One Day Trip in Fukui & Sakai : ชมซากุระที่เมืองฟุกุอิและซาไก

ฟุกุอิอาจไม่ใช่จังหวัดที่เราคุ้นเคย แต่ก็มีดีไม่แพ้ที่ไหน เพราะห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ผู้คนและนักท่องเที่ยวก็บางตา เหมาะกับการมาเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ท่ามฤดูใบไม้ผลิสีชมพูอันแสนโรแมนติก เราเลยอยากจุดชม ซากุระ สวยๆ ในตัวเมืองฟุกุอิและเมืองซาไก (Sakai) ที่อยู่ติดกัน เผื่อให้ทุกคนรับ ฟุกุอิ เอาไปไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย

01 ทิวต้นซากุระริมแม่น้ำอาสุวะ (Asuwa River Cherry Blossom Row)

เริ่มต้นด้วย ทิวต้นซากุระริมแม่น้ำอาสุวะ (Asuwa River Cherry Blossom Row) ที่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี ผู้คนจะออกมาเดินชมความงดงามตระการตาของทิวต้นซากุระบานสะพรั่งที่ปลูกไว้ทั่วเมืองฟุกุอิขนาบสองฝั่งแม่น้ำอาสุวะ เวลาถ่ายภาพไกลจะยิ่งสวยมากๆ ช่วงกลางคืนก็มีการจัดแสงไฟสวยๆ อีกทั้งได้รับเลือกเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมวิวซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยด้วย

02 ปราสาทฟุกุอิ (Fukui Castle)

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญประจำเมืองฟุกุอิก็คือ ปราสาทฟุกุอิ ซึ่งเมื่อซากุระเบ่งบานจะปรากฏภาพของซากุระที่สะท้อนลงบนคูน้ำ โดยปราสาทฟุกุอิที่เห็นในปัจจุบันจะเหลือเพียงร่องรอยในส่วนฐานเท่านั้น เมื่อก่อนปราสาทฟุกุอิเป็นปราสาทที่สวยงาม แต่ด้วยเหตุไฟไหม้ทำให้เหลือแค่กำแพงหินและคูน้ำล้อมรอบปราสาท อย่างไรก็ตามในพื้นที่ยังมีมุมถ่ายรูปบริเวณรอบปราสาทอีกมากมายที่รับรองว่าไปแล้วไม่เสียเที่ยวแน่นอน

03 ซากโบราณสถานตระกูลอิจิโจดานิ (Ichijodani Asakura Clan Ruins)

ออกจากใจกลางเมืองมาเล็กน้อยจะพบกับซากโบราณสถานตระกูลอิจิโจดานิ ซากปรักหักพังแห่งเดียวจากสมัยเซ็นโกคุที่ยังหลงเหลืออยู่ เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ โดยมีพื้นที่ขนาดใหญ่กว้างขว้าง ไฮไลท์คือ ประตูกำแพงทางเข้ามีต้นซากุระต้นหนึ่งที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ฤดูกาลแต่ยังคงอยู่เคียงข้างกันจนออกมาเป็นภาพที่สวยงาม ไม่ว่าใครต่างมาถึงที่นี้แล้วต้องถ่ายภาพเก็บกลับไป ไม่ไกลจากที่นี้มีพิพิธภัณฑ์โบราณสถานตระกูลอิจิโจดานิที่สร้างขึ้นเพื่อจัดแสดงวัตถุทางประวัติศาสตร์อีกด้วย

04 ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle)

ขึ้นเหนือมาที่เมืองซาไกกับปราสาทมารุโอกะ อีกหนึ่งปราสาทอันเก่าแก่ที่มีสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “ปราสาทหมอก” นั่นเพราะว่าเขามีกลไกป้องกันตัว เมื่อใดที่มีศัตรูลอบเข้ามาจะเกิดหมอกหนาขึ้นมาปกคลุมทั่วทั้งปราสาท รอบข้างเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นเหมาะแก่การมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศกลิ่นอายความเก่าแก่ อีกทั้งในตอนกลางคืนมีการจุดโคมไฟกระดาษกว่า 300 ดวง เพื่อสร้างประสบการณ์การชมดอกซากุระยามค่ำคืนที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งในปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวซากุระอันเลี่องชื่อแห่งหนึ่ง

05 สถานีมิกุนิมินาโตะ (Mikuni-Minato Station)

เปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวชมเมืองด้วยการนั่งรถไฟไร้คนขับสายเอจิเซน รุ่น MC5001 มาลงที่สถานีมิกุนิมินาโตะ เพลินเพลิดกับวิวสองข้างทางที่มองเห็นได้ในขณะรถไฟกำลังขับเคลื่อนที่ พร้อมกับมาแวะแชะภาพสวยๆ ตรงสถานีมิกุนิมินาโตะที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เพราะไม่ว่าจะตัวอาคารโดยสารหรือชานชาลาสำหรับรอขึ้นรถไฟก็ล้วนออกแบบเป็นแนวสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุค

06 โรงแรมคิวกะมุระ เอจิเซ็น มิกุนิ (Kyukamura Echizen-Mikuni)

ถ้ายังชมซากุระไม่จุใจ แนะนำให้เข้าพักที่โรงแรมคิวกะมุระ เอจิเซ็น มิกุนิ เพราะเมื่อตื่นเช้าเริ่มต้นวันใหม่ก็สามารถเดินชมซากุระบริเวณสนามหญ้าของโรงแรมได้ในทันที หรือจะแช่ตัวที่บ่ออาบน้ำกลางแจ้งแบบเปิดโล่งห้อมล้อมด้วยซากุระก็ยิ่งผ่อนคลาย ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของซากุระคงรู้สึกที่ผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

จบกันไปแล้วกับทริปชม ซากุระ ในจังหวัด ฟุกุอิ แบบจุใจเต็มๆ หนึ่งวัน เชื่อว่าถ้าใครได้ไปเจอสถานที่กับบรรยากาศแบบนี้คงรู้สึกเบิกบานใจไม่มากก็น้อย ยิ่งถ้าได้ไปเห็นกับตาด้วยตนเอง สัมผัสประสบการณ์โดยตรงคงได้เห็นเสน่ห์ใหม่ๆ ของจังหวัดฟุกุอิที่อาจคาดไม่ถึงมาก่อนเลยก็เป็นได้