ชวนเที่ยวแบบไม่ซ้ำใครที่ 5 จังหวัดที่คนน้อยที่สุดในญี่ปุ่น
สารบัญ
รวมสถานที่ท่อง เที่ยวญี่ปุ่น ใน 5 จังหวัดที่มี คนน้อย ที่สุดในญี่ปุ่น
ภาพ : www.awanavi.jp
เคยเป็นไหม ไป เที่ยวญี่ปุ่น กี่ทีก็เจอคนเยอะเป็นหนอน พาพ่อแม่ปู่ย่าตายายไปด้วยแล้วสงสารท่านมาก หลายคนโอดครวญ “ไม่มีที่ไหนในญี่ปุ่นบ้างหรอที่คนน้อยๆ” วันนี้เราเลยรวบรวม 5 จังหวัดที่ คนน้อย ที่สุดในญี่ปุ่น รับรองว่าไปแล้วไม่ต้องเบียดเสียดบนรถไฟ ไม่ต้องยืนต่อแถวหน้าร้านอาหาร และที่สำคัญจะถ่ายรูปทีไม่ต้องเล็งหามุมถ่ายแบบลำบากๆ เพื่อไม่ให้ติดคนอื่น ถ้าใครกำลังมองหาความสงบที่มีคุณค่า บอกเลยเปิดมาถูกที่แล้ว
ภาพ : www.snowpeak.co.jp
สำหรับ 5 จังหวัดที่คิจิหยิบยกมาวันนี้ ได้แก่ ฟุกุอิ, โทคุชิมะ, โคจิ, ชิมาเนะ และทตโตริ โดยใช้เกณฑ์จากจำนวนคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนั้น ไม่ได้พิจารณาจากความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่ แต่อย่าเข้าใจผิดว่าคนน้อยแล้วจะไม่มีอะไร ขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่นแล้วไม่ว่าจังหวัดไหนๆ ก็ต่างมีเสน่ห์ที่น่าไปสัมผัสด้วยกันทั้งนั้น ว่าแล้วอย่ารอช้า รีบมาดูกันเนิ่นๆ เลยว่าจังหวัดไหนมีอะไรบ้าง
5 จังหวัดที่จำนวนประชากรน้อยที่สุดในญี่ปุ่น
01 จังหวัดฟุกุอิ (Fukui : 福井県)
ภาพ : www.fuku-e.com
เปิดตัวจังหวัดแรกได้แก่ ฟุกุอิ มีประชากรทั้งสิ้น 773,731 คน คิดเป็นลำดับที่ 43 จากจังหวัดญี่ปุ่นทั้ง 47 จังหวัด เท่ากับว่าเป็นจังหวัดที่มีคนน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 พื้นที่ติดกับทะเลญี่ปุ่น โดยสามารถนั่งรถบัสจากเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
ภาพ : manimanimag.jp
หลายคนอาจเพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก ไม่ต้องตกใจ เพราะหลายๆ คนก็เป็นแบบนั้น ลองไปถามคนญี่ปุ่นบางคนอาจได้คำตอบว่า “ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟุกุอิอยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น” แต่ถ้าได้ยินแบบนั้นแล้วตัดฟุกุอิออกจากลิสต์จังหวัดที่จะไปเลยก็น่าเสียดายมากๆ เพราะฟุกุอิมีสถานที่ท่องเที่ยวในร่มและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แปลกไม่ซ้ำใคร รวมไปถึงอาหารทะเลที่น่ารับประทานมาก
ภาพ : japan-history-travel.com
สถานที่ไฮไลท์ของฟุกุอิที่ไม่ว่าใครเดินทางมาต่างก็ต้องแวะเวียนกันมาที่นี่ทั้งนั้น นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งจังหวัดฟุกุอิ (Fukui Prefectural Dinosaur Museum : 福井県立恐竜博物館) ซึ่งมีการจัดแสดงฟอสซิลไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ ที่ขุดพบในบริเวณจังหวัดฟุกุอิ โดยแน่นอนว่าเทคโนโลยีและความใส่ใจในรายละเอียดแบบคนญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ดีไม่แพ้ที่ใดในโลก ใครที่สนใจที่นี่เป็นพิเศษสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
ภาพ : play-life.jp
สำหรับสายบุญขอแนะนำเป็น วัดเอเฮ (Eihei-ji : 永平寺) ที่ยังคงใช้เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมตามนิกายเซนแบบเข้มข้น ระดับความขลังบอกได้เลยว่าสิบเต็มสิบ แต่เนื่องจากที่นี่จัดว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างถิ่นนิยมเดินทางมาเป็นจำนวนมาก สำหรับใครที่สนใจอยากร่วมชมพิธีกรรมหรือกิจกรรมต่างๆ ของทางวัดสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ (ภาษาอังกฤษ)
