11 โรงแรมที่ออกแบบโดย เคนโกะ คุมะ

เคนโกะ คุมะ (Kengo Kuma) เป็นสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เรียกได้ว่าในวงการสถาปัตยกรรมนั้นไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินชื่อของเขาอย่างแน่นอน โดยหนึ่งในผลงานที่สำคัญสำหรับ เคนโกะ คุมะ มากก็คืองานออกแบบสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น (Japan National Stadium) สำหรับการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 2020 ซึ่งนอกจากสนามกีฬา ร้านอาหาร ห้องสมุด หรือกระทั่งสิ่งก่อสร้างอื่นๆ แล้ว สถาปนิกชื่อดังคนนี้ก็ยังมีผลงานออกแบบโรงแรมอีกมากมายหลายแห่งในญี่ปุ่น วันนี้เราเลยคัดเลือกและรวบรวมโรงแรมเหล่านั้นมาไว้ด้วยกัน 11 แห่งให้ทุกคนได้ไปชมพร้อมๆ กัน ถ้าอยากรู้ว่าโลกที่ เคนโกะ คุมะ มองเห็นนั้นเป็นอย่างไร ผลงานที่เขาได้สร้างสรรค์ขึ้นมานั้นจะน่าดึงดูดและน่าทึ่งขนาดไหน ต้องลองไปดูกันเลย

เคนโกะ คุมะ Kengo Kuma โรงแรม

ฮอกไกโด

01 One Niseko Resort Towers

One Niseko Resort Towers ฮอกไกโด เคนโกะ คุมะภาพ: oneniseko.com

มาเริ่มกันที่ One Niseko Resort Towers โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในสกีรีสอร์ทนิเซโกะ (Niseko) จังหวัดฮอกไกโด โดยจุดเด่นของที่นี่อย่างแรกเลยก็คือบริเวณทางเข้าที่สร้างโดยใช้ไม้จำนวนมาก ไอเดียนี้มาจากความเชื่อของชาวไอนุ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองในจังหวัดฮอกไกโดที่เชื่อว่าในธรรมชาตินั้นมีพระเจ้าสถิตอยู่ มักจะสร้างที่อยู่อาศัยโดยคำนึงเสมอว่าต้องใช้ไม้ให้คุ้มค่าที่สุด และเคนโกะ คุมะก็ได้ยึดเอาความคิดนั้นเป็นแนวทาง สร้างโรงแรมโดยใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก ออกแบบให้มีดีไซน์ที่สวยงามและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ

ห้องพัก ONE Suite ไม้ เคนโกะ คุมะเคนโกะ คุมะ ออกแบบ designอบอุ่น สีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง roomภาพ: oneniseko.com

และแน่นอนว่าในห้องพักเองก็ออกแบบโดยใช้ไม้เป็นวัสดุหลักเช่นเดียวกัน โดยห้องพักในรูปชื่อว่าห้อง ONE Suite เป็นห้องพักห้องเดียวในโรงแรมแห่งนี้ที่เคนโกะ คุมะเป็นคนออกแบบขึ้นมา และเนื่องจากภายในห้องนั้นโอบล้อมไปด้วยสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ทำให้บรรยากาศในห้องนั้นดูอบอุ่น ราวกับกำลังได้นอนหลับพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยแมกไม้เลยทีเดียว

Penthouse เตียง พักผ่อน โซฟา นั่งเล่น Sofa

อีกห้องหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ Penthouse เป็นห้องพักหรูที่ได้รับความนิยมจากผู้เข้าพักเป็นอย่างมาก ภายในห้องจะมีโซฟาตั้งไว้หลายตัว พร้อมทั้งยังมีระเบียงให้เราได้เดินออกไปชมทิวทัศน์สวยๆ ด้านนอกอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นห้องนี้ยังมีขนาดกว้าง มีสุขาและห้องอาบน้ำอย่างละ 2 ห้อง เตียงเดี่ยว 6 เตียงและฟูกนอน 2 ชุด แม้จะมากันเป็นกลุ่มใหญ่ก็สามารถเข้าพักได้สบายๆ เลย

Gallery Cafe คาเฟ่ ชั้นหนังสือภาพ: oneniseko.com

หากได้มาพักที่โรงแรมแห่งนี้แล้วก็ไม่ควรพลาด Gallery Cafe อีกหนึ่งสถานที่ที่ออกแบบโดยเคนโกะ คุมะ เป็นคาเฟ่ที่มีทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟ แถมยังมีดีไซน์ที่งดงามแปลกตา โดยบริเวณกำแพงด้านหนึ่งของคาเฟ่จะมีลักษณะเป็นชั้นหนังสือ สามารถวางหนังสือเรียงรายกันได้ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ดูสวยงาม น่าสนใจ และน่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ออนเซ็น Onsen แช่น้ำ ธรรมชาติภาพ: oneniseko.com

นอกจากห้องพักและคาเฟ่สวยๆ แล้ว บริเวณชั้น 3 ของตึก West Tower ยังมีออนเซ็นเปิดให้บริการอีกด้วย ซึ่งออนเซ็นแห่งนี้เป็นบ่อที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนคาร์บอเนต ช่วยขจัดความสกปรกออกจากรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ห้องแช่ออนเซ็นเองก็ใช้ไม้เป็นวัสดุ ดูสวยงามและเข้ากับต้นไม้ด้านนอก หากต้องการคลายความเหนื่อยล้าก็สามารถมาแช่น้ำร้อนผ่อนคลายสบายๆ ที่นี่ได้

Info
One Niseko Resort Towers
Location: แขวงอาบุตะ (Abuta) จังหวัดฮอกไกโด
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 8,832 เยน
Nearest Station: สถานีนิเซโกะ (Niseko Station)
Access: จากสถานีนิเซโกะ นั่งแท็กซี่ประมาณ 11 นาที
Website: oneniseko.com

 

02 WE Hotel Toya

WE Hotel Toya โรงแรม Hokkaido เคนโกะ คุมะภาพ: www.j-hotel.or.jp

ต่อมาได้แก่ WE Hotel Toya เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนที่สูง มองเห็นทิวทัศน์ของทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) ได้อย่างชัดเจน โดยโรงแรมแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นสถานสวัสดิการสังคมมาก่อน เคนโกะ คุมะก็ได้บรรจงออกแบบขึ้นมาใหม่ ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักเพื่อสร้างบรรยากาศให้รู้สึกอบอุ่น นำเอาความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่มาผสมผสานกับธรรมชาติอันสวยงามของทะเลสาบโทยะ จนในที่สุดโรงแรมที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

