หลายคนรู้จักบรรดาเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Yoshinoya, Sukiya, Katsuya ฯลฯ  ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่นรวมถึงประเทศไทย ซึ่งหลายๆ ร้านคุณภาพใช้ได้ บริการได้มาตรฐาน และราคาถูก แต่หลายคนอาจยังไม่รู้จักอีกหนึ่งเชนฟาสฟู้ดชื่อ “นาคาอุ” หรือ “Nakau (なか卯)” ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966 

ชื่อนี้อาจไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนัก เพราะไม่ใช่เจ้าตลาดและไม่ได้ทำตลาดในเมืองไทย แต่ Nakau ถือเป็นผู้เล่นเชนฟาสต์ฟู้ดรายสำคัญในญี่ปุ่นที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และมีอยู่ถึงกว่า 470 สาขา! ครอบคลุมทุกเมืองใหญ่และทุกย่านสำคัญทั่วญี่ปุ่น โดยกระจุกตัวมากที่สุดในโอซาก้าและโตเกียว

ภาพ: bit.ly

Nakau เชนร้านอาหารดงบุริต้นกำเนิดจากโอซาก้าภาพ: bit.ly

Nakau เป็นแบรนด์เชนฟาสต์ฟู้ดที่ชาวโอซาก้าภาคภูมิใจมาก เนื่องจากมีต้นกำเนิดที่เมืองอิบารากิ (Ibaraki) ในจังหวัดโอซาก้านั่นเอง นิยามตัวเอง (แปะอยู่ป้ายหน้าร้าน) ว่าเชี่ยวชาญด้าน “ดงบุริ” และ “อุด้ง” โดยมีภาพลักษณ์ขึ้นชื่อเรื่อง “ความถูก” ขวัญใจสายประหยัด ดังสโลแกนกล่าวว่า ที่ที่คุณสามารถลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันได้โดยไม่สะทกสะท้านเงินในกระเป๋าสตางค์ และเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยการคอลแลปกับวัฒนธรรม Pop Culture ผ่านอนิเมะและสื่อบันเทิงต่างๆ

ใครเบื่อเจ้าตลาดอย่าง Yoshinoya & Sukiya และกำลังมองหาเชนใหม่ๆ อยู่ แนะนำเลยครับให้มาลองเจ้านี้แล้วคุณอาจตกหลุมรักมากกว่าสองเจ้าตลาดที่ว่ามาก็ได้ เพราะราคาแม้จะราคาถูก แต่รสชาติไม่ถูกตามเลย รสชาติโดยรวมออกจะเข้มข้น รสที่เปล่งออกมาชัดเจนกว่า ซึ่งน่าจะถูกปากคนไทย

เมนูขายดีที่สร้างชื่อให้แบรนด์นี้ที่สุดคือ “โอยาโกะด้ง” หรือข้าวหน้าไก่กับไข่ เมนูบ้านๆ ที่ทำออกมาได้อร่อยโฮกจนเกิดลูกค้าประจำแวะเวียนมากินบ่อยๆ รวมถึง “อุด้ง” ที่มีกรรมวิธีทำแบบฉบับเกียวโต คนญี่ปุ่นบางคนกล่าวว่า “ถ้าเลือกได้จะเลือกกินที่ Nakau มากกว่า Yoshinoya”

Nakau กับเมนูโอยาโกะด้ง คอมโบตัวท็อปของร้าน ภาพ: bit.ly

แบรนด์นี้มีมาตรฐานร้านเหมือนเชนฟาสฟู้ดต์รายใหญ่ ตัวร้านสะอาดสะอ้าน ที่นั่งเยอะ พนักงานคอยดูแลบริการ ส่วนวิธีสั่งอาหารก็กดซื้อได้ที่เครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณหน้าทางเข้าร้าน ถ้าให้อธิบายละเอียดก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ 

  1. เริ่มแรกให้กดเลือกภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ โดยกดปุ่ม ENGLISH
  2. จากนั้นสอดธนบัตรเข้าไปที่เครื่อง
  3. กดเลือกนั่งทานในร้าน (In-Store) หรือ สั่งกลับบ้าน (To Go)
  4. จากนั้น กดเลือกเมนูที่ต้องการสั่ง ซึ่งจะมีภาพประกอบและราคาแสดงบนหน้าจอ
  5. กดเสร็จตั๋วอาหารจะหล่นลงมา 
  6. หากมีเงินทอน หน้าจอจะกะพริบไฟสีเขียว ให้กด Change Return เครื่องจะทอนเงินออกมา 
  7. จากนั้นเดินเข้าตัวร้านและหาที่นั่งได้เลย พนักงานจะเดินมาเสิร์ฟน้ำชา (ฟรี) ให้เรา
  8. จังหวะนั้น ให้เรายื่นตั๋วอาหารที่เพิ่งซื้อมาให้พนักงาน เป็นอันเสร็จสิ้น!

