Lovely Day Trips in Tohoku & Niigata : 7 วันเดย์ทริป รวมมิตรแหล่งท่องเที่ยวดีต่อใจใน ‘โทโฮคุ’ และ ‘นีงาตะ’
สารบัญ
- Yamagata | จังหวัดยามากาตะ (2 เส้นทาง)
- Miyagi | จังหวัดมิยากิ (2 เส้นทาง)
- เส้นทางที่ 1 : Tokyo → Matsushimakaigan Station → กินบุฟเฟ่ต์หอยนางรมย่าง Yakigaki House → เดินเล่นริมชายฝั่ง Matsushima → Matsushima Cruise ล่องเรือเที่ยวชมหมู่เกาะ
- เส้นทางที่ 2 : Tokyo → Funaoka Station → ชมซากุระ Hitome Senbonzakura → ชิมขนม Zunda Mochi → นั่งสโลปคาร์ชมวิวที่ Funaoka Castle Ruins Park
- Fukushima | จังหวัดฟุกุชิมะ (2 เส้นทาง)
- เส้นทางที่ 1 : Tokyo → Aizu Wakamatsu Station → ชิมเมนูดังข้าวหน้าหมูทอด Aizu Sauce Katsu-don → เดินเล่นรอบเมืองและชมปราสาท Tsuruga Castle → ทำเวิร์คช็อปเครื่องปั้นดินเผา Aizu Hongo
- เส้นทางที่ 2 : Tokyo → Koriyama Station → นั่งรถไฟคาเฟ่เคลื่อนที่ Fruitea Fukushima → เยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku → เดินเล่นที่เมือง Aizu Wakamatsu → ลิ้มรสราเมนดัง Koriyama Black
- Niigata | จังหวัดนีงาตะ (1 เส้นทาง)
อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นจัง.. เอาจริงๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าพูดประโยคนี้ไปแล้วกี่ครั้ง และเชื่อว่าคนที่ชอบประเทศญี่ปุ่นทุกคนก็คงเป็นเหมือนกัน แต่เราจะไม่ต้องพูดประโยคนี้อีกต่อไปแล้วเพราะญี่ปุ่นเปิดประเทศให้ได้เข้าไปเที่ยวอีกครั้ง เราเลยตั้งใจมาแชร์ 7 เส้นทาง One Day Trip ในภูมิภาค โทโฮคุ 3 จังหวัด ได้แก่ ยามากาตะ มิยากิ ฟุกุชิมะ และอีกหนึ่งจังหวัดในภูมิภาคชูบุซึ่งอยู่ติดกันนั่นก็คือ นีงาตะ เที่ยวแบบไป-กลับจากโตเกียวได้อย่างรวดเร็วด้วยรถไฟชินคันเซ็น
ไม่ว่าจะเป็นสายกิน อินธรรมชาติ ชอบดูซากุระ เล่นหิมะหนาฟู ฟินเสมอเมื่อได้แช่ออนเซ็น หรือมีความสุขกับการเดินเล่นชมเมืองใน 7 เส้นทางเดย์ทริปที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้ ตอบโจทย์ครบทุกสไตล์ ได้ใช้เวลาตลอดทั้งวันอย่างคุ้มค่า เชื่อว่าทุกทริปจะสามารถเปลี่ยนหนึ่งวันในญี่ปุ่นให้กลายเป็นประสบการณ์อันแสนล้ำค่าได้อย่างแน่นอน
ถ้าเกิดใครถูกใจและอยากไปมันทุกทริป แนะนำว่าการมีบัตรโดยสารอย่าง JR EAST PASS (Tohoku area) ที่สามารถใช้โดยสารรถสาธารณะบนเส้นทางรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (JR EAST) ในโซนภูมิภาคโทโฮคุได้ฟรีทั้งหมดนั้นช่วยประหยัดได้เยอะมากจริงๆ
ข้อมูลบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)🚄
บัตรโดยสารที่ใช้แทนตั๋วสำหรับโดยสารรถไฟ สามารถใช้นั่งได้ทั้งชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น รถไฟท่องเที่ยว Joyful Trains (บางขบวน) ที่ให้บริการในเส้นทางรถไฟของ JR EAST ได้ฟรีทั้งหมด รวมถึงสามารถใช้โดยสารรถบัส JR Bus Tohoku ในเส้นทางที่กำหนดได้อีกด้วย อีกทั้งยังนั่งรถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะ หรือ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน
