ท้องทะเลกับสวนดอกไม้ สองส่วนผสมที่เมื่อมาอยู่รวมกันแล้ว ชวนให้เผลอนึกว่าเรากำลังอยู่ในโลกของนิทาน
สวนดอกไม้อุระชิมะ (Flower Park Urashima) ที่เห็นในภาพ มีพิกัดอยู่ริมทะเลในเมืองมิโตะโยะ (Mitoyo) จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ชื่อ ‘อุระชิมะ’ นั้นพ้องกับชื่อ ‘อุระชิมะ ทาโร่’ ตัวละครในนิทานคลาสสิกของชาวญี่ปุ่นที่มีพล็อตเรื่องอันแสนคุ้นเคย…
เล่าอย่างรวบรัดก็คืออุระชิมะ ทาโร่ เป็นหนุ่มน้อยจิตใจดีที่ได้ช่วยชีวิตของเต่าตัวหนึ่งไว้ ต่อมาจึงได้รับการตอบแทนน้ำใจให้มีโอกาสลงไปท่องโลกใต้ทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างรื่นรมย์ ก่อนจะจบลงที่เรื่องราวตอนท้าย เมื่อเขาเดินทางกลับมายังโลกมนุษย์พร้อมกับกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งที่ถูกสั่งว่าห้ามเปิดเด็ดขาด แต่แล้วเขาก็เผลอเปิดกล่องออก และได้พบความจริงว่า กล่องใบนั้นทำหน้าที่เก็บอายุของเขาเอาไว้ ช่วงเวลา 3 ปีที่เขาสนุกสนานอยู่ในโลกใต้ทะเลเทียบเป็นเวลา 300 ปีบนโลกมนุษย์ เมื่อเปิดกล่องออก อายุของเขาก็เพิ่มทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว จากหนุ่มน้อยกลายเป็นชายชราไร้เรี่ยวแรง หนำซ้ำยังต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างอ้างว้างก่อนจะลาจากโลกไป
นิทานจบเศร้ามาก เศร้าจนฉันแทบไม่เชื่อว่านี่เป็นนิทานที่เด็กๆ ญี่ปุ่นได้ฟังกันอย่างแพร่หลายจากรุ่นสู่รุ่น เป็นนิทานที่ไม่มีฉากแฮปปี้เอ็นดิ้งแบบนิทานในอุดมคติของใครหลายคน ฟังตอนจบแล้วเห็นภาพชัดเจนเหลือเกินว่า ความแก่ชรานี่มันช่างทารุณเสียจริง
นั่นคือเรื่องราวในนิทานปรัมปรา
ทีนี้ ขอตัดภาพกลับมาที่โลกแห่งความจริงกันดูบ้าง การไปเยือนสวนดอกไม้อุระชิมะ และการได้ฟังเรื่องราวที่อัปเดตแล้วจากคนในพื้นที่ ทำให้ฉันมอง ‘ความชรา’ กับ ‘อุระชิมะ’ ในปัจจุบันนี้ในมิติที่เปลี่ยนไปมาก
คือเมื่อก่อน พื้นที่ริมหาดในจุดที่เราเห็นว่าเป็นทุ่งดอกไม้กว้างนี้ เป็นแค่พื้นที่รกร้างว่างเปล่าผืนใหญ่ แต่เรื่องดีในเรื่องร้ายก็คือ ความไร้ค่าของมันทำให้ภาครัฐอดรนทนไม่ได้ก็เลยออกปากหารือกับชาวบ้านเพื่อคิดหาวิธีที่จะสร้างประโยชน์ขึ้นมา ไอเดียจึงมาลงตัวที่ชาวบ้านเห็นว่าถ้าปลูกดอกไม้กันที่นี่น่าจะดี เพราะได้ทั้งทิวทัศน์ที่สวยงามและได้ใช้เวลาว่างให้มีความหมายด้วย
ที่พีกก็คือ กลุ่มชาวบ้านที่ทำหน้าที่ปลูกดอกไม้คือกลุ่มคนแก่และเด็กในละแวกนั้นค่ะ! เด็กๆ ที่มาช่วยกันปลูกจะเป็นเด็กประถมฯ ซึ่งเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้โลกอย่างเต็มที่เรียกว่าเป็นกลุ่มเด็กที่โชคดี ได้เรียนรู้โลกจาก ‘โลกของจริง’ ส่วนผู้เฒ่าผู้แก่ก็ไม่เศร้าเพราะความชราอย่างในนิทาน เพราะได้มีโอกาสคอยพรวนดินรดน้ำให้กับต้นไม้ดอกไม้ ได้ช่วยกันปรับพื้นที่ว่างเปล่าให้กลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคุณค่า เป็นการใช้เวลาว่างให้ไม่ว่างกันเปล่าๆ แถมกิจกรรมลักษณะนี้ยังช่วยลดความเปลี่ยวเหงาในชีวิตไปได้มากโข
ความคิดสร้างสรรค์ทำให้ปัจจุบันสวนดอกไม้อุระชิมะกลายเป็นจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมไปแล้ว ในเดือนพฤษภาคมของทุกปี ที่นี่จะเต็มไปด้วยดอกมาร์กาเร็ต มีเทศกาลเก็บดอกไม้ สร้างรายได้และสีสันให้กับคนในท้องถิ่น และไม่เฉพาะดอกมาร์กาเร็ตเท่านั้น สวนอุระชิมะยังมีการผลัดชนิดของดอกไม้ไปตามฤดูกาลด้วย ถ้าไปเยือนในช่วงเดือนตุลาคม เราจะได้เจอกับดอกคอสมอสบานสะพรั่ง ทิวทัศน์ริมทะเลที่สวยอยู่แล้วเลยยิ่งสวยขึ้นไปอีก การเดินชมสวนดอกไม้โดยมีทะเลในเซโตะ (Seto Inland Sea) เป็นฉากหลังที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในนิทานชัดๆ!
วันนี้ พื้นที่ว่างเปล่าไร้ค่ากับคนชราที่ดูเหมือนไร้เรี่ยวแรง กลายเป็นสองส่วนผสมที่เมื่อมาอยู่รวมกันแล้วให้ผลลัพธ์ล้ำค่า สวนดอกไม้อุระชิมะสวยงามจนบางจังหวะชวนให้เผลอนึกว่าเรากำลังอยู่ในโลกของนิทาน
…แต่พอตั้งสติรู้ตัวอีกทีก็ได้พบว่า ที่แท้นี่ไม่ใช่โลกของนิทานที่ไหนหรอก มันคือโลกแห่งความเป็นจริงที่เหล่ายอดมนุษย์ผู้น่ารักทั้งเยาว์วัยและแก่ชราได้ช่วยกันสรรค์สร้างขึ้นมานั่นเอง