Echigo-Tsumari Art Field เป็นการจับมือกันระหว่างศิลปินชื่อดังระดับนานาชาติกับชาวบ้านในชนบทของจังหวัดนีงาตะ จัดแสดงงานศิลปะถาวรกว่า 200 ชิ้นกระจายตัวอยู่ทั่วทั้ง 6 พื้นที่ ได้แก่ โทคามาจิ (Tokamachi), คาวานิชิ (Kawanishi), มัตสึได (Matsudai), มัตสึโนะยามะ (Matsunoyama), นากาซาโตะ (Nakasato), ซึนัน (Tsunan) ให้ตามไปชมได้ทั้งปี สร้างด้วยคอนเซ็ปต์หลักของ Echigo Tsumari Art คือ มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ผลงานคุณภาพแต่ละชิ้นอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่น แลนด์สเคปสวยๆ เพลิดเพลินกับภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและพื้นที่เกษตรกรรรมอุดมไปด้วยธรรมชาติ

เราไม่ได้เดินทางไปครบทั้ง 6 พื้นที่ แต่ขอเลือกอาร์ซสเปซน่าสนใจ ที่เราไปแล้วชอบมาเป็นไอเดียให้ทุกคน เพิ่มเติมอีกนิดว่าเช่ารถยนต์ขับในโทคามาจิเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกและง่ายที่สุด เพราะสามารถเข้าถึงชิ้นงานหรือสเปซที่ตั้งอยู่ในจุดที่เดินทางยากได้ โดยจะเริ่มต้นเส้นทางขับรถจากสถานีเอ็ตจิโกะยูซาว่า (Echigo-Yuzawa Staion) หรือสถานีโทคามาจิ (Tokamachi Station) ก็ได้ เนื่องจากบริเวณใกล้ๆ สถานีรถไฟมีร้านให้เช่ารถยนต์อยู่ หากใครไม่สะดวกขับรถยนต์จริงๆ ก็ยังมีวิธีการเดินทางอื่นๆ เช่น แท็กซี่ หรือไม่ก็เช่าจักรยาน อีกข้อควรระวังคือ ควรตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดของชิ้นงานที่จัดแสดงแต่ละพื้นที่ในเว็บไซต์ก่อนเดินทาง

Echigo-Tsumari Art Field map

 

01 Tunnel of Light

(Nakasato Area)

Echigo-Tsumari Art Field - Tunnel of Light

Echigo-Tsumari Art Field - บัตรเข้า Tunnel of Light

หลังจากอุบัติเหตุหินจากหุบเขาคิโยสึ (Kiyotsu) หล่นลงมาอย่างไม่คาดคิดในปีค.ศ. 1988 ทำให้ Kiyotsu Gorge Tunnel ถูกปิดตัวลง ต่อมาในเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 1996 หุบเขานี้ได้เปิดให้เราเข้าชมอีกครั้ง มีความปลอดภัยมากขึ้นและได้กลายเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติโจชินเอ็ตสึ โคเก็น (Joshinetsu Kogen) สถานที่สำหรับสัมผัสธรรมชาติด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไป เนื่องในปี ค.ศ. 2018 ที่มีการจัดงาน Echigo Tsumari Art Triennale นั้นหม่า หยานสง (Ma Yansong) สถาปนิกชาวจีนจาก MAD Architects ได้ทำการปรับปรุงอุโมงค์นี้ให้เป็น “Tunnel of Light” หนึ่งในชิ้นงาน Installation Art ของ Echigo Tsumari Art Field ในปัจจุบัน มีคอนเซ็ปต์หลักในการดีไซน์โดยใช้ธาตุทั้ง 5 ในธรรมชาติ (ดิน น้ำ ไฟ ไม้ โลหะ) มาแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ความยาวของอุโมงค์กินพื้นที่ทั้งหมด 750 เมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 40-60 นาที แบ่งเป็น 4 แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นจุดหลักสำหรับชมทิวทัศน์ของหุบเขาที่ติดอันดับท็อปทรีของญี่ปุ่น

