TOHOKU in Winter : 9 สิ่งที่ต้องทำในฤดูหนาวที่ โทโฮคุ
สารบัญ
- 01 เติมพลังท้องด้วยบุฟเฟ่ต์หอยนางรม
- 02 ล่องแม่น้ำชมหิมะแบบอุ่นๆ
- 03 สนุกกับเทศกาลหิมะและซากุระที่ปราสาทฮิโรซากิ
- 04 แอบย่องส่องปีศาจหิมะ
- 05 แช่ออนเซ็นท่ามกลางหมู่บ้านหิมะ
- 06 สัมผัสกำแพงหิมะ
- 07 อิ่มเอมกับรสชาติแห่งท้องทะเล
- 08 ดื่มด่ำค่ำคืนแห่งไฟประดับ
- 09 ชมวิวหิมะจากที่นั่งสุดพิเศษบนรถไฟ
- JR EAST PASS (Tohoku area) บัตรนั่งรถไฟไม่อั้นทั่วภูมิภาคโทโฮคุ
☃️ TOHOKU in Winter ❄️
9 สิ่งที่ต้องทำใน ฤดูหนาว ที่ โทโฮคุ
ภาพ : www.photo-ac.com
ภูมิภาคโทโฮคุคือบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู 6 จังหวัด ได้แก่ ฟุกุชิมะ, มิยากิ, ยามากาตะ, อิวาเตะ, อาคิตะ และอาโอโมริ จัดเป็นพื้นที่ที่หิมะตกหนักในฤดูหนาว (ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมีนาคม) จนกลายเป็นเมืองหิมะที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่หิมะ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสลมหนาวและอยากเห็นหิมะทับถมกองพะเนินแบบจัดเต็ม โดยเราได้รวบรวม 9 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวที่ โทโฮคุ เพื่อทริป ฤดูหนาว อันสมบูรณ์แบบ
01 เติมพลังท้องด้วยบุฟเฟ่ต์หอยนางรม
OYSTER BUFFET
ภาพ : www.tabirai.net
กองทัพเดินได้ด้วยท้อง เช่นเที่ยวกับทริปท้าลมหนาวที่เราควรเติมความอบอุ่นให้แก่ร่างกายด้วยอาหารร้อนๆ ปรุงสุกใหม่ ซึ่งไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่าบุฟเฟ่ต์หอยนางรมย่างสดๆ เพียงนั่งรถไฟ JR Tohoku Line มาลงที่สถานีมัตสึชิมะไคกัง (Matsushimakaigan Station) ซึ่งเป็นย่านติดทะเลในจังหวัดมิยากิ ก็จะได้กลิ่นหอมๆ ของหอยนางรมย่างฟุ้งมาเตะจมูก
ภาพ : 4travel.jp
มัตสึชิมะเป็นแหล่งประมงหอยนางรมซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่พบมากในฤดูหนาว ร้านอาหารทะเลจำนวนมากจึงให้บริการบุฟเฟ่ต์หอยนางรมย่างสดๆ บนเตาขนาดใหญ่ โดยเรทราคาทั่วไปจะอยู่ที่ 2,500 เยน จำกัดเวลาที่ 45 นาที ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
ภาพ : enfant.living.jp
เมื่อเข้าประจำที่ ก่อนรับประทานทางร้านจะส่งถุงมือและมีดสำหรับใช้แซะหอยออกจากเปลือก นอกจากนี้ทางร้านยังเตรียมผ้ากันเปื้อนทำจากกระดาษ และถุงพลาสติกสำหรับใส่โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ และของใช้ส่วนตัวของเรา เพื่อไม่ให้ติดกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของหอยนางรมกลับออกไปด้วยนั่นเอง
Info
สถานีมัตสึชิมะไคกัง (Matsushimakaigan Station : 松島海岸駅)
Address : Namiuchihama Matsushima-cho, Miyagi-gun, Miyagi-ken
Access : นั่งรถไฟ JR Senseki Line จากสถานีเซนได (Sendai Station) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
02 ล่องแม่น้ำชมหิมะแบบอุ่นๆ
WARM BOAT RIDE
“อยากชมวิวหิมะเรื่อยๆ แต่หนาวจนไม่อยากเดิน” ความรู้สึกนั้นจะหมดไปเพราะที่ภูมิภาค โทโฮคุ มีจุดล่องเรือชมวิวหิมะสวยๆ อย่างที่แม่น้ำโมกามิในยามากาตะ และหุบเขาเกบิเคในอิวาเตะ ซึ่งเรือที่ว่านั้นมีการติดตั้งเครื่องทำความร้อน (Kotatsu) อยู่ภายในเรือ จึงสามารถชมความสวยงามใน ฤดูหนาว ของทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำโดยไม่รู้สึกถึงความหนาวเลยแม้แต่นิด
