค่ำคืนของเมืองโกเบ ส่วนตัวเราได้วิวฝั่งตะวันออก บอกเลยว่ากรี๊ดมาก เพราะเป็นฝั่งที่หากตื่นเช้าก็จะได้ดื่มด่ำกับพระอาทิตย์ขึ้นตรงเส้นปลายขอบอ่าวโกเบ

นอกจากห้องพักดีบริการเยี่ยมแล้ว ที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของอาหาร ห้องอาหารของที่นี่กว้างขวาง และให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์หลากสไตล์ทั้งญี่ปุ่นและตะวันตก จะกินให้อิ่มจนจุกแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหุ่นพังเพราะที่โรงแรมยังมีฟิตเนสและสระว่ายน้ำให้บริการสำหรับแขกที่รักสุขภาพและอยากออกกำลังกายด้วย ครบครันขนาดนี้ โกเบคราวหน้าก็คงต้องพักที่ Hotel Okura Kobe ซ้ำอีกทีซะแล้วสิ

สนใจจองโรงแรม Hotel Okura Kobe คลิกที่นี่

การเดินทาง มี 2 เส้นทางแนะนำ 

1. จากนาราให้ใช้บริการรถไฟสาย Kintetsu-Nara Line ไปลงที่ Osaka-Namba Station จากนั้นให้เดินไปขึ้นสาย Hanshin Line ไปลงที่ Sannomiya Station จากสถานีมี Shuttle Bus รับส่งถึงโรงแรม (อยู่ตรงชานชาลารถบัสชั้น 1 ของอาคาร Mint Kobe)
2. จากนาราให้ใช้บริการรถไฟสาย Kintetsu-Nara Line ไปลงที่ Osaka-Namba Station จากนั้นให้เดินไปขึ้นสาย Hanshin Line ไปลงที่ Motomachi Station จากสถานีสามารถเดินไปโรงแรมได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
   (950 เมตร)

Info
Hotel Okura Kobe
Website:  www.kobe.hotelokura.co.jp/en

Around Hotel | สถานที่เที่ยวใกล้ที่พัก

Nankinmachi (Kobe ChinaTown)

หนึ่งในเหตุผลที่บอกไปตอนต้นว่าโรงแรม Hotel Okura Kobe นั้นโลเคชั่นดีมาก มาจากระยะทางแสนใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง “นันกิงมาจิ (Nankinmachi)” หรือไชน่าทาวน์โกเบในระยะที่เดินเท้าได้เพียงไม่กี่นาที ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์รวมของวัฒนธรรมจีน ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และวัดจีนที่บูชาเทพเจ้ากวนอู พักผ่อนอย่างมีความสุขแล้ว เรื่องกินก็สำคัญ ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาดื่มด่ำกับรสชาติอาหารจีน ที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีของประเทศญี่ปุ่นกันที่นันกิงมาจิแห่งนี้ ก็เป็นความคิดที่น่าสนใจดีเชียวล่ะ      

West Kobe Map | แผนที่ โกเบ อากาชิ ฮิเมจิ 

ดาวน์โหลดแผนที่โกเบตะวันตก (West Kobe – Akashi – Himeji Area Map) คลิกเลย!

รู้จัก Sanyo Himeji Tourist Pass

ที่มาภาพ – ww011.upp.so-net.ne.jp

การเดินทางเที่ยวเมือง โกเบ ฝั่งตะวันตก อากาชิ และ ฮิเมจิ ในครั้งนี้ เราได้เลือกซื้อบัตรโดยสาร Sanyo Himeji Tourist Pass เพื่อใช้เป็นตั๋วเดินทางจากเมืองโกเบไปยังเมืองฮิเมจิ ต้องบอกเลยว่าเป็นบัตรโดยสารที่คุ้มมาก เพราะนอกจากจะสามารถแวะเที่ยวได้ตลอดทางตามเส้นทางรถไฟซันโย (Sanyo Electric Pass) แล้ว บัตรโดยสารนี้ยังสามารถใช้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษจากร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวตลอดเส้นทางสายรถไฟซันโยได้อีกด้วยนะ

เพื่อนๆ สามารถซื้อ Sanyo Himeji Tourist Pass ได้จาก

• จุดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น : Kansai Tourist Information Center ภายในสนามบินคันไซ
• จุดจำหน่ายในประเทศไทย : สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่