ราคา: ผู้ใหญ่ 20,000 เยน, เด็ก 10,000 เยน
เงื่อนไข: ต้องใช้ 5 วัน ติดต่อกัน
จุดจำหน่าย: ซื้อผ่านเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation, เครื่องจำหน่ายตั๋วบางสถานี หรือซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทย
วิธีสำรองที่นั่ง: สามารถซื้อและสำรองที่นั่งออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation และไปออกตั๋วฉบับจริงได้ที่ตู้อัตโนมัติภายในสถานีรถไฟที่มี Passport Reader
วิธีใช้งาน: สอดบัตรโดยสารกับเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟได้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม: jreast.travel
Yamagata | จังหวัดยามากาตะ (2 เส้นทาง)
เราว่ายามากาตะเต็มไปด้วยของอร่อย เป็นบ้านเกิดของเนื้อดังระดับท็อปทรีของญี่ปุ่น ธรรมชาติก็เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ ทำให้ปลูกผลไม้ได้มากและมีรสชาติดีสุดๆ ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นชั้นเลิศที่ควรค่าแก่การไปแช่สักครั้ง โดย 2 เส้นทางที่เราแนะนำนี้ เหมาะมากสำหรับ Food Lovers ที่ชอบตามหาของโลคอลอร่อยๆ เพื่อลิ้มลอง และอยากสัมผัสออนเซ็นจากธรรมชาติในบรรยากาศสงบที่ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ
เส้นทางที่ 1 : Tokyo → Yonezawa Station → ลิ้มรสเนื้อวัวชั้นเยี่ยม Yonezawa Beef → แช่ออนเซ็นดัง Kaminoyama Onsen
เป็นเดย์ทริปที่ตอบโจทย์คนชอบธรรมชาติ ออนเซ็นอันแสนสดชื่น และมีของอร่อยมากมายให้รับประทาน ทั้งยังนั่งรถไฟมาจากโตเกียวแป๊ปเดียว เปิดทริปฟินๆ ที่เมืองบ้านเกิดเนื้อดังโยเนซาวะ จากโตเกียวสามารถโดยสาร Yamagata Shinkansen มาลงที่สถานีโยเนซาวะได้โดยตรง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
เมืองนี้มี Yonezawa Beef เนื้อวัวชั้นยอดที่ถูกเลี้ยงอย่างประคบประหงม เป็นของดีประจำเมืองที่คนญี่ปุ่นให้การยอมรับ เพียงเดินออกจากขบวนรถไฟก็จะพบกับรูปปั้นน้องวัวรอต้อนรับให้รู้ว่าฉันนี่แหละเมืองแห่งเนื้อ! ที่นี่มีร้านเนื้อให้เลือกหลายแห่งทั่วเมือง เราขอแนะนำร้าน Gyunabe Oki ไม่ไกลจากสถานี อยู่ในระยะที่เดินได้ แน่นอนว่ามีหลายเมนูเนื้อให้เลือกชิม แต่ที่เราขอ Recommended Dish คือ สุกียากี้ ในเซ็ตจะมีเนื้อ ผัก เต้าหู้ และวุ้นเส้น เนื้อนุ่มละลายในปาก ได้รสชาติของซุปเข้มข้นที่ซึมเข้าไปในเนื้อ อร่อยมากจนต้องสั่งเพิ่มอีกจานเลยแหละ
อิ่มหนำสำราญแล้วก็พร้อมออกเดินทางไปชิลล์ต่อกันที่หมู่บ้านน้ำพุร้อนเก่าแก่ของยามากาตะ Kaminoyama Onsen เดินทางโดยนั่งรถไฟสาย Yamagata Shinkasen ราวครึ่งชั่วโมง หรือรถไฟธรรมดาสายโออุ (Ou Main Line) ประมาณ 35 นาทีลงที่สถานีคามิโนยามะออนเซ็น ที่เมืองนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองปราสาทเก่าแก่ โดยมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้ง ปราสาทคามิโนยามะ และบ้านซามูไรโบราณที่เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมได้
