5 Days Summer Trip : ทริปฤดูร้อนฉบับคนชอบธรรมชาติที่ อาโอโมริ – อิวาเตะ แบบสดชื่นที่สุด!
สารบัญ
เปิดทริปฤดูร้อนแบบคนชอบธรรมชาติเขียวขจีกันที่จังหวัด อาโอโมริ (Aomori) และ อิวาเตะ (Iwate) สองจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติครบทั้ง ภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ ทะเล น้ำตก และป่าไม้นานาพันธุ์ และบอกเลยว่าทริปนี้จะไปครบทุกแหล่งที่กล่าวมา ใครที่ชอบธรรมชาติเชื่อว่าจะเพลิดเพลินกับแพลนนี้ ส่วนคนที่อยากเดบิวต์ทริปเที่ยวโทโฮคุแบบที่ได้ชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ป่าเขียว ฟ้าใส ทริปนี้ก็ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน
อาโอโมริ และ อิวาเตะ นั้นอยู่ค่อนข้างไกลจากโตเกียว จะเที่ยวให้คุ้มก็ต้องใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ที่ใช้ได้ 5 วันติดต่อกันและทริปนี้ก็เป็นทริป 5 วันพอดี ไฮไลท์หลักๆ ของบัตรคือสามารถใช้โดยสารรถสาธารณะในเครือ JR EAST ได้ทุกรูปแบบ อาทิ รถไฟท้องถิ่น รถไฟขบวนพิเศษ Joyful Train รถบัส ฯลฯ ลองอ่านไปจนจบทริป แล้วจะรู้ว่าเราใช้บัตรนี้ได้คุ้มมากจริงๆ
DAY 01 อาโอโมริ
Hirosaki Apple Park
ภาพ: www.tohokukanko.jp
มาเที่ยวฮิโรซากิช่วงฤดูร้อน เป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะที่สุดในการเก็บแอปเปิ้ลของดีประจำจังหวัดอาโอโมริ หนึ่งในสถานที่เก็บแอปเปิ้ลยอดนิยมคือ “สวนแอปเปิ้ลฮิโรซากิ” ที่นี่มีแอปเปิ้ล 65 สายพันธุ์ และมีจำนวนกว่า 1,300 ต้น นอกจากนี้ยังมีมุมเพาะชำ มุมปิกนิกชมธรรมชาติ และอาคารอเนกประสงค์ Ringo no Ie ด้านในจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมายจากแอปเปิ้ล รวมทั้งมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้นั่งชิลล์ด้วย
ภาพ: www.tohokukanko.jp
Hirosaki Apple Park
Apple Period: สิงหาคม-กลางพฤศจิกายน
Location: เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: เข้าฟรี แต่หากต้องการเก็บแอปเปิ้ลมีค่าใช้จ่ายกิโลกรัมละ 200 เยน
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access:
วิธีที่ 1 จากสถานีฮิโรซากิ ให้ขึ้น Konan Bus ป้ายหมายเลข 6 ที่ทางออก Central Exit ไปลงที่ป้าย Tokiwazaka Entrance Bus Stop ประมาณ 20 นาที จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 7 นาที
วิธีที่ 2 จากสถานีฮิโรซากิ ให้ขึ้น Tamenobu-go เป็นรถบัสวิ่งรับ-ส่งระหว่างสถานีฮิโรซากิและ Hirosaki Apple Park ประมาณ 40 นาที ให้บริการเฉพาะฤดูเก็บแอปเปิ้ลเท่านั้น
Website: www.city.hirosaki.aomori.jp/ringopark/
Map: https://goo.gl/maps/Pv5kZkjqnMbZ96hf7
Hirosaki Castle
ชมธรรมชาติแล้วเปลี่ยนมู้ดมาชมประวัติศาสตร์กันบ้างที่ปราสาทฮิโรซากิ ที่นี่เป็นปราสาทสวยติดอันดับจากหลายสำนัก ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ด้วยเพราะสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ยังคงรักษาไว้เช่นในอดีต ตัวปราสาทถูกล้อมรอบไปด้วยคูน้ำและสวนสวย ทำให้มีเสน่ห์ต่างกันตลอดทั้งปี ทั้งซากุระ หิมะ ทุ่งใบไม้แดง และต้นไม้เขียวขจี ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานและเทศกาลประจำเมืองอยู่เป็นประจำ
Hirosaki Castle
Location: เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ
Hours: Honmaru และ Kita no Kuruwa Area 9:00-17:00 น. (1 เม.ย.-23 พ.ย.) /
Botanical Garden 9:00-18:00 น.