แม่น้ำโมกามิ (Mogami River : 最上川)
ภาพ : mogami.fun
แม่น้ำโมกามิ เป็นจุดล่องเรือชมวิวชื่อดังในจังหวัดยามากาตะ โดยมีความสำคัญคือเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในจังหวัดและจัดให้อยู่ Top 3 แม่น้ำที่ไหลเชี่ยวที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย วิวที่ได้ชมระหว่างล่องเรือนั้นย่อมแตกต่างจากวิวที่มองผ่านหน้าต่างรถไฟอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรือของที่นี่จะเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้เราสามารถเก็บรายละเอียดวิวสวยๆ ทุกอณูในฤดูหนาวได้อย่างเต็มอิ่ม
ภาพ : 4travel.jp
จุดเด่นของเรือนำเที่ยวที่ให้บริการที่แม่น้ำโมกามินั้นจะเป็นแบบเที่ยวเดียว ขึ้นที่ท่าเรือฟุรุคุจิ (Furukuchi Port) ลงที่ท่าเรือคุซานางิ (Kusanagi Port) และแม้จะมีผู้โดยสารเพียงคนเดียว เรือก็จะออกตรงตามตารางเวลา อีกทั้งระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคมซึ่งเป็นช่วงที่อากาศหนาวจะมีการติดตั้งเครื่องทำความร้อนภายในเรือ จึงไม่ต้องกลัวว่าต้องนั่งเกร็งทนลมหนาวปะทะหน้าจนแห้งตึง
Info
บริษัทล่องเรือบะโชไลน์ แม่น้ำโมกามิ (Mogami River Basyo Line : 最上川芭蕉ライン)
Address : 86-1 Furukuchi Tozawa-mura, Mogami-gun, Yamagata-ken
Hours : 8:30-17:00 น. (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล)
Charge : (เที่ยวเดียว) ผู้ใหญ่ 2,500 เยน, เด็กชั้นประถมศึกษา 1,250 เยน (รวมภาษี)
Nearest Station : สถานีฟุรุคุจิ (Furukuchi Station)
Access : นั่งรถไฟ Yamagata Shinkansen มาที่สถานีชินโจ (Shinjo Station) จากนั้นนั่งรถไฟสายริคูเวสต์ (Rikuu West Line) มาลงที่สถานีฟุรุคุจิ (Furukuchi Station) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 8 นาที
Website : www.blf.co.jp
หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge : 猊鼻渓)
ภาพ : www.geibikei.co.jp
อีกหนึ่งจุดที่ว่ากันว่าควรแก่การล่องเรือชมวิวธรรมชาติได้สวยทุกฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่เต็มไปด้วยหิมะ นั่นก็คือบริเวณ หุบเขาเกบิเค ในจังหวัดอิวาเตะซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่วิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น เราสามารถล่องเรือชมทัศนียภาพเหนือแม่น้ำซะเท็ตสึ (Satetsu River) ที่ประกบข้างด้วยผาหินลาวาสูง 40 เมตรทั้งสองฟากฝั่งได้ตลอดระยะทาง 2 กิโลเมตร
ภาพ : www.iwanichi.co.jp
ภายในเรือโดยสารจะติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้โต๊ะที่เรียกกันว่า “โคทัตสึ” สร้างความอบอุ่นให้เราจนลืมไปเลยว่าอากาศภายนอกนั้นหนาวแค่ไหน โดยมีรอบออกเรือทุกชั่วโมงในราคาผู้ใหญ่คนละ 1,800 เยนใช้เวลาล่องเรือประมาณ 90 นาที จนถึงเนินมิโยชิกาโอกะ (Miyoshigaoka) จากนั้นจะวกเรือกลับมาที่จุดเดิม งานนี้ต่อให้ใครไม่ชอบอากาศหนาวก็สามารถชมทิวทัศน์หน้าหนาวได้แบบสบายๆ เลย
Info
ศูนย์การท่องเที่ยวล่องเรือหุบเขาเกบิเค (Geibikei Funakudari Kanko Center : 猊鼻渓舟下り観光センター)
