8 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักฤดูใบไม้ร่วง
สารบัญ
Hi! Autumn
สำหรับใครที่หลงเสน่ห์ความงดงามของธรรมชาติในญี่ปุ่น การมาถึงของฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีย่อมเป็นฤดูกาลที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้เสมอ เราเชื่อว่าบางแห่งที่กำลังจะกล่าวถึงหลายคนอาจยังไม่เคยรู้ แต่มันดีจนเราอยากแนะนำให้รู้จัก วันนี้เราจึงขอแนะนำ 8 สถานที่ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่น ที่จะให้คุณดื่มด่ำสีสันของเหล่าใบไม้ที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปด้วยกัน
โดยปกติแล้วใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากภาคเหนือ (ฮอกไกโด) ค่อยๆ ไล่ลงมาจนถึงภาคใต้สุด (คิวชู) เมื่อฤดูร้อนสิ้นสุดลง ก็ถึงเวลาจองตั๋วไปดูใบไม้กันแล้ว ใครสะดวกที่ไหนก็ไปกัน เราแวะมาเตือน!
01 Lake Towada, Aomori, Tohoku
ภาพประกอบเครดิต: PIXTA
เคยมีคนบอกว่า “ยืนมองใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหน ก็ไม่สวยเท่ายืนมองจากทะเลสาบแห่งนี้” ทะเลสาบโทวาดะ จังหวัดอาโอโมริ ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอนชู ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ภาพผืนน้ำสีฟ้าสดตัดกับเหล่าใบไม้สีเหลือง ส้ม แดงในฤดูใบไม้ร่วง เชื่อว่าใครต่อใครที่ได้มาเห็นต่างก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยงามราวกับภาพวาด นอกจากการดื่มด่ำธรรมชาติริมทะเลสาบแล้ว ที่นี่ยังมีบริการล่องเรือชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีจากบนเรืออีกด้วย
วิธีการเดินทาง
นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Aomori Station ไปลงที่ป้าย Towadako ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที
ช่วงเวลา
กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม
แผนที่
02 Kakunodate Bukeyashiki Street, Akita, Tohoku
คะคุโนะดาเตะ (Kakunodake) คือเมืองในจังหวัดอาคิตะที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยมีปราสาทและชุมชนหมู่บ้านซามูไร นับจากถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1620 หรือเกือบ 400 ปีมาแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงสภาพโครงบ้านเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ไม่มีปราสาทหลงเหลือให้เห็นความสวยงามอีก แต่ในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสีตลอดทาง บ้านซามูไรกว่า 80 ครัวเรือน ก็ยังพร้อมพาเราย้อนกลับไปสัมผัสเรื่องราวในอดีตได้อย่างเข้าถึงทุกอณูความรู้สึก
วิธีการเดินทาง
นั่งรถไฟชินคันเซ็นจาก Tokyo Stataion ไป Kakunodate Station ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 12 นาที
ช่วงเวลา
เดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน
แผนที่
03 Ryuzu Waterfall, Tochigi, Kanto
ภาพประกอบเครดิต: PIXTA
น้ำตกริวซู (Ryuzu Waterfall) จุดชมใบไม้แดงยอดนิยมของเมืองนิกโก้ (Nikko) จ.โทชิกิ (Tochigi) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘น้ำตกหัวมังกร’ เนื่องจากมีรูปร่างที่ดูเหมือนหัวของมังกรที่วิ่งลงมาจากสวรรค์ น้ำตกแห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ป่าไม้หนาแน่น ที่จะค่อยๆ เปลี่ยนสีไปในช่วงปลายเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม ที่นี่เราสัมผัสได้ถึงความสงบ ความอ่อนน้อมถ่อมตน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากได้ยินใครบางคนพูดว่าที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกหลายจุดในโทชิกิ เช่น น้ำตกเคะกง (Kegon Waterfall) ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) และถนนมังกรอิโระฮะซะกะ (Irohazaka Winding Road) เป็นต้น
