
KICHIJOJI เสน่ห์เล็กๆ ของโตเกียว : 4 ร้าน ZAKKA ที่ทำให้เราอยากซื้อทุกอย่างจนแทบบ้า!

สารบัญ
Nice to meet you, KICHIJOJI!
เสน่ห์เล็กๆ ของโตเกียว
เสน่ห์ของย่านคิชิโจจิ (Kichijoji) คือความลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ระหว่างความเจริญรุ่งเรือง ความทันสมัย ความสนุกสนานรื่นเริง กับความสงบเงียบเรียบร้อยและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงมีตั้งแต่ตลาดนัดศิลปะเล็กๆ ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum) มีห้างสรรพสินค้าใหญ่โต ยูนิโคล (Uniqlo) เจ็ดชั้น ไปจนถึงสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีคาเฟ่เล็กๆ ซ่อนตัวอยู่บนอาคารที่ดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไร ไปจนถึงคาเฟ่แฟรนไชส์ซึ่งเป็นสาขาส่งตรงมาจากอังกฤษ และโซนที่อยู่อาศัยที่ทำให้เรานึกถึงบ้านของโนบิตะในการ์ตูนโดราเอมอน
แน่นอนว่าแม้แต่ที่ญี่ปุ่นเองก็มีผลกระทบจากการขยายตัวของเมืองใหญ่ ยิ่งเป็นโตเกียวด้วยแล้วละก็ ไม่ว่าจะเป็นย่านเล็กขนาดไหนก็ดูเหมือนว่าจะหนีไม่พ้น ที่คิชิโจจิเองก็เช่นกัน เมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นย่านที่อยู่อาศัย เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่เล็กๆ สำหรับแม่บ้านและนักศึกษาที่อาศัยอยู่แถวนี้ จนไกด์บุ๊กเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ถึงกับแนะนำว่าเป็นย่านที่มีกลิ่นอายวินเทจในแบบฉบับโตเกียว แต่ทุกวันนี้กลิ่นอายเหล่านั้นกำลังเลือนหายไป เพราะเริ่มมีธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น ความนิยมก็หันมาสู่การบริโภคที่มีความต้องการคล้ายๆ กัน จนร้านเล็กๆ เหล่านั้นเริ่มปิดตัวลง
แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ทำให้คิชิโจจิลดเสน่ห์ลงไปเลย ที่นี่กลับปรับตัวจนเกิดสมดุลแบบใหม่ที่ทำให้เหล่านักเดินทางมาเยือนเพื่อซึมซับกับบรรยากาศที่อาจจะสูญหายไปในอนาคต และยิ่งทำให้เหล่าธุรกิจเล็กๆ ปรับตัวเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวเองจนสร้างเอกลักษณ์ที่แบรนด์ใหญ่ๆ ยากที่จะโค่นล้มลงไปได้
เราเลือกแนะนำคิชิโจจิออกเป็น 4 ตอนด้วยกัน ได้แก่ ตอนที่รวบรวมร้าน Zakka ดีไซน์สวยสร้างแรงบันดาลใจจนน่าจับตามอง ตอนที่รวบรวมคาเฟ่น่านั่งเหมาะกับการใช้เวลาซึมซับบรรยากาศแบบคิชิโจจิ ตอนที่รวบรวมร้านอาหารที่มีบรรยากาศและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และตอนที่จะชวนไปปิกนิกในสวนอิโนะคะชิระ (Inokashira) กับอาหารแบบ Take Out ที่อร่อยติดตรึงใจ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราได้เห็นคิชิโจจิได้ครบทุกแง่มุม และเข้าใจว่าเหตุใดที่นี่จึงมีเสน่ห์เหลือล้น จนกลายเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโตเกียว ณ ขณะนี้
สำหรับสัปดาห์นี้ เราขอชวนคุณไปพบ 4 ร้าน Zakka คุณภาพที่มีศักยภาพพอให้คุณล้มละลายได้ในพริบตา!!
4 ร้าน Zakka ที่ทำให้เราอยากซื้อทุกอย่างจนแทบบ้า!!