Address : 467 Machi Higashiyamacho Nagasaka-cho, Ichinoseki-shi, Iwate-ken
Hours : 8:30-16:30 น. (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล)
Charge : (ไปกลับ) ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็กชั้นประถมศึกษา 900 เยน, เด็กเล็ก 200 เยน
Nearest Station : สถานีเกบิเค (Geibikei Station)
Access : นั่งรถไฟ Tohoku-Hokkaido Shinkansen มาที่สถานีอิจิโนะเซกิ (Ichinoseki Station) จากนั้นนั่งรถไฟสายโอฟุนาโตะ (Ofunato Line) มาลงที่สถานีเกบิเค (Geibikei Station) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาที
Website : www.geibikei.co.jp
03 สนุกกับเทศกาลหิมะและซากุระที่ปราสาทฮิโรซากิ
SAKURA BLOOMING IN WINTER
ภาพ : tabi-mag.jp
ที่ โทโฮคุ นั้นมีเทศกาล ฤดูหนาว ที่น่าสนใจอยู่มากมาย แต่หนึ่งในนั้นที่ขอแนะนำเป็นพิเศษอยู่ที่สวนฮิโรซากิ (Hirosaki Park) ภายในเมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ บริเวณใจกลางสวนเป็นที่ตั้งของปราสาทฮิโรซากิ และยังเป็นจุดชมซากุระขึ้นชื่อด้วยต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น
ภาพ : Twitter @non_sv01
แม้ในฤดูหนาวจะไม่มีดอกซากุระให้ได้เชยชม แต่เกล็ดหิมะที่เกาะกิ่งก้านต้นซากุระยามต้องกับแสงไฟประดับสีชมพูสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นราวกับดอกซากุระได้เบ่งบานอีกครั้งท่ามกลางอากาศหนาว รวมถึงมีการจัดไฟประดับต่อเนื่องยาวๆ ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์บริเวณฝั่งประตูโอเทมง (Otemon Exit)
ภาพ : www.city.hirosaki.aomori.jp
ถ้าไปในช่วง 8-11 ก.พ. 63 จะมีงานเทศกาลโคมไฟหิมะปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle Snow Lantern Festival) ซึ่งเป็น 1 ในเทศกาล ฤดูหนาว ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โทโฮคุ โดยจะมีการประดับโคมไฟหิมะและแกะสลักก้อนหิมะเป็นรูปทรงต่างๆ ที่ล้วนแต่เป็นงานฝีมือจากชาวเมืองฮิโรซากิทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากรูปสลักน้ำแข็งที่น่าทึ่งแล้ว สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือการฉาย Projection Mapping บนงานศิลปะขนาดใหญ่สีขาวโพลน เกิดเป็นแสงสีอันแสนประทับใจในยามค่ำคืน
ภาพ : hirosaki.keizai.biz
Info
สวนฮิโรซากิ (Hirosaki Park : 弘前公園)
Address : 1 Shimoshiroganecho, Hirosaki-shi, Aomori-ken
Hours : เปิด 24 ชั่วโมง (ยกเว้นปราสาท, สวนดอกไม้ ฯลฯ)
Entrance Fee : ฟรี (ยกเว้นปราสาท, สวนดอกไม้ ฯลฯ)
Nearest Station : สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access : นั่งรถไฟ Tohoku-Hokkaido Shinkansen มาที่สถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori Station) จากนั้นนั่งรถไฟสายโออุ (Ou Line) มาลงที่สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station) นั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 10 นาที
Website : www.hirosakipark.jp
04 แอบย่องส่องปีศาจหิมะ
FIND SNOW MONSTERS
ภาพ : jp.zekkeijapan.com
