SL Banetsu Monogatari : รถไฟหัวจักรไอน้ำหัวใจวินเทจที่จะพาสำรวจธรรมชาติอันงดงามท่ามกลางบรรยากาศชวนให้คิดถึงอดีต
สารบัญ
- ทำความรู้จัก SL Banetsu Monogatari แม่หญิงผู้เดินทางมาจากอดีต
- Compartment | ตู้โดยสารรถไฟ
- To Do List | ทำอะไรบนรถไฟได้บ้าง
- Photo Spot | จุดถ่ายภาพที่สายแชะห้ามพลาด
- Tourist Attractions | นั่งขบวนนี้ไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง
- Must Know | เรื่องต้องรู้ก่อนขึ้น SL Banetsu Monogatari
- Route Map | แผนที่
- ทำความรู้จักบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)
ถ้ามีคนมาชวนไปนั่งรถไฟหวานเย็น 4 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง แน่นอนว่าเราคงปฏิเสธอย่างไว ขอเอาเวลาไปเที่ยวที่จุดหมายปลายทางเลยน่าจะดีกว่า แต่ถ้าคนที่มาชวนบอกว่ารถไฟขบวนนั้นชื่อ SL Banetsu Monogatari ละก็ ขอให้รีบตกลงโดยไว!
เพราะว่า SL Banetsu Monogatari คือรถไฟหัวจักรไอน้ำสุดวินเทจอันแสนหรูหราสง่างาม สมฉายา Kifujin ที่แปลว่าสตรีสูงศักดิ์ เพียงแค่ยืนมองไอน้ำของรถไฟสีดำขลับพวยพุ่งลอยขึ้นฟ้าจากชานชาลาก็ทำให้รู้สึกว่ากำลังจะได้เดินทางย้อนอดีต ที่สำคัญยังมีอะไรสนุกๆ ให้ทำหลายอย่าง รับรองว่านี่ไม่ใช่การเดินทางอันแสนน่าเบื่ออย่างแน่นอน
ความนิยมของรถไฟขบวนเก่าแก่นี้ยืนยันได้จากจำนวนคนมหาศาลที่พากันมามุงถ่ายรูปยามที่เธอจอดเทียบท่าอยู่ ณ ชานชาลา รวมไปถึงคนในชุมชนที่พาลูกหลานมายืนมองรถไฟเป็นกิจกรรมในครอบครัว และผู้คนที่ตั้งใจพกกล้องมารอเก็บภาพรถไฟขบวนนี้ตามสถานีต่างๆ
ด้านนอกสง่างาม ด้านในแสนวินเทจ การได้นั่งชมวิวจากหน้าต่างรถไฟขบวนนี้ถือเป็นความเพลิดเพลินที่ทำให้หัวใจผ่อนคลายอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
ทำความรู้จัก SL Banetsu Monogatari แม่หญิงผู้เดินทางมาจากอดีต
SL Banetsu Monogatari เป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำที่ตั้งใจทำงานอย่างแข็งขันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 จนเข้าสู่วัยเกษียณตามกำหนด จบตำนานอย่างสวยงาม แต่แล้วก็ต้องหวนคืนรางอีกครั้งเพราะชาวเมืองแสนคิดถึงจนเรียกร้องขอให้เธอกลับมา คุณป้าจึงยกเครื่องใหม่ กลับมาอย่างไฉไลกว่าเดิมโดยวิ่งเส้นทางสาย Ban’etsu West Line (Ban-Etsusai Line) ตั้งแต่สถานีนีตสึ (Niitsu Station) จนถึงสถานีไอสึ วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station) รวมเวลาเดินทางตลอดสายคือ 4 ชั่วโมง
คอนเซ็ปต์ของเส้นทางรถไฟสายนี้คือผืนป่า สายน้ำ และความโรแมนติกของรถไฟวินเทจ ซึ่งผู้โดยสารสามารถชมความงามทางธรรมชาติทั้ง 4 ฤดูของญี่ปุ่นจากหน้าต่างรถไฟได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนมาสคอตที่ดูเหมือนกระรอกนั้น จริงๆ แล้วคือ Okojiro สัตว์ในตระกูลเดียวกับพังพอน ซึ่งเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่รถไฟขบวนนี้แล่นผ่าน คนมักพบเห็นบ่อย ด้วยความน่ารักสดใส น้องโอโคจิโรเลยได้รับบทเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถไฟขบวนนี้ไปด้วยซะเลย