ไฮไลท์ของทริปอยู่ที่การแช่ออนเซ็น ออนเซ็นของที่นี่มีสีใสราวคริสตัล ขึ้นชื่อในเรื่องการให้ความชุ่มชื้นและมีฤทธิ์ในการบำบัดฟื้นฟูร่างกาย เริ่มต้นเบาๆ ด้วยการแช่เท้าฟรีที่บ่อสาธารณะ ก่อนไปแช่แบบเต็มรูปแบบที่โรงอาบน้ำสาธารณะ ที่โรงแรมหรือเรียวกังหลายแห่งก็เปิดบ่อน้ำพุร้อนในช่วงกลางวันให้แก่แขกที่ไม่ได้เข้าพักได้ลงแช่แบบไปเช้า-เย็นกลับด้วย โดยเสียค่าใช้จ่ายเล็กน้อยแตกต่างกันไป เป็นอันจบทริปอย่างผ่อนคลายสุดๆ
ภาพ: yamagatakanko.com
Gyunabe Oki
Location: เมืองโยเนซาวะ (Yonezawa) จังหวัดยามากาตะ
Hours: 11:00-15:00 น., 17:00-20:30 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโยเนซาวะ (Yonezawa Station)
Access: จากสถานีโยเนซาวะ เดินประมาณ 1 นาที
เส้นทางที่ 2 : Tokyo → Yamagata Station → กินยากินิกุ Yamagata Beef → กินผลไม้แบบไม่อั้นที่สวนในเมือง Tendo
Food Lover ต้อง Love เดย์ทริปนี้แน่นอน เพราะเราจะชวนไปกินของดียามากาตะกันตลอดทั้งวัน โดยเริ่มกันที่ตัวเมืองยามากาตะ จากโตเกียวนั่ง Yamagata Shinkansen ยิงยาวจนถึงสถานียามากาตะ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเมืองชิลล์ๆ ผ่อนคลาย คนไม่พลุกพล่านด้วย
เกริ่นมาตั้งแต่ต้นว่านี่คือทริปกิน สายเนื้อน่าจะรู้ดีว่ายามากาตะนั้นดังเรื่องเนื้อแค่ไหน โดยเฉพาะ Yonezawa Beef แต่จริงๆ แล้วยังมี Yamagata Beef รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน ดีงามทั้งราคาก็ย่อมเยากว่า และนิยมนำมารับประทานแบบปิ้งย่าง โซนรอบๆ ตัวเมืองยามากาตะจึงมีร้านยากินิกุให้บริการอยู่หลายแห่ง เช่น Yakiniku Osama, Yakiniku Sakura ฯลฯ นอกจากนี้ยามากาตะนั้นยังมีชื่อเสียงเรื่องราเมนด้วย โดยเฉพาะเมนู Hiyashi Ramen ราเมนเย็นที่มีต้นกำเนิดที่เมืองยามากาตะ คิดค้นโดยร้าน Sakaeya เสิร์ฟมาพร้อมน้ำแข็ง รสชาติเบาๆ ในวันอากาศร้อนกินแล้วสดชื่นแน่นอน
กินแต่ของคาวก็อาจจะเลี่ยนเกินไป ดังนั้นเราจะไปล้างปากกันต่อที่สวนผลไม้ในเมือง Tendo จากสถานียามากาตะนั่งรถไฟยามากาตะชินคันเซ็นประมาณ 10 นาทีมาลงที่สถานีเทนโดได้เลย เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกผลไม้ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสวนผลไม้หลายแห่ง เช่น Konnokankokaju Orchards, Ohsyo Fruits Farm ฯลฯ และมีกิจกรรมยอดฮิตที่ถูกใจสายกินแบบเรามากคือ เก็บผลไม้จากต้นมากินไม่อั้น โดยผลไม้ที่สามารถเก็บได้ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาล ช่างเป็นทริปที่อิ่มอก อิ่มใจ อิ่มท้องดีจริงๆ
Miyagi | จังหวัดมิยากิ (2 เส้นทาง)
เราว่ามิยากิเป็นจังหวัดที่ใครๆ ต่างก็ปลื้ม รวมแหล่งท่องเที่ยวชนิดที่เรียกว่าวาไรตี้ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายรูปแบบทั้งทะเล ภูเขา แม่น้ำ ออนเซ็น มีย่านหมู่บ้านน่าเดินเล่น เมืองใหญ่สุดครบครัน ใครที่มีฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูกาลโปรด และอยากลองไปสัมผัสวิวสวยของมหาสมุทรแปซิฟิก 2 เส้นทางชมซากุระสุดโรแมนติกนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด!