Lake View Twin เตียงคู่ ทะเลสาบโทยะ เคนโกะ คุมะ เบาะนั่ง ริมหน้าต่าง ชมวิว เคนโกะ คุมะ

ห้องพักแบบแรกได้แก่ Lake View Twin เป็นห้องเตียงคู่ มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งในตัว และเนื่องจากภายในห้องนั้นออกแบบด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีโทนสีที่งดงามเป็นธรรมชาติ มองแล้วสบายตา อีกทั้งยังมีหน้าต่างบานใหญ่พร้อมเบาะนั่งริมหน้าต่างอีกด้วย วันไหนว่างๆ ก็ลองไปนั่งเพลินๆ ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของทะเลสาบโทยะได้

Lake View King ชมวิว ห้องพัก เคนโกะ คุมะ นั่งเล่น พักผ่อน Relax เคนโกะ คุมะ

ห้องต่อมาก็เป็นห้องที่ดูสวยงามแบบธรรมชาติและมีโทนสีที่สบายตาเช่นกัน ได้แก่ Lake View King มาพร้อมมุมนั่งเล่นที่กว้างขวาง เตียงขนาดใหญ่ และอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง ระหว่างที่แช่น้ำก็สามารถชมวิวอันงดงามของทะเลสาบโทยะไปเพลินๆ ได้ หลังอาบน้ำเสร็จก็มานั่งพักผ่อนสบายๆ ในห้อง รับรองเลยว่าคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดีแน่นอน

ห้องอาหาร ลวดลาย เคนโกะ คุมะ

และสถานที่ที่แฟนพันธุ์แท้ของเคนโกะ คุมะห้ามพลาดเลยก็คือห้องอาหาร โดยห้องนี้จะมีการสร้างลวดลายและสัมผัสที่เป็นสามมิติขึ้นมา เป็นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ สร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี และถึงแม้จะเป็นดีไซน์ที่แปลกตาแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถกลมกลืนกับธรรมชาตินอกหน้าต่างได้อย่างเหลือเชื่ออีกด้วย

ผ้า คลื่น ออกแบบ Lobby เคนโกะ คุมะภาพ: www.architonic.com

อีกหนึ่งการออกแบบที่เคนโกะ คุมะได้สร้างสรรค์ขึ้นมาก็คือผนังและเพดานห้องล็อบบี้ เป็นการดีไซน์ผ้าให้ออกมามีลักษณะคล้ายรูปคลื่น เห็นแล้วทำให้นึกถึงมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยเกลียวคลื่นเลยทีเดียว เป็นห้องโถงที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยความงดงาม น่าถ่ายรูปเก็บไว้ทุกมุมจริงๆ

Info
WE Hotel Toya
Location: แขวงอาบุตะ (Abuta) จังหวัดฮอกไกโด
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 38,000 เยน
Nearest Station: สถานีโทยะ (Toya Station)
Access: จากสถานีโทยะ นั่งแท็กซี่ประมาณ 23 นาที
Website: www.wehoteltoya.com

 

03 Memu Earth Hotel

Memu Earth Hotel ที่พัก ทุ่งหญ้า เคนโกะ คุมะ

มาต่อกันที่อีกหนึ่งโรงแรมบนเกาะฮอกไกโด Memu Earth Hotel เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผลงานจากสถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดังหลายท่าน นอกจากเคนโกะ คุมะ ก็ยังมีอิโต โทโยโอะ (Toyo Ito) โดยจุดมุ่งหมายของโรงแรมแห่งนี้คือให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงธรรมชาติอย่างเต็มที่ บ้านพักแต่ละหลังล้วนใช้ทรัพยากรหมุนเวียนเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่ให้ความสำคัญต่อธรรมชาติมากทีเดียว

Meme บ้านพัก หิมะ Snow เคนโกะ คุมะ กระโจม สีขาว White กว้างขวาง เคนโกะ คุมะ เตียงนอน Bed พักผ่อน เคนโกะ คุมะภาพ: memu.earthhotel.jp

บ้านพักในโรงแรมแห่งนี้มีทั้งหมด 5 หลัง แต่ละหลังก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งบ้านพักที่เรายกมาแนะนำในครั้งนี้ได้แก่ Meme สร้างขึ้นโดยมีไอเดียมาจากที่พักของชาวไอนุ แต่มีการออกแบบขึ้นใหม่โดยนำเอาเทคโนโลยีปัจจุบันมาปรับใช้ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ภายในจะค่อนข้างกว้างคล้ายกระโจมสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งโดยปกติแล้วบ้านพักที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะนั้นจะเป็นพื้นที่ปิด บรรยากาศรอบข้างจะค่อนข้างมืด แต่ที่บ้านพัก Meme แห่งนี้แสงอาทิตย์จะสามารถลอดผ่านเข้ามาได้อย่างทั่วถึง ภายในห้องสว่างสดใสและอบอุ่น แม้ในฤดูหนาวก็สามารถเข้าพักได้อย่างไร้กังวล

HORIZON HOUSE สี่เหลี่ยม ดีไซน์ เคนโกะ คุมะ กว้าง บ้านพัก สีน้ำตาล อบอุ่น เคนโกะ คุมะ เตียงคู่ ไม้ wood เคนโกะ คุมะภาพ: memu.earthhotel.jp

ต่อมาได้แก่ HORIZON HOUSE เป็นบ้านพักอีกหนึ่งหลังที่น่าสนใจ สร้างขึ้นในธีม RETREAT IN NATURE หรือก็คือการหลีกหนีความวุ่นวายในชีวิตประจำวันมาอาศัยอยู่ในธรรมชาตินั่นเอง ห้องด้านในจะเชื่อมติดกันเป็นพื้นที่กว้าง ทำให้สามารถกวาดตามองทิวทัศน์นอกหน้าต่างได้รอบด้าน ซึ่งด้านนอกก็จะเป็นภาพของทุ่งหญ้ากว้างสุดสายตา บางเวลาอาจเห็นสัตว์ต่างๆ เช่น กวางหรือสุนัขจิ้งจอกออกมาเดินเล่นอีกด้วย และพอเข้าสู่ฤดูหนาว ทุ่งหญ้าก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน เป็นอีกทิวทัศน์ที่งดงาม คนรักหิมะจะต้องชอบแน่นอน