Compartment | ตู้โดยสารรถไฟ
รถไฟประกอบไปด้วย 7 ตู้ มีทั้งตู้ที่นั่งแบบชั้น Economy และ First Class หรือ Green Car (ซึ่งต้องจองที่นั่งล่วงหน้าก่อนโดยสาร) ตู้กิจกรรมเพื่อความบันเทิง ตู้ชมวิว และตู้ขายอาหารครบครัน
- ตู้ที่ 1 Okojo Observation Car
เป็นตู้ที่อยู่ติดกับหัวรถจักรไอน้ำ เมื่อเดินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนสนุกขนาดย่อม เพราะมีโซนของเล่นเด็กและสไลเดอร์ต่างๆ เพื่อคุณหนูๆ โดยเฉพาะ ส่วนผู้ใหญ่เมื่อเดินเข้าไปลึกอีกหน่อยจะได้พบกับต้นไม้ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง รอบๆ เป็นกระจกใสบานใหญ่ทำให้เรานั่งชมวิวได้อย่างเต็มอิ่มจุใจ หรือใครจะมองควันลอยขึ้นฟ้าก็ไม่ว่ากัน
- ตู้โดยสาร
ตู้ 2, 3, 5, 6, 7 เป็นตู้โดยสาร การตกแต่งหลายๆ อย่างเช่น ลายไม้ เบาะที่นั่งสีแดงเข้ม ไฟสีส้ม หรือแม้กระทั่งชั้นวางสัมภาระเหนือศีรษะก็ยังดูวินเทจชวนให้นึกถึงอดีต อาจจะดูเก่าแต่สะดวกสบายและสะอาด ถ้าต้องการความสบายอีกระดับ แนะนำให้จองกรีนคาร์ซึ่งเบาะกว้างกว่าและมีห้องชมวิวพาโนรามาส่วนตัวสุด Exclusive
- ตู้อีเว้นท์
ตู้ 4 แสนโอ่โถง บรรยากาศวินเทจมากด้วยสีแดงเลือดหมู เครื่องใช้ทองเหลืองและพัดลมติดเพดานอันอ่อนช้อย ยามที่ไม่มี COVID-19 มักใช้พื้นที่นี้จัดอีเว้นท์ต่างๆ มีโซฟาหันหน้าเข้าหากระจกให้เราทอดหุ่ยชมธรรมชาติได้อย่างสงบ มีมุมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถไฟและมีตราประทับให้ปั๊มเป็นที่ระลึก แต่ที่เก๋สุดๆ คือมีตู้ไปรษณีย์ให้ส่งต่อความคิดถึงด้วย!
- ตู้เสบียง
ตู้ 5 แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นตู้เสบียง ที่นี่มีสินค้า Limited Edition จำหน่ายเฉพาะบนรถไฟขบวนนี้หลายอย่าง เช่น เบนโตะ SL Banetsu Monogatari เครื่องเขียน พวงกุญแจ สินค้ากระจุกกระจิกลายรถไฟ ขนม และเครื่องดื่มนานาชนิด แน่นอนว่ามีโปสการ์ดและแสตมป์ขายด้วย
To Do List | ทำอะไรบนรถไฟได้บ้าง
ไปเที่ยวกับท่านหญิง SL Banetsu Monogatari ทั้งที แม้จากต้นสายไปถึงปลายทางต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง แต่คนจำนวนมากก็เลือกที่จะนั่งยาวๆ เพราะว่ารถไฟขบวนนี้มีเรื่องสนุกๆ ให้ทำมากมาย แถมบางอย่างเป็นประสบการณ์พิเศษสุดๆ ที่หาได้จากขบวนนี้เท่านั้นด้วย ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
- ชมการเติมถ่านให้หัวรถไฟ
ตลอดการเดินทาง รถไฟจะหยุดพักเป็นระยะเพื่อเติมถ่านหิน โดยเฉพาะที่สถานี Tsukawa จะจอดนานหน่อย เมื่อเราเดินลงไปที่ชานชาลา จะเห็นภาพพนักงานรถไฟตรวจเช็คสภาพเครื่องและปีนขึ้นไปตักถ่านหินอย่างแข็งขันท่ามกลางผู้คนที่มุงดูจากรอบทิศ นอกจากจะหาชมสดๆ ได้ยาก เรายังสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของพนักงานและความชื่นชมของทุกคนที่ตั้งใจมารอดูทั้งจากด้านนอกและด้านในสถานี สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันของคนในชุมชนกับรถไฟไม่น้อยเลย