เส้นทางที่ 1 : Tokyo → Matsushimakaigan Station → กินบุฟเฟ่ต์หอยนางรมย่าง Yakigaki House → เดินเล่นริมชายฝั่ง Matsushima → Matsushima Cruise ล่องเรือเที่ยวชมหมู่เกาะ
วันเดย์ทริปที่เหมาะสำหรับคนอินกับทะเล ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวรวมแล้วประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ก็ได้สัมผัสกับทะเลสวยและสงบเงียบ โดยนั่ง Akita Shinkansen มาลงที่เซนได แล้วเปลี่ยนสายไปนั่งรถไฟ JR Senseki Line ลงที่สถานีมัตสึชิมะไคกัง เพื่อเที่ยวเล่นในแถบ Matsushima ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะ Top 3 วิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
เริ่มทริปด้วยการกินเอาแรง มัตสึชิมะเป็นแหล่งหอยนางรมชั้นเลิศของญี่ปุ่น ทำให้มีร้านบุฟเฟ่ต์หอยนางรมให้เลือกใช้บริการอยู่หลายแห่ง หนึ่งในร้านชื่อดังของแถบนี้คือ Yakigaki House ตั้งอยู่ด้านหน้าตลาดปลามัตสึชิมะ ที่ร้านมีบุฟเฟ่ต์หอยนางรมแบบกินได้ไม่อั้น 45 นาที ถูกใจมากที่สุดคือไม่ต้องย่างเอง เราแค่ทำหน้าที่แซะเนื้อหอยออกจากเปลือกและกินเท่าที่ใจอยากก็พอ นอกจากนี้ยังมีเมนูแบบอะลาคาร์ทสำหรับคนที่อยากลองหลายๆ อย่างด้วย
อิ่มจนจุกแล้วเรามาเดินย่อยกันต่อ แถวนี้มีหลายโลเคชั่นที่น่าสนใจ เช่น Godaido Temple วัดที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของมัตสึชิมะ จะเดินขึ้นเนินเขาไปชมวิวบริเวณสวน Saigyo Modoshi no Matsu Park ก็ดีเพราะบนนี้จะมีจุดถ่ายรูปอ่าวมัตสึชิมะที่สวยมากๆ อยู่ด้วย หรือจะเดินข้ามสะพานไปเที่ยวเล่นที่เกาะ Fukuura Island จะแวะคาเฟ่ ไหว้พระ ชมธรรมชาติก็มีครบ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่มาแล้วไม่ควรพลาดคือ การล่องเรือสำราญชมเกาะ โดยมีให้เลือก 5 คอร์สด้วยกัน มีทั้งแบบวนรอบเกาะพาชมจุดต่างๆ และแบบข้ามเกาะ แต่ละคอร์สใช้เวลาประมาณ 50 นาที ลองจิ้มดูคอร์สที่สนใจก่อนจองออนไลน์หรือซื้อได้ที่ช่องขายตั๋วใกล้กับท่าเรือ Matsushima shima-meguri ถ้าไม่อยากนั่งนานเกินไป ขอแนะนำ Matsushima Cruise B คอร์สสั้นๆ 30 นาที พาชมวิวสวยและจุดที่สำคัญรอบอ่าวมัตสึชิมะ
Yakigaki House
Location: หมู่บ้านมัตสึชิมะ (Matsushima) แขวงมิยากิ (Miyagi) จังหวัดมิยากิ
Hours: จ.-ศ. 10:00-14:30 น., ส.-อา.และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:00-14:30 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีมัตสึชิมะไคกัง (Matsushimakaigan Station)
Access: จากสถานีมัตสึชิมะไคกัง เดินประมาณ 12 นาที
Website: www.sakana-ichiba.co.jp
Matsushima Cruise
Location: หมู่บ้านมัตสึชิมะ (Matsushima) แขวงมิยากิ (Miyagi) จังหวัดมิยากิ
Hours: 9:00-16:00 น. (ขึ้นอยู่กับวัน)
Holiday: –
Ticket Fee: Matsushima Cruise ผู้ใหญ่และนักเรียนชั้นมัธยมขึ้นไป 1,500 เยน, นักเรียนชั้นประถม 750 เยน
Nearest Station: สถานีมัตสึชิมะไคกัง (Matsushimakaigan Station)
Access: จากสถานีมัตสึชิมะไคกัง เดินประมาณ 10 นาที
Website: www.marubun-kisen.com
เส้นทางที่ 2 : Tokyo → Funaoka Station → ชมซากุระ Hitome Senbonzakura → ชิมขนม Zunda Mochi → นั่งสโลปคาร์ชมวิวที่ Funaoka Castle Ruins Park