ภาพ : Facebook 永平寺 柏樹関 〜親禅の宿〜
ในปี ค.ศ. 2019 ได้มีการสร้างหมู่บ้านเซ็น (Zen Village) ขึ้นด้านหน้าวัด โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ โรงแรมฮาคุจุคัง (Hakujukan : 柏樹關) ที่มีบรรยากาศเข้ากับวัดเซน คนที่เดินทางมาพักก็สามารถนั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรมในบรรยากาศที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ พร้อมๆ กับพักผ่อนได้อย่างสบายกายสบายใจ
ภาพ : www.town-echizen.jp
สิ่งที่ต้องกินที่ฟุกุอินั่นก็คือ ปูเอจิเซ็น (Echizengani : 越前ガニ) ซึ่งเป็นปูซุไว (ปูหิมะ) จากเมืองเอจิเซ็น (Echizen) บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดฟุกุอิ ถือว่าเป็นปูซุไวที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นคือไข่ของปลิงทะเลที่ติดอยู่บนกระดอง แล้วลองจินตนาการดูว่าถ้ามากินถึงแหล่งเนื้อจะหวานฉ่ำแค่ไหน
02 จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima : 徳島県)
ภาพ : www.awanavi.jp
มาต่อกันที่ โทคุชิมะ จังหวัดที่มีประชากรน้อยเป็นอันดับที่ 4 ของญี่ปุ่น จำนวน 736,475 คน เป็น 1 ใน 4 จังหวัดบนเกาะชิโกกุที่ยังรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากๆ สามารถเดินทางจากย่านซันโนะมิยะในโกเบโดยรถบัส ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ภาพ : www.bes.or.jpภาพ : west-west.com
เนื่องจากโทคุชิมะมีส่วนที่ทั้งติดทะเลและส่วนที่เป็นภูเขาทำให้โดดเด่นทั้งทางด้านประมงและเกษตรกรรม สาหร่ายวากาเมะ และ มะนาวซึดาจิ จึงเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ของฝากน่าซื้อของที่นี่จึงไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากสินค้าแปรรูปหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้สาหร่ายวากาเมะหรือมะนาวซึดาจิ นอกจากนี้เมนูอาหารท้องถิ่นของที่นี่ก็ล้วนแต่ใช้หนึ่งในสองอย่างนี้เป็นวัตถุดิบหรือประกอบอาหารด้วยเช่นกัน
ภาพ : www.awanavi.jp
ปรากฎการณ์ธรรมชาติหนึ่งที่ควรเห็นกับตาสักครั้งในชีวิตนั่นคือก็ห้วงน้ำวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเรียกว่า น้ำวนนารูโตะ (Naruto Whirlpools : 鳴門の渦潮) ซึ่งมีลักษณะเป็นเกลียวคลื่นบนผิวน้ำทะเลที่ทั้งดูสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน แต่จะสามารถซื้อทัวร์ล่องเรือชมน้ำวนได้เพียงบางวันเท่านั้น สามารถจองทัวร์และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
หุบเขาอิยะ (Iya Valley : 祖谷渓) เป็นดินแดนลึกลับที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ในฤดูหนาว มีกระท่อมที่มุงหลังคาด้วยฟางเรียกว่า คะยะบุกิ ซึ่งสามารถเข้าไปเติมความอบอุ่นพลางชมทัศนียภาพที่งดงามราวภาพมายา สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ภาพ : awaodori-kaikan.jp
นอกจากสิ่งที่ธรรมชาติสรรสร้าง วัฒนธรรมประเพณีของโทคุชิมะนั้นมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศนั่นก็คือ เทศกาลอะวาโอโดริ (Awaodori : 阿波おどり) ซึ่งเป็นการร่ายรำที่มีจังหวะคึกคักในท่วงท่าที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ คนดูก็รู้สึกสนุกไม่ว่าเพศไหนวัยไหน แม้เทศกาลนี้จะเผยแพร่ไปทั่วญี่ปุ่น แต่ถ้าอยากดูแบบออริจินัลก็ต้องมาที่โทคุชิมะเท่านั้น
ภาพ : nobuoharai
