“ข้าวปลาคัตสึโอะทาทากิ (Katsuo Tataki Don)” ซาชิมิกึ่งดิบกึ่งสุก กับรสชาติเเละกรรมวิธีที่เป็นเอกลักษณ์

ถ้าใครที่เคยไปจังหวัดโคจิ ประเทศญี่ปุ่น หรือชอบทานอาหารญี่ปุ่นอยู่เเล้ว อาจจะรู้จักกับเมนูข้าวปลาคัตสึโอะทาทากิ (Katsuo Tataki Don) หรือข้าวปลาโอย่างลนไฟ  เพราะเป็นของขึ้นชื่อที่นั่น ซึ่งปลาโอเรียกได้ว่าเป็นปลาที่มีรสชาติไม่เหมือนใคร รวมถึงหากินตามร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยค่อนข้างยาก เนื่องจากขั้นตอนการทำนั้นมีความซับซ้อน วันนี้เราจึงอยากมาชวนทุกคนทำเมนูข้าวหน้าปลาโอย่างลนไฟกินเองที่บ้าน บอกเลยว่าทำตามได้ไม่ยากเเละประหยัดเวลาสุดๆ 

ปลาโอ หรือ ปลาคัตสึโอะ カツオ คืออะไร ?

คัตสึโอะเป็นปลาอพยพระหว่างฤดูกาล หรือก็คือตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พวกมันเริ่มออกเดินทางไปทางเหนือตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของญี่ปุ่น จุดหมายปลายทางคือชายฝั่งซันริกุที่ซึ่งกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นมาปะทะกัน ทำให้เกิดแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ ปลาคัตสึโอะที่จับได้ในฤดูอพยพนี้เรียกว่า “ฮัตสึกัตสึโอะ  (初鰹)” ซึ่งหมายถึงคัตสึโอะตัวแรกหรือที่จับได้ครั้งแรกของฤดูกาล ทำให้ปลาที่จะจับในช่วงนี้สดมากเป็นพิเศษ ถึงขั้นเคยมีคำพูดที่ว่า “ต่อให้ต้องเอาเมียไปจำนำ ก็ต้องกินปลาคัตสึโอะแรกฤดูให้ได้” (女房を質に入れても初鰹) 

เมื่อคัตสึโอะไปถึงชายฝั่งซันริกุ พวกมันจะหยุดเดินทางไปทางเหนือและหากินในน้ำที่อุดมสมบูรณ์ในช่วงฤดูร้อน จากนั้นตั้งแต่เดือนกันยายนถึงตุลาคม เมื่ออุณหภูมิของน้ำลดลง พวกมันจะเริ่มเดินทางกลับทางใต้เพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ ถือเป็นฤดูกาลคัตสึโอะครั้งที่สอง คัตสึโอะที่จับได้ในช่วงเวลานี้เรียกว่า “โมโดริ คัตสึโอะ (戻り鰹)” ซึ่งหมายถึงคัตสึโอะที่คืนกลับหลังจากหาอาหารตลอดฤดูร้อน ทำให้ปลาในช่วงนี้มีปริมาณไขมันมากกว่าเมื่อเทียบกับฮัตสึกัตสึโอะ  (初鰹)

การปรุงเเบบ “ทาทากิ たたき” คืออะไร？

การปรุงปลาโอแบบดั้งเดิมจะนำไปย่างกับฟางให้สุกเพียงรอบนอก หรือก็คือกึ่งสุกกึ่งดิบนั่นเอง โดยฟางที่ห่อไว้จะถูกจุดไฟเพื่อเผาพื้นผิวด้านนอก ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งเรียกวิธีนี้ว่า ทาทากิ (たたき)

แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปปรุงปลาโอด้วยวิธีที่ง่ายกว่านั้น แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมไว้อยู่ เพราะเราจะใช้วัตถุดิบทุกอย่างส่งตรงมาจากญี่ปุ่นที่หาซื้อตามกันได้ไม่ยากที่ร้านขายส่งวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่น Makotoya Thailand