เรื่องเล่าสยองขวัญของญี่ปุ่นมักจะมีคำกล่าวที่ว่า “เมื่อหิมะตกหนัก ปีศาจหิมะจะออกมา” ทำให้คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเชื่อกันว่ามีปีศาจหิมะที่สิงสถิตอยู่ตามภูเขาต่างๆ แต่ถ้านักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเราๆ อยากจะเห็นปีศาจหิมะด้วยตาตัวเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะบนภูเขาหลายลูกในภูมิภาคโทโฮคุเป็นศูนย์รวมปีศาจหิมะที่ทั้งน่ากลัวและน่าดูชมในเวลาเดียวกัน จะมีที่ไหนบ้างเลื่อนลงมาดูกันเลย
ภูเขาซาโอะ (Mt. Zao : 蔵王山)
ภาพ : aomori.sugisan.biz
จุดแรกที่แนะนำคือ ภูเขาซาโอะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะบ่อน้ำพุร้อน แต่พิเศษสำหรับฤดูหนาวก็ต้องเป็นปีศาจหิมะ หรือเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นกันว่า จุเฮียว (Juhyo) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ก้อนน้ำแข็งเกาะติดกับต้นไม้จนเกิดรูปร่างคล้ายปีศาจหิมะขนาดยักษ์ วิวฝูงปีศาจหิมะที่ดูเยือกเย็นระหว่างที่กำลังนั่งกระเช้านั้นเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษจริงๆ
ภาพ : zaoropeway.co.jp
นอกจากนี้ในช่วงค่ำระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ถึง 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 จะมีการจัดแสงไฟหรือคนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “ไลท์อัพ” ทำให้ทุ่งปีศาจหิมะมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง จะโรแมนติกหรือน่ากลัวก็แล้วแต่จินตนาการละนะ
Info
ภูเขาซาโอะ (Mt. Zao : 蔵王山)
Address : Zao Onsen, Yamagata-shi, Yamagata-ken
Lighting up Period : 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ถึง 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
Access : นั่งรถไฟ Yamagata Shinkansen มาที่สถานียามากาตะ (Yamagata Station) จากนั้นนั่งรถบัสอีก 45 นาที มาลงที่สถานีซาโอะซันโรกุ (Zao Sanroku Station) จากนั้นขึ้นกระเช้ามาลงที่สถานีจุเฮียวโคเก็น (Juhyokogen Station) ราคาไปกลับ 1,500 เยน
Website : www.kankou.yamagata.yamagata.jp
ภูเขาโมริโยชิ (Mt. Moriyoshi : 森吉山)
ภาพ : www.pakutaso.com
ภูเขาโมริโยชิ เป็นภูเขาไฟในจังหวัดอาคิตะที่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 1.5 กิโลเมตร และเป็นจุดชมดอกไม้หายากที่ขึ้นบนเขตภูเขาสูง และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวหิมะก็จะตกหนักมากๆ ทำให้ป่าไม้แปลงโฉมเป็นฝูงปีศาจหิมะ โดยสามารถขึ้นกระเช้าตรงไปจุดที่มีปีศาจหิมะเพื่อสัมผัสและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้อย่างใกล้ชิด
Info
ภูเขาโมริโยชิ (Mt. Moriyoshi : 森吉山)
Address : Moriyoshi, Kitaakita-shi, Akita-ken
Snow Monster Period : ต้นมกราคมถึงต้นมีนาคม
Access : นั่งรถไฟ Akita Shinkansen มาที่สถานีคาคุโนดาเตะ (Kakunodate Station) เปลี่ยนไปนั่ง Akita Nairiku Jukan Tetsudo Rail มาลงที่สถานีอานิไอ (Aniai Station) จากนั้นนั่งแท็กซี่ไปจุดขึ้นกระเช้าอีกประมาณ 40 นาที
Website : www.aniski.jp
ภูเขาฮักโกดะ (Mt. Hakkoda : 八甲田山)
ภาพ : sumapo.com