Echigo-Tsumari Art Field - ภายใน Tunnel of Light

ตามทางเดินที่ทอดยาวในอุโมงค์จะมีการใช้สีต่างๆ จากหลอดไฟสร้างมู้ดให้กับบรรยากาศในคอนเซ็ปต์ “Expression of Color” (ดิน) เพื่อนำทางเราไปสู่แต่ละแพลตฟอร์ม เราได้ไปที่นี่ในช่วงฤดูร้อนแต่อากาศด้านในอุโมงค์ค่อนข้างเย็นสบาย เป็นสถานที่เหมาะแก่การหลบไอแดดได้อย่างดีเลยล่ะ คนส่วนใหญ่มาเที่ยวมากันเป็นกลุ่มเล็กๆ มีทั้งครอบครัว เพื่อน และคู่รัก

Echigo-Tsumari Art Field - Tunnel of Light แพลตฟอร์ม 1

แพลตฟอร์ม 1 อุโมงค์ปูนเปลือยที่เห็นวิวด้านข้างของหุบเขาและแม่น้ำคิโยสึ (Kiyatsu River) ไหลผ่านเบื้องล่าง วิวส่วนใหญ่ที่เราเห็นจะเป็นสีเขียวของต้นไม้ เติมความสดชื่นให้กับบรรยากาศหน้าร้อนได้ดี เราประทับใจกับกลุ่มคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่มาออกทริปฝึกถ่ายรูปธรรมชาติกัน เป็นกิจกรรมน่ารักที่เห็นแล้วชวนให้ยิ้มตาม

Echigo-Tsumari Art Field - Tunnel of Light แพลตฟอร์ม 2 “Invisible Bubble”

แพลตฟอร์ม 2 “Invisible Bubble” (โลหะ) จะพบกับวัตถุคล้ายแคปซูลสีเงินตั้งเด่นอยู่ตรงกลาง ไม่ต้องแปลกใจไปเพราะนี่คือห้องน้ำสาธารณะที่ให้เข้าใช้ได้จริง มีทั้งหมด 2 ห้อง ด้านในสามารถมองออกมาเห็นวิวของหุบเขาได้ เราลองเข้าไปใช้บริการของห้องน้ำดู ให้ความรู้สึกที่แปลกมาก อย่างกับว่าหลุดเข้าไปในที่เงียบสงบคนเดียวทั้งๆ ที่ยังอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ขอใช้เวลาทำธุระอยู่ในนี้สักพักแล้วกันนะ

Echigo-Tsumari Art Field - Tunnel of Light แพลตฟอร์ม 3 “Drop” (ไฟ)

Echigo-Tsumari Art Field - Tunnel of Light แพลตฟอร์ม 3 “Drop”

แพลตฟอร์ม 3 “Drop” (ไฟ) ด้านบนผนังอุโมงค์ติดตั้งด้วยกระจกสีเงินลักษณะคล้ายโมเลกุลของหยดน้ำ ด้านหลังกระจกทุกชิ้นมีไฟสีแดงอยู่ทำให้เหมือนถูกแช่แข็งผ่านช่วงเวลามานาน เมื่อมองเข้าไปที่กระจกนูนนี้จะเห็นภาพสะท้อนของบริเวณโดยรอบ มีที่นั่งสำหรับพักผ่อนด้วย หากใครจะแวะนั่งฟังเสียงแม่น้ำไหลผ่านก็เพลินไปอีกแบบ

Echigo-Tsumari Art Field - Tunnel of Light แพลตฟอร์ม 4 “Light Cave” (น้ำ)

Tunnel of Light แพลตฟอร์ม 4 “Light Cave” (น้ำ)

แพลตฟอร์ม 4 “Light Cave” (น้ำ) จุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ อุโมงค์สเตนเลสสีเงินโค้งกว้างสะท้อนกับผิวน้ำในสระบนพื้น มองเห็นวิวของหุบเขาคิโยสึ (Kiyotsu Gorge) สามารถถอดรองเท้าแล้วเดินผ่านสระน้ำเข้าไปชมวิวใกล้ๆ ได้ นับว่าตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่ดีเลยล่ะ

