โตขึ้นอยากเป็นอะไร โตขึ้นอยากเป็นผู้ใหญ่
Coming of Age Day
(成人の日, Seijin no Hi)
ในช่วงวัยประถมศึกษา คำถามยอดฮิตที่ครูมาลีมักจะถามเราซ้ำๆ เป็นประจำทุกปีคือคำถามที่ว่า ‘โตขึ้นอยากเป็นอะไร’ แล้วเราก็จำได้ว่าคำตอบของเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกปีเช่นกัน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าช่วงนั้นมีคอนเทนต์สนุกๆ อะไรให้เด็กดูในทีวีนั่นละ ซึ่งอาชีพยอดฮิตแบบเด็กไทยในยุคนั้นเราก็ตอบมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหมอ ตำรวจ ทหาร นักร้อง นักวิทยาศาสตร์ เรื่อยไปจนกระทั่งนักบินอวกาศ หรือแม้ไอ้มดแดงวีสามก็ยังมี แล้วพอตอบออกไป ครูมาลีก็มักจะตบท้ายกับเราด้วยประโยคสั้นๆ ว่า
‘จ้ะ ไว้โตเป็นผู้ใหญ่ก่อนนะ’
ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บในช่วงต้นเดือนมกราคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นมีประชากรผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นอีกเป็นโขยง เรากำลังพูดถึง ‘เซจินโนะฮิ’ (成人の日, Seijin no Hi) หรือวันฉลองการบรรลุนิติภาวะของวัยรุ่นญี่ปุ่นที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี หรือถ้าจะให้เข้าใจง่ายกว่านี้ มันก็คือวันที่วัยรุ่นญี่ปุ่นจะได้เป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ ซึ่ง ‘เซจินโนะฮิ’ ในปี 2018 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ มีจำนวนวัยรุ่นญี่ปุ่นที่ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้ใหญ่มากถึงกว่า 1,230,000 คน ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมากเป็นครั้งแรกในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ บรรดาหนุ่มสาวที่กำลังจะก้าวเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวก็จะเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของตัวเองเพื่อเข้าร่วมพิธีรับมอบประกาศนียบัตร พร้อมๆ กับการรับฟังโอวาทโดยผู้หลักผู้ใหญ่คนสำคัญของบ้านเมือง สำหรับสถานที่ในการจัดพิธีบรรลุนิติภาวะ ส่วนใหญ่ก็จะจัดขึ้นตามหอประชุมใหญ่ของเมืองบ้านเกิด ทว่าในบางเมืองใหญ่ก็อาจจะจัดพิธีขึ้นในห้างสรรพสินค้า หรือบางเมืองก็อาจจะจัดขึ้นตามสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ ของเมือง หรือแม้แต่ในสนามบินก็ยังมี อย่างที่เมืองนาริตะ (จังหวัดชิบะ) ก็จัดพิธีบรรลุนิติภาวะกันในสนามบินนาริตะนั่นเลย อลังการดีชะมัด
นอกจากการได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวแล้ว สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์สำหรับสาวๆ ในวันนี้ก็คือ การที่พวกเธอจะได้แต่งสวยแจ่มแบบเต็มเหนี่ยวในชุดกิโมโนที่เรียกว่า ‘ฟุริโซเดะ’ (Furisode) ซึ่งก็ต้องตื่นขึ้นมาแต่งหน้าทำผมแบบจัดเต็มกันตั้งแต่เช้าตรู่ (พอๆ กับสาวไทยในวันรับปริญญาของบ้านเรายังไงยังงั้น) ถือเป็นวันที่เด็กสาวชาวญี่ปุ่นจะได้แต่งสวยแบบเต็มเหนี่ยวเพื่อฉลองความเป็นผู้ใหญ่ครั้งแรกในชีวิต
ขณะที่ทางฝั่งผู้ชาย หากไม่ได้ใช้ชุดสูทสีดำแบบสากล พวกเขาก็จะใส่เป็นกิโมโนแบบดั้งเดิมผู้ชายที่มักจะใส่กันในงานประเพณีสำคัญต่างๆ เรียกว่า ‘มงสึกิ ฮาคามะ’ (Montsuki Hakama) ซึ่งก็เป็นชุดกิโมโนที่มาครบทั้งความหรูหราและองอาจ ดูงามสง่าไม่แพ้ทางฝั่งผู้หญิงเช่นกัน
นั่นคือภาพสวยๆ งามๆ สำหรับการเฉลิมฉลองความเป็นผู้ใหญ่วันแรกในชีวิตของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในวันบรรลุนิติภาวะตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น ทว่ายังมีวัยรุ่นอีกเมืองหนึ่งที่รู้สึกว่าการฉลองความเป็นผู้ใหญ่แบบนั้นมันธรรมดาเกินไป ไหนๆ จะบอกลาความเป็นวัยรุ่นทั้งที มันต้องมีอะไรที่แซ่บกว่านี้สิเฮ้ย!
เรากำลังพูดถึงวัยรุ่นที่คิตะคิวชู (Kitakyushu) จังหวัดฟุกุโอะกะ (Fukuoka) วัยรุ่นที่เฟี้ยวฟ้าวและบ้าพลังที่สุดในวันบรรลุนิติภาวะ ด้วยชุดที่ ‘ฟุริโซเดะ’ และ ‘มงสึกิ ฮาคามะ’ ที่ผ่านการโมมาแบบแซ่บซี้ดและเว่อร์วังกว่ากันเยอะ แต่ที่แสบกว่านั้นก็คือ วัยรุ่นพวกนี้ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างใส่แต่ยังพร้อมใจกันใส่มาเป็นทีมอีกต่างหาก
บ้าพลังได้สมกับการบอกลาความเป็นวัยรุ่น
ทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือสีสันในวันฉลองการเป็นผู้ใหญ่ของเด็กญี่ปุ่นที่หลายคนมองเห็น ทว่าประเด็นที่สำคัญของงานในวันนี้ซึ่งหลายคนอาจลืมไปและดูจะน่าสนใจมากกว่าก็คือ ความพยายามที่จะให้วัยรุ่นญี่ปุ่นได้ตระหนักรู้ถึงภาระหน้าที่ที่จะตามมาภายหลังจากที่ชีวิตได้บรรลุนิติภาวะ
เพราะสาระสำคัญในวันผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่การประกาศให้รู้ถึงการเปลี่ยนผ่านช่วงวัย แต่แท้ที่จริงแล้วมันคือการบอกให้ผู้ใหญ่หน้าใหม่ได้รับรู้ว่า ชีวิตที่มาพร้อมกับสิทธิต่างๆ นานาหลังจากนี้ ควรจะต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบและวิจารณญาณที่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะต่อตนเอง ครอบครัว บ้านเกิด หรือประเทศชาติ
กลับไปที่คำถามยอดฮิตของครูมาลีอีกที
‘โตขึ้นอยากเป็นอะไร’
คำตอบนั้นอาจไม่ยากเท่ากับสิ่งที่ครูมาลีได้บอกเอาไว้ โตขึ้นเราอยากเป็นอะไรก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องทำให้ได้ก่อนหน้านั้นคือ เป็นผู้ใหญ่ให้ได้ก่อน.