JR EAST STATIONS IN TOHOKU : แนะนำ 7 สถานีรถไฟใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุที่มีทั้งโรงแรมและแหล่งช็อปปิ้งในตัว

โรงแรมที่พักเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับทริปญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรามีข้อจำกัดต่างๆ อย่างการพาผู้สูงอายุมาเที่ยวหรือได้แพลนจุดเที่ยวไว้แน่นทั้งวัน ซึ่งถ้าได้พักโรงแรมที่เดินทางสะดวก อยู่ติดกับสถานีรถไฟชนิดที่ว่าเดินผ่านประตูตรวจตั๋วมาไม่ทันไรก็ถึงล็อบบี้โรงแรมเลยก็คงดีไม่น้อย บอกเลยว่าพักโรงแรมใกล้สถานีรถไฟใหญ่ๆ นั้นถ้าได้ลองสักครั้งจะติดใจ เพราะประหยัดเวลาได้เยอะมาก หากเหนื่อยระหว่างเที่ยวก็กลับมานอนพักได้ทันที อีกทั้งด้วยความที่เป็นสถานีใหญ่จึงมีทั้งร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมากมาย ท้องหิวเมื่อไรไม่ต้องกังวล ครั้งนี้เราได้รวบรวม สถานีรถไฟ ใหญ่ๆ ในจังหวัดต่างๆ ของภูมิภาค โทโฮคุ ซึ่งมีโรงแรมอยู่ในอาคารเดียวกันหรืออยู่ติดกับอาคารสถานี ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดฟุกุชิมะ, จังหวัดมิยากิ (เมืองเซนได), จังหวัดยามากาตะ, จังหวัดอิวาเตะ (เมืองโมริโอกะ, เมืองคิตาคามิ), จังหวัดอาคิตะ และจังหวัดอาโอโมริ (เมืองฮาจิโนเฮะ) นอกจากนี้เรายังมาอัพเดทจุดช็อปปิ้งที่อยู่ในสถานีรถไฟพร้อมของฝากน่าซื้ออีกด้วย

01 สถานีฟุกุชิมะ (Fukushima Station)

ประเดิมด้วยสถานีฟุกุชิมะ ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ประจำจังหวัดฟุกุชิมะในภูมิภาคโทโฮคุที่ใกล้โตเกียวมากที่สุด เดินทางโดยรถไฟชินคันเซ็นเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น โดยเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟหลายสาย อาทิ สายโออุ (Ou Main Line) สายโทโฮคุ (Tohoku Line) ฯลฯ เมื่อเดินจากทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีจะพบทางเชื่อมไปยัง JR-EAST HOTEL METS FUKUSHIMA ที่เดินเท้าเพียงแค่ 1 นาทีก็พบกับล็อบบี้โรงแรม ถ้าหิวก็สามารถแวะร้านสะดวกซื้อ NewDays ได้เช่นกัน

JR-EAST HOTEL METS FUKUSHIMA เป็นโรงแรมแบบ Business Hotel ราคาแสนประหยัดที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวไทย อีกทั้งมีห้องพักหลากหลายรูปแบบเหมาะกับการเข้าพักทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่ ไปจนถึงกลุ่ม ใครที่เป็นแฟนตัวยงรถไฟญี่ปุ่นยิ่งน่าจะถูกใจ เพราะมีห้องที่มองเห็นรางรถไฟแบบชัดๆ ชั้นล่างยังมีร้านอาหาร Fukugura ที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นฟุกุชิมะตลอดทั้งวัน สามารถจองห้องพักได้ที่นี่

ภาพ: www.s-pal.jp

นอกจากโรงแรม ยังมีศูนย์การค้า S-PAL FUKUSHIMA ซึ่งมีทางเข้าเชื่อมกับทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีฟุกุชิมะเช่นกัน ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของดีฟุกุชิมะทั้งร้านขายของฝากเจ้าดังและร้านอาหารกว่า 30 ร้าน อาทิ Karinto Manju จากร้าน Okashi no Sakai, Mamadoru จากร้าน Sammangoku ฯลฯ โดยเปิดให้บริการระหว่าง 10:00-20:00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

02 สถานีเซนได (Sendai Station)

