Akita : 13 กิจกรรมน่าสนใจและที่เที่ยวน่าไปในอาคิตะ

13 Best Activities in AKITA
กิจกรรมน่าสนใจและ ที่เที่ยว น่าไปใน อาคิตะ

เคยได้ยินชื่อจังหวัด อาคิตะ (Akita : 秋田) กันหรือเปล่า เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยไป ไม่รู้ว่าอาคิตะมีอะไรให้เที่ยว มีกิจกรรมอะไรที่น่าทำ ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลดีๆ กิจกรรมน่าทำและ ที่เที่ยว น่าไปในอาคิตะมาไว้ครบในบทความเดียว รับรองว่าอาคิตะจะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่คนชอบเที่ยวญี่ปุ่นอย่างเราต้องไปสัมผัสเสน่ห์และความน่ารักให้ได้สักครั้ง

ภาพ: あめまん

จังหวัดอาคิตะอยู่ตรงไหน ไปอาคิตะยังไงดี?

ภาพ: en.wikipedia.org

อาคิตะอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู ติดกับจังหวัดอาโอโมริ อิวาเตะ มิยากิ และยามากาตะ ถ้าดูแผนที่ก็อาจจะรู้สึกว่าไกล ไปยากแน่ๆ แต่ที่จริงแล้วเดินทางสะดวกจากโตเกียวโดยรถไฟ อาคิตะชินคันเซ็น (Akita Shinkansen) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที ราคา 17,780 เยน ซึ่งแนะนำให้ซื้อ JR East Pass Tohoku Area เพราะแค่นั่งขาไปราคาแทบจะเท่ากับตั๋วเที่ยวเดียวแล้ว

01 ตามหาสุนัข อาคิตะอินุ

ภาพ: あめまん

อาคิตะอินุ (Akita Inu) หรือ สุนัขอาคิตะ เป็นสุนัขสายพันธุ์น่ารักๆ ที่ราคาจำหน่ายสูงมากในประเทศไทย แน่นอนว่าต้นกำเนิดของน้องอยู่ที่จังหวัดอาคิตะนี่แหละ ระหว่างทางที่เดินเที่ยวในอาคิตะก็จะพบคนญี่ปุ่นที่จูงพาน้องเดินเล่นกันอยู่บ่อยครั้ง

ภาพ: thegate12.com

อาจเคยได้ยินชื่อของสุนัขฮาจิโกะ (Hajiko) ซึ่งเป็นเรื่องเล่าชื่อดังของญี่ปุ่นจนมีการสร้างรูปปั้นหน้าสถานีชิบูย่า (Shibuya) ในโตเกียว จนนักท่องเที่ยวทุกชาติต้องเดินทางมาถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นสุนัขฮาจิโกะพลางสูดกลิ่นบุหรี่แถวนั้นจนชุ่มปอด หลายคนเข้าใจผิดว่าฮาจิโกะเป็นสุนัขพันธุ์ชิบะ แต่ที่จริงเป็นสุนัขสายพันธุ์อาคิตะ

ภาพ: Twitter @odate_akitainu

เมืองโอดาเตะ (Odate) ซึ่งอยู่ติดกับเส้นแบ่งเขตจังหวัดอาคิตะกับอาโอโมรินั้นเป็นบ้านเกิดของฮาจิโกะ ทำให้ที่หน้าสถานีโอดาเตะ (Odate Station) มีรูปปั้นของฮาจิโกะอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งหน้าตาก็จะแตกต่างกับเวอร์ชั่นที่ชิบูย่า แถมไม่มีคนล้อมกันแน่น นี่แหละจุดถ่ายรูปที่ระลึกที่ดีที่สุด และถ้าอยากเล่นกับสุนัขอาคิตะตัวเป็นๆ แนะนำให้ลองไปที่อาคิตะอินุโนะซาโตะ (Akita Inu no Sato)

Info
อาคิตะอินุโนะซาโตะ (Akita Inu no Sato / Akita Dog Visit Center : 秋田犬の里)
Location: เมืองโอดาเตะ (Odate) จังหวัดอาคิตะ
Period: เมษายนถึงตุลาคม 9:00-18:00 น., พฤศจิกายนถึงมีนาคม 9:00-17:00 น.
Holiday: 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีโอดาเตะ (Odate Station)
Access: สถานีโอดาเตะ เดินประมาณ 3 นาที
Website: akitainunosato.jp