ปิดท้ายด้วย ภูเขาฮักโกดะ หนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นกลุ่มภูเขาไฟสูงเสียดฟ้าหลายๆ ลูก ทางตอนใต้ของจังหวัดอาโอโมริ ใกล้เคียงมีจุดท่องเที่ยวมากมายอย่าง ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) แต่สำหรับหน้าหนาวแล้ว สิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาชมภูเขาไฟที่กลายเป็นภูเขาหิมะแห่งนี้นั่นก็คือฝูงปีศาจหิมะตัวโตที่ปรากฏตัวออกมาเต็มไปหมด
Info
ภูเขาฮักโกดะ (Mt. Hakkoda : 八甲田山)
Address : Fukazawa Komagome, Aomori-shi, Aomori-ken
Snow Monster Period : กุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
Access : นั่งรถไฟ Tohoku-Hokkaido Shinkansen มาที่สถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori Station) จากนั้นเดินมาขึ้นรถบัสบริเวณหน้าสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) มาลงที่หน้าทางขึ้นสถานีกระเช้าฮักโกดะ (Hakkoda Ropeway Ekimae) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ราคาเที่ยวละ 1,100 เยน จากนั้นขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังด้านบนภูเขา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ราคาไปกลับ 2,000 เยน
Website : www.hakkoda-ropeway.jp
05 แช่ออนเซ็นท่ามกลางหมู่บ้านหิมะ
ONSEN WITH SNOW
ภาพ : www.nyuto-onsenkyo.com
หมู่บ้านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงติดอันดับท็อปๆ ของญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ด้วยทัศนียภาพธรรมชาติอันสวยงามประกอบกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่นอันโดดเด่น และแน่นอนว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การแช่น้ำร้อนคลายหนาวก็ต้องหน้าหนาวที่หนาวจัด เพราะด้วยอุณหภูมิอากาศและอุณหภูมิน้ำร้อนที่ยิ่งแตกต่างกันมากเพียงใด ความฟินก็จะยิ่งบังเกิดมากเท่านั้น โดยเราคัดเลือกหมู่บ้านออนเซ็น 2 แห่งที่ควรค่าแก่การไปมากที่สุด
กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen : 銀山温泉)
ภาพ : www.obane-kankou.jp
กินซังออนเซ็น ที่เมืองโอบานาซาวะ (Obanazawa) จังหวัดยามากาตะเป็นหมู่บ้านออนเซ็นต้นแบบของฉากในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Spirited Away ของ Studio Ghibli ด้วยสถาปัตยกรรมอันสวยงามเป็นเอกลักษณ์จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ขาดสายในทุกฤดู แต่สำหรับฤดูหนาวนั้นจะยิ่งทวีความสวยงามด้วยหิมะขาวโพลนผสานกับแสงสว่างร่ำไรจากตะเกียง เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่แสนสบายและโรแมนติกมากๆ
ภาพ : pakutaso.com
Info
กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen : 銀山温泉)
Address : Ginzanshinhata, Obanazawa-shi, Yamagata-ken
Nearest Station : สถานีโออิชิดะ (Oishida Station)
Access : นั่งรถไฟ Yamagata Shinkansen มาที่สถานีโออิชิดะ (Oishida Station) จากนั้นนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 40 นาที
Website : www.ginzanonsen.jp
นิวโตออนเซ็น (Nyuto Onsen: 乳頭温泉)
ภาพ : www.zsdxzk.com