ใครกำลังเซิร์ชหาสถานที่ชมซากุระสวยว้าวและอยากจะใช้เวลาชมแบบที่ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับใคร รวมถึงเป็นสถานที่ซึ่งคนญี่ปุ่นเองก็ชื่นชอบกันมากๆ วันเดย์ทริปนี้คือรูทชมซากุระท็อปทรีในใจเราเลย จากโตเกียวนั่ง Tohoku Shinkansen ชั่วโมงครึ่งลงที่สถานีเซนได แล้วเปลี่ยนมานั่งรถไฟ JR Tohoku Line อีกราว 30 นาที ลงที่สถานีฟุนาโอกะ จะพบกับทิวทัศน์ซากุระสุดแสนตระการตาที่เรียกกันว่า Hitome Senbonzakura ที่หมายถึง “ซากุระพันต้น”
ที่นี่มีต้นซากุระจำนวนเยอะมากๆ ราว 1,200 ต้น เรียงรายริม 2 ฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิ (Shiroishi River) เราสามารถเดินเลียบแม่น้ำได้เรื่อยๆ พลางมองวิวซากุระสะท้อนผิวน้ำ ผสานกับทิวทัศน์ภูเขาซาโอ (Mt. Zao) คนชอบเดินต้องเพลินแน่นอน! จุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาดก็คือ Niragamizeki และสะพานมากมายให้เราได้ขึ้นไปชมวิวจากมุมสูง เช่น Shibata Senokyo Bridge ที่มองเห็นทั้งซากุระ ภูเขา และรถไฟ หรือใครอยากจะลองล่องเรือโบราณชมวิวก็มีให้บริการเช่นกัน
เดินตั้งแต่เช้า ถ้าเกิดหิวขึ้นมา อยากให้ลองเดินสำรวจโซนร้านค้าใกล้ๆ แม่น้ำ แล้วค่อยเลือกร้านที่ถูกใจก็ได้ เราว่ามีร้านขนมน่ากินเพียบเลย แต่เมนูแนะนำที่มาถึงมิยากิแล้วควรลองก็คือ Zunda Mochi โมจิเนื้อหนึบโปะด้วยถั่วแระบดรสหวานมัน วัตถุดิบดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไร แต่รสชาติอร่อยเฉยเลย ซึ่งถั่วแระเป็นผลผลิตหลักของเกษตรกรชาวมิยากิด้วย
อิ่มท้องกำลังพอดีก็ไปเดินชิลล์กันต่อที่ Funaoka Joshi Park สวนสาธารณะที่มีไฮไลท์คือ Slope Car ตู้โดยสารสุดน่ารัก มีกระจกรอบทิศให้ได้ชื่นใจกับวิวซากุระฟูลบลูมตลอดทาง พาขึ้นไปยังสวนดอกไม้และไหว้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่บนเขา ถ้าอยู่ต่อหลังพระอาทิตย์ตก อย่าลืมแวะเดินเล่นแถวริมแม่น้ำเพราะจะได้ชมการจัดแสงไฟ LED ส่องทิวต้นซากุระในยามค่ำคืนด้วยล่ะ โรแมนติกสุดๆ
Hitome Senbonzakura
Sakura Period: ต้น-กลางเมษายน
Location: แขวงชิบาตะ (Shibata) จังหวัดมิยากิ
Nearest Station: สถานีฟุนาโอกะ (Funaoka Station)
Access: จากสถานีฟุนาโอกะ เดินประมาณ 5 นาที
Funaoka Joshi Park (Funaoka Castle Ruins Park)
Sakura Period: ต้น-กลางเมษายน
Location: แขวงชิบาตะ (Shibata) จังหวัดมิยากิ
Hours: สวนเปิด 24 ชั่วโมง / Slope Car ส.-อา.และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:00-17:00 น. (ช่วงเทศกาลซากุระเปิดให้บริการทุกวัน)
Entrance Fee: สวนเข้าฟรี / Slope Car ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน
Nearest Station: สถานีฟุนาโอกะ (Funaoka Station)
Access: จากสถานีฟุนาโอกะ เดินประมาณ 15 นาที
Website: www.skbk.or.jp
Fukushima | จังหวัดฟุกุชิมะ (2 เส้นทาง)
แต่จริงๆ แล้วฟุกุชิมะนั้นมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะธรรมชาติหรือบ้านเมืองที่เน้นอนุรักษ์ของดั้งเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แค่นั่งรถไฟแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างก็รับรู้ได้ถึงความสวยงาม ทั้งยังเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น คนที่ชอบบรรยากาศของบ้านเมืองโบราณ สงบเรียบง่าย ไม่ปรุงแต่ง เชื่อว่าจะรัก 2 เส้นทางเดย์ทริปนี้แน่นอน
เส้นทางที่ 1 : Tokyo → Aizu Wakamatsu Station → ชิมเมนูดังข้าวหน้าหมูทอด Aizu Sauce Katsu-don → เดินเล่นรอบเมืองและชมปราสาท Tsuruga Castle → ทำเวิร์คช็อปเครื่องปั้นดินเผา Aizu Hongo