02 ลองไอศกรีม คุณป้าบาบะเฮระ

ป้าบาบะเฮระ (Babahera) เป็นชื่อเรียกแฟรนด์ไชส์รถเข็นขายไอศกรีมที่แพร่หลายไปทั่วจังหวัดอาคิตะ โดยนอกจากป้ายที่เขียนว่า ババヘラアイス (บาบาเฮระไอซ์) แล้วยังมีจุดเด่นอยู่ที่พนักงานขายซึ่งส่วนใหญ่เป็นคุณป้าวัยเก๋าที่มาพร้อมบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์

และที่ต้องตกตะลึงคือเทคนิคการตกไอศกรีมใส่โคน ที่แม้ว่าจะใช้ช้อนตักไอศกรีมธรรมดาๆ แต่ทำเป็นรูปดอกไม้น่ารักๆ ได้อย่างเชี่ยวชาญ อีกทั้งรสชาติก็ดีงามมาก ว่ากันว่าเคล็ดลับความหวานอร่อยมาจากความรักที่คุณป้าบาบาเฮระใส่ลงไป นอกจากแบบโคนยังมีไอศกรีมแบบถ้วยและน้ำแข็งไสสไตล์อาคิตะให้ได้เลือกลิ้มลองกันอีกด้วย

Info
บาบาเฮระไอซ์ (Babahera Ice-cream : ババヘラアイス)
Location: ปรากฏตัวบริเวณริมถนน ลานกว้างที่จัดงานเทศกาล และห้างสรรพสินค้าทั่วจังหวัดอาคิตะ
Period: กลางมีนาคมถึงต้นพฤศจิกายน
Website: www.babahera.net

03 นั่งจอยฟูลเทรนชมมรดกโลก ชิราคามิซันจิ

ภาพ: East Japan Railway Company

นั่งรถไฟสวยๆ ชมวิวสวยๆ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดที่อาคิตะ เพราะมีรถไฟแสนสนุกที่ชื่อว่า รีสอร์ทชิราคามิ (Resort Shirakami) ให้บริการสายโกะโน (Gono Line) ระหว่างอาโอโมริและอาคิตะ ซึ่งรถไฟขบวนนี้จะแบ่งดีไซน์ออกเป็น 3 แบบ และระหว่างเคลื่อนขบวนก็จะมีกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ให้เราได้สัมผัสเสน่ห์ของอาคิตะ ไม่ว่าจะเป็นการบรรเลงชามิเซ็น เชิดหุ่นกระบอก ฯลฯ

ไฮไลท์ของทริปรถไฟขบวนนี้อยู่ที่ทิวทัศน์ระหว่างทาง ซึ่งสามารถชื่นชมกับความสวยงามของ ชิราคามิซันจิ (Shirakami Sanchi) ที่ยูเนสโกรับรองให้เป็นมรดกโลก ไม่ว่าจะไปตอนฤดูไหนก็มีความงดงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Resort Shirakami ได้ที่นี่

Info
Route: ระหว่างสถานีอาคิตะ (Akita Station) ถึงสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) สายโกะโน (Gono Line)
Website: www.jreast.co.jp

04 ทำข้าวจี่สไตล์ญี่ปุ่น คิริทัมโปะ

คิริทัมโปะ (Kiritampo) เป็นอาหารพื้นเมืองชื่อดังของจังหวัดอาคิตะ โดยเฉพาะที่เมืองโอดาเตะนั้นถือเป็นโซลฟู้ดหรืออาหารที่เป็นชีวิตจิตใจของชาวเมืองเลยด้วย จึงไม่แปลกถ้าเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้านอิซากายะในอาคิตะแล้วจะพบเมนูที่เสิร์ฟพร้อมคิริทัมโปะอย่าง คิริทัมโปะนาเบะ (Kiritampo Nabe)

กินไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากกว่ากินก็คือขั้นตอนการทำ ซึ่งที่อาคิตะมีเวิร์คช็อปสอนทำคิริทัมโปะแบบง่ายๆ อยู่หลายแห่งตั้งแต่ขั้นตอนการบดข้าวสวย นำมาปั้นบนไม้เสียบ จนถึงตอนนำไปปรุงรสและย่างไฟ ได้ลองทำและกินคิริทัมโปะฝีมือตัวเองสักครั้ง คงเป็นความทรงจำที่แสนดีของทริปอาคิตะในครั้งนี้

