Road Trip in Tokamachi EP1 : ตะลอนชมงานศิลปะ แวะพักเรียวกัง อาบน้ำแร่แช่ออนเซ็นธรรมชาติแบบจุใจในโทคามาจิ
สารบัญ
เรามีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดนีงาตะอยู่หลายครั้ง ช่วงต้นฤดูกาลของใบไม้เปลี่ยนสีที่ผ่านมา โทคามาจิ (Tokamachi) ก็เป็นอีกเมืองที่เราได้แวะเวียนไปเติมพลังให้กับชีวิต เพราะที่นี่มีงานจัดแสดงผลงานศิลปะ Echigo-Tsumari Art Field 2020 ในปีนี้เราขับรถเที่ยวชมงานศิลปะเจ๋งๆ ทั่วทั้งเมือง พร้อมแวะทำกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมายตลอด 4 วัน เกรงว่าจะยาวไปเลยขอแบ่งออกเป็นสอง Episode เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านให้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น
Day 1
Tunnel of Light → Kiyotsukan
เริ่มต้นที่ Tunnel of Light อุโมงค์ศิลปะที่ได้รับการฟื้นฟูจากอุโมงค์เก่า Kiyotsu Gorge Tunnel ที่ในอดีตเคยพังทลายและปล่อยร้างมา นี่คือส่วนหนึ่งของงานอาร์ตในงาน Echigo Tsumari Art Triennale 2020 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ยิ่งนานวันสถานที่แห่งนี้ยิ่งกลายเป็นจุดสนใจและได้รับความนิยมมากจนต้องรอต่อคิวเข้าชมภายใน แต่ก่อนถึงทางเข้าอุโมงค์จะมีอาคารไม้ที่อยู่ใกล้กัน ด้านในเป็นร้านขายของที่ระลึก ขนม และกาแฟ สามารถซื้อออกมานั่งรับประทานระหว่างรอคิวด้านนอกได้ บนชั้นสองเป็นออนเซ็นแช่เท้าเปิดให้ใช้บริการฟรีด้วยนะ ทั้งยังแอบซ่อนศิลปะไว้ด้านบนหลังคา ทำเป็นกระจกที่สะท้อนมองออกไปเห็นผู้คนด้านนอกได้อีกด้วย
ภายในอุโมงค์ตลอดทางเดินตกแต่งด้วยไฟสีต่างๆ จนถึงไฮไลท์ทั้งสี่ภายในอุโมงค์ที่ต้องหยุดชมและถ่ายรูปกัน แต่ละช่องอุโมงค์ของ 4 แพลตฟอร์ม จะสามารถมองทะลุออกไปเห็นทัศนียภาพของธรรมชาติด้านนอก ซึ่งต้นไม้และสีสันนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูด้วย
➢ แพลตฟอร์ม 1 ดูเหมือนเป็นอุโมงค์ปูนเปลือยโล่งๆ ธรรมดา แต่พอไปยืนชมวิวจากบริเวณนั้นเราจะเห็นธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้เปลี่ยนสีไปตามแต่ฤดูกาล และแม่น้ำคิโยสึ (Kiyotsu River) ที่กำลังไหลผ่าน
➣ แพลตฟอร์ม 2 โดมสีเงินที่ตั้งอยู่ตรงกลาง จริงๆ แล้วเป็นห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ใช้งานได้จริง ความเท่อยู่คนจากด้านในสามารถมองทะลุออกมาเห็นคนข้างนอกได้ด้วย
➢ แพลตฟอร์ม 3 อุโมงค์นี้ได้รับการตกแต่งด้วยกระจกที่สะท้อนแสงไฟสีส้มแดงส่องเต็มไปทั่วพื้นที่ ตรงจุดนี้จะมีเก้าอี้ให้นั่งพัก รับลมชมวิวหรือฟังเสียงแม่น้ำที่กำลังไหลผ่านได้
➣ แพลตฟอร์ม 4 จุดท้ายสุดของอุโมงค์และเป็นไฮไลท์หลักของที่นี่เรียกว่า “Light Cave” เรามักจะเห็นผลงานชิ้นนี้เป็นภาพโปรโมทงานศิลปะและมักจะพบเห็นบ่อยในโลกออนไลน์สำหรับคนชอบการถ่ายรูป ตรงนี้เราสามารถเดินไปยังอีกฝั่งของน้ำได้เพื่อชมวิวจากอุโมงค์ ในฤดูร้อนจะมีเด็กๆ มาเล่นน้ำกันบริเวณนี้ด้วย
แต่ถ้ายังไม่จุใจ ขอแนะนำที่พักใกล้กับอุโมงค์จะได้เต็มอิ่มกับการชมอุโมงค์ได้ทั้งช่วงเย็นและช่วงเช้า Kiyotsukan เป็นเรียวกังเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าก่อนเข้าอุโมงค์ ความน่าสนใจของเรียวกังแห่งนี้คือออนเซ็นที่อยู่ด้านนอกอาคารของโรงแรม เป็นบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่มองเห็นวิวหุบเขาและแม่น้ำคิโยสึได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งเป็นส่วนตัวมากเพราะออนเซ็นกลางแจ้งต้องจองก่อนเข้าใช้ทุกครั้ง เราจึงสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ ได้จากโรงแรมแห่งนี้
ใกล้ๆ กันยังมีถนนคนเดินเล็กๆ สองข้างทางเต็มไปร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร จะแวะหาอะไรรองท้องก่อนเข้าเช็คอินโรงแรมก็เหมาะสมที่สุด
Info
Tunnel of Light
Hours: 8:30-16:30 น.