Tunnel of Light , Niigata

Tunnel of Light นีงาตะ

ความพิเศษของ Tunnel of Light แห่งนี้คือ ทิวทัศน์ของหุบเขาจะเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาล สวยและไม่ซ้ำกันเลย

ก่อนกลับอยากให้แวะคาเฟ่และร้านขายของที่ระลึกด้านหน้าทางเข้าสักพัก นั่งจิบกาแฟในอาคารเล็กๆ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่มีชื่อว่า “Periscope” (ไม้) บรรยากาศไม้สีอ่อนที่ออกแบบโดยสถาปนิกเอง หรือจะขึ้นไปแช่ออนเซ็นเท้า (ฟรี) ที่ชั้น 2 เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดิน พลางผ่อนคลายสายตาด้วยงานดีไซน์ขณะแช่เท้าก็ได้เช่นกัน

Info
Kiyotsu Gorge Tunnel
Hours: 8:30-16:30 น.
Holiday: ฤดูหนาว
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป) 600 เยน, เด็ก (ประถมและมัธยมต้น) 300 เยน 
Tel: 025-763-4800
Access: จากสถานีอิชิอุจิ (Ishiuchi Station) นั่งแท็กซี่ประมาณ 17 นาที
Website: www.nakasato-kiyotsu.com/en

 

 

02 Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

(Tokamachi Area)

Echigo-Tsumari Art Field : Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

Echigo-Tsumari Art Field : บัตรเข้า Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

โรงเรียนประถมกว่า 10 แห่งได้ถูกปิดตัวลงในพื้นที่โทคามาจิ เนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลง จากโรงเรียนประถมซานาดะที่โดนทิ้งร้างถูกปรับให้เป็นมิวเซียมหนังสือภาพโดยทาชิมะ เซย์โซ  (Seizo Tashima) ผู้เป็นนักเขียนร่วมมือกับอาสาสมัครในหมู่บ้านฮาจิ (Hachi) กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของชุมชน อาคารไม้เก่าสีน้ำตาลทั้งหลังนี้มีชิ้นงานศิลปะติดตั้งอยู่ตั้งแต่โถงทางเข้า ตามทางเดิน และกระจายอยู่ทั่วทั้งอาคาร บรรยากาศด้านในเหมือนหลุดเข้าไปเดินอยู่ในหนังสือภาพของ Seizo เล่มที่ชื่อว่า “โรงเรียนที่ไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป” มีตัวละครหลัก 3 คน เป็นนักเรียนรุ่นสุดท้ายของโรงเรียน คือ ยูกิ ยูกะ และเคนตะ พวกเขามาโรงเรียนหลังจากที่โรงเรียนปิดภาคเรียนและพบกับประสบการณ์อันแสนอัศจรรย์ ลองคิดว่าเราคือเด็กในหนังสือนี้ดูสิ จะยิ่งสนุกกับการเที่ยวชมโรงเรียนนี้มากขึ้น

Echigo-Tsumari Art Field : ผลงานศิลปะภายใน Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

Echigo-Tsumari Art Field : งานศิลปะต่างๆ ภายในอาคาร Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

ภายในอาคารส่วนใหญ่สร้างจากไม้ ห้องเรียนทุกห้องถูกดัดแปลงให้เป็นพื้นที่แสดงผลงานศิลปะ ระหว่างเดินชมมิวเซียมไปเรื่อยๆ ทำให้เราหลงสถานที่แห่งนี้ เพราะยังคงรักษาบรรยากาศและกลิ่นอายของโรงเรียนไว้ได้อย่างสมบูรณ์ กระดานดำในห้องทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนย้อนไปในอดีตตอนวัยประถม อ่างน้ำที่มีก๊อกน้ำเรียงกันหลายหัวชวนให้คิดถึงตอนล้างหน้าหลังจากวิ่งเล่นกับเพื่อนจนเหงื่อท่วมในโรงเรียน