เห็นไหมครับง่ายมาก ยิ่งเวลาที่ร้านคนน้อยๆ บอกเลยรอแค่ 1-2 นาทีอาหารก็มาเสิร์ฟบนโต๊ะแล้ว 

สำหรับบางสาขาที่มี Layout โต๊ะนั่งแยกออกไปไกลๆ จะมีเครื่องให้เรา พออาหารพร้อม เครื่องจะสั่นแจ้งเตือนให้เดินไปรับ (เรื่องการจ่ายเงิน ถ้าเรามีพวกบัตรเติมเงินที่ใช้แทนการจ่ายเงินสดอย่าง IC, Suica, Pasmo ก็ใช้แตะจ่ายค่าอาหารได้ด้วย สะดวกมาก)

ภาพ: bit.ly

ตัวอย่างเมนูและราคาที่ได้รับความนิยม เช่น อุด้งเทมปุระ (Half Size) ราคา 140 เยน เสิร์ฟด้วยซุปใสสไตล์เกียวโต ข้าวหน้าเนื้อหรือกิวด้ง (Small) ราคา 330 เยน ข้าวหน้าไก่กับไข่หรือโอยาโกะด้ง (Small) ราคา 350 เยน เมนูนี้ขายดีที่สุดในร้าน ข้าวแกงกะหรี่เนื้อพรีเมียม (Regular) ราคา 690 เยน เป็นต้น ส่วนเซ็ตอาหารเช้าที่ประกอบด้วยข้าว แซลมอนย่าง เนื้อต้ม เครื่องเคียง และซุปมิโซะ ก็ราคาเพียง 430 เยนเท่านั้น

คุ้ม+คลีน ภาพ: bit.ly

นอกจากนี้ยังมี Side Dish ชาร์จราคาเพิ่มเล็กน้อย เช่น สั่งข้าวหน้าเนื้อจานเดี่ยวและจ่ายเพิ่มอีก 150 เยน จะได้ไก่ทอดและซุปมิโซะเพิ่มมา คุ้มมาก! ด้วยราคาแบบนี้ทำให้ Nakau ขึ้นแท่นหนึ่งในเชนฟาสต์ฟู้ดที่ราคาถูกที่สุดในญี่ปุ่นไปโดยทันที กินอิ่ม แถมรสชาติล้ำไปไกลกว่าราคา

เซ็ตหม้อไฟอลังการก็มีนะ ภาพ: bit.ly

ตัวอย่างสาขาแนะนำ

ตามที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Nakau มีสาขากระจายอยู่ทั่วเมืองใหญ่ อย่างไรก็ตามมีบางสาขาที่เราอยากแนะนำเป็นพิเศษในเรื่องของโลเคชั่นที่สะดวกและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น

สาขา Minami Horie (โอซาก้า)

Nakau สาขาโอซาก้าภาพ: Google Street View

สาขานี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองห่างจากสถานีรถไฟนัมบะ (Namba Station) ย่านช็อปปิ้งชื่อดังไปทางทิศใต้เพียง 400 เมตร (เดิน 6 นาที) และห่างจาก Shinsaibashi-Suji ถนนคนเดินที่ครึกครื้นที่สุดของเมืองไปทางทิศตะวันออกเพียง 500 เมตร ไม่ว่าจะทิศไหนๆ ก็ใกล้เหมือนกันหมด เดินช็อปปิ้งเหนื่อยๆ อย่าลืมแวะมาหาอะไรรองท้องในราคาประหยัดได้ที่ Nakau!

สาขา Ikebukuro Sunshine Mae (โตเกียว)

Nakau สาขาโตเกียวภาพ: Google Street View

นอกจากจะห่างจากสถานีอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro Station) ย่านอันแสนครบครันที่หลายคนชื่นชอบเพียง 5 นาทีก็ถึงแล้ว กินอิ่มเดินออกจากร้านข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้ามจะพบกับวิศวกรรมโครงข่ายทางด่วนที่ซ้อนทับกันหลายชั้นให้ถ่ายรูปกันเพลินๆ ใครชอบแนวนี้ขอให้ไปที่ “Hakozaki Junction” ซึ่งเป็นทางด่วนหลายชั้นที่ซับซ้อนที่สุดในโตเกียว

เดินไปอีกหน่อยก็จะพบกับตึกระฟ้า Sunshine 60 ที่ชั้นบนสุดเป็น Observation Deck หนึ่งในจุดชมวิวที่เห็นมหานครโตเกียวได้อย่างสวยงาม

สาขา Sapporo Eki Chikagai (ฮอกไกโด)

Nakau สาขาที่ฮอกไกโดภาพ: Google Street View

สาขานี้ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่คนต้องเดินผ่านอยู่แล้ว โดดเด่นด้วยการตกแต่งหน้าร้านแบบโมเดิร์นด้วยการนำแสงสีป้ายไฟต่างๆ มาใช้แทนป้ายปกติ พร้อมตู้กดซื้อตั๋วที่ตั้งประจันหน้าอยู่หน้าทางเข้าพอดิบพอดี ภายในสว่างไสว รับประทานได้อร่อยเพลินๆ

อ้อ บังเอิญว่าสาขานี้ไม่ได้เป็นร้านเดี่ยวตั้งอยู่ข้างนอกโดดๆ เวลาทำการจึงอยู่ที่ 7:00-23:00 น. (สาขาทั่วไปเปิด 24 ชั่วโมง)

ภาพ: bit.ly

ค.ศ. 2019 ค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมงเฉลี่ยทั้งประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ราว 874 เยน (โตเกียว 985 เยน, โอซาก้า 936 เยน) พอเปรียบเทียบราคากับค่าแรงขั้นต่ำแล้วจะพบเลยว่า นาคาอุ (รวมถึงเชนฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ) มีที่ราคาย่อมเยา กินอิ่มแล้วยังมีเงินเหลือไปซื้อน้ำซื้ออะไรกินเล่นได้อีก ไม่แปลกใจเลยที่แบรนด์นี้จะเป็นจุดหมายขวัญใจสายประหยัด ทริปหน้าแวะมาลองกันนะครับ มองหาป้ายร้านแดงๆ เขียวๆ ไว้ให้ดี! อิ่ม+อร่อย+ถูก ต้องมาที่ Nakau!

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