ทริปนี้เอาใจคนชอบเดินเล่น สนุกกับการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านสถาปัตยกรรมเก่าแก่ งานฝีมือ และเดินเข้า-ออกร้านค้าโลคอล บอกเลยว่าที่เมืองไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) นั้นเหมาะสมมาก การเดินทางจากโตเกียวให้โดยสาร Tohoku Shinkansen มาเปลี่ยนสายเป็น JR Ban’etsu West Line ที่สถานีโคริยามะ นั่งต่อไปลงที่สถานีไอสึวากามัตสึ รวมเวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
นั่งรถไฟมาถึง สิ่งที่เรามักจะทำเป็นลำดับแรกก็คือการเติมเต็มท้องที่ยังว่างให้เต็มด้วยเมนูดังของแถบนี้ เมนูที่น่าลองที่สุดเห็นจะเป็น Aizu Sauce Katsu-don หรือข้าวหน้าหมูทอดสไตล์ไอสึ ดังขนาดว่ามีมากกว่าร้อยร้านอยู่ทั่วเมือง ไฮไลท์อยู่ที่ซอสฉ่ำๆ รสหวานกลมกล่อมที่ราดมาบนชิ้นเนื้อเข้ากันดีสุดๆ
ขอเล่าอีกหน่อยว่าในสมัยเอโดะเมืองนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าซามูไร ทั่วเมืองไอสึวากามัตสึ จึงเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวยงามแปลกตา อิ่มท้องแล้วมาเดินทอดน่องค่อยๆ ซึมซับวัฒนธรรมผ่านอาคารเก่าแก่ ที่ปัจจุบันส่วนใหญ่ถูกเปลี่ยนมาเป็นร้านค้าให้เราได้แวะเข้าไปเยี่ยมเยือน ก็เพลิดเพลินดีเหมือนกัน และยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) ซึ่งล้อมรอบด้วยสวนสวยและคลอง บอกได้เลยว่าไม่ว่าจะเดินทางมาช่วงไหนก็สวยน่าชมทุกฤดู
อีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจคือ Aizu Hongo Workshop เวิร์คช็อปทำเครื่องปั้นดินเผาชื่อดังที่เรียกว่า Aizu Hongo เป็นเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ปัจจุบันมีเตาเผาเหลืออยู่เพียง 13 เตาในพื้นที่ และยังคงผลิตงานฝีมือเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมอันเก่าแก่นี้เอาไว้ หากใครอยากสัมผัสประสบการณ์ปั้นดินเผาด้วยตัวเอง เพียงนั่งรถไฟสาย JR Tadami Line จากสถานีไอสึวากามัตสึต่อมาอีกแค่ 3 ป้าย ราว 10 นาที มาลง ณ สถานีไอสึฮงโก ก็จะพบกับร้านค้าหลายแห่งไม่ไกลจากสถานี เช่น Kinooto Workshop, Tobo Irori ฯลฯ เปิดเป็นเวิร์คช็อปให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำ รวมถึงสามารถซื้อแบบสำเร็จกลับมาเป็นของฝากก็ได้
ภาพ: en.aizuhongouyaki.jp
Tsuruga Castle
Location: เมืองไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) จังหวัดฟุกุชิมะ
Hours: 8:30-17:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: Castle Tower ผู้ใหญ่ 410 เยน, นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 150 เยน, ผู้ทุพพลภาพ เข้าฟรี
Nearest Station: สถานีไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station)
Access: จากสถานีไอสึวากามัตสึ เดินประมาณ 30 นาที
Website: www.tsurugajo.com
เส้นทางที่ 2 : Tokyo → Koriyama Station → นั่งรถไฟคาเฟ่เคลื่อนที่ Fruitea Fukushima → เยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku → เดินเล่นที่เมือง Aizu Wakamatsu → ลิ้มรสราเมนดัง Koriyama Black
อีกหนึ่งเดย์ทริปในฟุกุชิมะที่จะพาไปสัมผัสบรรยากาศหมู่บ้านโบราณ และขบวนรถไฟท่องเที่ยวสุดเก๋ที่เป็นเหมือนคาเฟ่เคลื่อนที่ได้ การเดินทางจากโตเกียวให้โดยสาร Tohoku Shinkansen ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที มาลงที่สถานีโคริยามะ เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมแรกคือ การนั่งรถไฟ FruiTea Fukushima