- ส่งโปสการ์ดจากบนรถไฟ
นี่ถือเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่เราได้บันทึกความรู้สึก ความทรงจำหรือความประทับใจขณะเดินทางลงไปยังหน้ากระดาษแบบเรียลไทม์และอนาล็อกสุดๆ เป็นกิจกรรมที่แสนโรแมนติกและวินเทจไม่แพ้รถไฟขบวนนี้เลย (ใครไม่ได้พกเครื่องเขียนใดใดมา ไม่ต้องกังวล อุปกรณ์มีขายครบถ้วนที่ตู้เสบียงหมายเลข 5)
- ปั๊มตราประทับเป็นที่ระลึก
ส่งโปสการ์ดหรือจดหมายเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินไปปั๊มตราประทับที่ระลึกซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันด้วยนะ ตัวปั๊มอันใหญ่ มีด้ามจับให้กดลง ใช้ง่ายมาก ใครที่ปกติปั๊มแล้วสีไม่ค่อยสม่ำเสมอ มาลองเครื่องนี้ดู
- กินเบนโตะ SL Banetsu Monogatari
การชิมอาหาร Limited Edition เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้อยู่แล้ว! เบนโตะถูกห่อด้วยรูปรถไฟสวยๆ ชวนชิม ด้านในเป็นของโปรดชาวไทยหลายคนอย่างแซลมอนย่าง หอยเชลล์ ปลาซาบะย่าง ไก่ย่างปรุงรส และไข่ปลาแซลมอน เมื่อได้นั่งกินข้าวพลางมองวิวสวยๆ นอกหน้าต่าง อาหารก็ยิ่งอร่อยกว่าเดิม
- ลงไปซื้อสินค้า OTOP ของดีในท้องถิ่นตามสถานีต่างๆ
ลองนึกภาพรถไฟเมืองไทยที่มักจะมีพ่อค้าแม่ค้าขึ้นรถไฟมาเดินขายของ สำหรับญี่ปุ่นนั้นคล้ายๆ กัน แต่เป็นพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงที่ชานชาลารอขายพวกเราอย่างเป็นระเบียบ สินค้ามีหลากหลาย เช่น เบนโตะ ไอศกรีม ของที่ระลึกต่างๆ เราแนะนำให้ซื้อไอศกรีมกินเป็นของหวานตบท้ายเบนโตะลิมิเต็ด ลงตัวสุดๆ
- สนุกไปกับอีเว้นท์บนรถไฟ
ยามที่ไร้โควิด-19 บนรถไฟขบวนนี้มีกิจกรรมสนุกๆ ให้เข้าร่วมมากมาย หนึ่งในความสนุกที่คนไทยก็เข้าร่วมได้อย่างไร้กำแพงภาษาก็คือ “การแข่งขันเป่ายิ้งฉุบ” กีฬาสากลที่เข้าถึงง่ายและสนุกสนานถ้วนหน้า
- เสพความงดงามของธรรมชาติ
ในขบวนมีจุดนั่งชมวิวสวยๆ มากมาย ทั้งตู้หมายเลข 1 Okojo Observation Car และตู้หมายเลข 4 ถ้าใครอยากมองควันจากปล่องรถไฟด้วยเชิญตู้ 1 แต่ถ้าชอบความสงบตู้หมายเลข 4 คือโซฟาที่หันหน้าเข้าหาหน้าต่างคือมุมโปรดของเราเลย
- โบกมือให้กับผู้คนที่มารอชมรถไฟตามสถานีต่างๆ
กิจกรรมสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือการโบกมือให้กับผู้คนที่มารอชมรถไฟ เพราะแฟนคลับคุณป้าเยอะมาก เรียกได้ว่าพบเจอคนถือกล้องหรือจูงมือลูกมาดักรอชมมากมาย ได้โบกมือให้กันและกันตลอดทาง
Photo Spot | จุดถ่ายภาพที่สายแชะห้ามพลาด
- ขบวนรถไฟ
รถไฟขบวนนี้สวยทุกมุมทั้งด้านนอกและด้านใน แม้ในตู้โดยสารธรรมดาก็ยังดูวินเทจ ถ่ายรูปสวยทุกมุม แต่มุมเด็ดต้องยกให้ ตู้หมายเลข 1 Okojo Observation Car และตู้หมายเลข 4 นอกจากนี้ภาพรถไฟที่กำลังมีควันพวยพุ่งออกมาก็ถือว่าเป็นมุม Iconic ที่ต้องถ่ายไว้สักใบ
- แวะถ่ายรูปกับ Okojiro ที่สถานี Tsugawa
บนชานชาลาของสถานี Tsugawa เขาตกแต่งห้องนั่งรอรถไฟเป็นตัวน้อง Okojiro เลย ด้านในมีเก้าอี้ที่ทำเป็นเหมือนตอไม้ให้นั่งเก๋ๆ ส่วนด้านนอกก็มีรูปปั้นน้องให้ถ่ายรูปเล่นด้วย และที่สถานี Niitsu ก็มีน้องปรากฏตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ให้ตามถ่ายรูป เช่น ม้านั่งที่มีน้องนั่งเป็นเพื่อน บันไดชานชาลา 2-3 นอกจากนี้ยังมีน้องตัวจิ๋วซ่อนอยู่ตามเสา เพดาน พื้น และอีกมากมาย
- สถานี Niitsu
สถานี Niitsu นั้นตกแต่งสวยงามเข้ากับธีมรถไฟหัวรถจักรไอน้ำสุดๆ อีกทั้งมีโมเดลสถานีและรถไฟจำลองให้ชมด้วย แวะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อยก็เก๋กว่าใครเพื่อน
Tourist Attractions | นั่งขบวนนี้ไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง
Aizu-Wakamatsu City ถ้าเป็นคนชอบเดินเล่น ที่เมืองไอสึวากามัตสึก็เหมาะสมที่สุด ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าซามูไรในสมัยเอโดะ ทำให้อาคารบ้านช่องมีบรรยากาศย้อนยุคสวยๆ ที่ชวนให้คิดถึงอดีต มีปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) ให้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และปิดท้ายด้วยถนน Nanukamachi ให้เดินช็อปปิ้งงานคราฟต์ชิคๆ รวมไปถึง Café Hopping เก๋ๆ ใครชอบข้าวหน้าหมูทอด ที่นี่เขามีร้านดังให้เลือกชิมหลายเจ้าเลย
Niitsu City บริเวณโดยรอบสถานีนีตสึมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย อาทิ Lake Hyoko ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงในการเป็นที่อยู่อาศัยของหงส์อพยพกว่า 5,000 ตัว ถ้าอยากดูแนะนำให้มาในช่วงกลางเดือนตุลาคม ไฮไลท์ที่น่าสนใจคือจะมีการให้อาหาร 3 ครั้งต่อวันและอนุญาตให้นักท่องเที่ยวให้อาหารฝูงหงส์ได้ด้วยนะ
นั่งรถไฟต่อมาอีกหน่อยที่สถานีโกเซ็น (Gosen) ช่วงกลางถึงปลายเมษายนของทุกปี ที่นี่จะมีเทศกาล Gosen City Tulip Festival รวมทิวลิปกว่า 1.5 ล้านต้น อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังมีแผงขายอาหารและเครื่องดื่มให้ได้เดินเล่นเพลินๆ
Sado Island ถ้าชอบธรรมชาติแนะนำให้ต่อรถไปยังเกาะซาโดะ ที่นี่มีทั้งภูเขาทัศนียภาพงามการันตีด้วย 2 ดาว Michelin Green Guide Japan บริเวณรอบๆ เกาะยังมีสถานที่ให้แวะเที่ยวอยู่หลายแห่ง อาทิ จุดพายเรืออ่าง Tarai Bune แบบใน Spirited Away, Sado Kinzan Gold Mine พิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องเหมืองเก่าในอดีต, จุดชมวิวสุดอันซีน และอื่นๆ อีกมากมาย
Must Know | เรื่องต้องรู้ก่อนขึ้น SL Banetsu Monogatari
- เส้นทางให้บริการ
ระหว่างไอสึ วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) กับสถานีนีตสึ (Niitsu Station) จังหวัดนีงาตะ (Niigata)