นิวโตออนเซ็น หมู่บ้านออนเซ็นชื่อดังในจังหวัดอาคิตะที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาลึก มีบ้านพักและบ่อออนเซ็น 7 บ่อ ทั้งหมดเป็นแบบเอาท์ดอร์ จึงได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหน้าหนาวที่หิมะทับถม ที่สำคัญหากพักภายในหมู่บ้านจะสามารถซื้อบัตรแช่ออนเซ็นครบทั้ง 7 บ่อได้ในราคาพิเศษอีกด้วย ต้องระวังว่าบ่อเอาท์ดอร์ทั้งหมดเป็นบ่อรวมชายหญิง แต่บางบ่อก็จะกำหนดช่วงเวลาที่ให้เฉพาะผู้หญิงเข้าใช้บริการได้เท่านั้น
Info
นิวโตออนเซ็น (Nyuto Onsen : 乳頭温泉)
Address : Komagatake Tazawako Obonai, Semboku-shi, Akita-ken
Nearest Station : สถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station)
Access : นั่งรถไฟ Akita Shinkansen มาที่สถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station) จากนั้นนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 47 นาที
Website : ryokan.glocal-promotion.com
06 สัมผัสกำแพงหิมะ
ICE WALL ALONG THE WAY
ภาพ : www.rising-sun-hotel.com
ใครที่อยากสัมผัสหิมะแต่ไม่ได้ไปญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็สามารถชมอีกหนึ่งความสวยงามจากหิมะที่มนุษย์และธรรมชาติร่วมกันสรรสร้างนั่นก็คือ กำแพงหิมะ เกิดจากการใช้รถกวาดหิมะเคลียร์พื้นที่ถนนจนเกิดเป็นแนวกำแพงเรียงสวยสองฟากฝั่งถนน
ภาพ : nanavi.net
จุดแนะนำคือ ฮาจิมันไต แอสไปต์ไลน์ (Hachimantai Aspite Line) ในจังหวัดอิวาเตะ ด้วยกำแพงน้ำแข็งยาวกว่า 27 กิโลเมตร สูงสุดถึง 8 เมตร บริเวณยอดเขาฮาจิมันไต โดยในช่วงกลางเมษายนถึงกลางพฤษภาคมจะมีรถทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับมากมายให้ได้เลือกใช้บริการที่สถานีโมริโอกะ (Morioka Station) นอกจากนี้ยังมีจุดชมซากุระในบริเวณไม่ไกลจากกำแพงหิมะด้วย
Info
ฮาจิมันไต แอสไปต์ไลน์ (Hachimantai Aspite Line : 八幡平アスピーテライン)
Address : Matsuoyoriki, Hachimantai-shi, Iwate-ken
Nearest Station : สถานีมัตสึโอะฮาจิมันไต (Matsuohachimantai Station)
Access : นั่งรถบัสจากสถานีโมริโอกะ (Morioka Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มาลงที่ป้าย Hachimantai Sancho จากนั้นเดินเท้าต่อประมาณ 15 นาที
Website : trip8.jp
07 อิ่มเอมกับรสชาติแห่งท้องทะเล
FLAVOURS OF THE SEA
ภาพ : onsennews.com
ถ้าไม่โปรดปรานหอยนางรม ไม่ต้องห่วงเพราะ โทโฮคุ เป็นแหล่งอาหารทะเลอันอุดมสมบูรณ์ โดยสำหรับเมนู ฤดูหนาว ที่ควรลองคือปูหิมะกับปลาปักเป้า ในขณะเดียวกันข้าวหน้าปลาดิบของทุกเมืองก็น่าลิ้มลอง โดยเฉพาะเมนู นกเกะด้ง (Nokkedon) ซึ่งเป็นข้าวหน้าปลาดิบแบบ DIY เลือกหน้าตามใจฉัน หารับประทานได้ที่ตลาดนกเกะด้งแห่งอาโอโมริ (Aomori Nokkedon)
ภาพ : www.amazon.co.jp
ระบบของตลาดแห่งนี้คือผู้ใช้บริการจะต้องซื้อชุดคูปองจำนวน 5 หรือ 10 ใบ ราคา 750 เยน และ 1,500 เยน ตามลำดับ จากนั้นนำไปแลกท็อปปิ้งที่ต้องการจากทั้งตลาดโดยจะใช้จำนวนคูปองที่แตกต่างกัน เมื่อแลกจนครบก็จะได้ข้าวหน้าปลาดิบที่รวมของโปรดของเราเองทั้งชาม โดยแต่ละฤดูกาลก็จะมีวัตถุดิบที่แตกต่างกัน สำหรับหน้าหนาวนั้นชนิดปลาที่มีให้เลือกจะเยอะเป็นพิเศษ
ภาพ : nokkedon.jp
Info
ตลาดนกเกะด้งแห่งอาโอโมริ (Aomori Nokkedon : 青森のっけ丼)
Address : 1 Chome-11-16 Furukawa-shi, Aomori-ken
Operation Hours : 7:00-16:00 น. (บางร้านเปิดถึง 15:00 น.)