ถ้ามาเที่ยวโทโฮคุอย่างไรก็ต้องมาเช็คอินที่เซนได เพราะเมืองนี้เปรียบเสมือนศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคโทโฮคุ ยิ่งถ้าตั้งใจจะไปเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือจากโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็นก็ต้องผ่านสถานีเซนได สถานีรถไฟ ขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โทโฮคุ ที่เราว่าสวยถูกใจมาก แถมมีร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมเชื่อมต่อในอาคารเดียวกัน ต่อให้สภาพอากาศไม่เป็นใจก็เดินไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ จากสถานีนี้สามารถเปลี่ยนเป็นรถไฟสายอื่นๆ ได้หลายสาย อย่างเช่นสายเซนเซกิ (Senseki Line) หรือสายเซนซัง (Senzan Line) เป็นต้น

ภาพ: sendai.hotel-metropolitan.com

Hotel Metropolitan Sendai เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่ครบเครื่องที่สุดในเซนได ด้วยทำเลทองที่ติดกับสถานีรถไฟ พร้อมประเภทห้องพักมากมายที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ภายใต้การดีไซน์ที่หรูหราและสะดวกสบาย มีบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่ล้วนแต่ใช้ของดีจากจังหวัดมิยากิมารังสรรค์เป็นอาหารและขนมสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก ที่ไม่ควรพลาดคือซุนดะโมจิและเซนไดมาการอง อยากช็อปเมื่อไรเดินออกมาจากโรงแรมแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงห้างสรรพสินค้า หรืออยากไปเที่ยวต่อโซนอื่นแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงสถานีรถไฟ หอบความประทับใจกลับไปเต็มๆ หากสนใจสามารถจองห้องพักได้ที่นี่

ภาพ: east-sendai.metropolitan.jpภาพ: east-sendai.metropolitan.jp

อีกด้านหนึ่ง บริเวณทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีรถไฟเซนไดก็มีอีกโรงแรมหนึ่งที่น่าเข้าพักไม่แพ้กันนั่นก็คือ Hotel Metropolitan Sendai East ที่ห้องพักล้วนออกแบบมาให้ผู้เข้าพักรู้สึกอบอุ่น น่าอยู่ ตกแต่งด้วยสีสันที่สื่อถึงดอกไม้ในโทโฮคุ พร้อมด้วยเตียงซิมมอนส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทุกห้องพักมีห้องสุขาที่แยกกับห้องอาบน้ำ ส่วนห้องอาหารของที่นี่โดดเด่นด้วยเพดานยกสูง จึงให้ความรู้สึกโปร่งสบาย อาหารเช้าและอาหารกลางวันเสิร์ฟเป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกกว่า 60 รายการ

ภาพ: www.jreast.co.jp

ท้องร้องเมื่อไรให้ลองเดินมาที่ชั้น 1 ของสถานีรถไฟเซนได เพราะเขามีโซน tekute Sendai ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ค.ศ. 2021 มีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต คาเฟ่ ร้านขายของฝาก ร้านขายยา ฯลฯ ซึ่งหลายร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถ้าอยากหากาแฟดีๆ ดื่มให้ตาสว่างแต่เช้า หรือหาของกินง่ายๆ ไปนั่งกินไปชินคันเซ็น ลองมาเดินที่นี่ดู

หากคันไม้คันมืออยากช็อปขึ้นมาลองไปที่ S-PAL SENDAI II ศูนย์การค้าที่อยู่ติดกับสถานีเซ็นไดก็ได้รีโนเวทพื้นที่ขนาด 3,500 ตารางเมตรใต้รางรถไฟชินคันเซ็นในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021 ให้กลายเป็นโซนที่เต็มไปด้วย Select Shop มากมาย ตั้งแต่สินค้าแฟชั่นทั้งชายหญิง ร้านน้ำชาสวยๆ ไปจนถึงร้านชาไข่มุกเจ้าดังจากไต้หวัน ดีไซน์ก็ดูสวยงามโมเดิร์นเข้ากับตัวสถานีเซนไดอย่างลงตัว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

03 สถานียามากาตะ (Yamagata Station)

สถานียามากาตะเป็นสถานีแวะจอดของยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) และเป็นจุดเชื่อมสายรถไฟสำคัญของโทโฮคุที่ชื่อว่าสายโออุ (Ou Main Line) ซึ่งหากตั้งใจจะนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวไปเที่ยวหมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนชื่อดัง กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) ก็ต้องผ่านสถานีนี้ นอกจากชานชาลาแล้วตัวอาคารสถานียังเชื่อมกับโรงแรมและศูนย์การค้าเช่นกัน หากตั้งใจจะไปเที่ยวเมืองต่างๆ ในจังหวัดยามากาตะ เราว่าปักหลักพักใกล้สถานีนี้ก็เป็นไอเดียที่ดี

