SENDAI and MORIOKA : ตกหลุมรักเมืองนอกสายตาที่หวังว่าจะเข้าตาคุณเข้าสักวัน
สารบัญ
A short journey in
SENDAI and MORIOKA
เราหลงใหลโตเกียว เกียวโต ฮอกไกโด โอซาก้า เมืองยอดฮิตที่เต็มไปด้วยสีสัน ร้านอาหารอร่อย กาแฟดี แหล่งช็อปปิ้งมากมาย และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ไปกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อสักที แต่กับภูมิภาคโทโฮคุอย่าง “เซนได (Sendai)” เมืองใหญ่ของจังหวัดมิยากิ และ “โมริโอกะ (Morioka)” เมืองหลักของจังหวัดอิวาเตะ ในตอนแรกนั้นยังรู้สึกงงๆ แม้จะเห็นข้อมูลผ่านตามาบ้างแล้วก็ตาม จนได้เดินทางมาด้วยตัวเองก็รู้สึกว่าเป็นพื้นที่ที่น่ารักกำลังดี ไม่กระโตกกระตากจนตกใจ ไม่เงียบเกินไปจนทำให้รู้สึกเหงา เมื่อรวมกับอุปนิสัยคนท้องถิ่นและความผ่อนคลายที่เราสัมผัสได้ เลยกลายเป็นพื้นที่ที่อยากเล่าสู่กันฟัง
แม้ทั้งสองแห่งดูเหมือนจะเป็นเมืองนอกสายตา ไม่ได้มีที่เที่ยวโด่งดังจนเป็นที่รู้จักและใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวค่อนข้างนานราว 2 ชั่วโมงโดยชินคันเซ็นแต่หากนำมาซึ่งความผ่อนคลายและสามารถเติมเต็มอะไรบางอย่างในวันที่ความวุ่นวายใจเข้าถาโถม สำหรับเราก็อาจคุ้มค่าแล้วที่จะออกเดินทาง
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ตั้งใจให้เป็นไกด์บุ๊กฉบับฉันเอง เผื่อว่าใครมีแพลนไปเซนไดและโมริโอกะแล้วยังไม่รู้จะไปที่ไหน ไม่มีไอเดีย จะตามไปเดินเล่นใช้เวลาของคุณอย่างคุ้มค่าในสถานที่เหล่านี้ เราก็ยินดีและหวังมากว่าสองเมืองน่ารักนี้คงจะเข้าตาคุณเข้าสักวัน
Getting Around SENDAI
เรานั่งชินคันเซ็นขบวนฮายาบุสะจากสถานีโตเกียวมาลงที่สถานีเซนไดโดยใช้พาส JR East Pass (Tohoku Area) ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าไม่ได้มีแพลนเที่ยวโตเกียวด้วย การเดินทางโดยเครื่องบินก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ แล้วสะดวกสุดๆ
เซนได เมืองใหญ่ที่สุดและเป็นจุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคโทโฮคุเรารู้ว่าความก้าวหน้าของเซนไดทำให้มีตึกสูงใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีมากกว่าคือต้นไม้ในเมืองก็เติบโตไม่แพ้เศรษฐกิจเช่นกัน ความสมดุลที่พอเหมาะนี้ทำให้เซนไดได้ฉายาที่ดีต่อใจคนรักษ์โลกว่า “เมืองแห่งต้นไม้” คราวนี้ขออาสาเป็นไกด์พาเที่ยวสถานที่น่าไปในเซนไดและเมนูอาหารขึ้นชื่อที่เราชอบและใครบางคนที่ได้อ่านตอนนี้ก็น่าจะชอบเหมือนกัน
Loople Sendai
รถบัสท่องเที่ยวที่จอดตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ 16 จุดทั่วเมืองเซนได โดยสถานที่ที่เราจะแนะนำต่อไปนี้สามารถใช้บริการได้ทั้งหมด ซึ่งจะจ่ายแยกเที่ยวหรือซื้อพาสราคาประหยัดสำหรับใช้ทั้งวันก็ได้
Price: เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 260 เยน, เด็ก 160 เยน / One-day Loople Sendai Pass ผู้ใหญ่ 630 เยน, เด็ก 320 เยน
Website: www.loople-sendai.jp/en