วิธีการเดินทาง
นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟนิกโก้ (Nikko Station) ใช้เวลา 60 นาที
ช่วงเวลา
ปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม
แผนที่
04 Korankei, Aichi, Chubu
ภาพประกอบเครดิต: PIXTA
โครังเค (Korankei) เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานป่าไม้ มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 4,000 ต้น ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่ดีที่สุดของภูมิภาคชูบุ โครังเคยังเป็นที่ตั้งของวัดโคจาคุจิ (Kojakuji Temple) รอบๆ บริเวณวัดเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่จะสวยงามมากในฤดูใบไม้ร่วง จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนมากที่สุดคือเส้นทางริมแม่น้ำโทโมเอะ (Tomoe River) ซึ่งมีสะพานไม้ไทเกะสึเคียว (Taigetsukyo Bridge) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำโครังเคอยู่บริเวณริมน้ำ ที่นี่กลายเป็นจุดชมใบไม้ที่ใครต่างก็อยากมาสักครั้ง คงเพราะสามารถเห็นได้ทั้งภูเขา แม่น้ำ และสะพานได้ในเวลาเดียวกันนั่นเอง
วิธีการเดินทาง
นั่งรถบัสจากสถานี Higashi Okazaki ไปลงที่ป้าย Korankei ใช้เวลาประมาณ 70 นาที
ช่วงเวลา
ต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
แผนที่
05 Obara Park, Aichi, Chubu
ภาพประกอบเครดิต: PIXTA
จุดเด่นของสวนโอบาระ (Obara Park) ในจังหวัดไอจิ คือเป็นสถานที่ที่สามารถชมความงดงามของใบไม้แดงและซากุระได้พร้อมๆ กัน เนื่องจากที่นี่มีดอกซากุระสายพันธุ์พิเศษที่ชื่อว่า Shikizakura 四季桜 หรือเรียกกันว่าซากุระสี่ฤดู ซึ่งออกดอกได้ปีละ 2 ครั้ง ถือเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมากในญี่ปุ่น และทุกๆ ปีจะมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระสี่ฤดูอีกด้วย (Shikizakura Festival) แม้ที่นี่จะเป็นที่นิยมในการมาชมซากุระมากกว่า แต่ในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อมีสีส้ม แดง เหลือง โผล่มาแซมเหล่าซากุระ ก็สวยงามไม่แพ้จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนๆ
วิธีการเดินทาง
นั่งรถบัสจากสถานี Totoya-shi Station ไปลงที่ป้าย Obara Okusa ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
ช่วงเวลา
ต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
แผนที่
06 Sagano Romantic Train, Kyoto, Kansai
ที่เกียวโตมีสายรถไฟที่แล่นเอื่อยเฉื่อย รับลมชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ เลียบหุบเขาสูง ให้เราได้สัมผัสความสวยงามของใบไม้สีต่างๆ เรียกว่า “Sagano Romantic Train” ให้บริการตั้งแต่สถานีซะกะ โทะรกโกะ (Saga torokko Station) ไปสิ้นสุดที่สถานีคะเมะโอะกะ โทะรกโกะ (Kameoka torokko Station) โดยแล่นผ่านหุบเขาโฮะซุเกียว (Hozukyo Ravine) ที่มีบรรยากาศด้านหนึ่งเป็นหน้าผา ขณะที่อีกด้านเป็นแม่น้ำโฮะซุเกียว (Hozu River) ด้วยบรรยากาศขนาดนี้ คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากจะถูกใครต่อใครเรียกว่า ‘ทางรถไฟสายโรแมนติก’
นอกจากนั่งรถไฟชมใบไม้แล้ว ขากลับยังสามารถนั่งเรือล่องแม่น้ำ Hozugawa เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเรือล่องแม่น้ำท่ามกลางใบไม้สีส้มอมแดงในย่าน Arashiyama เรียกได้ว่า ใครมาที่นี่ ได้เพลิดเพลินกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีจนลืมเวลาแน่นอน