ใครที่กำลังคิดจะมาเดินเล่นที่นี่เพื่อช็อปปิ้งตามคำบอกเล่าของเราแล้วละก็ ขอแนะนำให้เตรียมกระเป๋าตังค์หนักๆ ไว้ได้เลย เพราะร้านรวงที่นี่มีศักยภาพพอให้เราควักเงินหมดกระเป๋าจนล้มละลายได้ไม่ยาก แต่ที่มากกว่านั้นคือเรื่องราวเบื้องหลัง ร้านรวงเหล่านี้ที่จะสร้างแรงบันดาลใจบางอย่างให้กับคุณ
Cinq : สิ่งที่ถูกรวบรวมมาเพื่อหญิงสาวชาวญี่ปุ่น
สิ่งน่าสนใจที่สุดของร้านนี้คือการคัดเลือกสินค้าจากหลายๆ ที่ทั่วโลก โดยเฉพาะจากฝั่งยุโรปเข้ามาวางขายในร้าน แต่แวบแรกที่เราก้าวขาเข้าไป กลับนึกอะไรไม่ออกเลยนอกจากฟีลลิ่งแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น ทั้งการตกแต่งร้านด้วยโทนสีอ่อนอบอุ่นและสินค้าดีไซน์น่ารักๆ ที่ทำให้นึกถึงหญิงสาวญี่ปุ่นสวมผ้ากันเปื้อนกำลังเข้าครัว
Cinq หรือที่ชาวญี่ปุ่นออกเสียงว่า “ซังกุ” คือภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า “5” สินค้าที่วางขายในร้านส่วนใหญ่จึงเป็นสินค้าที่เจ้าของร้านคัดเลือกมาจากฝั่งยุโรป ทั้งจาก อังกฤษ ฟินแลนด์ โปรตุเกส และฝรั่งเศส โดยเน้นงานแฮนด์เมด มีดีไซน์สวย แต่ที่สำคัญคือต้องใช้งานได้จริง ซึ่งเจ้าของร้านเชื่อว่าจะทำให้ตัวสินค้ามีคุณค่าอย่างแท้จริงในของตัวมันเองและใช้งานได้ยาวนาน นอกจากสินค้าที่คัดเลือกมาแล้ว ที่นี่ก็มีสินค้าที่ออกแบบและผลิตเองด้วย ซึ่งมักจะมีรายละเอียดเล็กๆ ซ่อนอยู่ สินค้าภายในร้านก็มีตั้งแต่ ของตกแต่งบ้าน เครื่องครัว เสื้อผ้า เครื่องหนัง ไปจนถึงที่คั่นหนังสือ ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
สิ่งที่สะดุดตาฉันที่สุดตอนที่มาเยี่ยมที่นี่ คือ สโคนชิ้นเล็กๆ ที่วางแทรกตัวอยู่ท่ามกลางหมู่ข้าวของต่างๆ บนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่กลางร้าน ทางร้านเล่าให้ฟังว่า สโคนนี้เป็นสินค้าจากร้านอื่นที่มีชื่อเสียงในย่านที่ไกลออกไปหน่อย ที่เขานำมาวางขายหลังจากที่มีการจัดอีเว้นท์ร่วมกัน และสโคนชิ้นเล็กๆ นี่เอง ที่ดึงลูกค้าชาวญี่ปุ่นให้เข้ามาที่ร้านตั้งแต่ประตูเริ่มเปิด ลูกค้าจะเลือกของในร้านที่ตัวเองชอบคนละชิ้น สองชิ้น และปิดท้ายด้วยการหยิบสโคน แล้วไปจ่ายเงิน ลูกค้าบอกว่าเห็นการโปรโมทในเฟซบุ๊ก จึงทราบว่าจะมีสโคนมาวางขายที่นี่ ในวันนี้ และตั้งใจแวะมาซื้อตั้งแต่เช้า นี่สินะ คือการสร้างเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือกันและกันของร้านค้าขนาดเล็กให้อยู่รอดอย่างเข้มแข็งท่ามกลางกระแสทุนนิยมขนาดใหญ่ในโตเกียว และที่สำคัญ ร้าน Cinq แห่งนี้ เคยตั้งอยู่ในย่านฮาราจุกุเป็นเวลาเกือบ 10 ปี ก่อนจะย้ายหลบมาตั้งเป็นร้านเล็กๆ ที่เงียบสงบในคิชิโจจิแห่งนี้
info
Cinq
Website: cinq.tokyo.jp
ตามไปดูบรรยากาศร้าน Cinq และสินค้าเพิ่มเติม คลิก
——–
Out Bound: เอาใจพ่อบ้านใจกล้าด้วยร้าน Zakka แมนๆ