สำหรับเมนูทรงคุณค่าของโทคุชิมะนั้นก็คือ โทคุชิมะราเมน (Tokushima Ramen : 徳島ラーメン) ซึ่งเป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่สำหรับคนท้องถิ่นจะเรียกว่า จูกะโซบะ (Chuka Soba) โดยมีจุดเด่นคือน้ำซุปที่สีออกน้ำตาลเข้มคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกของไทย แต่จะได้รสชาติของโชยุแบบชัดเจนมาก ร้านที่โด่งดังที่สุดคือ อิโนะทานิ (Inotani : いのたに) ซึ่งอยู่ที่ย่านนิชิไดกุมาจิ (Nishidaikumachi)
03 จังหวัดโคจิ (Kochi : 高知県)
ภาพ : liginc.co.jp
จังหวัดถัดมายังอยู่ที่เกาะชิโกกุ ที่นี่คือ โคจิ ซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดโทคุชิมะ มีประชากรเพียง 736,475 คน น้อยเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ในพื้นที่กว้างกว่า 7100 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะชิโกกุ แต่กลับมีประชากรเบาบางที่สุด สามารถนั่งรถไฟจากโอซาก้าใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง
ภาพ : www.ryoko-net.co.jp
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วสิ่งที่ทำให้รู้จักจังหวัดโคจิก็คือการ์ตูนเรื่อง อันปังแมน (Anpanman : アンパンマン) ซึ่งโด่งดังในช่วงปลายยุค 80’s เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนจังหวัดโคจิ ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคือพิพิธภัณฑ์อันปังแมน (Anpanman Museum : アンパンマンミュージアム) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของโคจิเลยก็ว่าได้
ภาพ : www.nippon.com
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็ไม่ได้น้อยหน้าจังหวัดอื่น เพราะโคจิมี แม่น้ำชิมันโตะ (Shimanto River : 四万十川) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากลำน้ำที่คดเคี้ยวแล้ว ป่าเขาที่ขนาบอยู่สองฝั่งน้ำก็ล้วนเป็นใจให้ทวีความสวยยิ่งขึ้นไปอีก
ภาพ : umai.ne.jp
เมนูยอดนิยมของชาวโคจินั่นก็คือ คัตสึโอะ โนะ ทาทาคิ (Katsuo no Tataki : かつおのたたき) หรือเป็นการนำเอาปลาคัตสึโอะ (ปลาโอ) มาเบิร์นไฟพอกึ่งสุกกึ่งดิบแล้วปรุงรส ซึ่งปลาสายพันธุ์ดังกล่าวแม้จะพบทั่วญี่ปุ่น แต่ว่ากันว่าปลาคัตสึโอะที่ตกได้จากทะเลของเมืองโทสะ (Tosa : 土佐) นั้นอร่อยล้ำกว่าใคร
สามารถดูสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมของโคจิได้ที่นี่
04 จังหวัดชิมาเนะ (Shimane : 島根県)
ภาพ : Twitter @nippon_cn
อีกหนึ่งจังหวัดที่คิดว่าไม่คุ้นหูใครต่อใครมากที่สุดนั่นก็คือ ชิมาเนะ ในภูมิภาคชูโงกุซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่เพียง 679,626 คน ถือเป็นจังหวัดที่มีคนน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น แต่กลับมีสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมาก หากนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโอซาก้าจะมาที่ชิมาเนะได้ในระยะเวลาราว 3 ชั่วโมงครึ่ง
ภาพ : zh-tw.zekkeijapan.com
จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในชิมาเนะคือ ศาลเจ้าอิซึโมะ (Izumo Shrine : 出雲大社) ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อบูชาทวยเทพมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล และยังเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่น จัดว่าถ้าใครมีความฝันที่จะตระเวนขอพรหรือเยี่ยมชมศาลเจ้าสำคัญๆ ของญี่ปุ่นให้ครบ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมา
ภาพ : www.kabegamikan.com
ส่วนใครชอบแนวปราสาทขอแนะนำ ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle : 松江城) ซึ่งเป็นปราสาทขนาดเล็กในเมืองมัตสึเอะที่มีอายุ 400 กว่าปี มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวผนังปราสาทเป็นสีดำสนิท ภายในจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์โดยยังคงบรรยากาศให้ชวนนึกถึงอดีต นอกจากนี้ยังเป็น 1 ใน 100 จุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ภาพ : www.en-musubi.net
ถ้าพูดถึงอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของชิมาเนะก็ต้อง อิซึโมะโซบะ (Izumo Soba : 出雲そば) เส้นโซบะเสิร์ฟในชามกลมทรงสูงที่สามารถวางซ้อนเป็นชั้นๆ เหมือนปิ่นโต ท็อปด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น บางร้านอาจโปะไข่แดงดิบๆ แถมวิธีกินก็ต่างจากโซบะที่เราคุ้นเคยกัน โดยจะนำซูยุ (น้ำซุปโซบะเย็น) ราดลงบนเส้นจนทั่วชามเลย
สำหรับใครที่สนใจสามารถชมรายละเอียดทัวร์และจุดท่องเที่ยวเพิ่มเติมในชิมาเนะได้ที่นี่
05 จังหวัดทตโตริ (Tottori : 鳥取県)
ภาพ : play-life.jp
ปิดท้ายด้วยจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อยที่สุดในญี่ปุ่นเพียง 560,517 คน นั่นก็คือ ทตโตริ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ และขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็นตลอดทั้งปี สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโอซาก้าประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อมาเก็บความทรงดีๆ ในเมืองที่มีคนน้อยแต่อบอุ่นมาก
ภาพ : www.airtrip.jp
เนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes : 鳥取砂丘) เป็นจุดท่องเที่ยวอันดับ 1 ของทตโตริที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นทะเลทรายแห้งแล้งเหมือนที่เคยเห็นตามสารคดี แต่ที่จริงเป็นเนินทรายสะอาดๆ อยู่ติดกับทะเลที่มีลมเย็นๆ พัดผ่านตลอดเวลา ถ้าไปตอนฤดูหนาวหิมะก็ทับถมจนเป็นเนินหิมะที่สวยไปอีกแบบ
ภาพ : www.travel.co.jp
สำหรับแฟนการ์ตูนเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (Detective Conan : 名探偵コナン) ไม่ควรพลาด พิพิธภัณฑ์โกโช อาโอยาม่า (Gosho Aoyama Manga Factory : 青山剛昌ふるさと館) ซึ่งอยู่ที่เมืองบ้านเกิดของตัวผู้แต่งเอง ภายในรวบรวมผลงานและสินค้ามากมายที่หาดูชมได้เพียงที่นี่ที่เดียว โดยจุดถ่ายรูปยอดฮิตคือรถโฟล์คสีเหลืองที่ถอดแบบรถของ ดร.อากาสะ ในเรื่องโคนันมาแบบเป๊ะๆ
ภาพ : 4travel.jp
อาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนทตโตรินั่นก็คือ ปูมัตสึบะ (Matsubagani : 松葉がに) ซึ่งเป็นชื่อเรียกปูซุไวเพศผู้โตเต็มวัยที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลตามบริเวณที่มีคลื่นสูงตามธรรมชาติ ถือเป็นปูสุดแกร่งเนื้อแน่นที่รสชาติดีที่สุดในฤดูหนาว
จากจังหวัดทั้ง 5 ที่เราได้แนะนำไป จะเห็นได้ว่าการที่มีคนอาศัยอยู่น้อยมิได้หมายความว่าจังหวัดนั้นไม่มีอะไรให้ทำหรือไม่มีอะไรให้เที่ยว เพราะที่จริงทุกจังหวัดของญี่ปุ่นล้วนมีของดีและทีเด็ดแตกต่างกัน ไม่แน่ว่าจังหวัดที่เพื่อนๆ ไม่เคยได้ยินชื่อ หรือจังหวัดที่ถูกมองข้ามเสมอมา อาจจะสร้างความเซอร์ไพรส์อันแสนประทับใจให้กับทริปญี่ปุ่นครั้งหน้าของเพื่อนๆ ก็เป็นได้
หมายเหตุ จำนวนประชากรเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 จาก uub.jp