Close : วันอังคาร, โกลเดนวีค, วันหยุดเทศกาลโอบ้งช่วงเดือนสิงหาคม, ช่วงปีใหม่
Nearest Station : สถานีอาโอโมริ (Aomori Station), สถานีชินอาโอโมริ (Shin Aomori Station)
Access : นั่งรถไฟ Tohoku-Hokkaido Shinkansen มาที่สถานีชินอาโอโมริ (Shin Aomori Station) จากนั้นนั่งรถไฟ JR สายโออุ (Ou Line) ไปลงที่สถานีอาโอโมริ (Aomori Station) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาที
Website : nokkedon.jp
08 ดื่มด่ำค่ำคืนแห่งไฟประดับ
LONG NIGHT WITH ILLUMINATIONS
ภาพ : www.photo-ac.com
หนึ่งคืนใน ฤดูหนาว ช่างแสนยาวนานและหนาวเหน็บ หลายคนเลือกที่จะเก็บตัวในที่พักหลังพระอาทิตย์ตกดิน แต่สำหรับการท่องเที่ยว โทโฮคุ เราไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะทันทีที่ฟ้าเริ่มมืดก็ได้เวลาทำงานของแสงไฟที่ช่วยต่อเวลาความสุขในการท่องเที่ยวให้ยาวนานยิ่งขึ้น
เทศกาลเซนได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์ (SENDAI Pageant of Starlight : 仙台光のページェント)
ภาพ : zekkei.trvlsp.com
เทศกาลแรกที่พลาดไม่ได้เมื่อมาโทโฮคุก็คือ เทศกาลเซนได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์ ในเมืองเซนได จังหวัดมิยากิ ที่มีให้ดูตั้งแต่กลางถึงปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ทิวต้นเคยากิที่เรียงแนวสวยตลอดสองฟากฝั่งของถนนโจเซ็นจิ (Jozenji-dori) และถนนอาโอบะโดริ (Aoba-dori) จะถูกประดับประดาด้วยดวงไฟกว่า 600,000 ดวง เกิดเป็นบรรยากาศสุดโรแมนติกน่าประทับใจ จนค่ำคืนที่เหมือนจะมืดมิดและเงียบเหงา กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและแสนอบอุ่น
Info
เทศกาลเซนได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์ (SENDAI Pageant of Starlight : 仙台光のページェント)
Location : ถนนโจเซ็นจิ (Jozenji-dori) และถนนอาโอบะโดริ (Aoba-dori)
Hours : อา.-พฤ. 17:30-22:00 น., ศ.-ส. 17:30-23:00 น. (มีเฉพาะช่วงกลางถึงปลายเดือนธันวาคม)
Nearest Station : สถานีโคโตไดโคเอ็น (Kotodaikoen Station)
Access : นั่งรถไฟ Tohoku-Hokkaido Shinkansen หรือ Akita Shinkansen มาที่สถานีเซนได (Sendai Station) จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินสายนัมโบคุ (Namboku Line) มาลงที่สถานีโคโตไดโคเอ็น (Kotodaikoen Station) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 6 นาที
Website : www.sendaihikape.jp
เทศกาลไฟหิมะอาโอโมริ (Aomori Snow Light Festival : あおもり雪灯りまつり)
ภาพ : ameblo.jp
อีกหนึ่งเทศกาลที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือ เทศกาลไฟหิมะอาโอโมริ จัดขึ้นที่จังหวัดอาโอโมริในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 โดยจะได้ชมโคมน้ำแข็งแฮนด์เมดจากฝีมือของชาวบ้านในเมืองอาโอโมริ เมื่อจุดเทียนจนส่องสว่างท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามของสะพานสูงและโรงเบียร์ A-FACTORY เกิดเป็นบรรยากาศเทศกาลหิมะสุดโรแมนติก ที่พิเศษคือจุดจัดงานอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟอาโอโมริมากๆ เลยด้วย
Info
เทศกาลไฟหิมะอาโอโมริ (Aomori Snow Light Festival : あおもり雪灯りまつり)
Location : วะรัสเสะ เวสต์ สแควร์ (WA RASSE West Square)
Hours : 31 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
Nearest Station : สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access : นั่งรถไฟ Tohoku-Hokkaido Shinkansen มาที่สถานีชินอาโอโมริ (Shin Aomori Station) จากนั้นนั่งรถไฟ JR สายโออุ (Ou Line) ไปลงที่สถานีอาโอโมริ (Aomori Station) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาที
09 ชมวิวหิมะจากที่นั่งสุดพิเศษบนรถไฟ
SPECTACULAR VIEW FROM JOYFUL TRAIN