ภาพ: Facebook ホテルメトロポリタン山形 Hotel Metropolitan Yamagata ภาพ: yamagata.metropolitan.jp

หากมาทางบริเวณทางออกฝั่งตะวันออกของสถานียามากาตะจะพบกับ Hotel Metropolitan Yamagata ซึ่งอยู่ติดกับ Bus Terminal เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีสุดในยามากาตะก็คงไม่ผิด ด้านในดีไซน์ทันสมัย พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องพักมีให้เลือกหลากหลายขนาด ปูพื้นด้วยพรมลายสวยชวนให้รู้สึกอุ่นใจ พร้อมเตียงขนาดใหญ่นอนสบาย บนชั้น 2 มีห้องอาหาร Mogamitei ที่รังสรรค์วัตถุดิบชั้นดีจากยามากาตะให้กลายเป็นอาหารหรูหรา นอกจากนี้ยังมีอาคาร South Tower ที่เปิดให้บริการมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020 อีกด้วย สามารถจองห้องพักได้ที่นี่

ภาพ: www.s-pal.jp

สำหรับร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ด้านในห้างสรรพสินค้า S-PAL YAMAGATA หลายร้านสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาปลอดภาษี โดยหากใช้จ่ายที่ร้านที่มีป้าย Tax Free สีน้ำเงินหมายความว่าจะต้องนำใบเสร็จไปดำเนินการขอคืนภาษีที่เคาน์เตอร์คืนภาษีที่ชั้น 2 ส่วนร้านที่มีป้าย Tax Free สีแดงสามารถซื้อของในราคาปลอดภาษีได้ที่ร้านเลย สำหรับของฝากน่าซื้อก็ต้องตุ๊กตาไม้โคเคชิแสนน่ารักที่มีต้นกำเนิดในแถบนี้ หาซื้อได้ที่ร้าน Shobido บนชั้น 2 ดูรายละเอียดร้านอื่นๆ ได้ที่นี่

04 สถานีคิตาคามิ (Kitakami Station)

เนื่องจากอิวาเตะเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอนชู จึงมี สถานีรถไฟ ขนาดใหญ่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นที่นักเดินทางหลายคนเลือกแวะพักก็คือสถานีคิตาคามิ เนื่องจากสามารถเปลี่ยนจากรถไฟชินคันเซ็นเป็นรถไฟสาย โทโฮคุ (Tohoku Line) หรือสายคิตาคามิ (Kitakami Line) ได้ ด้านหน้าสถานียังมีโรงแรมและจุดเช่ารถยนต์ ตอบโจทย์สไตล์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย

ภาพ: www.hotelmets.jp

บริเวณรอบสถานีมีโรงแรมอยู่หลายแห่ง แต่ที่ใกล้ที่สุดเดินแค่ 1 นาทีถึงก็คือ JR-EAST HOTEL METS KITAKAMI ที่นี่ดีไซน์คุมโทนให้ดูเรียบง่าย มีห้องพักสำหรับเข้าพักคนเดียวเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คหรือนักธุรกิจที่มาทำงานนอกสถานที่ รวมไปถึงห้องพัก Concept Room Kitamami Wood ที่ดีไซน์โดยใช้วัสดุไม้เป็นหลักอันเป็นของขึ้นชื่อของเมืองคิตาคามิ อีกจุดที่น่ารักคือมุมร้าน METS SELECT MART ตรงชั้น 1 ที่นอกจากจำหน่ายของจำเป็นยามฉุกเฉิน ยังมีของชิ้นเล็กๆ น่าซื้อที่ทางโรงแรมคัดสรรมาอีกด้วย สามารถจองห้องพักได้ที่นี่

05 สถานีโมริโอกะ (Morioka Station)

ใจกลางเมืองโมริโอกะ (Morioka) ในจังหวัดอิวาเตะเป็นที่ตั้งของสถานีโมริโอกะ ซึ่งเป็นสถานีที่ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวโทโฮคุมักจะต้องแวะมา เพราะสามารถเดินทางต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลกัน ไม่ว่าจะเป็นสายทาซาวะโกะ (Tazawako Line) ที่พาไปยังทะเลสาบทาซาวะโกะในอาคิตะ สายยามาดะ (Yamada Line) ที่พาไปยังเมืองมิยาโกะ (Miyako) โซนติดทะเลยอดนิยมของอิวาเตะ เป็นต้น และแน่นอนว่าเนื่องจากเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่จึงมีโรงแรมและห้างสรรพสินค้าอยู่ในอาคารเดียวกันอีกด้วย