To SEE
เซนไดมีโลเคชั่นที่น่าสนใจมากมาย เพื่อให้ครบทุกรสชาติความเป็นเซนได ก็ขอไปให้ครบทั้งวิถีคนโลคอลที่ตลาดเช้า ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยแบบสายบุญ ช็อปปิ้งจนกระเป๋าแบนถ้าเมื่อยแล้วก็แวะสูดอากาศบริสุทธิ์ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือจะออกนอกเมืองไปล่องเรือสัมผัสธรรมชาติก็ยังได้
Sendai Asaichi Morning Market
เริ่มต้นเช้าที่สดใสด้วยการเดินตลาด ตลาดเช้าอะไซชิอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเซนได แม้ขนาดเล็กแต่ก็คึกคักเพราะเป็นศูนย์รวมสินค้าท้องถิ่นมากมายจนได้รับฉายาว่า “ครัวของเซนได” เช่น ปลาและของทะเลสดๆ ผักผลไม้ตามฤดูกาลแบบปลอดสารพิษ เครื่องปรุงรสต่างๆ ฯลฯ ในราคาถูกสุดๆ และไม่ได้มีเฉพาะอาหารสดเท่านั้นยังมีร้านอาหารรสชาติโฮมเมดให้บริการด้วย
Info
Hours: จ.-ส. 8:00-18:00 น.
Holiday: วันอาทิตย์
Website: www.sendaiasaichi.com (ภาษาญี่ปุ่น)
Train Station: Sendai Station
Ichibancho
ถ้าอยากช็อปปิ้งหรือหาซื้อของฝาก เราแนะนำที่ย่านอิชิบันโช เพราะบริเวณนี้มีถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารอยู่หลายเส้น ไม่ว่ากำลังตามหาสินค้าอะไร เชื่อเถอะว่าที่ย่านนี้จะมีให้แน่นอน อาทิ Sun Mall, Vlan Dome, Clis Road ฯลฯที่เราชอบมากคือรูปแบบถนนมีหลังคา ทำให้สามารถเดินได้ทุกสภาพอากาศ อีกความดีงามคือเปิดตั้งแต่ฟ้าสว่างยันฟ้ามืด เผลอๆ เดินจนลืมเวลา
Info
Hours: แตกต่างตามแต่ละร้านค้า
Website: www.clisroad.jp, www.vlandome.com, www.sunmall-ichibancho.com
Train Station: Aoba-dori Ichibancho Station
Bus Stop: หมายเลข 2 (Loople Sendai)
Jozenji-dori Green Park
โจเซนจิเป็นถนนสายใหญ่ใจกลางเมืองเซนไดที่มีต้นเคยากิสูงใหญ่ปลูกไว้ตลอดเส้นถนน ที่นี่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกการเป็นเมืองแห่งต้นไม้ของเซนได เราสามารถข้ามถนนไปเดินเล่นหรือนั่งตรงใจกลางสวนที่คล้ายกับว่าเป็นสวนสาธารณะขนาดย่อมได้ อีกทั้งสองฝั่งซ้ายขวาของถนนยังมีร้านอาหารและร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ ตลอดทางให้เลือกแวะได้ไม่มีเบื่อ
Info
Hours: 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Train Station: Kotodaikoen Station (Namboku Line)
Bus Stop: Jozenjidori Shiyakusho-mae / หมายเลข 15 (Loople Sendai)
Sendai Castle / Aoba Castle
ปราสาทประจำเมืองเซนไดที่คนท้องถิ่นรู้จักกันในชื่อว่า “ปราสาทอาโอบะ” ซึ่งดาเตะ มาซามุเนะ ได้สร้างเอาไว้เมื่อปี ค.ศ. 1601 และใช้เป็นที่อยู่อาศัยเมื่อในอดีต ภายในมีวิหารโอฮิโรมะ ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นของมาซามุเนะขี่ม้าที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเขา ด้วยความที่ปราสาทตั้งอยู่บนภูเขาอาโอบะ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวเมืองเซนไดที่คนนิยมมาชมกันมาก