เคยเป็นไหม อยากชมวิวหิมะสวยๆ อยากเห็นธรรมชาติในฤดูหนาว แต่กลัวหนาว ใจพร้อมแต่กายไม่พร้อมเดิมฝ่าลมหนาวใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรามีอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ว่าใครก็สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่จำเจ นั่นก็คือนั่งรถไฟชมวิว ซึ่งรถไฟที่จะแนะนำนี้ไม่ใช่รถไฟไก่กา แต่เป็นรถไฟจอยฟูลเทรน (Joyful Train) ที่มาพร้อมกิจกรรมสนุกๆ บริการพิเศษ พร้อมเครื่องดื่มอุ่นๆ คลายหนาว ซึ่งเราได้คัดมาแนะนำ 2 ขบวนด้วยกัน
โทเรยุสึบาสะ (Toreiyu Tsubasa : とれいゆ つばさ)
รถไฟ โทเรยุสึบาสะ มาพร้อมกับบ่อสปาเท้า (Ashiyu) ที่สามารถแช่เท้าสบายๆ พลางชมทุ่งหิมะที่ดูเย็นยะเยือกของจังหวัดมิยากิและยามากาตะ แล้วจะมีฤดูไหนที่เหมาะแก่การแช่น้ำอุ่นไปมากกว่าฤดูหนาวละ
Info
โทเรยุสึบาสะ (Toreiyu Tsubasa : とれいゆ つばさ)
Route : ระหว่างสถานีเซนได (Sendai Station) กับสถานีชินโจ (Shinjo Station) สายริคูอีสต์ (Rikuu East Line)
Free Pass : JR EAST PASS (Tohoku area)
Website : www.jreast.co.jp
รีสอร์ทชิราคามิ (Resort Shirakami : リゾートしらかみ)
ภาพ : East Japan Railway Company
รีสอร์ทชิราคามิจะวิ่งเลียบทะเลญี่ปุ่นตั้งแต่จังหวัดอาโอโมริจนถึงอาคิตะ ระหว่างทางสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทะเลในฤดูหนาวกับเทือกเขาชิราคามิซันจิ (Shirakami Sanchi) ได้ตลอดเส้นทางอย่างเต็มอิ่ม
Info
รีสอร์ทชิราคามิ (Resort Shirakami : リゾートしらかみ)
Route : ระหว่างสถานีอาคิตะ (Akita Station) กับสถานีชินอาโอโมริ (Shin Aomori Station) สายโกะโน (Gono Line)
Free Pass : JR EAST PASS (Tohoku area)
Website : www.jreast.co.jp
ถ้าสนใจเกี่ยวกับ Joyful Train อื่นๆ ที่ให้บริการในภูมิภาคโทโฮคุ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
JR EAST PASS (Tohoku area) บัตรนั่งรถไฟไม่อั้นทั่วภูมิภาคโทโฮคุ
บัตรโดยสารที่เรียกว่า เจอาร์อีสต์พาส โทโฮคุ แอเรีย (JR EAST PASS (Tohoku area)) เป็นบัตรที่เหมาะกับทริปเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุที่สุด โดยสามารถนั่งรถไฟ นาริตะเอ็กซ์เพรส (Narita Express) จากสนามบินนาริตะ (Narita Airport) หรือ โตเกียวโมโนเรล (Tokyo Monorail) จากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ฟรีหมด รวมถึงรถไฟ JR แบบอื่นๆ ในโตเกียวตามเส้นทางรถไฟใน JR East Lines ไปจนถึงรถไฟจอยฟูลเทรนด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ความคุ้มสุดอยู่ที่สามารถนั่งชินคันเซ็นฟรี 5 เส้นทาง ได้แก่ โทโฮกุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen), อาคิตะชินคันเซ็น (Akita Shinkansen), ยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen), โจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) และ โฮกุริกุชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen) แถมใช้ได้ถึง 5 วัน ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน ภายในระยะเวลา 14 วันนับจากออกบัตร ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) เพียง 19,350 เยน เด็ก (6-11 ปี) เพียง 9,670 เยน หากราคาที่ซื้อในไทยก็จะราคาถูกกว่าซื้อที่ญี่ปุ่นถึง 1,000 เยน
สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าจากเว็บไซต์ก่อนเดินทางได้สูงสุดถึง 1 เดือน ซึ่งเหมาะมากสำหรับการจองในช่วงเทศกาล ช่วงพีค หรือช่วงสิ้นปีที่อากาศจะเย็นฉ่ำในฤดูหนาว ไม่ต้องไปรอลุ้นว่าที่นั่งจะเต็มหรือไม่ในภายหลัง
เราขอแนะนำวิธีซื้อ JR EAST PASS แบบง่ายที่สุด ก็คือซื้อผ่านเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ได้แก่ Wendy Tour, HIS และ JTB สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้โดยกดที่รูปภาพด้านล่าง
Wendy Tour
โทร.02-214-1763
HIS
โทร.02-022-0933
JTB
โทร.02-344-4688 / 02-344-4600