Hotel Metropolitan Morioka เป็นหนึ่งในโรงแรมในดวงใจเราเลย เพราะเขาดีไซน์ทั้งภายนอกภายในออกมามีกลิ่นอายแบบตะวันตกย้อนยุค แถมโลเคชั่นก็เพอร์เฟกต์เพราะมีทางเชื่อมจากสถานีมาถึงฟรอนต์เลย มีห้องพักสำหรับคนที่มาเที่ยวคนเดียวด้วย รวมถึงมีห้องพักแบบ Ladies Single สำหรับสาวแบ็คแพ็คลุยเดี่ยว จากหน้าต่างหลายห้องยังมองเห็นวิวรถไฟอีกด้วย สามารถจองห้องพักได้ที่นี่

ห่างกันเพียงไม่กี่นาทีด้วยการเดินเท้ายังมีอีกโรงแรมในเครือ JR EAST ชื่อว่า Hotel Metropolitan Morioka New Wing เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับโถงอันโออ่า ส่วนเรื่องห้องพักก็คือดีงาม ทั้งขนาดกว้างขวางพอให้กางกระเป๋าเดินทางได้แบบสบายๆ มีภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นและภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสที่หรูหรา บุฟเฟ่ต์เช้าของที่นี่ก็คัดสรรของดีจากจังหวัดอิวาเตะมาเสิร์ฟ แม้ที่ตั้งจะไม่ได้อยู่ติดกับตัวสถานีแต่ก็สามารถเดินได้ในเวลาเพียง 3 นาที สามารถจองห้องพักได้ที่นี่

ภาพ: Facebook 盛岡駅ビル フェザンภาพ: fesan-jp.com

ติดกับสถานีรถไฟโมริโอกะกับโรงแรม Hotel Metropolitan Morioka ยังมีห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโมริโอกะที่มีชื่อว่า FES”AN Morioka ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้าที่นักท่องเที่ยวตามหา อุดมด้วยร้านค้าปลอดภาษี สำหรับสินค้าไม่ควรพลาดก็ต้องเป็นของฝากอันดับ 1 จากโมริโอกะอย่าง Tamago no Kamome ขนมน่ารักๆ ที่หน้าตาคล้ายกับไข่ของนกนางนวล แต่สอดไส้ด้วยรสชาติต่างๆ ถ้าไปถูกช่วงอาจจะเจอรสชาติลิมิเต็ดด้วยล่ะ อย่าลืมแวะซื้อที่ร้าน Sanriku Kasho Saito (三陸菓匠さいとう) ที่อยู่ชั้น 1 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

06 สถานีอาคิตะ (Akita Station)

สถานีอาคิตะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของจังหวัดอาคิตะเพราะหากนั่งอาคิตะชินคันเซ็นมาจากโตเกียว ที่นี่ก็จะเป็นสถานีสุดท้ายก่อนเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวอาคิตะจึงมักเลือกที่พักใกล้สถานีอาคิตะ หากแวะมาที่นี่อย่าลืมถ่ายภาพคู่กับยักษ์นามาฮาเงะที่ตกแต่งอยู่ด้านในสถานีด้วย ส่วนใครที่ใฝ่ฝันอยากเจอกับสุนัขอาคิตะตัวเป็นๆ น้องจะมาอยู่ที่สถานีทุกวันเสาร์อาทิตย์ด้วยนะ

Hotel Metropolitan Akita ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟอาคิตะฝั่งทางออกตะวันตก ด้านหน้าเป็นท่ารถบัส ขนาบข้างด้วยห้างสรรพสินค้า จึงเรียกว่าเป็นโรงแรมทำเลทองของอาคิตะก็คงไม่ผิด ด้านดีไซน์ที่นี่นำเอกลักษณ์ความเป็นอาคิตะมาใช้อย่างลวดลายของต้น Akitabuki บนผ้าม่าน สำหรับห้องพักที่น่าสนใจคือห้องพักด้านบน Premium Floor ชั้น 8 กับ 9 เพราะนอกจากดีไซน์จะสวยถูกใจแล้ว ยังมองเห็นวิวรถไฟชินคันเซ็นรวมถึงทิวทัศน์อันคึกคักของตัวเมืองอาคิตะที่ต่างไปจากย่านอื่นที่เงียบสงบมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอาคาร North Wing ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021 ด้วย สามารถจองห้องพักได้ที่นี่