- วันให้บริการ
รถไฟจะวิ่งวันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) และไม่ได้บริการทุกวัน ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ ก่อนสำรองที่นั่งแนะนำให้ตรวจสอบวันเดินทางก่อนที่เว็บไซต์ www.jreast.co.jp
- ตารางเวลา
สถานี / เวลา | ขาไป (Aizu Wakamatsu – Niitsu Station) | ขากลับ (Niitsu – Aizu Wakamatsu Station) |
Aizu-Wakamatsu | 15:25 (ออก) | 13:35 (จอด) |
Shiokawa | (ไม่จอด) | 18:20 (ออก) 13:18 (จอด) |
Kitakata | 15:48 (จอด) 15:51 (ออก) | 13:08 (ออก) 13:06 (จอด) |
Yamato | 16:05 (จอด) 16:06 (ออก | 12:50 (ออก) 12:40 (จอด) |
Nozawa | 16:25 (จอด) 16:35 (ออก) | 12:19 (ออก) 12:17 (จอด) |
Hideya | 17:05 (จอด) 17:06 (ออก) | 11:45 (ออก) 11:43 (จอด) |
Tsugawa | 17:19 (จอด) 17:34 (ออก) | 11:28 (ออก) 11:12 (จอด) |
Mikawa | 17:48 (จอด) 17:49 (ออก) | 10:59 (ออก) 10:58 (จอด) |
Sakihana | 18:06 (จอด) 18:07 (ออก) | 10:41 (ออก) 10:40 (จอด) |
Gosen | 18:22 (จอด) 18:24 (ออก) | 10:23 (ออก) 10:22 (จอด) |
Niitsu | 18:40 (จอด) | 10:05 (ออก) |
- วิธีสำรองที่นั่ง
ที่นั่งทั้งหมดบนรถไฟขบวนนี้ต้องสำรองที่นั่งเท่านั้นเท่านั้น หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ล่วงหน้าฟรีได้ทางเว็บไซต์ eki-net.com ก่อนไป 1 เดือน หรือที่ห้องจำหน่ายตั๋ว JR EAST Travel Service Center สีเขียวบริเวณสถานีใหญ่ๆ ที่ญี่ปุ่น เช่น สถานี Tokyo, Shinjuku, Shibuya, Ueno, Sendai, Yamagata ฯลฯ
หมายเหตุ:
1 บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ครอบคลุมระหว่างสถานี Aizu-Wakamatsu ถึง Nozawa ในเขตจังหวัดฟุกุชิมะเท่านั้น หากลงตั้งแต่สถานีถัดไปซึ่งเป็นเขตจังหวัดนีงาตะจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามจำนวนสถานี
2 ถ้าต้องการนั่งตู้ Green Car ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Route Map | แผนที่
ทำความรู้จักบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)
JR EAST PASS (Tohoku area) บัตรโดยสารสุดคุ้มที่ใช้โดยสารรถไฟในภูมิภาคโทโฮคุ ไม่ว่าจะเป็น ยามากาตะ ฟุกุชิมะ มิยากิ ฯลฯ นั่งรถไฟท้องถิ่นในเส้นทาง JR EAST Lines ชินคันเซ็น รถไฟท่องเที่ยว Joyful Train ก็สำรองได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงสามารถใช้นั่งรถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะ หรือ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้ฟรีหมดภายในระยะเวลา 5 วัน โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อกันภายในระยะเวลา 14 วัน
ราคา: ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 19,350 เยน, เด็ก (อายุ 6-11 ปี) 9,670 เยน
ซื้อได้ที่: เอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ได้แก่ Wendy Tour, HIS และ JTB