STUDIO MEMU อิโต โทโยโอะ Toyo Ito เคนโกะ คุมะภาพ: memu.earthhotel.jp

และสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งก็คือ STUDIO MEMU เป็นสถานที่สารพัดประโยชน์ ซึ่งเป็นทั้งห้องอาหาร ร้านค้า ห้องสมุด และยังเป็นห้องทำเวิร์คช็อปอีกด้วย โดยที่จริงแล้ว STUDIO MEMU นั้นเคยเป็นคลังเสบียงอาหารสัตว์มาก่อน ได้ถูกนำมาออกแบบใหม่โดยอิโต โทโยโอะ กลายเป็นพื้นที่สาธารณะสุดทันสมัยที่ยังคงอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงตอนเป็นเด็ก

ม้า horse รถม้าลากเลื่อน หิมะ

บริเวณโดยรอบโรงแรมนั้นมักจะมีม้าเดินไปมาอยู่ตลอดเวลา เพราะจริงๆ แล้วเมื่อก่อนบริเวณนี้เคยเป็นฟาร์มสำหรับฝึกม้าแข่ง และปัจจุบันก็ได้สร้างขึ้นใหม่ กลายเป็นโรงแรมที่ดีไซน์สวยและทันสมัยอย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้ ซึ่งทางโรงแรมก็ได้มุ่งสร้างพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นสถานที่ที่คนและสัตว์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับสัตว์และธรรมชาติขึ้นมากมาย เช่น รถม้าลากเลื่อน รถสุนัขลากเลื่อน กิจกรรมเก็บผักบนเขา เป็นต้น ใครสนใจก็สามารถติดต่อกับทางโรงแรมได้เลย

Info
Memu Earth Hotel
Location: แขวงฮิโรโอะ (Hiroo) จังหวัดฮอกไกโด
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 88,000 เยน
Access: ขับรถจากสนามบินโอบิฮิโระ (Obihiro Airport) ประมาณ 41 นาที
Website: memu.earthhotel.jp

 

โตเกียว

04 The Tokyo EDITION, Toranomon

The Tokyo EDITION Toranomon โรงแรม โตเกียว เคนโกะ คุมะภาพ: www.tabitokudayori.com

มาต่อกันเลยกับ The Tokyo EDITION, Toranomon โรงแรมแบรนด์ EDITION แห่งแรกในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมชั้นนำจากเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล มาพร้อมความหรูหราเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นบริเวณทางเข้า ห้องพัก หรือห้องอาหาร โดยโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในตึกสูง ตั้งแต่ชั้นที่ 31-36 มีห้องพักรวมทั้งหมด 206 ห้อง ซึ่งเคนโกะ คุมะได้รับหน้าที่ออกแบบภายในตัวโรงแรมทั้งหมด รวมไปถึงห้องพักแต่ละห้องด้วย

Superior Suite วิวกลางคืน ห้องพัก เคนโกะ คุมะ วิวตึก เตียงคิงไซส์ king size bed เคนโกะ คุมะ อ่างอาบน้ำ ห้องน้ำ bathtub

ในรูปคือห้องพักที่ชื่อว่า Superior Suite เป็นห้องที่มีความกว้างทั้งหมด 70 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยเตียงคิงไซส์ 1 เตียง จากในห้องสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของตึกในกรุงโตเกียวได้ชัดเจน การออกแบบภายในห้องก็ดูมีความเป็นเอกลักษณ์ มีการใช้ไม้กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นแนวตั้งดูสวยงาม นับเป็นอีกหนึ่งสไตล์การออกแบบที่แสดงถึงตัวตนของเคนโกะ คุมะได้เป็นอย่างดี

ระเบียง Studio Terrace ต้นไม้ เคนโกะ คุมะ เรียบง่าย หรูหรา Simple อ่างล้างมือ กระจก Bathroom Sink

อีกห้องพักหนึ่งที่น่าสนใจได้แก่ Studio Terrace มีจุดเด่นคือระเบียงนอกห้อง ซึ่งเป็นระเบียงที่ค่อนข้างจะกว้างขวางมาก จึงใช้เป็นพื้นที่สำหรับชมวิวหรือคุยเล่นกับเพื่อนได้ อีกทั้งยังมีต้นไม้สีเขียวประดับไว้มากมายให้ผู้เข้าพักได้ชื่นชม บริเวณห้องครัวและอ่างล้างมือเองก็จะมีต้นไม้หรือดอกไม้ขนาดเล็กประดับไว้เพิ่มสีสันพองาม สร้างบรรยากาศให้ห้องดูน่ารักและอ่อนโยนขึ้น

สีเขียว ต้นไม้ Lobby Bar เคนโกะ คุมะ

และสถานที่สุดหรูอีกที่หนึ่งก็คือ Lobby Bar ภายในห้องจะประกอบไปด้วยเคาท์เตอร์ที่ทำจากหินสีขาว ล้อมรอบด้วยเก้าอี้จากผ้ากำมะหยี่สีเขียวสด อีกทั้งยังมีต้นไม้หลากชนิดประดับไว้รอบห้อง เรียกได้ว่าเป็นห้องที่ดึงเอาความงดงามของสีเขียวออกมาได้อย่างเต็มที่จริงๆ ซึ่งการออกแบบโดยใช้สีเขียวเป็นหลักแบบนี้ ก็เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่น่าสนใจของเคนโกะ คุมะเช่นเดียวกัน

สระว่ายน้ำ Pool เก้าอี้นั่งพัก เคนโกะ คุมะ

นอกจาก Lobby Bar แล้ว บริเวณรอบสระว่ายน้ำก็มีการประดับต้นไม้สีเขียวไว้เช่นกัน โดยสีเขียวของต้นไม้นั้นจะกลมกลืนไปกับสีฟ้าของสระว่ายน้ำจนดูเข้ากันได้อย่างน่าตกใจ บริเวณใกล้กับเก้าอี้นั่งพักก็จะมีเทียนตั้งประดับไว้เพิ่มความหรูหรา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงดงาม ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี

Info
The Tokyo EDITION, Toranomon
Location: เขตมินาโตะ (Minato) กรุงโตเกียว
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 43,516 เยน
Nearest Station: สถานีคามิยะโจ (Kamiyacho Station)
Access: จากสถานีคามิยะโจ เดินประมาณ 2 นาที
Website: www.marriott.com

 

05 The Capitol Hotel Tokyu

The Capitol Hotel Tokyu โตเกียว Tokyo เคนโกะ คุมะภาพ: www.tokyuhotels.co.jp

ถัดมาได้แก่ The Capitol Hotel Tokyu เป็นโรงแรมที่นำเอาโครงสร้างแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมมาใช้ ผสมผสานกับความโมเดิร์นจนเกิดเป็นความงามแบบใหม่ที่น่าจับตามอง โดยบริเวณทางเข้าโรงแรมส่วนบนจะมีชายคาที่ทำจากไม้ยื่นออกมาเรียงรายกันเป็นแนวยาว เป็นดีไซน์ที่น่าสนใจ เพิ่มกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าสถาปนิกที่ออกแบบก็คือเคนโกะ คุมะ โดยนอกจากทางเข้าแล้ว เขายังดูแลการออกแบบพื้นที่สาธารณะต่างๆ เช่น ล็อบบี้และบริเวณรอบนอกโรงแรมอีกด้วย

Deluxe King โรงแรม เตียงคิงไซส์ เคนโกะ คุมะ ประตูเลื่อน ญี่ปุ่น Japan ดั้งเดิมภาพ: www.tokyuhotels.co.jp

ห้องพักแบบแรกได้แก่ Deluxe King ประกอบไปด้วยเตียงคิงไซส์ 1 เตียง สามารถเข้าพักได้ 1-2 คน ภายในห้องมีการนำเอาประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นเข้ามาใช้เป็นตัวแบ่งห้อง ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่นอกจากจะทำให้ดูสวยงามแล้ว ยังทำให้ใช้งานสะดวกอีกด้วย

Premier Corner Twin เตียงคู่ ทิวทัศน์ เคนโกะ คุมะ ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ อ่างล้างมือภาพ: www.tokyuhotels.co.jp

ห้องต่อมาได้แก่ Premier Corner Twin ภายในห้องนั้นเป็นเตียงคู่ สามารถเข้าพักได้มากที่สุด 3 คน โดยห้องนี้เป็นห้องที่มีโทนสีน้ำตาลเข้ม ดูหรูหราและทันสมัย อีกทั้งยังใส่ใจถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ลายบนกำแพงและลายวงกลมบนพื้นด้วย ความกว้างของห้องนอนและห้องน้ำก็กำลังดี อยู่สบายไม่อึดอัดแน่นอน

ล็อบบี้ Lobby อิเคบานะ Ikebanaภาพ: www.americanexpress.com

เมื่อเดินเข้าไปในล็อบบี้ สิ่งที่จะสะดุดตาเป็นอย่างแรกเลยก็คืออิเคบานะ (Ikebana) หรือการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งผลงานการจัดดอกไม้นี้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกเดือน ทำให้สามารถดื่มด่ำกับความงามของดอกไม้ในแต่ละฤดูได้ไม่ซ้ำกัน อีกทั้งดีไซน์ในห้องเองก็ยังงดงาม ที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คือกำแพงและเพดานที่ถูกออกแบบด้วยไม้รูปตาราง เรียกได้ว่านอกจากจะได้ชมดอกไม้สวยๆ แล้วยังได้ชมผลงานการออกแบบอันน่าตื่นตาตื่นใจของเคนโกะ คุมะอีกด้วย

สปา Spa ดอกไม้ แจกัน

นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีห้องสปาเปิดให้บริการ และแน่นอนว่าเป็นห้องที่ออกแบบให้มีทั้งความเป็นญี่ปุ่นและความโมเดิร์นมาผสมอยู่ด้วยกัน โดยจะมีให้เลือกทั้งห้องสปาแบบรวมและห้องสปาแบบเดี่ยว แต่ละห้องก็จะมีการประดับดอกไม้ชนิดต่างๆ เอาไว้เพื่อความสวยงาม เอาใจใส่ทั้งในเรื่องของการออกแบบ เสียง กลิ่น หรือกระทั่งเครื่องดื่ม นับเป็นสถานที่ที่สามารถเยียวยาความเหนื่อยล้าได้ดีทีเดียว

Info
The Capitol Hotel Tokyu
Location: เขตจิโยดะ (Chiyoda) กรุงโตเกียว
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 47,540 เยน
Nearest Station: สถานีคกไค-กิจิโดมาเอะ (Kokkai-gijidomae Station)
Access: จากสถานีคกไค-กิจิโดมาเอะ เดินประมาณ 1 นาที
Website: www.tokyuhotelsjapan.com

 

ชิซูโอกะ

06 Atami Kaihourou

Atami Kaihourou ชิซูโอกะ Shizuokaภาพ: travel-noted.jp

มาต่อกันที่จังหวัดชิซูโอกะกับ Atami Kaihourou โรงแรมขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ของกระจกและผิวน้ำ โดยแม้ห้องพักของที่นี่จะมีเพียง 4 ห้อง แต่ก็เป็น 4 ห้องที่สวยงามและมีบรรยากาศแตกต่างกันออกไป ผู้เข้าพักก็สามารถเลือกเข้าพักได้ตามความชอบ และต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าโรงแรมแห่งนี้มีการออกแบบที่งดงามมากจนเหล่าสถาปนิกทั่วโลกต้องชื่นชม เมื่อได้ก้าวเข้าไปข้างในตัวโรงแรมแล้วจะพบกับความสวยงามอันน่าตกตะลึง ราวกับเป็นโลกอีกใบเลยทีเดียว

LUXURY SUITE เซย์ฮะ เตียงนอนภาพ: travel-noted.jpห้องพัก อ่าวซางามิ Sagami Bay อ่างอาบน้ำจากุชชี่ Jacuzzi กลางแจ้งภาพ: hitotoki-hotel.com

ก่อนอื่นต้องขอแนะนำ LUXURY SUITE เซย์ฮะ เป็นห้องพักที่มีความกว้างมากถึง 90 ตารางเมตร ฝั่งหนึ่งของกำแพงจะถูกสร้างด้วยกระจกทั้งหมด ทำให้มองเห็นพื้นน้ำและทิวทัศน์ของอ่าวซางามิ (Sagami Bay) ที่อยู่ด้านนอกอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำจากุชชี่ตั้งอยู่กลางแจ้งอีกด้วย เป็นห้องพักที่มีบรรยากาศปลอดโปร่งโล่งสบาย แม้จะอยู่ในห้องก็สามารถสัมผัสแสงแดดและทะเลได้ตลอดเวลา

WESTERN ROOM โชซัง ห้องแบบตะวันตก ยุโรป ภาพ: hitotoki-hotel.comสวน ต้นไม้ ทิวทัศน์ viewภาพ: travel-noted.jp

อีกห้องหนึ่งที่อยากแนะนำได้แก่ WESTERN ROOM โชซัง เป็นห้องแบบตะวันตกที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เตรียมไว้ให้ครบครัน เตียงในห้องจะเป็นเตียงคู่ สามารถเข้าพักได้ 2 คน ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้คือมีทิวทัศน์นอกหน้าต่างสวย นอกจากอ่าวซางามิ (Sagami Bay) แล้วยังมองเห็นสวนด้านนอกอีกด้วย พอตกกลางคืน ในสวนก็จะมีการจัดแสดงไฟสะท้อนกับต้นไม้เป็นสีสันต่างๆ ให้เราได้ชม

Water Balcony เคนโกะ คุมะ น้ำ กระจก ภาพ: hitotoki-hotel.com

และสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้เลยก็คือ Water Balcony เป็นผลงานของเคนโกะ คุมะที่โด่งดังมากชิ้นหนึ่ง ออกแบบโดยใช้น้ำกับกระจกเป็นหลัก โดยพื้นด้านล่างจะเต็มไปด้วยน้ำทั้งหมด เพราะฉะนั้นหากกวาดสายตามองแล้วก็จะเห็นเป็นภาพอันสวยงาม ราวกับว่าพื้นที่ที่เรายืนอยู่นั้นกำลังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับทะเลตรงหน้าเลยทีเดียว ซึ่งแขกของโรงแรมสามารถเข้ามารับประทานอาหารที่นี่ได้ หากเป็นวันที่มีเทศกาลดอกไม้ไฟ ก็สามารถรับประทานอาหารไปด้วย ชมดอกไม้ไฟสวยๆ ตรงหน้าไปด้วยได้

บ่อออนเซ็น Onsen ธรรมชาติ nature ภาพ: travel-noted.jp

นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีบ่อออนเซ็นให้แช่อีกด้วย เป็นออนเซ็นที่โอบล้อมไปด้วยกระจกขนาดใหญ่ เมื่อมองออกไปก็จะเห็นต้นไม้หลากชนิด และถ้าหากอยากสัมผัสบรรยากาศของออนเซ็นกลางแจ้งก็สามารถเปิดกระจกออกเพื่อดื่มด่ำกับแสงแดดเบาๆ ด้านนอกได้ โดยออนเซ็นแห่งนี้สามารถใช้งานได้ครอบครัวละ 50 นาที ใครอยากลองแช่ออนเซ็นส่วนตัวสบายๆ ก็สามารถเข้ามาใช้บริการกันได้เลย

Info
Atami Kaihourou
Location: เมืองอาตามิ (Atami) จังหวัดชิซูโอกะ
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 70,400 เยน
Nearest Station: สถานีอาตามิ (Atami Station)
Access: จากสถานีอาตามิ เดินประมาณ 9 นาที
Website: www.atamikaihourou.jp

 

โอซาก้า

07 Hotel Royal Classic Osaka

Hotel Royal Classic Osaka โอซาก้า โรงแรม

ต่อมาได้แก่ Hotel Royal Classic Osaka โรงแรมที่เคนโกะ คุมะออกแบบขึ้นมาใหม่จากโรงละครคาบูกิเก่า โดยโรงแรมแห่งนี้มีคอนเซ็ปต์คือ เชื่อมต่อเวลาเข้าด้วยกัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาวัฒนธรรมบ้านเมืองในญี่ปุ่น และสืบทอดให้วัฒนธรรมเหล่านั้นก้าวเข้าสู่โลกสมัยใหม่ต่อไป โดยการออกแบบก็จะนำเอาวัฒนธรรมดั้งเดิมและนวัตกรรมใหม่มาผสมผสานกัน บริเวณส่วนล่างของตึกนั้นก่อสร้างขึ้นใหม่โดยยึดเอาการออกแบบสไตล์หลังคามนโค้งของมุราโนะ โทโกะ (Togo Murano) เป็นหลัก และส่วนบนของตึกนั้นใช้ครีบอลูมิเนียมหลายแผ่นซ้อนกันให้เกิดเป็นลวดลายที่งดงาม เป็นการเพิ่มความทันสมัยเข้าไปในความดั้งเดิมได้อย่างลงตัว

Premium Twin ห้องพัก Gray view วิว กลางคืน ห้องอาบน้ำ

ห้องพักแบบแรกที่จะขอหยิบมาแนะนำคือ Premium Twin/Double ภายในห้องนั้นจะถูกออกแบบไว้อย่างประณีต มีหน้าต่างบานสูงทำให้มองเห็นวิวด้านนอกได้ทั่วถึง อีกทั้งยังมีจุดเด่นตรงเพดานที่มีลักษณะเอียงเล็กน้อย โทนสีของกำแพงและพื้นก็จะค่อนไปทางสีเทา ดูหรูหราน่าเข้าพัก

Suite ห้องสวีท Hotel หรูหรา อ่างอาบน้ำ bathtub bathroom

ต่อมาคือห้อง Suite เป็นห้องที่ค่อนข้างกว้าง เต็มไปด้วยหน้าต่างบานใหญ่เรียงรายอยู่ข้างมุมนั่งเล่น ให้เราเพลิดเพลินกับวิวยามค่ำคืนของจังหวัดโอซาก้าได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้บานกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่ทำมาจากไม้ก็ดูสวยงาม มีต้นไม้ประดับตกแต่งเล็กน้อย ทำให้สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นได้

KUMOKUMO บาร์ Bar

อีกสถานที่ที่อยากแนะนำก็คือ KUMOKUMO เป็นบาร์ที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรม เมื่อมองลงมาจากหน้าต่างจะเห็นทิวทัศน์แสงไฟระยิบระยับของตึกในจังหวัดโอซาก้า ซึ่งนอกจากทิวทัศน์จะสวยงามแล้ว บรรยากาศในร้านเองก็สวยงามมากเช่นเดียวกัน กำแพงในร้านจะเป็นกำแพงไม้สีโทนเข้ม เพดานจะออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายคลื่น ดูเป็นเอกลักษณ์และสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้พบเห็น โซฟาเองก็นั่งสบาย ต้องบอกเลยว่าเหมาะจะใช้เป็นสถานที่สำหรับพบปะสังสรรค์มากๆ

ผลงาน ศิลปะ Art รูปภาพ

และเสน่ห์ของโรงแรม Hotel Royal Classic Osaka ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือผลงานศิลปะที่ถูกจัดแสดงไว้ทั่วโรงแรม โดยจะมีผลงานศิลปะราว 100 ผลงานวางประดับไว้ในแต่ละพื้นที่ และหนึ่งในหลายผลงานนั้นก็มีกระทั่งผลงานทรงคุณค่าที่มีราคาหลายสิบล้านเยนจัดแสดงอยู่ด้วย เป็นโรงแรมที่เราสามารถเดินชมผลงานศิลปะได้ ราวกับได้มาเยือนที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะจริงๆ เลยทีเดียว

Info
Hotel Royal Classic Osaka
Location: เมืองโอซาก้า (Osaka) จังหวัดโอซาก้า
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 22,600 เยน
Nearest Station: สถานีโอซาก้า-นัมบะ (Osaka-Namba Station)
Access: จากสถานีโอซาก้า-นัมบะ เดินประมาณ 3 นาที
Website: hotel-royalclassic.jp

 

นารา

08 FUFU Nara

FUFU Nara โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น นารา

ย้ายมาต่อกันที่จังหวัดนารากับ FUFU Nara โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติใกล้ภูเขาคาสุกะ (Mt. Kasuga) โรงแรมแห่งนี้จะออกแบบโดยใช้ไม้สนโยชิโนะเป็นหลัก ซึ่งเป็นไม้สนที่มีลายไม้สวยงาม เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงธรรมชาติและวัฒนธรรมของจังหวัดนาราได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่น เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติอันงดงาม ยิ่งบวกกับสไตล์การออกแบบของเคนโกะ คุมะด้วยแล้วยิ่งน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก หากได้ลองมาเข้าพักดูแล้วไม่ว่าใครก็ต้องติดใจแน่นอน

COMFORT SUITE วันรูม One Room โซฟา Sofa นั่งเล่น ห้องพัก

ห้องพักแบบแรกที่เราจะพาไปดูกันได้แก่ COMFORT SUITE เป็นห้องแบบวันรูม ไม่มีกำแพงกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้พื้นที่ในห้องนั้นดูกว้างขวาง โซฟาเองก็มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ นั่งสบาย สามารถมานั่งเล่นพร้อมกับชมวิวสวยๆ นอกหน้าต่างไปพร้อมกันกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวได้

STYLISH SUITE สีน้ำตาลเข้ม เตียงคู่ ห้องอาบน้ำ สไตล์ญี่ปุ่น เก่าแก่ Twin Bed เตียงนอน พักผ่อน

ห้องพักแบบที่สองได้แก่ STYLISH SUITE โทนสีของห้องจะออกเป็นโทนเข้ม ทำให้ดูหรูหราและชวนระลึกถึงประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของจังหวัดนารา โดยภายในห้องพักก็จะมีมุมนั่งเล่นพร้อมโซฟาแบบไม่สูงมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในการออกแบบที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการนั่งพื้นของคนญี่ปุ่น บริเวณห้องอาบน้ำก็อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ดูเก่าแก่ เรียกได้ว่าเป็นความงดงามที่ยากเกินจะบรรยายจริงๆ

TEKISUI ร้านอาหาร กระจก restaurant

และร้านอาหารของโรงแรมมีชื่อร้านว่า TEKISUI วันไหนหิวๆ ก็สามารถเข้ามาลิ้มลองอาหารอร่อยๆ ของจังหวัดนาราได้ที่นี่ ซึ่งนอกจากของคาวแล้วก็ยังมีของหวานทั้งแบบตะวันตกและแบบญี่ปุ่นให้อร่อยกันอีกด้วย ภายในตัวร้านก็บรรยากาศดี รอบข้างประดับด้วยกระจกบานใหญ่ มองแล้วรู้สึกปลอดโปร่ง ระหว่างรับประทานอาหารก็สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สวยๆ ของสวนญี่ปุ่นด้านนอกได้

ล็อบบี้ Lobby มุมนั่งพัก สวนแบบญี่ปุ่น

ห้องล็อบบี้เองก็เป็นอีกหนึ่งห้องในโรงแรมที่ออกแบบไว้อย่างสวยงาม โดยรวมแล้วโทนสีภายในห้องจะค่อนไปทางโทนน้ำตาลเทา ซึ่งเป็นสีที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติได้ดี นอกจากนี้ภายในห้องยังมีเก้าอี้นั่งสำหรับชมทิวทัศน์ด้านนอกอีกด้วย มาพร้อมผ้าสีขาวแขวนกั้นไว้เพิ่มความสวยงาม เมื่อมองออกไปด้านนอกก็จะพบกับทิวทัศน์ของสวนแบบญี่ปุ่น แต่ละฤดูกาลก็จะมีความงดงามที่แตกต่างกันออกไป เป็นสวนที่ไม่ว่าใครก็สามารถเพลิดเพลินได้ทุกฤดู

Info
FUFU Nara
Location: เมืองนารา (Nara) จังหวัดนารา
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 59,400 เยน
Nearest Station: สถานีคินเท็ตสึ-นารา (Kintetsu-Nara Station)
Access: จากสถานีคินเท็ตสึ-นารา นั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
Website: www.fufunara.jp

 

นางาซากิ

09 Olive Bay Hotel

Olive Bay Hotel นางาซากิ Nagasakiภาพ: staynavi.direct

ตามมาต่อกันที่ Olive Bay Hotel โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะโอชิมะ (Oshima Island) จังหวัดนางาซากิ ซึ่งเป็นเกาะที่อุดมไปด้วยธรรมชาติมากมายทั้งทะเลและป่าไม้ ตัวตึกด้านนอกมีสีขาว ออกแบบมาให้มีความตื้นลึกต่างกัน ทำให้มองเห็นเป็นเงาเส้นตรงคล้ายจีบผ้า นับได้ว่าเป็นงานออกแบบที่ดูทันสมัยและลงตัวกับธรรมชาติรอบด้านมากๆ

Luxury Room เตียงคู่ Bed โซฟา พักผ่อน ห้องพัก Room ห้องอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ bathtub ทิวทัศน์ ภาพ: www.olivebayhotel.co.jp

ห้องพักในโรงแรมจะมีทั้งหมด 32 ห้อง และทุกห้องสามารถชมทิวทัศน์ของธรรมชาตินอกหน้าต่างได้อย่างชัดเจน ซึ่งห้องพักแบบแรกที่เราหยิบมาแนะนำนี้ชื่อว่า Luxury Room เป็นห้องที่ออกแบบได้น่ารัก มีสีสันแต่งเติมเล็กน้อยทำให้ห้องไม่ดูโล่งจนเกินไป ห้องอาบน้ำเองก็เป็นแบบกระจก สามารถชมท้องฟ้าสวยๆ ไปด้วยแช่น้ำไปด้วยได้

เก้าอี้แบบญี่ปุ่น japanese style room ห้องแบบญี่ปุ่น เสื่อทาทามิ tatami ประตูเลื่อน ประตูแบบญี่ปุ่นภาพ: www.olivebayhotel.co.jp

อีกหนึ่งห้องที่น่าเข้าพักมากๆ ก็คือ Japanese Style Room เป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่มีขนาดกว้างกำลังพอเหมาะ สามารถเข้าพักได้ 2-6 คน มุมนั่งเล่นจะประกอบไปด้วยเก้าอี้แบบญี่ปุ่น แจกันดอกไม้และรูปภาพของต้นซากุระ มาพร้อมกับกลิ่นหอมเบาๆ ของเสื่อทาทามิ เป็นห้องที่ดูสงบและบรรยากาศดีมากอีกห้องหนึ่งเลยทีเดียว

Olive ห้องอาหาร ประดับไฟ ปลอดโปร่ง ภาพ: www.olivebayhotel.co.jp

และอีกสถานที่หนึ่งที่อยากแนะนำก็คือห้องอาหาร Olive เป็นห้องที่มีดีไซน์สวย กระจกขนาดใหญ่จะตั้งเรียงรายกันอยู่บริเวณฝั่งหนึ่งของกำแพง ทำให้แขกรู้สึกปลอดโปร่งราวกับกำลังรับประทานอาหารอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเลยทีเดียว และภายในร้านยังมีการประดับไฟแบบย้อยลงมาอีกด้วย ซึ่งแต่ละดวงก็จะมีความยาวที่ต่างระดับกัน ทำให้มองเห็นเป็นแสงระยิบระยับสวยงามคล้ายดวงดาว

ผลงานศิลปะ Zuiko งานประติมากรรม Minami Tada ภาพ: www.olivebayhotel.co.jp

นอกจากนี้ ภายในโรงแรมยังมีผลงานศิลปะจัดแสดงไว้อย่างหลากหลาย หากเราเดินเข้าไปในล็อบบี้ สิ่งแรกที่จะเข้าสู่สายตาก็คืองานประติมากรรมขนาดใหญ่ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย ทาดะ มินามิ (Minami Tada) เป็นผลงานที่ชื่อว่า Zuiko (แสงแห่งความยินดี) แสดงถึงท้องทะเล ท้องฟ้า เมฆ และแสงแดด ซึ่งนอกจากผลงานนี้แล้วยังมีอีกหลายผลงานที่น่าสนใจจัดแสดงไว้ทั่วโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นรูปวาด งานปั้น หรือโคมไฟกระดาษ ใครมีเวลาว่างก็ลองมาเดินเล่นเพื่อเที่ยวชมผลงานเหล่านี้กันได้

Info
Olive Bay Hotel
Location: เมืองไซไก (Saikai) จังหวัดนางาซากิ
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 38,000 เยน
Nearest Station: สถานีซาเซโบะ (Sasebo Station)
Access: จากสถานีซาเซโบะ เดินประมาณ 7 นาทีไปยังท่าเรือคุจิราเสะ (Kujiraze Terminal) จากนั้นนั่งเรือประมาณ 44 นาทีไปลงที่ท่าเรือโอชิมะ (Oshima Port) จากนั้นนั่งแท็กซี่อีก 5 นาที
Website: www.olivebayhotel.co.jp

 

10 Garden Terrace Nagasaki Hotel & Resort

Garden Terrace Nagasaki Hotel & Resort นางาซากิ โรงแรม

และมาต่อกันที่อีกโรงแรมหนึ่งในจังหวัดนางาซากิ Garden Terrace Nagasaki Hotel & Resort เป็นสถานที่ที่จะทำให้เราได้สัมผัสถึงความงดงามของจังหวัดนางาซากิอย่างเต็มที่ ซึ่งตัวโรงแรมนั้นจะถูกประดับไปด้วยหน้าต่างที่มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป เราก็สามารถชมทิวทัศน์ของจังหวัดนางาซากิได้จากหน้าต่างเหล่านั้น โดยทิวทัศน์ยามค่ำคืนของจังหวัดนางาซากินั้นสวยงามมาก ถึงขนาดถูกแต่งตั้งให้เป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ. 2012 เลยทีเดียว ใครมีโอกาสได้มาเข้าพักก็อย่าลืมพกกล้องมาถ่ายวิวสวยๆ นี้เก็บไว้ด้วยนะ

Harbour Suite เตียง ห้องพัก guest room ห้องพักในโรงแรม ระเบียง อ่างอาบน้ำ ทิวทัศน์ วิว view

ห้องพักแบบแรกได้แก่ Harbour Suite เป็นห้องที่พื้นและเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ ให้บรรยากาศอบอุ่น ดูเหมาะแก่การพักผ่อน แสงไฟสีส้มและกำแพงสีเทาเองก็ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับตัวห้องได้ไม่น้อย และเตียงในห้องจะเป็นเตียงคู่ มาพร้อมระเบียงขนาดเล็กสำหรับออกไปสูดอากาศเย็นๆ ข้างนอก หรือหากอยากชมวิวตอนกลางคืนชิลล์ๆ ก็สามารถนั่งชมจากเก้าอี้ด้านนอกได้

Japanese Suite ห้องแบบญี่ปุ่น เสื่อทาทามิ ระเบียง ชมวิว ภูเขา เมือง ห้องอาบน้ำ ไม้ japanese style

ห้องพักอีกแบบหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันได้แก่ Japanese Suite เป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่มาพร้อมความเรียบง่าย กำแพงและเพดานภายในห้องนั้นจะใช้กระดาษญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมติดเอาไว้ทั้งหมด ทำให้ห้องดูสว่างสดใสขึ้น นอกจากนี้ ภายในห้องยังคุมโทนด้วยสีน้ำตาล ไม่เพียงแค่ในห้องนั่งเล่นเท่านั้นแต่ในห้องอาบน้ำเองก็เช่นเดียวกัน และด้วยโทนสีที่ดูสงบนี้ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลาย สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นในห้องได้อย่างเต็มที่

AKITSUKI ร้านอาหาร restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่น

สำหรับร้านอาหารในโรงแรม ต้องขอแนะนำ AKITSUKI เป็นร้านที่ออกแบบได้น่าสนใจ มีหน้าต่างเรียงรายกันเป็นทางยาว มองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้อย่างชัดเจน เพดานด้านบนก็ใช้ไม้หลายแผ่นซ้อนกันทำให้เกิดลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเหลียวมอง และนอกจากในตัวร้านจะสวยงามแล้วอาหารก็ยังอร่อยมากอีกด้วย ใครชอบอาหารญี่ปุ่นต้องบอกเลยว่าห้ามพลาด

สระว่ายน้ำ Pool ธรรมชาติ mountain view

นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้ว ทางโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำที่เปิดให้ผู้เข้าพักมาแหวกว่ายพลางชมวิวหลักล้าน เป็นสระว่ายน้ำที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มองเห็นทิวทัศน์ได้ไกล หากต้องการที่พักผ่อนหย่อนใจสบายๆ ก็มาว่ายน้ำเล่น หรือจะนั่งคุยกับเพื่อนชิลล์ๆ บริเวณริมสระก็ได้

Info
Garden Terrace Nagasaki Hotel & Resort
Location: เมืองนางาซากิ (Nagasaki) จังหวัดนางาซากิ
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 46,200 เยน
Nearest Station: สถานีนางาซากิ (Nagasaki Station)
Access: จากสถานีนางาซากิ นั่งแท็กซี่ประมาณ 11 นาที
Website: languages.gt-nagasaki.jp

 

โออิตะ

11 KAI Beppu

KAI Beppu โรงแรม โออิตะ Oitaภาพ: letronc-m.com

และต้องขอปิดท้ายไปพร้อมกับ KAI Beppu เรียวกังในจังหวัดโออิตะที่เคนโกะ คุมะได้ออกแบบขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Dramatic Onsen Town เป็นเรียวกังที่ออกแบบขึ้นมาให้มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับเมืองออนเซ็นมากที่สุด โดยมีการตกแต่งภายในด้วยโคมไฟกระดาษ ประดับแสงสีต่างๆ ให้ผู้มาเยือนรู้สึกสนุกสนานราวกับว่ากำลังเดินอยู่ท่ามกลางเมืองออนเซ็นโบราณ ใครชอบบรรยากาศที่ดูครึกครื้นของเมืองออนเซ็น โรงแรมนี้เป็นอีกโรงแรมหนึ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

ห้องแบบญี่ปุ่น เตียง ห้องพัก ocean view วิวทะเล ชมวิวภาพ: www.jalan.net

ห้องพักที่นี่มองเห็นวิวทะเลได้ชัดเจนทุกห้อง รวมไปถึง ห้องแบบญี่ปุ่น ห้องนี้ด้วย ซึ่งจะมีหน้าต่างติดไว้ทุกทิศทาง อีกทั้งยังมีมุมเล็กๆ จัดไว้ให้เราได้นั่งจิบชาข้างหน้าต่างอีกด้วย วันไหนมีเวลาว่างก็สามารถมานั่งชมทิวทัศน์สวยๆ ได้จากตรงนี้ โดยห้องนี้สามารถเข้าพักได้สูงสุด 4 คน จะมากับครอบครัวหรือมากับเพื่อนก็ได้ทั้งนั้นเลย

ห้องพิเศษ เรียบง่าย แดงอมน้ำตาล ทิวทัศน์ ตะวันตกดิน sunset อ่างอาบน้ำ แช่น้ำ ธรรมชาติภาพ: www.jalan.net

อีกห้องหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ ห้องพิเศษ สามารถเข้าพักได้มากสุด 3 คน เป็นห้องที่มีความกว้างถึง 64 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้นที่ 11 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุดของตึก ภายในห้องนั้นจะค่อนข้างเรียบง่ายแต่ก็ดูสวยงามในเวลาเดียวกัน และสำหรับสีของกำแพง เคนโกะ คุมะได้เลือกใช้สีแดงอมน้ำตาล ซึ่งเป็นสีที่ได้ไอเดียมาจาก จิโนะอิเคะ จิโกกุ (Chinoike Jigoku) หรือบ่อน้ำพุร้อนสีเลือดที่มีชื่อเสียงของเมืองเบปปุ (Beppu) นั่นเอง

อ่างอาบน้ำรวม Usukiyaki เครื่องปั้นดินเผาภาพ: www.jalan.net

และทางโรงแรมก็ยังมีอ่างอาบน้ำรวมขนาดใหญ่อีกด้วย ซึ่งอ่างอาบน้ำแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากอยู่อย่างหนึ่งก็คือลายบนกำแพงนั่นเอง ซึ่งหากลองสังเกตดูดีๆ แล้วจะมองเห็นเป็นรูปดอกไม้นูนออกมาจากกำแพงหลายจุด ที่จริงแล้วลายดอกไม้เหล่านี้เรียกว่าเครื่องปั้นดินเผา Usukiyaki เป็นวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผาของจังหวัดโออิตะที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งการนำเอาวัฒนธรรมดั้งเดิมมาเป็นส่วนหนึ่งในการดีไซน์แบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว

แล็บ Lab ไฟนีออน neonภาพ: www.jalan.net

อีกหนึ่งสถานที่ในโรงแรมที่ห้ามพลาดก็คือ แล็บ (Lab) เป็นห้องทำเวิร์คช็อปที่ได้ไอเดียการออกแบบมาจากท่อน้ำออนเซ็นใต้เมืองเบปปุ ซึ่งเคนโกะ คุมะตั้งใจออกแบบให้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีการใช้ไฟนีออนและโคมไฟสีขาวแดงเข้ามาประดับเพื่อเพิ่มความสดใส อย่างไรก็ตาม การออกแบบโดยใช้ไฟนีออนนั้นค่อนข้างจะแปลกใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งชาเลนจ์ที่ท้าทายสำหรับเคนโกะ คุมะเลยทีเดียว

Info
KAI Beppu
Location: เมืองเบปปุ (Beppu) จังหวัดโออิตะ
Price: เข้าพัก 2 คน เริ่มต้น 49,500 เยน
Nearest Station: สถานีเบปปุ (Beppu Station)
Access: จากสถานีเบปปุ เดินประมาณ 9 นาที
Website: hoshinoresorts.com

 

จบกันไปแล้วกับ 11 โรงแรมที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง เคนโกะ คุมะ ซึ่งแต่ละโรงแรมนั้นล้วนมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป สะท้อนให้เห็นความคิดและพลังความสร้างสรรค์อันเหลือล้นของเคนโกะ คุมะจริงๆ ขนาดมองผ่านรูปยังสวยงามขนาดนี้แล้วถ้าได้เห็นของจริงจะสวยงามขนาดไหน ใครเป็นแฟนพันธ์แท้ของเคนโกะ คุมะ หรือชอบสถาปัตยกรรมก็อยากให้ลองไปเยือนสถานที่จริงดู จะต้องตื่นตาตื่นใจและได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมากกว่าที่คิดแน่นอน

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