วิธีการเดินทาง
นั่งรถไฟจาก
Osaka Station ไปยัง Saga-Arasahiyama Station ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
Kansai Airport ไปยัง Saga-Arasahiyama Station ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที
Sannomiya Station ไปยัง Saga-Arasahiyama Station ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที
Nagoya Station ไปยัง Saga-Arasahiyama Station ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
ช่วงเวลา
กลางเดือนตุลาคม – เดือนธันวาคม
แผนที่
07 Takachiho Gorge, Miyazaki, Kyushu
ภาพประกอบเครดิต: PIXTA
หุบเขาทะกะชิโฮะ (Takachiho Gorge) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยาซากิในคิวชูใต้ ว่ากันว่าหุบเขาทะกะชิโฮะเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟอะโซะ (Mt. Aso) และการกัดกร่อนจนกลายเป็นหุบเขาดังที่เห็นในปัจจุบัน เดินลึกเข้าไป จะพบกับจุดชมทิวทัศน์ที่เป็นพระเอกของสถานที่แห่งนี้ นั่นคือบริเวณน้ำตกมะนะอิโนะทะกิ (Manai no Taki Falls) ที่มีความสูงถึง 17 เมตร มีแม่น้ำโกะกะเซะคะวะ (Gokase-gawa River) ไหลผ่าน
นอกจากนี้ริมแม่น้ำยังมีเรือขนาดเล็กคอยให้บริการ เราสามารถพายเรือไปสัมผัสน้ำตกอย่างใกล้ชิดได้ เชื่อกันว่าน้ำตกนี้คือสิ่งที่เทพเจ้ามอบให้เป็นของขวัญแก่หุบเขาแห่งนี้ รวมถึงเป็นของขวัญสำหรับนักท่องเที่ยวแบบเราด้วย ขณะที่พายเรือเล่น ถ้าโชคดีอาจจะมีโอกาสได้เห็นเป็ดน้อยว่ายน้ำหาปลาอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย ความเงียบสงบของบรรยากาศและความอบอุ่นของใบไม้ที่เปลี่ยนสีไป อาจทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ในดวงใจของใครหลายๆ คนก็เป็นไปได้
วิธีการเดินทาง
รถไฟและรถบัส
Hakata Station (Highway Express Bus) ไปยัง Takachiho ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที
Hakata Station (Kyushu Shinkansen) ไปยัง Kumamoto Station (Express Bus) ไปยัง Takachiho ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที
Miyazaki Station (JR Special Express) ไปยัง Nobeoka Station (Regular Bus) ไปยัง Takachiho ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
ช่วงเวลา
ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม
แผนที่
08 Momijidani Park, Hiroshima, Chugoku
ภาพประกอบเครดิต: PIXTA
สวนสาธารณะโมมิจิดานิ (Momijidani Park) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามิเซน (Mt.Misen) บนเกาะมิยาจิม่า (Miyajima Island) ทอดยาวไปตามแม่น้ำโมมิจิดานิ (Momijidani River) ว่ากันว่าที่นี่มีต้นเมเปิ้ลมากถึง 200 ต้น ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้แดงยอดฮิตของฮิโรชิม่า จุดชมใบไม้แดงที่เป็นที่คนนิยมเดินทางไปเพื่อถ่ายรูปมากที่สุดคือตรงสะพานโมมิจิ (Momiji Bridge) สีแดงสด เมื่อถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปแล้ว ช่างสวยงามจนยากที่จะบรรยาย
นอกจากนี้ยังมีจุดชมใบไม้แดงอื่นๆ เช่น วัดไดโชอิน (Daisho-in Temple) ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) และทิวทัศน์บนยอดเขามิเซน (Mt.Misen) เป็นต้น
วิธีการเดินทาง
จากสถานี Miyajimaguchi Station นั่งเรือเฟอร์รี่ไปลงที่ Miyajima Island ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ช่วงเวลา
ต้นเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
แผนที่