ภาพ: web.akita-townjoho.jp

นอกจากนี้สถานีรถไฟอาคิตะยังมีทางเข้าเชื่อมกับศูนย์การค้า Topico แน่นอนว่าที่นี่มีร้านค้ามากมาย แต่จุดที่น่าสนใจเป็นพิเศษเห็นจะเป็น Food Park บริเวณชั้น 1 เพราะเขารีโนเวทไปเมื่อปี ค.ศ. 2020 ปัจจุบันมีร้านอาหารหลากหลายสไตล์ แต่ที่อยากให้ลองคือร้าน LOCAL KITCHEN_RAILS AKITA คาเฟ่และภัตตาคารที่นำวัตถุดิบชั้นดีจากอาคิตะมารังสรรค์เป็นเมนูน่าอร่อย อาทิ ไก่ฮิไนจิโดริ เนื้อหมูคาซุโนะ ฯลฯ ถ้านั่งรถไฟมานานจนท้องร้อง มาที่นี่รับรองอิ่มแปล้แบบมีความสุข

07 สถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe Station)

นั่งโทโฮคุชินคันเซ็นจากโตเกียวรวดเดียวประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาทีจะถึงสถานีฮาจิโนเฮะ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่บริเวณตอนใต้ของจังหวัดอาโอโมริ จากที่นี่ผู้คนนิยมนั่งรถบัสต่อไปเที่ยวที่เมืองโทวาดะ (Towada) หรือเปลี่ยนไปนั่งรถไฟธรรมดาสายฮาจิโนเฮะ (Hachinohe Line) เพื่อเที่ยวชมความสวยงามของชายฝั่งทาเนซาชิ (Tanesashi Coast)

ภาพ: www.jrhotelgroup.com

JR-EAST HOTEL METS HACHINOHE เป็นโรงแรมเพียงแห่งเดียวที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฮาจิโนเฮะ ห้องพักเน้นความเรียบง่ายแต่นอนหลับสบายด้วยเตียง Nihon Bed สัญชาติญี่ปุ่น มีให้เลือกทั้งแบบเตียงคู่และเตียงเดี่ยว สำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียจะไปเที่ยวไหนต่อเป็นพิเศษ สามารถแวะไปที่ชั้น 2 เพราะมีเคาน์เตอร์ที่แนะนำการท่องเที่ยวเมืองฮาจิโนเฮะอยู่ด้วย ส่วนใครที่มีแพลนจะออกเดินทางแต่เช้า ที่โรงแรมนี้เขาก็เตรียมอาหารเช้าพร้อมรับประทานตั้งแต่ 6:15 น. เลยทีเดียว สามารถจองห้องพักได้ที่นี่

หนึ่งในของน่าซื้อที่สถานีฮาจิโนเฮะก็คือ Ekiben หรือข้าวกล่องที่จำหน่ายบริเวณสถานีรถไฟโดยคัดสรรวัตถุดิบจากเมืองฮาจิโนเฮะและพื้นที่ใกล้เคียงมารังสรรค์เป็นเบนโตะที่ดูมีเอกลักษณ์และน่ากินมากๆ อย่างหอยโฮตาเตะของที่นี่เขาตัวใหญ่จุใจมาก  สามารถซื้อแล้วเอาไปกินบนรถไฟชินคันเซ็นได้เลย

อ่านมาถึงตรงนี้คงพอเห็นภาพกันบ้างแล้วว่าเที่ยวโทโฮคุเป็นเรื่องสะดวกมาก เพราะนั่งชินคันเซ็นไม่นานก็ถึง ถ้าอยากเข้าเช็คอินเก็บของที่โรงแรมทันทีก็ใกล้สุดๆ อยากกินอาหารโลคอลหรือซื้อดีประจำถิ่นก็มีครบในละแวกสถานี ต้องลองพักโรงแรมที่ติดกับสถานีรถไฟชินคันเซ็นสักครั้งจะรู้ว่าทำให้เที่ยวสนุกขึ้นเยอะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังวางแผนเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุนะ