Akita Nairiku Line : อาคิตะไนริคุ ทางรถไฟสายบ้านบ้านที่ชวนให้ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน
A Happy Day with Akita Nairiku Line
มีคนเคยถามว่าทำไมถึงชอบนั่งรถไฟ? เราไม่ได้ตอบในทันที แต่แอบเก็บเอาไปนั่งคิดนอนคิด อาจเพราะรถไฟเป็นยานพาหนะที่เรามักเลือกใช้เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเป็นประจำล่ะมั้ง พอมีโอกาสได้นั่งรถไฟทีไรก็จะตื่นเต้น รู้สึกดีเหมือนจะได้กลับบ้าน กลับไปในที่ที่เป็นของเรายังไงยังงั้น และสำหรับคนที่รู้สึกสับสนบ่อยๆ แบบเรา รถไฟก็ช่วยให้รู้สึกดีได้ทุกครั้ง อย่างน้อยเราก็มีจุดหมายมีปลายทาง แม้จะไม่รู้ว่าปลายทางที่เรากำลังจะไปนั้นมีอะไรรออยู่ก็ตาม Akita Nairiku Line
ภาพ: ©Michael Martin
เที่ยวญี่ปุ่นคราวนี้แอบนั่งชินคันเซ็นมาไกลจากโตเกียวราว 3 ชั่วโมง เพื่อมาลงที่สถานีคาคุโนะดาเตะ เมืองเซมโบกุ จังหวัดอาคิตะ เพราะรู้มาว่าที่นี่มีทางรถไฟโลคอลสายอาคิตะไนริคุ (Akita Nairiku Line) ชื่อคงคุ้นหูคุ้นตาใครบางคนบ้างก็ไม่แปลก เพราะรถไฟสายนี้เป็นที่รู้จักจากศิลปะบนนาข้าวที่บริเวณสถานีโอกาตะ (Ogata Station) ในช่วงฤดูร้อนนั่นเอง
อาคิตะไนริคุเป็นรถไฟท้องถิ่นขบวนสั้นๆ 1 ตู้โดยสาร ภายในตกแต่งเป็นรูปสุนัขอาคิตะอินุ สัญลักษณ์ประจำจังหวัดอาคิตะ ที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน ไม่มีแอร์ ต้องเปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆ คล้ายกับรถไฟไทย วิ่งช้าๆ ระหว่างสถานีคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station) และสถานีทาคาโนสุ (Takanosu Station) จำนวน 29 สถานี รวมระยะทาง 94.2 กิโลเมตร แล่นผ่านนาข้าว ภูเขา แม่น้ำ บ้างเป็นบ้านเรือนชวนให้เพลิดเพลินได้ตลอด
รถไฟนาริตะไนริคุนั่งได้ตลอดปีมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปในทุกฤดู เราหาข้อมูลมาแล้วว่ายังมีสถานที่น่าสนใจให้แวะอยู่ตลอดเส้นทาง และเราไม่จำเป็นต้องนั่งยาวๆ ก็ได้ เพราะเป็นขบวนรถไฟแบบหวานเย็น แล่นช้าๆ เนิบๆ หากนั่งจนครบทุกสถานีอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน แนะนำให้ศึกษาเส้นทางและหาสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางที่สนใจก่อน จากนั้นค่อยวางแผนซื้อตั๋ว หากมีหลายโลเคชั่นที่ถูกใจแนะนำให้ซื้อแพ็กเกจบัตรโดยสารรถไฟราคาประหยัด แต่ถ้าไม่ได้มีเวลามาก อยากนั่งรถไฟสั้นๆ และมีจุดหมายที่ปักไว้แล้วในใจ การซื้อตั๋วแยกจะช่วยประหยัดได้มากกว่า
รถไฟสายนี้ถูกขนานนามว่า “รถไฟแห่งรอยยิ้ม (Smile Rail)” ด้วยความตั้งใจที่อยากต้อนรับและพาทุกคนสัมผัสเสน่ห์ของอาคิตะด้วยรอยยิ้ม สำหรับเราที่ได้ลองนั่งแล้ว ก็ยิ้มไม่หุบจนต้องพกรอยยิ้มกลับไปฝากคนที่บ้านจนเต็มกระเป๋าเลยล่ะ
เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานียัตสึ (Yatsu Station) เพราะรู้มาว่าตรงนี้มีคาตาคุริเซ็นเตอร์ (Katakuri Center) เป็นจุดจำหน่ายสินค้าโลคอลของจังหวัดอาคิตะ อย่างตอนที่เราไปมีเกาลัดพันธุ์ไซเมียวจิ (Saimyoji) สายพันธุ์ที่ลูกโตที่สุดในญี่ปุ่นวางจำหน่าย จากใจคนรักเกาลัดบอกเลยว่ามันน่ากินมาก
อีกทั้งภายในอาคารก็มีพื้นที่เปิดเป็นเวิร์คช็อปสอนทำกระดาษญี่ปุ่น (Washi) ซึ่งเราลงทะเบียนชอบทำเวิร์คช็อปทำกระดาษญี่ปุ่นล่วงหน้าเอาไว้ ภายในห้องขนาดกะทัดรัดเต็มไปด้วยอุปกรณ์แฮนด์เมด บอกก่อนว่าผู้สอนพูดได้เฉพาะภาษาญี่ปุ่น แต่เราประทับใจที่เขาพยายามสอนอย่างละเอียด แม้ไม่เข้าใจภาษาก็ยังสามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการจะสื่อได้
ขอเล่าวิธีทำคร่าวๆ กระดาษวาชิของอาคิตะจะใช้พันธุ์ไม้ที่ชื่อว่า Kozo ต้มจนเปลือกไม้หลุดออกมา แล้วนำไปเข้ากระบวนการในเครื่องจนได้เป็นเยื่อไม้ จากนั้นนำไปวางลงบนพิมพ์ แล้วอบร้อน ก็จะได้กระดาษของเราเองที่มีใบเดียวในโลก รอประมาณ 1 ชั่วโมงก็นำกระดาษกลับบ้านได้เลย แต่ถ้าไม่สะดวกจะไปเที่ยวเล่นที่อื่นก่อนแล้วค่อยกลับมาเอาก็ได้ ถ้าเกิดว่าไปในฤดูใบไม้ผลิบริเวณใกล้ๆ สถานียัตสึนี้จะมีดอกคาตากุริป่า (Dogtooth Violet) เบ่งบานราวกับปูพรม ลองเดินไปถ่ายรูปเล่นพลางๆ ก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เพลิดเพลินดี
อีกไฮไลท์ยอดนิยมที่ชวนให้คนหลั่งไหลมานั่งรถไฟสายนี้คือ “ศิลปะบนนาข้าว (Tanbo art)” ที่จะเปลี่ยนธีมไปในทุกปี รถไฟจะแล่นเนิบๆ ให้เราได้ชมศิลปะกันอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งมีเฉพาะในช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคมถึงกันยายน) เท่านั้น
ภาพ: www.facebook.com/akitajapanfan/
เอาเข้าจริงถ้าลองมานั่งนึกๆ ดูการนั่งรถไฟสายอาคิตะไนริคุนี้ก็ดูไม่ได้สะดวกสบายนักในการพกข้าวกล่องเบนโตะมานั่งกิน หรือแม้กระทั่งอยากเข้าห้องน้ำก็ต้องฮึบไว้ เป็นเพียงสายรถไฟบ้านบ้านแต่หลายคนก็ยังหาเวลามานั่งกันไม่ขาดสาย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ที่เราสัมผัสได้คือรถไฟอาคิตะไนริคุเป็นมากกว่ายานพาหนะให้ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่หลงรักการนั่งรถไฟแบบเราจริงๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปนั่งให้ครบทุกฤดูเลย
※ตามหาที่พักในเมืองเซมโบกุได้ที่ https://a.r10.to/hfanfb
Info
Akita Nairiku Line
Route: สถานี Kakanodate ถึง Takanosu (29 สถานี)
Price: Weekday Open Pass (นั่งได้ทุกสถานี) ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็ก 1,250 เยน/ Holiday Open Pass All Lines Type (นั่งได้ทุกสถานี) ผู้ใหญ่ 2,000 เยน, เด็ก 1,000 เยน, Holiday Open Pass Type A (ระหว่างสถานี Takanosu ถึง Matsuba) ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน, Holiday Open Pass Type B (ระหว่างสถานี Aniai ถึง Kakunodate) ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน
Sales Location: สถานี Kakunodate, Aniai, Takanosu และสถานีอื่นๆ
Website: www.akita-nairiku.com/thai/
Katakuri Center
Hours: 8:30-17:15 น.
Holiday: วันเสาร์ (ยกเว้นเม.ย.-พ.ค., ต.ค.-พ.ย.) 13 ส.ค., 29 ธ.ค.-3 ม.ค.
Website: www.katakurikan.jimdo.com (ภาษาญี่ปุ่น)
Japanese Paper Course
Price: 500 เยน
Period: 15-20 นาที
Online Booking: www.semboku-gt.jp/en/experience/japanese-paper/
※ สามารถจองออนไลน์ได้เมื่อสมัคร 5 คนขึ้นไป
Train Station: Yatsu Station