Info
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: ฟรี
Website: www.honmarukaikan.com
Bus Stop: หมายเลข 6 (Loople Sendai)
Osaki Hachimangu Shrine
เราเป็นชาวไทยตอนเหนือที่ถูกปลูกฝังว่าต้องเข้าวัดไหว้พระเสริมสิริมงคลไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ที่เซนไดก็เช่นกัน เราได้แวะศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกู ศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1607 โดยดาเตะ มาซามุเนะ อดีตนักรบและผู้ปกครองแคว้นในอดีตก่อนจะมาเป็นเซนไดในปัจจุบัน โดดเด่นที่สถาปัตยกรรมของวิหารหลัก จนได้รับเลือกให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1903
Info
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: ฟรี
Website: www.oosaki-hachiman.or.jp
Bus Stop: Osakihachimangu mae / หมายเลข 12 (Loople Sendai)
To EAT
เมื่อความว่างเปล่าเข้าครอบครองพื้นที่ในท้อง ก็ถึงเวลาหาของอร่อยเข้าไปเติมเต็ม เมืองเซนไดมีเมนูเด็ดๆ ทั้งคาวหวานมากมายให้เลือกชิม เราก็ไม่พลาดตามไปชิมและถ่ายรูปเก็บเอาไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยได้สัมผัสความอร่อยแบบนี้ คิดแล้วอยากจะกลับไปกินอีกสักที!
Gyutan
กิวตันหรือที่คนไทยเรียกว่าลิ้นวัวย่าง เมนูดังซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในเมืองเซนได เนื้อสัมผัสกรุบๆ เคี้ยวเพลิน จิ้มเกลือเล็กน้อยก่อนกินก็จะยิ่งฟินที่สุด นอกจากเมนูย่างแบบเบสิก คนท้องถิ่นยังนำลิ้นวัวไปประยุกต์เป็นเมนูต่างๆ อาทิ ซุปลิ้นวัว ข้าวหน้าลิ้นวัว ก็รสชาติดีไม่แพ้กัน
Info
Gyutan no Issen
Hours: จ.-ศ. 11:00-15:00 น. และ 17:00-24:00 น., ส. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00-24:00 น., อา. 11:00-22:00 น.
Holiday: –
Train Station: Hirosedori Station
Sasa Kamaboko
คามาโบโกะ ปลาที่บดอัดเป็นลูกชิ้นแล้วนำมาย่างจนเกิดกลิ่นหอม รสชาติดีไม่มีกลิ่นคาว นอกจากนี้ยังถูกนำไปทำเป็นขนม Hyoutan-age คามาโบโกะชุบแป้งหวานแล้วนำไปทอด ลักษณะคล้ายกับอเมริกันคอร์นด็อก จะกินเปล่าๆ หรือราดซอสมะเขือเทศสักหน่อยก็อร่อยทั้งนั้น
Info
Abe Kamabokoten (Main Store)
Hours: 10:00-19:00 น. (Sasa Kamaboko ขายถึง 17:00 น.)
Holiday: วันปีใหม่
Website: www.abekama.co.jp
Train Station: Hirosedori Station
Zunda Mochi
ตัดเลี่ยนด้วยของหวานอย่างซุนดะโมจิ โมจิเนื้อหนึบโปะด้วยถั่วแระบดรสหวานมัน นิยมกินคู่ชาร้อน ใช้วัตถุดิบน้อยแต่รสชาติอร่อยคูณสิบ ว่ากันว่าถั่วแระเป็นผลผลิตหลักของเกษตรกรชาวเซนได อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยควบคุมน้ำหนักเลยเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ด้วยล่ะ
Info
Hikoichi
Hours: 11:00-19:00 น.
Holiday: วันจันทร์ (กรณีที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดวันอังคารแทน), 29 ธ.ค.-1 ม.ค.