※ รีวิวคอร์สทำคิริทัมโปะที่ฟาร์มสเตย์ในอาคิตะ

05 ซู้ดเส้นอินานิวะอุด้ง

ถ้าเอ่ยถึงเมนูประเภทเส้นที่โด่งดังของอาคิตะก็ต้อง อินานิวะอุด้ง (Inaniwa Udon) ซึ่งต่างจากอุด้งที่เราคุ้นเคยกันอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่เส้นที่เรียวเล็กกว่าแต่คีบติดตะเกียบได้ง่าย กินง่าย ซู้ดคล่องคอกว่าเส้นอุด้งทั่วไปที่เส้นอ้วนกลม หากจ้องดีๆ จะเห็นความนวลใสแวววับ ถือเป็น 1 ใน 3 สุดยอดอุด้งของญี่ปุ่นเลยด้วย

ภาพ: www.sato-yoske.co.jp

อินานิวะอุด้งมีต้นกำเนิดที่เมืองยุซาวะ (Yuzawa) ซึ่งถือเป็นเมืองใต้สุดของจังหวัดอาคิตะ โดยร้านผู้คิดค้นคือ ร้านซาโต้ ยูสุเกะ (Sato Yosuke Shoten Flagship Store) ก่อนจะแพร่หลายไปทั่วจังหวัด เรียกได้ว่าถ้าไปเที่ยวอาคิตะแล้วไม่ได้ซู้ดเส้นอินานิวะลงคอสักครั้งก็เท่ากับว่าไปไม่ถึง

Info
ร้านซาโต้ ยูสุเกะ สาขาใหญ่ (Sato Yosuke Shoten Flagship Store : 佐藤養助 総本店)
Location: เมืองยุซาวะ (Yuzawa) จังหวัดอาคิตะ
Hours: 11:00-17:00 น.
Holiday: 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม
Nearest Station: สถานียุซาวะ (Yuzawa Station)
Access: นั่งแท็กซี่จากสถานียุซาวะ (Yuzawa Station) 20 นาที
Website: www.sato-yoske.co.jp

06 นั่งเรือชมวิวทะเลสาบทาซาวะ

ทะเลสาบทาซาวะ (Lake Tazawa / Tazawako) เป็นแหล่งน้ำสำคัญของโทโฮคุที่มีความงดงามตามธรรมชาติ โดยจุดที่น้ำลึกที่สุดนั้นลึกถึง 423.4 เมตร ในขณะเดียวกันน้ำนั้นมีสีออกน้ำเงินเข้มและนิ่งสนิทราวกับกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภูเขาสูงที่รายล้อมอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีกับฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมโดยรอบก็จะสวยเป็นพิเศษ

การจะดื่มดำบรรยากาศดีๆ ของทะเลสาบทาซาวะ จะแค่นั่งรถบัสไป ชะเง้อทักทายหนองน้ำเสร็จแล้วกลับทันทีก็น่าเศร้าไปหน่อย เพราะเรายังสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ชมโดยรอบได้ระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึง 5 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวน้ำไม่กลายสภาพเป็นแผ่นน้ำแข็งนั่นเอง

Info
เรือนำเที่ยวทะเลสาบทาซาวะ (Tazawako Yuransen : 田沢湖 遊覧船)
Location: เมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ
Period: 26 เมษายนถึง 5 พฤศจิกายน 9:00-16:00 น.
Fare: 520-1,220 เยน
Nearest Station: สถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station)
Access: นั่งแท็กซี่จากสถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station) 11 นาที
Website: ugokotsu.co.jp

07 แช่บ่อน้ำพุร้อนเอาท์ดอร์ที่นิวโตออนเซ็น

ได้เที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ยิ่งถ้าไปจังหวัดที่อากาศเย็นตลอดปีอย่างอาคิตะ ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้แช่บ่อน้ำพุร้อนแบบเอาท์ดอร์เพื่อปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาให้เป็นปลิดทิ้ง โดยจุดที่แนะนำคือ นิวโตออนเซ็น (Nyuto Onsen) ซึ่งเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่อยู่ในหุบเขาลึกของเมืองเซมโบกุ (Semboku) ด้วยทำเลที่เดินทางค่อนข้างลำบาก ทำให้ปลีกวิเวกจากความวุ่นวายได้ดีมากๆ