หนึ่งในสิ่งที่เราชอบของการเที่ยวโซนนอกเมืองหลวงคือจะมีรถไฟคอนเซ็ปต์พิเศษ หานั่งยาก ให้เราได้เลือกใช้บริการ แต่ถ้ามาเที่ยวฟุกุชิมะแนะนำว่าให้ปักหมุดขบวน FruiTea Fukushima รถไฟท่องเที่ยวของบริษัทรถไฟ JR เอาไว้เลย ด้วยคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ที่เปลี่ยนตู้โดยสารธรรมดาให้กลายเป็นคาเฟ่ มีเครื่องดื่ม และขนมหวานที่ทำขึ้นเฉพาะโดยใช้ผลไม้ท้องถิ่นของฟุกุชิมะเป็นวัตถุดิบหลัก คอยเสิร์ฟตลอดเส้นทาง กินไปพลางมองวิวธรรมชาติด้านนอกหน้าต่างไป ดีต่อใจสุดๆ รถไฟให้บริการในทุกเสาร์และอาทิตย์วันละ 1 รอบ หากใครอยากลองนั่งต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะ
ลงรถไฟที่สถานีไอสึวากามัตสึ เพื่อจะมูฟไปเที่ยวที่ Ouchi Juku โดยนั่งรถไฟต่อไปอีกประมาณ 40 นาทีลงที่สถานียูโนคามิออนเซ็น แล้วต่อแท็กซี่อีกไม่เกิน 10 นาทีก็ถึง ที่นี่เป็นหมู่บ้านโบราณสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ ได้รับการขึ้นทะเบียนในฐานะอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มีบ้านโบราณเรียงรายขนาบสองฝั่งถนน คนนิยมมากันในช่วงฤดูหนาว เพราะบรรยากาศที่ถูกทับถมด้วยหิมะขาวนั้นสวยงามน่าประทับใจมาก มุมถ่ายรูปสุดปังที่เห็นทั่วทั้งหมู่บ้านอยู่ตรงเนินเขาด้านในสุด ต้องไปให้ได้นะ! อีกทั้งปัจจุบันบ้านหลายๆ หลังมีการปรับเป็นร้านค้าและร้านอาหารรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
แวะเดินเล่นต่อที่เมือง Aizu Wakamatsu นั่งรถไฟย้อนกลับไปราว 30 นาทีลงที่สถานีไอสึวากามัตสึ ในเมืองเต็มไปด้วยอาคารสวยๆ ศาลเจ้า ปราสาท คาเฟ่ ร้านค้าก็มีเยอะ เหมาะกับการเดินเล่นดื่มด่ำบรรยากาศแบบโบราณ ก่อนกลับโตเกียว ยังไงก็ต้องไปเปลี่ยนสายรถไฟเป็น Tohoku Shinkansen ที่สถานีโคริยามะ เลยอยากให้แวะกินราเมนชื่อดังของย่านนี้ Koriyama Black เบสเป็นซุปโชยุสีเข้ม รสเข้มข้นและกลมกล่อม ส่วนเส้นและท็อปปิ้งแตกต่างกันไปตามแต่ละร้าน
FruiTea Fukushima
Route: ระหว่างสถานีโคริยามะ ถึง สถานีคิตะคาตะ (Koriyama – Kitakata Station) / สถานีโคริยามะ ถึง สถานีเซนได (Koriyama – Sendai Station)
Available Date: โดยปกติแล้วจะเดินรถทุกๆ วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
How to Reserve: รถไฟขบวนนี้ต้องสำรองที่นั่งที่เว็บไซต์ www.jre-joyful.com (ภาษาญี่ปุ่น) เท่านั้น
Website: www.jreast.co.jp
Note: บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ไม่สามารถใช้โดยสาร FruiTea Fukushima ได้ และ FruiTea Fukushima จะสิ้นสุดการให้บริการในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2023
Ouchi-juku
Location: แขวงมินามิไอสึ (Minamiaizu) จังหวัดฟุกุชิมะ
Nearest Station: สถานียุโนคามิออนเซ็น (Yunokamionsen Station)
Access: จากสถานียุโนคามิออนเซ็น ต่อแท็กซี่ประมาณ 10 นาที หรือขึ้นบัสจากป้ายหน้าสถานีไปลงที่ป้ายโออุจิชิโมะ (Ouchishimo)
Website: ouchi-juku.com
Note: ไม่สามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) กับการนั่งรถไฟ Aizu Tetsudo Line ได้
Niigata | จังหวัดนีงาตะ (1 เส้นทาง)
นีงาตะมีชื่อเสียงเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ด้วยโลเคชั่นตั้งอยู่ติดแนวชายฝั่ง ข้าวอร่อย น้ำใสสะอาด ออนเซ็นของที่นี่จึงมีคุณภาพดีงามตามไปด้วย ในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวเย็นค่อนข้างนาน กินระยะเวลาประมาณ 5 เดือน จึงเป็นที่รู้จักในฐานะลานสกีใกล้โตเกียว ใครที่รักกิจกรรมฤดูหนาว อยากเล่นหิมะขาวโพลนหลากหลายรูปแบบ ขอให้เซฟเส้นทางเก็บไว้เลย!