Train Station: Hirosedori Station
OUT OF THE CITY
แม้จะเคยพูดกับตัวเองว่าไม่ค่อยชอบป่าหรือการเดินเขา แต่เราว่ายังไงคนกับธรรมชาติก็เป็นความสัมพันธ์ที่ตัดกันไม่ขาด นอกจากแหล่งท่องเที่ยวบริเวณในตัวเมืองแล้ว หากนั่งรถไฟออกนอกเมืองมาเล็กน้อยก็จะพบธรรมชาติที่ชวนให้รู้สึกดีชะมัด
Geibikei Gorge
หุบเขาหินบรรยากาศดีที่มีประวัติศาตร์ยาวนานกว่า 100 ปี อันที่จริงเกบิเคเป็นหุบเขาที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดอิวาเตะ แต่ถ้าไปเที่ยวเซนไดมาก่อน การเดินทางมาจังหวัดมิยากิจะใกล้กว่า คือใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราตั้งใจมาล่องเรือโบราณเพราะได้ยินมาว่าจะมีนายเรือมาขับกล่อมด้วยเพลงพื้นบ้าน Geibi Oiwake ท่ามกลางความเงียบสงัด เราได้ยินเสียงเพลง เสียงลม เสียงน้ำ เสียงสัตว์ เสียงธรรมชาติ รวมถึงเสียงหัวใจตัวเอง
จุดด้านในสุดของหุบเขามีช่องหินอธิษฐานเชื่อกันว่าถ้าขว้างหินผ่านเข้าไปในช่องได้ คำอธิษฐานของเราจะเป็นจริง ส่วนหินที่ใช้โยนต้องเป็นหินเสี่ยงทายเท่านั้น ซึ่งมีจำหน่ายบริเวณใกล้ๆ ในราคา 5 ก้อน 100 เยน ปิดท้ายการล่องเรือด้วยปลาอายุเสียบไม้ย่างถ่าน เนื้อปลาสีขาวนวลรสชาติเค็มกำลังดี เป็นรสชาติที่ถูกปากเราจริงๆ
Info
Hours: 8:30-16:30 น. (แตกต่างตามฤดูกาล)
Holiday: –
Price: ค่าบริการล่องเรือ (90 นาที) ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, นักเรียนชั้นประถม 900 เยน, เด็กต่ำกว่าชั้นประถม 200 เยน
Website: www.geibikei.co.jp/th/index.html
Train Station: Geibikei Station
4WIFI เพื่อนคู่ใจตลอดทริป
ทริปนี้สนุกขึ้นกว่าเดิมเพราะได้แชร์เรื่องราวในโลกออนไลน์และติดตามข่าวสารได้แบบไม่จำกัดกับ 4WIFI พ็อกเก็ตไวไฟที่ครอบคลุมทั่วญี่ปุ่นความเร็วไม่จำกัด ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย แบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 9 ชั่วโมง แถมยังเป็นแบตเตอรี่สำรองได้ในเวลาฉุกเฉินอีกด้วย
ที่ชอบมากคือจองและชำระเงินออนไลน์ได้สามารถรับ-ส่งเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คนขี้ลืมอย่างเราไม่ต้องกังวลเรื่องการส่งคืนไม่ตรงเวลา สะดวกสุดๆ ขอยกให้เป็นเพื่อนคู่ใจของทริปนี้ไปเลย
Price: 100 บาท/วัน
Website: www.4wifi.co.th
Getting Around MORIOKA
จากสถานีเซนไดใช้เวลาดื่มด่ำบรรยากาศระหว่างทางบนรถชินคันเซ็นราว 1 ชั่วโมงเท่านั้น เราก็เดินทางเข้าสู่เมืองโมริโอกะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อ้อ ลืมบอกไปว่าเราซื้อบัตร JR East Past (Tohoku Area) มาตั้งแต่เมืองไทย เลยใช้จองตั๋วชินคันเซ็นมาแบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ใช้จริง ดีมากจริงๆ เลยอยากแนะนำ
ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตบอกเราว่าโมริโอกะเป็นเมืองหลักของจังหวัดอิวาเตะ ล้อมรอบด้วยภูเขาและมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน หลายความคิดเห็นบอกว่าโมริโอกะไม่ค่อยมีที่เที่ยว แต่พอได้มาใช้ชีวิตที่นี่ก็กลายเป็นว่าชอบ ชอบมากซะจนหนึ่งหน้ากระดาษเขียนเล่าไม่พอ มีหลายสถานที่และของอร่อยที่เราอยากแนะนำให้คนที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ได้ลองสัมผัสและคงจะรู้สึกดีกับโมริโอกะเหมือนที่เรารู้สึกอยู่ในตอนนี้
To SEE
ลิสต์ที่เราจะเล่าต่อไปนี้น่าจะเป็นโลเคชั่นเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนไปเที่ยวโมริโอกะครั้งแรกไม่ว่าจะชอบเรื่องราวในประวัติศาสตร์ สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด หรือเป็นสายฮิปที่มีความสุขกับงานแฮนด์เมด ก็น่าจะมีความสุขกับการเที่ยวโมริโอกะได้ไม่ยาก
Morioka Handi-Works Square
เราเพิ่งรู้ว่างานฝีมือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของเมืองโมริโอกะ งานเหล่านี้ได้พัฒนาและสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมแม่น้ำ Shizukuishi ที่รวบรวมงานแฮนด์เมดพื้นบ้าน อาหารพื้นเมืองเอาไว้ อาทิ เครื่องเหล็กนัมบุ เซรามิก ผ้ามัดย้อม เซมเบ้ เส้นเรเมน ฯลฯ ถูกใจชิ้นไหนก็สามารถอุดหนุนกลับมาได้ ทั้งยังมีเวิร์คช็อปเปิดให้คนทั่วไปเข้าร่วมอีกด้วย
Info
Hours: 8:40-17:00 น.
Holiday: วันปีใหม่
Price: ฟรี
Website: www.tezukurimura.com
Bus stop: Morioka Tezukurimura-mae
Morioka Kippushi (Water Neighborhood)
พื้นที่พักใจที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาโมริโอกะคิปปุชิคือสวนริมแม่น้ำ Kitakami จุดสังเกตง่ายๆ คืออยู่ติดกับสะพาน Kaiun หากเดินมาจากสถานีโมริโอกะจะอยู่ทางซ้ายมือ บริเวณนี้มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และที่เราประทับใจที่สุดคือมีจุดตั้งแคมป์ แอบเห็นคนท้องถิ่นมาปูผ้าปิกนิก ปิ้งบาร์บีคิว บ้างนอนเล่นบนสนามหญ้า ใช้ชีวิตริมน้ำกันอย่างเพลิดเพลินจนเราอดอิจฉาไม่ได้
Info
Hours: แตกต่างตามแต่ละร้านค้า
Facebook: www.facebook.com/kippushi
Bus Stop: Kaiun-bashi
Morioka Castle Site Park
อดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทโมริโอกะภายหลังได้ปรับให้กลายเป็นสวนสาธารณะแทนสถานที่หย่อนใจอันเป็นที่รักของคนท้องถิ่น ด้วยเพราะมีต้นบ๊วย ต้นซากุระ และพรรณไม้มากมายให้ได้ดื่มด่ำในทุกฤดูใบไม้ผลิ ตอนฤดูใบไม้ร่วงมาเยือนใบไม้ก็จะเปลี่ยนสีจนเราอดยิ้มตามไม่ได้ ถ้าเกิดอยากหาที่นั่งอ่านหนังสือหรือเดินเล่นรับลมเย็นๆ สวนแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด
Info
Hours: 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Price: ฟรี
Bus Stop: Morioka Jyoato Koen
Morioka Hachimangu Shrine
ศาลเจ้าโมริโอกะฮาจิมังกู เป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ของเมืองโมริโอกะ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอันช่วงปี ค.ศ. 1062 จุดสังเกตคือเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ตรงปากทางเข้า ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่จัดเทศกาลประจำปีมากมาย อีกทั้งมีพิธีสะเดาะเคราะห์เก๋ๆ คือถ้าเราอธิษฐานแล้วเป่าลมเข้าไปเข้าไปในน้ำเต้าสามครั้ง จากนั้นนำไปแขวน เชื่อว่าสิ่งไม่ดีจะถูกปิดผนึกในน้ำเต้านั่นเอง
Info
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: ฟรี
Bus Stop: Hachimangu mae
To EAT
เรียกว่าเป็นสามทหารเสือของโมริโอกะเลยก็ได้ เพราะเมนูขึ้นชื่อประจำเมืองโมริโอกะที่มาแล้วไม่กินคงรู้สึกเหมือนยังมาไม่ถึงล้วนแล้วแต่เป็นอาหารประเภทเส้นซึ่งมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ แต่จะถูกใจรสแบบไหน ต้องหาเวลาไปลองกันเอง ส่วนตัวเราขอมอบมงให้วังโกะโซบะ ดีต่อพุงที่สุด!
Morioka Reimen
โมริโอกะเรเมนเป็นบะหมี่เย็นที่มีต้นกำเนิดจากทางตอนเหนือของเกาหลี เราชอบสัมผัสของเส้นที่เหนียวนุ่ม ซึ่งทำจากแป้งมันฝรั่งเคลือบด้วยน้ำมันงาเสิร์ฟมาในซุปใส ท็อปด้วยกิมจิ แตงกวา เนื้อสไลซ์ไข่ต้ม ที่ขาดไม่ได้เลยคือผลไม้หั่นชิ้นอย่างแตงโมหรือลูกแพร์ นิยมกินตบท้ายเนื้อย่าง จึงสามารถหากินได้ตามร้านยากินิกุนั่นเอง
Info
PYON PYON SYA Moriokaekimaeten
Hours: 11:00-24:00 น.
Holiday: –
Website: www.pyonpyonsyamoriokaekimae.gorp.jp
Train Station: Morioka Station
Wanko Soba
โซบะที่เสิร์ฟมาในชามวังโกะไซส์เล็ก ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวเรือบ้านเราโดยให้คีบเส้นโซบะจุ่มลงในซุปทสึยุสีดำ มักกินคู่กันกับเครื่องเคียงมากมาย อาทิ ผักดอง เทมปุระ ซาชิมิ ฯลฯ โดยจะเสิร์ฟโซบะมาเป็นถาด นับดูแล้วถาดละ 12 ชาม เราสามารถกินได้เรื่อยๆ และพนักงานจะคอยเติมจนกว่าเราจะปิดฝาชาม ซึ่งมีความหมายว่าเราอิ่มแล้วนั่นเอง
Info
Ekimae Bashokan
Hours: 10:00-18:00 น.
Holiday: ไม่แน่นอน
Website: www.wankosoba.com
Train Station: Hiraizumi Station
Morioka Jajamen
จาจาเมนเป็นอุด้งเสิร์ฟแบบแห้งโรยหน้าด้วยแตงกวาและซอสมิโซะ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นวิธีกินขั้นพื้นฐาน จากนั้นลองปรุงรสด้วย ขิง กระเทียม น้ำส้มสายชู และน้ำมันรายุตามที่ชอบก็เป็นรสชาติเผ็ดร้อนที่อร่อยไปอีกแบบเมื่อกินจนใกล้หมดชาม แนะนำให้เติมไข่ดิบและซุปร้อนๆ เรียกว่า Chitan ก็เป็นการจบมื้ออาหารที่ดีงาม
Info
Pairon (Main Store)
Hours: จ.-ส. 9:00-21:00 น., อา. 11:30-19:00 น.
Holiday: –
Website: www.pairon.iwate.jp
Bus Stop: Kencho Shiyakusho mae
OUT OF THE CITY
นอกจากสถานที่ชวนอบอุ่นใจในตัวเมืองโมริโอกะ ขอชวนมาศึกษาประวัติศาสตร์อันน่าประทับใจของอิวาเตะ เพียงนั่งรถไฟสายโทโฮคุออกนอกเมืองมาลงที่สถานีฮิราอิซุมิ ก็จะได้สัมผัสกับมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รับเลือกจากยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2011 แล้ว
Chusonji Temple
คนส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังเมืองนี้ก็เพราะอยากสัมผัสมรดกโลกวัดซูซอนจิที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 850 ในอดีตเคยมีวิหารต่างๆ หลายสิบหลัง แต่ถูกทำลายลงไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนเหลือเพียงไม่กี่หลัง หนึ่งในนั้นคือวิหารทองคำ Konjikido ความพิเศษอยู่ที่ใต้ฐานพระพุทธรูปฝังร่าง Kiyohira ผู้ก่อตั้งตระกูลฟูจิวาระ ซึ่งปกครองดินแดนในสมัยศตวรรษที่ 12 เอาไว้ และรอบวิหารปิดด้วยทองคำเปลวอย่างงดงาม
Info
Hours: 8:30-17:00 น.