Echigo-Tsumari Art Field : วิวรอบๆ Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

งานศิลปะของที่นี่แทบทั้งหมดสร้างมาจากวัสดุจากธรรมชาติ จำพวกเศษไม้ เมล็ดพืช วาชิ (กระดาษสา) เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของมิวเซียมนี้อยู่ท่ามกลางหุบเขาและทุ่งนา วัสดุที่ใช้สร้างชิ้นงานจึงมีความเชื่อมโยงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ สามารถเดินชมผลงานศิลปะได้ทั้ง 2 ชั้น

Echigo-Tsumari Art Field : ผลงานการวาดรูปของ Maoshan Connie ที่จัดแสดงภายใน Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

ช่วงที่เราได้ไปชมมีงานของ Maoshan Connie เป็นนักวาดภาพประกอบที่มีลายเส้นน่ารักเฉพาะตัว จัดแสดงอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ห้องแรกเป็นผลงานภาพประกอบหนังสือของศิลปิน

Echigo-Tsumari Art Field : บรรยากาศภายในอาคาร Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

อีกห้องถัดมาแสดงงานครบรอบ 10 ปีของมิวเซียมนี้พอดี ชื่อว่า Maoshan Connie “Beginning” เป็นภาพวาดเรื่องราวของหมู่บ้านฮาจิที่ศิลปินประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเป็นอาสาสมัครของ Echigo Tsumari Art Triennale เมื่อ 10 ปีก่อนจนถึงปัจจุบันที่เขาได้กลายมาเป็นศิลปินเอง เดินไล่ดูไปทีละภาพจะประทับใจกับความละเอียดในลายเส้นของศิลปินและหมู่บ้านนี้อย่างไม่รู้ตัว

หลังจากเดินชมชั้น 1 จนทั่วแล้ว ยังมีผลงานของ Seizo Tashima จัดแสดงอยู่ที่ชั้น 2 อีก ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนนั้นพบกับตุ๊กตาสีเขียวตัวใหญ่อ้าปากกว้างหน้าตาประหลาดลักษณะคล้ายกบไม่ก็ลูกอ๊อด เจ้านี่มีชื่อว่า Toperatoto เป็นตัวละครจากหนังสือภาพของ Seizo

ชมงานศิลปะที่ Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art จาก Echigo-Tsumari Art Field

ที่ชั้น 2 อยู่ตามห้องเรียนหลายๆ ห้องและทางเดิน ชิ้นงานส่วนใหญ่เป็นกิ่งไม้แห้งที่ถูกทาหลากสีสันแล้วนำมาต่อกันจนเกิดเป็นรูปทรงใหม่ๆ บางห้องงานเป็นงานประติมากรรมเปเปอร์มาร์เชต์ที่ทำมาจากกระดาษสร้างเป็นรูปทรงล้ำจินตนาการหรือสัตว์ประหลาดสีสันน่ารัก ให้ความรู้สึกเหนือจริงเหมือนเดินอยู่ในโลกแห่งหนังสือภาพของศิลปิน

ชมงานศิลปะที่จัดภายในห้องเรียนที่ Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art จาก Echigo-Tsumari Art Field

อีกโซนหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ Hachi Café คาเฟ่เล็กๆ ที่รองรับผู้มาเยือนโลกแห่งหนังสือภาพ บรรยากาศอบอุ่นชวนให้ย้อนนึกถึงสมัยประถมที่กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียน คาเฟ่ตกแต่งด้วยชุดโต๊ะและเก้าอี้ไม้ของโรงเรียน มีเคาน์เตอร์ไม้ยาวเป็นที่สำหรับพนักงานเตรียมอาหาร แนะนำให้นั่งชมวิวจากหน้าต่างจะเห็นภูเขาล้อมรอบโรงเรียน

Hachi Café

Hachi Café ใน Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art จาก Echigo-Tsumari Art Field