Holiday: ฤดูหนาว
Entrance Fee: ชั้นมัธยมปลายขึ้นไป 600 เยน, ชั้นมัธยมต้นและประถม 300 เยน
Tel: 025-763-4800
Access: จากสถานีอิชิอุจิ (Ishiuchi Station) นั่งแท็กซี่ประมาณ 17 นาที
Website: www.nakasato-kiyotsu.com/en
Day 2
Matsudai Nobutai → Hachi Café → Seizo Tashima Museum of Picture Book Art → Doichi Station → Echigo-Mizusawa Station → Matsunoyama Onsen → Hinanoyado Chitose
วันที่สอง เป็นวันชมงานศิลปะแบบเต็มอิ่มทั้งวัน เราออกเดินทางไปที่มัตสึได โนบุไต (Matsudai Nobutai Center) พิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะ ด้านนอกอาคารมีงานศิลปะกระจายตัวอยู่รอบๆ เช่น Reverse City ผลงานของ Pascale Marthine Tayou ดินสอหลากสีที่แขวนอยู่รวมๆ กันและมีชื่อประเทศหลายร้อยประเทศเขียนอยู่ที่ด้ามของดินสอเหล่านั้น ซึ่งมีประเทศไทยด้วยนะ ส่วนงานที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Tsumari in Bloom ผลงานของศิลปินระดับโลกคุณยาโยอิ คุซามะ (Yayoi Kusama) ซึ่งจัดแสดงอยู่ไม่ไกลจากอาคารหลัก
ส่วนด้านในมีจุดน่าถ่ายรูปมากมาย เรียกว่านั่ง ยืน หยุดตรงไหนสามารถถ่ายรูปตัวเองกับงานศิลปะได้ทุกแห่ง แม้แต่ห้องน้ำของที่นี่เข้าไปแล้วอาจจะหาทางออกไม่เจอ เป็นการดีไซน์ห้องน้ำให้มีลูกเล่นเพิ่มเติมพอสนุก หรือห้องเรียนกระดานดำที่เราสามารถขีดเขียนที่ใดก็ได้ภายในห้องนี้
ห้องอาหาร Cafe Reflet เมื่อเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนแกลเลอรี่จัดงานศิลปะมากกว่าฟู้ดคอร์ทนั่งกินข้าว หน้าต่างสูงยาวโปร่งใส มองเห็นภูเขาด้านนอก บนโต๊ะกินข้าวเป็นกระจกที่สะท้อนเห็นรูปภาพของดีเมืองโทคามาจิจากบนเพดาน เป็นความคิดแปลกใหม่ที่ทำให้ห้องอาหารแห่งนี้กลายเป็นจุดแสดงผลงานไปอีกแห่ง
ก่อนที่จะไปดื่มด่ำกับงานอาร์ตในสถานที่ถัดไป เราแวะกินมื้อกลางวันกันที่ Hachi Café คาเฟ่เล็กๆ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ภายในพื้นที่เดียวกันกับ Seizo Tashima Museum of Picture Book Art มิวเซียมหนังสือภาพที่ถูกปรับปรุงพื้นที่ภายในจากโรงเรียนประถมเก่าที่ถูกทิ้งร้าง ใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะของ Seizo ซึ่งเป็นเรื่องเล่าจากหนังสือภาพนั่นเอง
ภายในอาคารไม้ทั้งสองชั้นจัดแสดงผลงานทุกห้อง และมีบางห้องที่จัดเป็นนิทรรศการจัดงานศิลปะพิเศษหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ดังนั้นมาครั้งหน้าหรือครั้งต่อๆ ไปก็อาจจะได้พบกันผลงานใหม่ของศิลปินท่านอื่นก็ได้นะ
ก่อนเดินทางกลับโรงแรมที่จะพักกันคืนนี้ เราขับรถผ่านงานอาร์ตอีกสองชิ้นโดย Jimmy Liao นักเขียน นักวาด ศิลปินชาวไต้หวันที่โด่งดังระดับโลกจากผลงาน “Kiss & Goodbye” ลักษณะผลงานดูสดใสน่ารัก แต่เรื่องราวความเป็นมากลับกลายเป็นเรื่องเศร้าของการจากลาของเด็กชายที่หลงลืมเรื่องราวต่างๆ และค่อยๆ จดจำเรื่องราวขึ้นมาได้ระหว่างออกเดินทางโดยรถไฟไปหาคุณตาที่บ้านนอกพร้อมกับสุนัขคู่ใจของเขา
ผลงานนี้ถ้าสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่าหลังคามีลักษณะเป็นทรงโค้งเพื่อป้องกันการสะสมของหิมะที่ตกลงมาอย่างหนาแน่นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมเรียกว่า “คามาโบโกะ” เพราะมีรูปร่างคล้ายกับคามาโบโกะหรือลูกชิ้นปลาญี่ปุ่นนั่นเอง สามารถชมได้ที่บริเวณข้างสถานีรถไฟ Doichi และ Echigo-Mizusawa
เราพักที่ Hinanoyado Chitose เรียวกังเก่าแก่อยู่คู่หมู่บ้านออนเซ็นมัตสึโนะยามะออนเซ็น (Matsunoyama Onsen) มายาวนาน ออนเซ็นของที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาโรค น้ำร้อนมีรสเค็มมาก ต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งออนเซ็นที่นี่ติดอันดับน้ำออนเซ็นดีหนึ่งในสามของประเทศญี่ปุ่น
ภายในห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบเตียงหรือนอนฟูกญี่ปุ่นบนเสื่อทาทามิ บางห้องเป็นโมเดิร์นสไตล์มีทั้งเสื่อและเตียงนอนอยู่ภายในห้องเดียวกัน ชอบแบบไหนสามารถเลือกได้ตามสะดวกเลย
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดของเรียวกังแห่งนี้คือ “ไข่ต้มออนเซ็น” ต้มสุกด้วยน้ำออนเซ็น มีความพิเศษทั้งรสชาติและสัมผัส ต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว ด้านนอกของโรงแรมเป็นถนนเล็กๆ ที่เหมาะกับการเดินเล่น มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ตลอดสองข้างทาง ถ้าเดินขึ้นเนินเขาไปด้านบนจะพบกับศาลเจ้าที่เป็นจุดจัดงาน “โยนลูกเขย” ซึ่งเป็นงานเทศกาลเก่าแก่ตามความเชื่อของคนท้องถิ่น
Road Trip สองวันแรกเต็มอิ่มกับงานศิลปะตามจุดต่างๆ ในเมืองโทคามาจิ และได้แช่ออนเซ็นน้ำแร่ธรรมชาติพักผ่อนอย่างสบายใจที่เรียวกังเก่าแก่แล้ว เรายังเหลืออีก 3 วัน จัดเต็มเน้นกิจกรรมน่าสนใจที่สามารถทำได้ในเมืองโทคามาจิ และยังสามารถชมงานศิลปะระหว่างทางได้อีกด้วย ติดตามกันต่อได้ใน Road Trip in Tokamachi EP2 นะ
Info
Matsudai Nobutai Center
Hours: พฤ.-อ. 10:00-17:00 น.
Holiday: วันพุธ
Entrance Fee: บุคคลทั่วไป 600 เยน, ชั้นประถมและมัธยมต้น 300 เยน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับนิทรรศกาล)
Tel: 025-595-6180
Nearest Station: สถานีมัตสึได (Matsudai Station), จังหวัดนีงาตะ (Niigata)
Access: จากสถานีเอ็ตจิโกะยูซาว่า (Echigo-Yuzawa Station) ให้นั่งรถไฟสายโฮกุโฮกุ (Hoku-Hoku Line) มาลงที่สถานีมัตสึได จากนั้นเดินเท้าต่ออีก 2 นาที
Website: www.echigo-tsumari.jp
Info
Seizo Tashima Museum of Picture Book Art
Hours: ปลายเมษายน-ปลายพฤศจิกายน 10:00-17:00 น., ตุลาคม-พฤศจิกายน 10:00-16:00 น.
Holiday: วันพุธ, วันพฤหัสบดี และฤดูหนาว
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 800 เยน, ชั้นมัธยมต้น 300 เยน, ต่ำกว่าชั้นประถมเข้าฟรี
Tel: 025-752-0066
Nearest Station: สถานีโทคามาจิ (Tokamachi Station), จังหวัดนีงาตะ (Niigata)
Access: จากสถานีเอ็ตจิโกะยูซาว่า (Echigo-Yuzawa Station) ให้นั่งรถไฟสายโฮกุโฮกุ (Hoku-Hoku Line) มาลงที่สถานีโทคามาจิใช้เวลา 36 นาที แล้วเปลี่ยนไปนั่งบัสจากป้ายหน้าสถานี (TY07) ไปลงที่ป้าย Hachi (TY33) จากนั้นเดินเท้าต่ออีก 3 นาที
Website: ehontokinomi-museum.jp
Info
Hinanoyado Chitose
Resevation: คลิกที่นี่เพื่อจองห้องพัก
Tel: 025-596-2525
Nearest Station: สถานีมัตสึได (Matsudai Station), จังหวัดนีงาตะ (Niigata)
Access: มีบริการรับส่งฟรีของโรงแรมจากสถานีรถไฟมัตสึได แต่ต้องสำรองล่วงหน้าทางเว็บไซต์หรือทางโทรศัพท์
Website: chitose.tv