Holiday: –
Price: ฟรี, ค่าเข้าชมหอ Konjikido และพิพิธภัณฑ์ Sankozo ผู้ใหญ่ 800 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 500 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมต้น 300 เยน, นักเรียนชั้นประถม 200 เยน
Website: www.chusonji.or.jp
Train Station: Hiraizumi Station
Motsuji Temple
เดินมาชั่วอึดใจจากสถานีรถไฟจะพบกับวัดโมสึจิ วัดใหญ่ของนิกายเทนได อีกหนึ่งมรดกโลกประจำเมืองฮิราอิซุมิ ภายในมีวิหารมากมายให้เยี่ยมเช่นเดียวกับวัดชูซอนจิ แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือสวนโจโด (Pure Land Garden) ว่ากันว่ามีการออกแบบและใช้เทคนิคการจัดสวนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในมีสระน้ำขนาดใหญ่เป็นศูนย์กลาง มีเส้นทางเดินโดยรอบ พร้อมกับวิวเขาโทซังเป็นฉากหลัง เป็นภาพงามที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ
Info
Hours: 8:30-17:00 น. (5 พ.ย.-4 มี.ค. 8:30-16:30 น.)
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 300 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมต้นและชั้นประถม 100 เยน
Website: www.motsuji.or.jp/th
Train Station: Hiraizumi Station
Get ready to GO!
From Thailand to Sendai
ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เซนไดเพียงสายการบินเดียวคือ การบินไทย (Thai Airways) จากสนามบินสุวรรณภูมิถึงสนามบินเซนได สะดวกสบายสุดๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองตั๋วเครื่องบินได้ทางเว็บไซต์
Website: www.thaiairways.com
From Tokyo to Sendai and Morioka
จะแวะเที่ยวโตเกียวก่อนแล้วค่อยต่อชินคันเซ็นมาเซนไดก็ไม่ยาก วิธีนี้แนะนำให้ซื้อบัตรโดยสาร JR East Pass (Tohoku Area) ด้วยจะช่วยประหยัดเงินได้มากขึ้น โดยให้สำรองที่นั่งโทโฮคุ-ฮอกไกโด/อาคิตะชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo หรือ Ueno มาลงที่สถานี Sendai (ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง) หรืออาคิตะชินคันเซ็นมาลงที่สถานี Morioka (ประมาณ 2 ชั่วโมง)
Online Reservation
หากมีบัตรโดยสาร JR East Pass (Tohoku Area) สามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ได้ฟรีทางเว็บไซต์ล่วงหน้า 1 เดือน หรือที่ห้องจำหน่ายตั๋ว JR East Travel Service Center สีเขียวบริเวณสถานีใหญ่ๆ ที่ญี่ปุ่น เช่น สถานี Tokyo, Shinjuku, Shibuya, Ueno, Sendai, Morioka ฯลฯ
Wendy Tour
JR East Pass (Tohoku Area) บัตรโดยสารสุดคุ้มที่ใช้โดยสารรถไฟในโซนโทโฮคุ ทั้งรถไฟโลคอล รถไฟ Joyful Train จะนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวไปลงเซนไดหรือโมริโอกะก็สำรองได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงสามารถใช้นั่งรถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะ หรือ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้ฟรีหมด
หากยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีไหม เราแนะนำให้ลองปรึกษา Wendy Tour ซึ่งจะช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือบัตรโดยสารที่เหมาะสมให้เข้ากับแพลนของเราด้วย สามารถซื้อ JR East Pass (Tohoku Area) ได้ในราคาพิเศษสำหรับผู้อ่านคิจิเท่านั้น
Price: ราคาปกติผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 19,350 เยน, เด็ก (อายุ 6-11 ปี) 9,670 เยน