หมู่บ้านนิวโตออนเซ็นมีจุดที่น้ำพุร้อนธรรมชาติผุดขึ้นมามากกว่า 10 บ่อ และที่พัก 7 แห่ง ซึ่งหากพักที่โรงแรมใดโรงแรมหนึ่งก็จะสามารถซื้อคูปองสำหรับแช่บ่อน้ำพุร้อนได้ทั้งหมด ว่ากันว่าบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมดนั้นมีคุณสมบัติช่วยบำบัดโรคต่างๆ อย่างได้ผลชะงัด ถ้าคุณเป็นคนรักการแช่ออนเซ็น บอกได้เลยว่านิวโตออนเซ็นจะเป็นออนเซ็นอีกแห่งที่น่าประทับใจอย่างมาก

ภาพ: www.nyuto-onsenkyo.com

Info
นิวโตออนเซ็น (Nyuto Onsen : 乳頭温泉)
Location: เมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ
Nearest Station: สถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station)
Access: นั่งรถไฟ Akita Shinkansen มาที่สถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station) จากนั้นนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 47 นาที
Website: ryokan.glocal-promotion.com

08 เก็บเกาลัดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

อาจคุ้นเคยกับการเก็บสตรอว์เบอร์รี เก็บเชอร์รี่กันมาบ้างแล้ว แต่คิดว่าเก็บเกาลัดน่าจะไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไรนัก โดยเฉพาะเกาลัดลูกยักษ์ของอาคิตะที่เรียกกันว่า ไซเมียวจิกุริ (Saimyojiguri) มีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นเด็กเล็ก สามารถเก็บได้ตลอดเดือนตุลาคม โดยสวนเก็บเกาลัดที่แนะนำคือ สวนเกาลัดซาซากิ (Sasakiritsu Orchards)

ภาพ: kakunodate-puti.com

Info
สวนเกาลัดซาซากิ (Sasakiritsu Orchards : 佐々木栗園)
Location: เมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ
Hours: ตุลาคม 9:00-16:00 น.
Holiday: ไม่มี
Price: 1 กิโลกรัม 800 เยน
Nearest Station: สถานียัตสึ (Yatsu Station)
Access: จากสถานียัตสึ เดินประมาณ 13 นาที

09 นั่งรถไฟท้องถิ่นชมศิลปะบนผืนนา

ภาพ: Twitter @tetsu_tabito

ถ้ามีโอกาสได้ไปอาคิตะในช่วงฤดูร้อน หรือตั้งแต่กรกฎาคมถึงกันยายน อย่าลืมนั่ง รถไฟสายไนริคุ (Nairiku Line) เพื่อชมงานศิลปะที่สร้างบนนาข้าว อย่างเช่นบริเวณชานชาลาสถานีโอกาตะ (Ogata Station) ในเมืองคิตะอาคิตะ (Kitaakita) จะปรากฏภาพของรูปปั้นในโบราณสถานที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง พร้อมกับสุนัขอาคิตะน่ารักๆ

10 ย้อนเวลาชมบ้านซามูไรที่คาคุโนะดาเตะ

ภาพ: Daphnia

จุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของอาคิตะนั้นก็คือ หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai House) ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านซามูไรโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิดอกซากุระก็จะบานสะพรั่งเป็นทิวแถว หรือในฤดูใบไม้ร่วงก็จะเต็มไปด้วยใบไม้สีเหลืองส้มปกคลุมทั่วถนน ไม่ว่าจะมุมไหนก็งดงามจนได้รับการขนานนามว่า “เกียวโตน้อยแห่งมิจิโนะกุ” แต่คนไม่แน่นจนต้องแย่งกันหามุมถ่ายรูปแบบที่เกียวโต

ภาพ : あめまん

Info
หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai House : 角館武家屋敷)
Location: เมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ
Nearest Station: สถานีคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station)
Access: จากสถานีคาคุโนะดาเตะ เดินประมาณ 15 นาที