Tokyo → Gala Yazawa Station → เพลิดเพลินกิจกรรมท่ามกลางหิมะที่ Gala Yuzawa Snow Resort → แช่ออนเซ็นอย่างผ่อนคลายที่ Yuzawa Onsen
เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาว แล้วอยากไปสัมผัสบรรยากาศหิมะขาวโพลน ได้เล่นสกีและสโนว์บอร์ด ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเดินทางเหนื่อยมากเกินไป Gala Yuzawa Snow Resort ในจังหวัดนีงาตะนั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก สามารถนั่ง Joetsu Shinkansen จากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที ลงที่สถานีกาล่ายุซาวะ อีกทั้งตัวสถานียังตั้งอยู่ด้านหน้าลานสกีแบบเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงจุดขึ้นกระเช้าไปยังลานสกี
ภาพ: Facebook GALA Yuzawa Snow Resort
มือใหม่ที่อยากหัดเล่นสกีไว้ใจที่นี่ได้ เพราะมีคลาสเริ่มต้นและมีสตาฟคนไทยคอยให้บริการอยู่ด้วย รวมทั้งมีอุปกรณ์ให้เช่าแบบครบครันซึ่งมีส่วนลดสำหรับผู้ถือ JR EAST PASS ด้วยนะ สามารถไปแบบตัวเปล่าได้เลย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหิมะอื่นๆ ให้เล่นได้ไม่เบื่อ เช่น Snowshoes Tour กิจกรรมเดินบนเนินหิมะไปตามโลเคชั่นสวยๆ ด้วยรองเท้าสุดพิเศษสำหรับการเดินบนหิมะ, Snowmobile Sleigh Tour นั่งรถสโนว์โมบิลชมทิวทัศน์หิมะโดยรอบ เหมาะสำหรับการนั่งไปทั้งครอบครัว เพราะรถ 1 คัน โดยสารได้ถึง 6 ที่นั่ง และ Moon Bikes กิจกรรมใหม่ล่าสุดเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ให้เราขี่ไปตามเส้นทางสวยๆ สายแอดเวนเจอร์ชอบแน่นอน ฯลฯ
ภาพ: gala.co.jp
เล่นหิมะหนาวๆ จนร่างเพลีย จะมีอะไรดีไปกว่าการได้แช่ออนเซ็นปิดท้ายทริปให้อุ่นกายสบายใจ นั่งกระเช้ากลับลงมาที่และต่อรถไฟไปลง Echigo Yuzawa Station ที่อยู่ถัดมา บริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังที่มีชื่อว่ายุซาวะออนเซ็น (Yuzawa Onsen) หลายแห่งก็เปิดให้สามารถเข้าไปใช้บริการแบบไม่ต้องพักค้างคืน น้ำพุร้อนของที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความผ่อนคลาย ช่วยให้หายจากความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี เป็นการเติมความสุขก่อนหมดวันได้ดีจริงๆ ก่อนกลับอย่าลืมแวะ Ponshukan ซื้อของฝากจากนีงาตะกลับไปด้วยล่ะ
ภาพ: www.e-yuzawa.gr.jp
Gala Yuzawa Snow Resort
Location: หมู่บ้านยุซาวะ (Yuzawa) แขวงมินามิอุโอนุมะ (Minamiuonuma) จังหวัดนีงาตะ
Period: ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม (17 ธ.ค. 2022-7 พ.ค. 2023)
Hours: 17 ธ.ค. 2022-9 เม.ย. 2023 8:00-16:30 น. / 10 เม.ย.-7 พ.ค. 2023 8:00-16:00 น.
Holiday: กลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนธันวาคม
Lift Ticket: 1 day ผู้ใหญ่ 6,000 เยน, เด็กอายุ 6-12 ปี 3,000 เยน
Nearest Station: สถานีกาล่ายุซาวะ (Gala Yuzawa Station)
Access: นั่ง Joetsu Shinkansen มาลงที่สถานี Gala Yuzawa Station จะถึงที่ลานสกีเลย
Website: gala.co.jp
Note: สามารถใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) หรือ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) โดยสารรถไฟ Joetsu Shinkansen ไปจนถึงสถานีกาล่ายุซาวะได้
สำหรับเราทั้งโทโฮคุและนีงาตะนั้นเป็นโลเคชั่นอันดับต้นๆ ในใจ เวลาที่อยากออกไปสัมผัสธรรมชาติแบบเข้มข้น 7 เส้นทางเที่ยวใน โทโฮคุ และ นีงาตะ แบบวันเดย์ทริปเหล่านี้ เราลิสต์มาให้ครอบคลุมทุกฤดูกาล หลากหลายสไตล์การท่องเที่ยว หากอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ก็เชื่อว่าน่าจะมีทริปที่ถูกใจคุณอย่างน้อยหนึ่งเส้นทาง รอให้คุณกดจองตั๋วไปสัมผัสบรรยากาศอันน่าประทับใจนั้นด้วยตัวเอง
Trip โทโฮคุ นีงาตะ Trip ทโฮคุ นีงาตะ Trip โทโฮคุ นีงาตะ