ถ้าเรายกให้ร้าน Cinq เป็น Queen of Zakka ของคิชิโจจิ ที่นี่ก็เป็น King of Zakka ที่เหล่าพ่อบ้านใจกล้าต้องเดินทางมาให้ถึง เพราะแค่บรรยากาศก็ดิบ เท่ เคร่งขรึม ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านที่เน้นสีธรรมชาติเผยให้เห็นเนื้อสัมผัสของพื้นผิวทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มชิ้นใหญ่ก็เป็นงานวินเทจแท้ๆ ที่เจ้าของร้านหามาจากหลากหลายประเทศ ยิ่งถ้ามาถึงร้านช่วงบ่ายๆ แสงแดดที่สาดเข้ามาทางกระจกจะทำให้เกิดแสงเงาดูมีมิติมากขึ้น และยังทำให้สินค้าภายในร้านดูมีมนต์เสน่ห์ราวกับเป็นงานศิลปะ
เอ๊ะ! หรือว่าของเหล่านี้จะเป็นงานศิลปะจริงๆ ความจริงจะเรียกว่างานศิลปะก็คงไม่ผิดนัก เพราะที่นี่เปิดพื้นที่ให้ศิลปินมาจัด Exhibition ของตัวเองได้ด้วย และหลังจากแสดงงานเสร็จ ผลงานส่วนหนึ่งก็จะถูกจัดวางเป็นสินค้าภายในร้านต่อไป เหมือนกับผลงานเครื่องปั้นดินเผา ของ Yukiharu Kumagai ที่กำลังกินพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในร้านตอนที่เราไปถึง สินค้ากว่า 70% ของร้านเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นในญี่ปุ่น มีดีไซน์ที่ยอดเยี่ยมและใช้เทคนิคในการผลิตที่ไม่ธรรมดา อีกส่วนหนึ่งเป็นสินค้าที่คัดเลือกมาจากต่างประเทศ และสินค้าที่เจ้าของร้านเป็นผู้ออกแบบและผลิตเอง สินค้าทั้งหมดเจ้าของร้านจะเลือกเองทีละชิ้นตามความชอบ โดยเน้นงานที่สื่อถึงธรรมชาติ งานฝีมือ และมีความเป็นญี่ปุ่นอยู่ในนั้น จึงออกมาดูกลมกลืนเข้ากันเป็นอย่างดี แม้บางชิ้นอาจดูใช้งานจริงค่อนข้างยาก แต่ของแบบนี้แค่ตั้งอยู่ในบ้านก็บ่งบอกรสนิยมความใส่ใจในการเลือกของผู้เป็นเจ้าของได้แล้ว
info
Out Bound
Website: outbound.to
ตามไปดูบรรยากาศร้าน Out Bound และสินค้าเพิ่มเติม คลิก
——–
Paper Message: ร้านนี้มีแต่กระดาษ
อันที่จริง ฉันคิดว่าผลิตภัณฑ์ของร้านนี้มันบอกเล่าตัวเองได้ดีจนฉันแทบไม่ต้องเล่าอะไรอีกแล้ว ตั้งแต่ชื่อร้าน เราก็เข้าใจได้แล้วว่าจุดมุ่งหมายในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพในระดับนี้คืออะไร ยิ่งเข้าไปแล้วเห็นบรรดากระดาษด้านในก็ยิ่งรู้ว่าร้านนี้ควรค่าแก่การแวะมาดูขนาดไหน ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานอยู่ในวงการสิ่งพิมพ์ ฉันคิดว่าควรจะมาเยือนร้านนี้ให้ได้สักครั้ง
ร้านนี้เริ่มต้นมาจากโรงพิมพ์เล็กๆ ในจังหวัดโคจิ (Kochi) ที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลากว่า 80 ปีแล้ว ซึ่งเป็นธุรกิจในครอบครัวของเจ้าของร้าน เมื่อได้เริ่มต้นทำงานเกี่ยวกับกระดาษ จึงค้นพบว่ากระดาษแต่ละชนิดสามารถใช้งานและแปรรูปออกมาเป็นสินค้าได้หลากหลายมากมายขนาดไหน จนอยากบอกเล่าให้คนอื่นๆ ทั่วไปได้เห็นมุมมองของกระดาษที่แตกต่างออกไปเช่นเดียวกัน Paper Message เริ่มต้นเปิดสาขาแรกที่จังหวัดโคจินั้นเอง ก่อนจะขยายสาขามาที่ถนนนาคามิจิ (Nakamichi) แห่งนี้เพราะมีบรรยากาศใกล้เคียงกับที่โคจิที่สุด สินค้าทุกชิ้นภายในร้านผลิตขึ้นในโรงพิมพ์เก่าแก่ของครอบครัว ซึ่งมีช่างฝีมือที่เก่าแก่พอๆ กัน มีความเชี่ยวชาญและสามารถทำเทคนิคพิเศษที่เหมาะสมกับกระดาษแต่ละชนิดได้เป็นอย่างดี
ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้านนี้คือผลงานการออกแบบของ Okubo Junko นักวาดภาพประกอบที่ชื่นชอบภาพสัตว์และธรรมชาติเป็นพิเศษ การที่ได้ยืนอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยรูปวาดของเขานั้นจึงเหมือนกับอยู่ในโลกจินตนาการที่กำลังเคลื่อนไหว
ส่วนสินค้าที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนญี่ปุ่นคือ นามบัตรและการ์ดแต่งงานในรูปแบบ DIY เมื่อบวกกับลวดลายแปลกๆ และเทคนิคพิเศษต่างๆ แล้ว จึงตอบโจทย์วัฒนธรรมการแลกนามบัตรของคนญี่ปุ่น ซึ่งสามารถดัดแปลงเป็นนามบัตรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นของตัวเองได้และเป็นที่น่าจดจำกว่านามบัตรทั่วๆ ไป รวมไปถึงสินค้าอื่นๆ ก็ล้วนเป็นของขวัญที่สวยงามและสร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้ไม่น้อยเช่นกัน
info
Paper Message
Website: www.papermessage.jp
ตามไปดูบรรยากาศร้าน Paper Message และสินค้าเพิ่มเติม คลิก
——–
36 Sublo: ร้านเครื่องเขียนจากยุค Old School ของญี่ปุ่น
ใครว่าที่ญี่ปุ่นจะมีแต่ร้าน Zakka โอ่โถง ดีไซน์ล้ำยุค กับสินค้าน่ารักสีสันสดใส ร้านแบบย้อนยุค รำลึกความหลังอย่างในหนังเรื่องแฟนฉันก็มีเหมือนกัน และไม่มีร้านไหนจะโดดเด่นเท่าร้านนี้ เพราะรวบรวมสินค้าข้ามยุคสมัยตั้งแต่วันวาน จนถึงงานออกแบบร่วมสมัยมาไว้ในที่เดียวกัน มีทั้งสินค้าที่คัดสรรมา สินค้ามียี่ห้อ สินค้าที่ทางร้านออกแบบเอง รวมไปถึงสินค้านำเข้าที่ให้บรรยากาศเก่าๆ แต่น่ารัก อย่างของจากเมืองไทยก็มี (เราจึงต้องเลือกอย่างระมัดระวัง เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าซื้อของเมืองไทยกลับมาฝากคนไทยซะอย่างนั้น)
ร้านนี้เริ่มเปิดตั้งแต่เมื่อ 12 ปีก่อนถือเป็นร้าน Zakka ที่รวบรวมเครื่องเขียนจากหลายๆ ที่มาไว้ในที่เดียวกันเป็นร้านแรกๆ ของคิชิโจจิ แม้ร้านเก่าไม่ได้อยู่ที่นี่แต่เดิม แต่ภายในก็ตกแต่งให้คงความเก่าแก่ไว้ได้ไม่ผิดเพี้ยน ด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจแบบที่เราเห็นในโรงเรียนสมัยก่อน อย่างโต๊ะเรียนที่ทำจากไม้ ที่วัดส่วนสูงที่ทำจากไม้ ตู้เก็บบัตร ตู้เก็บเอกสาร ฯลฯ แล้วภายใต้สินค้าน่ารักที่ดูทันสมัยก็มักจะมีสินค้าดั้งเดิมแบบที่เราไม่ได้เห็นมานานซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังยางในกล่องเหล็ก สีไม้ซากุระกับแพ็กเกจโทนสีตุ่นๆ กาวน้ำไซส์มินิที่ใช้สมัยอยู่ชั้นประถมกับกราฟิกเชยๆ ที่อยู่บนขวด แต่พอวันนี้ได้กลับมามอง สีตุ่นๆ และกราฟิกเชยๆ กลับดูดีโก้เก๋อย่าบอกใครเลย!
info
36 Sublo
Website: www.sublo.net
ตามไปดูบรรยากาศร้าน 36 Sublo และสินค้าเพิ่มเติม คลิก
——–
อย่าลืมติดตาม Kichijoji ในแง่มุมต่างๆ ได้ในฉบับต่อไป 🙂