Hachi Café คาเฟ่ในนีงาตะ

เดินชมงานศิลปะจนอิ่มตาแล้ว ก็ขอกินให้อิ่มท้องสักหน่อย เราเลือกเมนู Sandwish Plate (Bocadillo) แซนด์วิชสเปนไส้เป็นผักโขมและแฮมประกบคู่ด้วยขนมปังบาแก็ตต์กรอบๆ มาพร้อมกับเครื่องเคียงและน้ำมะนาวราคา 1,000 เยน เมนูต่างๆ ทั้งคาวและหวานของคาเฟ่นี้ล้วนใช้ผักตามฤดูกาลที่เก็บเกี่ยวได้ในหมู่บ้าน

จุดขายของที่ระลึก Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art

ติดกันกับ Hachi Café คือร้านหนังสือ Kusamura ซึ่งเป็นร้านเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ขายหนังสือภาพและผลงานของ Seizo Tashima สำหรับใครที่ต้องการของที่ระลึกสุดน่ารักไม่เหมือนที่อื่น เช่น ตุ๊กตา Toperatoto เสื้อยืด กระเป๋าผ้า เป็นต้น ควรซื้อกลับไปด้วยนะ 

ก่อนเดินทางกลับเราได้แวะไปทักทายเจ้าแพะที่อยู่ด้านข้างมิวเซียม เป็นสัตว์เลี้ยงหน้าตาน่ารักของที่นี่ นมของแพะได้นำไปทำไอศกรีมขายใน Hachi Café ด้วย

Info
Hachi & Seizo Tashima Museum of Picture Book Art
Hours: ปลายเมษายน-ปลายพฤศจิกายน 10:00-17:00 น., ตุลาคม-พฤศจิกายน 10:00-16:00 น.
Holiday: วันพุธ, วันพฤหัสบดี และฤดูหนาว
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 800 เยน, ชั้นมัธยมต้น 300 เยน, ต่ำกว่าชั้นประถมเข้าฟรี
Tel: 025-752-0066
Access: จากสถานีโดอิชิ (Doichi Station) นั่งแท็กซี่ประมาณ 11 นาที
Website: www.ehontokinomi-museum.jp

 

03 Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

(Tokamachi Area)

Echigo-Tsumari Art Field : Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

Echigo-Tsumari Art Field : บัตรเข้า Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

อาคารคอนกรีตทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเทา ตั้งอยู่ในเมืองโทคามาจิ ตัวอาคารออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Hiroshi Hara ด้านนอกดูเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่เมื่อผ่านประตูทางเข้ามาจะสะดุดตากับพื้นที่ที่ตรงกลางเปิดโล่งให้เห็นบรรยากาศของท้องฟ้าและมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวพื้นที่ทั้งสระน้ำจะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ส่วนเราได้มาในช่วงฤดูร้อนแดดแรงท้องฟ้าสดใสเป็นใจ ทำให้เห็นบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของมิวเซียม บริเวณรอบๆ สระจะมีอีเว้นท์และกิจกรรมต่างๆ ให้เข้าร่วมตลอดทั้งปี

Echigo-Tsumari Art Field : Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE (Tokamachi)

โชคดีมากวันที่เราไปมีอีเว้นท์ของฤดูร้อนพอดีชื่อว่า “Splish – Splash Fair” ในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เข้าร่วมมากมาย เช่น SUP (Stand Up Paddle boat) พายเรือบนแผ่นเซิร์ฟบอร์ด, Barafuku แต่งชุดพองลม, ทำเรือลำจิ๋วลอยในหมู่บ้านจำลอง เป็นต้น อีเว้นท์และกิจกรรมจะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล

Echigo-Tsumari Art Field : Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE มีชุดพองลม (Barafuku) ให้ลองใส่ถ่ายรูปได้

Echigo-Tsumari Art Field : Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE มีชุดพองลม (Barafuku) ให้ลองใส่ได้