วัตถุดิบ

1. ปลาโอรมควัน (Katsuo tataki) จากจังหวัดคาโกชิม่า ซึ่งก็เป็นอีกจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล (ถ้าใครอยากลองปลาโอรสชาติอื่นๆ ที่ Makotoya Thailand เขาก็มีให้เลือกนะ เช่น ปลาโอรสส้มยูซุ) 
2. ข้าวญี่ปุ่น ฮอกไกโด (Hokkaido Rice) 
3. ปลาข้าวสารญี่ปุ่น หรือ ชิราสุ (Kujihama Shirasu) ขนาด 80g
4. ใบโอบะ (Green Shiso)
5. ซอสพอนสึ (Ponzu Shoyu) หรือ ทาทากิ โนะ ทาเระ (Tataki no tare) (แถมมาพร้อมกับปลาโอรมควัน)

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่น

1. ซาวข้าวญี่ปุ่นประมาณ 3-4 รอบ
2. เทน้ำออก
3. เติมน้ำในปริมาณ 1.2 ถ้วย : ข้าว 1 ถ้วย แล้วนำไปหุง
4. เมื่อข้าวสุกแล้ว ให้ใช้ไม้พายคลุกข้าวเบาๆ ประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อคลายความร้อน

วิธีเตรียม ปลาคัตสึโอะ

เนื่องจากว่าปลาโอจาก Makotoya Thailand ได้ผ่านการรมควันมาเเล้ว ฉะนั้นเราจะข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย แต่ปลาจะมาในรูปแบบแช่แข็ง ก่อนอื่นจึงต้องนำไปละลายน้ำก่อนประมาณ 5-10 นาที จากนั้นค่อยนำปลามาแล่ โดยเราจะแล่ปลาที่ความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร หรือขนาดชิ้นพอดีคำตามที่เราต้องการ

เตรียมเครื่องเคียงเเละจัดจาน

ม้วนโอบะ เเละซอยให้เป็นฝอยๆ 

ตักข้าวพูนๆ ใส่ถ้วย 

เรียงเนื้อปลาบนข้าว 

วางปลาชิระซุตรงกลางเเละใบโอบะด้านบน

เเละตบท้ายด้วยซอสพอนสึ

❤️แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟเเล้ว❤️

เห็นไหมว่าไม่ยากเลย นอกจากจะได้กลิ่นหอมรมควันของปลา เรายังได้ลิ้มรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อยู่นั่นก็คือความกึ่งสุกกึ่งดิบของปลา ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นก็สามารถทำกินเองได้ที่บ้าน ถ้าเพื่อนๆ อยากลองทำเมนูข้าวหน้าปลาซาชิมิแบบอื่น แต่ยังไม่รู้จะไปหาซื้อวัตถุดิบส่งตรงมาจากญี่ปุ่นที่ทั้งสดเเละใหม่แบบนี้ที่ไหน สามารถไปดูกันได้ที่ Makotoya Thailand เลยน้า

ราคาสินค้า

1. ปลาโอรมควัน (Katsuo tataki) จากจังหวัดคาโกชิม่า ราคากิโลกรัมละ 990 บาท , เริ่มต้น ชิ้นละประมาณ 260 บาท
2. ปลาโอรมควันกลิ่นยูซุ (Katsuo Tataki Yuzu) ราคากิโลกรัมละ 810 บาท , เริ่มต้น ชิ้นละประมาณ 180 บาท
3. ข้าวญี่ปุ่น ฮอกไกโด (Hokkaido Rice) ขนาด 2 กก. ราคา 270 บาท
4. ปลาข้าวสารญี่ปุ่น หรือ ชิราสุ (Kujihama Shirasu) ขนาด 80 ก. ราคา 128 บาท
5. ใบโอบะ  (Green Shiso) ราคา 20 บาท / 10 ใบ