11 ทำความรู้จักกับยักษ์นามาฮาเงะ

ภาพ: バカボン君

นามาฮาเงะ (Namahage) เป็นข้ารับใช้ของพระเจ้าที่หน้าตาคล้ายยักษ์ โดยมีหน้าที่ออกมาลักพาตัวเด็กดื้อขึ้นไปอยู่บนภูเขาในวันสิ้นปี ซึ่งถ้าไปที่ พิพิธภัณฑ์นามาฮาเงะ (Namahage Museum) ในเมืองโองะ (Oga) ก็จะได้ชมหุ่นนามาฮาเงะที่จัดแสดงมากมายหลายรูปแบบให้เราได้ทำความรู้จัก

ภาพ: www.akitafan.com

แต่ถ้าอยากพบกับนามาฮาเงะที่เคลื่อนไหวได้ต้องไปอาคิตะในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ในสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เพราะจะมีเทศกาลนามาฮาเงะ (Namahage Festival) ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการมาก

ภาพ: oganavi.com

Info
พิพิธภัณฑ์นามาฮาเงะ (Namahage Museum : なまはげ館)
Location: เมืองโองะ (Oga) จังหวัดอาคิตะ
Hours: 8:30-17:00 น.
Holiday: ไม่มี
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็ก 275 เยน (รวมภาษี)
Nearest Station: สถานีฮาดาจิ (Hadachi Station)
Access: จากสถานีฮาดาจิ นั่งแท็กซี่ประมาณ 15 นาที
Website : www.namahage.co.jp

12 ตื่นตากับงานดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่โอมาการิ

ภาพ: あめまん

ถ้าชื่นชอบดอกไม้ไฟ อาคิตะจะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นจัดขึ้นใกล้กับสถานีโอมาการิ (Omagari Station) ที่เมืองไดเซ็น (Daisen) โดยความยิ่งใหญ่นั้นเกิดจากการประชันฝีมือกันระหว่างทีมผู้เชี่ยวชาญดอกไม้ไฟระดับประเทศ แต่ละทีมก็งัดฝีมือในการครีเอทโชว์ดอกไม้ไฟกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

ภาพ: あめまん

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานประกวดดอกไม้ไฟที่โอมาการิ ได้ที่นี่

Info
งานประกวดดอกไม้ไฟจากทั่วญี่ปุ่นที่โอมาการิ (Omagari All Japan Fireworks Competition : 全国花火競技大会「大曲の花火」)
Period: ปลายสิงหาคม (ของปี พ.ศ. 2563 จัดวันที่ 29 สิงหาคม)
Access: เดินจากสถานีโอมาการิ (Omagari Station) ประมาณ 25 นาที
Nearest Station: สถานีโอมาการิ (Omagari Station)
Website: www.oomagari-hanabi.com

13 สัมผัสการใช้ชีวิตในกระท่อมหิมะ

ภาพ: www.pref.akita.lg.jp

ปิดท้ายด้วยกิจกรรมหนาวๆ สำหรับคนไปเที่ยวอาคิตะในฤดูหนาว ซึ่งมีเทศกาลที่หนาวจับใจระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ที่เมืองโยโกเตะ (Yokote) ใช้ชื่อว่า เทศกาลโยโกเตะคามาคุระ (Yokote Kamakura Festival) ไฮไลท์อยู่ที่กระท่อมหิมะคล้ายอิกลูของชาวเอสกิโมซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ไม่ต้องไปถึงขั้วโลกเหนือก็สามารถสัมผัสชีวิตแบบชาวขั้วโลกได้เช่นกัน และยังมีกระท่อมน้ำแข็งขนาดจิ๋วนับพันที่แสนโรแมนติกที่จะส่องสว่างในยามค่ำคืน

ภาพ: あめまん

Info
เทศกาลโยโกเตะคามาคุระ (Yokote Kamakura Festival : 横手のかまくら祭り)
Period: 15-16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 18:00-21:00 น.
Access: เดินจากสถานีโยโกเตะ (Yokote Station) ประมาณ 10 นาที
Nearest Station: สถานีโยโกเตะ (Yokote Station)

ญี่ปุ่นไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อจริงๆ ยังมี ที่เที่ยว น่าสนใจใน อาคิตะ อยู่อีกมาก หากสนใจสามารถดูตามไปอ่านสถานที่อื่นๆ ในอาคิตะเพิ่มเติมได้ที่นี่