เห็นเด็กๆ ทำกิจกรรมกันดูสนุกมาก เราก็ขอลองบ้าง วิธีเล่น Barafuku เลือกชุดตามความสูงของตนเอง ใส่ชุดแล้วให้เพื่อนอีกคนช่วยยกชายชุดขึ้นและลงๆ อย่างถี่ๆ เพื่อให้อากาศเข้าไปด้านในชุด หรือจะทำด้วยตัวเองก็ได้เพียงแค่ยกแขนทั้งสองข้างออกคล้ายปีกนกเวลาบินขึ้นและลงๆ เร็วๆ แค่นี้เราก็ได้กลายเป็นงานศิลปะชิ้นอ้วนพองด้วยลมน่ารักมากๆ

Echigo-Tsumari Art Field : งานศิลปะภายใน Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

ระหว่างเดินขึ้นไปดูงานที่ชั้น 2 มีชิ้นงานแขวนอยู่ที่เพดานหลายชิ้น ไล่ดูไปทีละชิ้นเห็นถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ศิลปินตั้งใจสร้างขึ้นมา

Echigo-Tsumari Art Field : จุดชม “Palimpsest: Pond of Sky” ของ Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

ในอาคารชั้น 2 มีจุดชม “Palimpsest: Pond of Sky” ผลงานชิ้นใหญ่ที่เป็นไฮไลท์ของมิวเซียม สร้างโดยศิลปินชาวอาร์เจนตินาชื่อว่าเลอันโดร เอร์ลีห์ (Leandro Erlich) เป็นการทำเงาสะท้อนของอาคารสี่เหลี่ยมกับท้องฟ้าที่อยู่ในสระว่ายน้ำขึ้นมา ศิลปินตั้งใจเล่นกับการมองเห็นของผู้ชมคล้ายกับว่าสระน้ำคือกระจกแผ่นใหญ่ที่สะท้อนตัวมิวเซียมอยู่ตลอดเวลานั่นเอง หากลองเดินดูรอบๆ ทั้งชั้น หลายๆ มุมจะเห็นความสวยงามไปพร้อมกับการลวงตาของงานชิ้นนี้ เราชอบงานชิ้นนี้เป็นที่สุดตั้งแต่แรกเห็นและไม่สามารถละลายตาได้เลยระหว่างที่เดินอยู่ในมิวเซียมก็ต้องหันมามองตลอด เพราะอยากรู้ว่าถ้าอยู่มุมนี้แล้วจะเห็นภาพเป็นแบบไหน สนุกที่ได้มองจริงๆ ล่ะ

Echigo-Tsumari Art Field : งานศิลปะที่จัดภายใน Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

Echigo-Tsumari Art Field : ห้องจัดแสดงนิทรรศการศิลปะที่ Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

นอกจากนี้ยังมีห้องนิทรรศการถาวรรวมผลงานของศิลปินจากนานาชาติจัดแสดงอยู่ 12 ชิ้น โดยคอนเซ็ปต์หลักของทุกชิ้นงานจะมีความเชื่อมโยงถึงความเป็น Echigo Tsumari คือดึงจุดเด่นหรือสิ่งที่ศิลปินชื่นชอบในท้องถิ่นมาสร้างเป็นงานศิลปะ เช่น อุโมงค์ลอดภูเขาที่จะพบบ่อยในเขตโทคามาจิขณะขับรถยนต์ บ้านเรือนที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน เป็นต้น ศิลปินได้แรงบันดาลใจมากจากสิ่งเหล่านี้

Echigo-Tsumari Art Field : เที่ยวอาร์ตมิวเซียมที่ Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE

เดินชมงานศิลปะเสร็จแล้ว อยากให้แวะ Echigo Shinanogawa Bar คาเฟ่ที่มีเคาน์เตอร์ยาวขนาบสองด้าน ลองนั่งด้านริมหน้าต่างแล้วมองผลงานศิลปะในสระน้ำไปด้วย เพลินตาอย่างบอกไม่ถูกและจะยิ่งสุนทรีย์ยิ่งขึ้นถ้ามีของกินเข้าปากพร้อมกับนั่งชมงานศิลปะสุดอลังกาลชิ้นนี้ เราเลือกสั่ง Lemon Cheese Cake ทำสดใหม่รสชาติหวานน้อยกำลังดี ชีสแน่นเนื้อเด้ง กินคู่กับ Niigata Murakami Roasted Japanese Tea ชาญี่ปุ่นคั่วหอมๆ จากเมืองมุราคามิ (Murakami) จังหวัดนีงาตะ

Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE : Echigo Shinanogawa Bar

Echigo Shinanogawa Bar

ในคาเฟ่มีโซนห้องสมุดเล็กๆ ที่มีหนังสือรวมผลงานศิลปะของศิลปินญี่ปุ่นและต่างชาติชื่อดังให้อ่านได้ฟรี สำหรับบริเวณนี้เราขอใช้เวลานั่งนานๆ เพื่ออ่านหนังสือให้จุใจสักหน่อยแล้วกัน

ถัดจากคาเฟ่จะเป็น Museum Shop ขายของที่ระลึกจากงาน Echigo Tsumari Art Field และสินค้าท้องถิ่นที่ผลิตจากจังหวัดนีงาตะเอง อาทิ ขนม เครื่องดื่มท้องถิ่นขึ้นชื่อของนีงาตะ และข้าว สาวกงานอาร์ตไม่อยากให้พลาดมิวเซียมนี้ ต้องตามมาชมงานให้ครบทุกชิ้นนะ

Info
Echigo-Tsumari Satoyama Museum of Contemporary Art KINARE
Hours: พฤ.-อ. 10:00-17:00 น.
Holiday: วันพุธ
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 400 เยน, เด็กต่ำกว่าประถมเข้าฟรี
Tel: 025-761-7767
Access: เดินจากสถานีโทคามาจิ (Tokamachi Station) ประมาณ 11 นาที
Website: www.smcak.jp/en-log

 

04 House of Light

(Kawanishi Area)

Echigo-Tsumari Art Field : House of Light

บ้านไม้หลังใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นผลงานของศิลปินแห่งแสงผู้โด่งดังชื่อว่า James Turrell บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับงาน Echico-Tsumari Art Triennale 2000 และได้ปรับปรุงการจัดแสงใหม่ในฤดูร้อนปี ค.ศ. 2015 ภายในบ้านจะมีการจัดแสงไว้ตามเพดานของทางเดินและห้องต่างๆ มีความโมเดิร์นแบบตะวันตกสอดแทรกอยู่ภายใต้โครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าได้เดินอยู่ในผลงานศิลปะชิ้นใหญ่ของศิลปินที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกนี้ เราขอบอกเลยว่าตื่นเต้นตั้งแต่ที่แพลนว่าจะมาเยี่ยมชมที่นี่แล้ว

Echigo-Tsumari Art Field : โซนต่างๆ ของ House of Light

Echigo-Tsumari Art Field : ห้องอาบน้ำที่ House of Light

ชั้น 1 มีห้องอาบน้ำที่ตอนเช้าจะมีแสงธรรมชาติส่องผ่านหน้าต่างมองจนเห็นวิวด้านนอกได้และสามารถมองเห็นแสงสีต่างๆ ในบ่อออนเซ็นสำหรับตอนกลางคืน (Light Bath) เนื่องจากศิลปินได้ติดตั้งไฟไว้ ระหว่างแช่ตัวจะทำให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ออนเซ็นแบบทั่วไป

Echigo-Tsumari Art Field : บรรยากาศภายใน House of Light

นอกจากนี้ยังมี Room of Garden สำหรับชมวิวธรรมชาติด้านนอก พื้นห้องปูด้วยเสื่อทาทามินั่งซึบซับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆ ได้อย่างสงบใจ หรืออยากออกไปเดินเล่นที่สวนหินด้านข้างและหลังบ้านก็ชิวไปอีกแบบ

Echigo-Tsumari Art Field : บรรยากาศภายในบ้าน House of Light

Echigo-Tsumari Art Field : House of Light โซน “Outside-in”

ชั้น 2 จะมีห้องจัดแสดงหลักชื่อว่า “Outside-in” แนะนำว่าให้ใช้เวลานานๆ กับห้องนี้ เพราะจะมีการจัดแสงแบบออโตเมติกตามการขึ้นและตกของพระอาทิตย์ หลังคาบ้านสามารถเปิดสไลด์ออกได้ หลังจากนั้นให้นอนบนเสื่อทาทามิเพื่อมองท้องฟ้า แสงและสีในห้องจะเปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงเวลาของแสงด้านนอกบ้านด้วย เราใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่นอนอยู่บนพื้นห้อง บางทีการนอนมองท้องฟ้าเฉยๆ โดยที่ปล่อยให้เวลาไหลผ่านตัวเราไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายดีนะ

หลังคาก่อนเปิด

Echigo-Tsumari Art Field : House of Light อาร์ตมิวเซียมในนีงาตะหลังคาที่กำลังเปิด

Echigo-Tsumari Art Field : House of Light อาร์ตมิวเซียมในจังหวัดนีงาตะหลังคาหลังจากที่เปิดหมด ทำให้เห็นท้องฟ้าได้ชัดเจน

Echigo-Tsumari Art Field : House of Light เที่ยวอาร์ตมิวเซียมในจังหวัดนีงาตะนอนมองผ่านช่องเพดานสี่เหลี่ยม เหมือนเอาท้องฟ้ามาอยู่ในกรอบรูปเลย

ห้องครัวจะอยู่ถัดจากห้อง Outside-in บริเวณชั้น 2 มีระเบียงทางเดินแบบมีหลังคาอยู่รอบตัวบ้านสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำชินาโนะกาวะ (Shinanogawa) และสามภูเขาแห่งเอ็ตจิโกะ (Echigo Sanzan) ทิวทัศน์จะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาลให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป

ความพิเศษของบ้านหลังนี้ขึ้นอยู่กับแสงทั้งสิ้น ถ้าอยากเห็นแสงในบ้านที่ชัดเจนควรมาช่วงเย็นจะสวยมาก (กลางคืนจะสวยที่สุด) เพราะถ้าแสงธรรมชาติด้านนอกตัวบ้านยิ่งน้อย จะทำให้แสงในบ้านเห็นสีคมชัดขึ้น

House of Light อาร์ตมิวเซียมในจังหวัดนีงาตะ

บ้านหลังนี้เปิดให้เข้าพักได้ด้วยนะ การพักผ่อนโดยใช้เวลาที่รู้สึกทุกขณะกับตัวเอง หนีความวุ่นวายจากในเมืองมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ หากมีโอกาสอยากให้ลองจองเข้ามานอนสักคืน จะได้ดื่มด่ำกับแสงและสีทุกขณะที่ใช้เวลาอยู่ที่ House of Light ความพิเศษสำหรับคนที่จองเข้ามาพักในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคมสามารถใช้พื้นที่ของบ้านทั้งหลังได้โดยที่ไม่ต้องแชร์กับคนอื่น ใครที่สนใจพักสามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย

Info
House of Light
Hours: 11:30-15:30 น.
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 600 เยน (มัธยมต้นขึ้นไป), เด็กประถม 300 เยน
Tel: 025-761-1090
Access: จากสถานีเกโจ (Gejo Station) นั่งแท็กซี่ประมาณ 12 นาที
Website: www.hikarinoyakata.com/eng

ในอนาคตอันใกล้จะมี Echigo-Tsumari Art Triennale ในปี ค.ศ. 2021 เป็นหนึ่งใน Contemporary Art Festival ที่ใหญ่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นเพียง 3 ปีครั้ง มีผลงานจากศิลปินนานาชาติชื่อดังทั่วโลกเข้าร่วมแสดง ใครที่สนใจอยากชมงานอาร์ตสุดอลังการนี้ อย่าลืมติดตามข่าวสาร ตรวจสอบเวลาและอีเว้นท์ต่างๆ ให้ดีล่ะ 

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.echigo-tsumari.jp/eng

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