Holiday: 24 พ.ย.-31 มี.ค.
Entrance Fee: Honmaru และ Kita no Kuruwa Area / Botanical Garden ผู้ใหญ่ 320 เยน, เด็ก 100 เยน / Combo Ticket Honmaru, Kita no Kuruwa Area, Botanical Garden, Fujita Memorial Garden ผู้ใหญ่ 520 เยน, เด็ก 160 เยน
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access: จากสถานีฮิโรซากิให้นั่ง Hirosaki City Loop Bus จากป้ายหมายเลข 2 Hirosaki Eki Mae ด้านหน้าสถานี ไปลงที่ป้ายหมายเลข 14 Shiyakusho-mae (City Office) หรือหมายเลข 15 Mutusinpou-mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 4 นาที อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับบัสเพิ่มเติมได้ที่นี่
Website: www.hirosakipark.jp/en/
Map: https://goo.gl/maps/ADH6TZ5V4V1yhmkF9
Cafe Buruman
คาเฟ่น่ารักตั้งอยู่ใกล้ๆ กับปราสาทฮิโรซากิ เพียงแค่ก้าวเข้าไปในร้านก็จะได้กลิ่นหอมกาแฟอบอวลไปทั่ว คอกาแฟมาที่นี่ห้ามพลาดเลย สายหวานน้อย ต้องชอบแอปเปิ้ลพายร้านนี้ เพราะรสชาติหวานน้อยกำลังดี แถมราคาน่ารักมาก 400 เยนเท่านั้น นอกจากแอปเปิ้ลพาย ยังมีเค้กอีกสารพัดชนิดซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะอร่อยไม่แพ้กัน ใครชอบงานคราฟต์ ของทำมือ ที่ร้านมีสินค้าผลงานของศิลปินท้องถิ่นวางขายด้วยล่ะ
Cafe Buruman
Location: เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
Hours: อ.-อา. 9:30-18:00 น.
Holiday: วันจันทร์, วันอังคารในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access: จากสถานีฮิโรซากิให้นั่ง Hirosaki City Loop Bus จากป้ายหมายเลข 2 Hirosaki Eki Mae ด้านหน้าสถานี ไปลงที่ป้ายหมายเลข 15 Mutusinpou-mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที หรือเดินจากปราสาทฮิโรซากิประมาณ 5 นาที
Website: www.cafe-buruman.cafe.coocan.jp
Map: https://goo.gl/maps/F8eUCwfxr5nQWTdy5
Nebuta Matsuri
เทศกาลฤดูร้อนสุดยิ่งใหญ่ที่ได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า แต่ละปีมีผู้เดินทางมาชมเทศกาลนี้ราว 3 ล้านคน เกิดขึ้นเพื่อขอพรให้ไม่มีโรคภัยหรือบางตำนานก็เล่าว่าเป็นการส่งวิญญาณ ไฮไลท์สำคัญของเทศกาลนี้คือขบวนพาเหรดโคมไฟขนาดยักษ์ที่มีลวดลายสวยแปลกตาในยามค่ำคืน ประกอบกับระบำฮาเนโตะ (Haneto Dance) โบราณและเสียงดนตรีพื้นบ้านบรรเลงเป็นทำนองไปพร้อมๆ กับขบวนพาเหรดอย่างครึกครื้น ขบวนค่อยๆ เคลื่อนไปตามท้องถนนในเมือง ระหว่างทางก็มียะไตขายอาหารให้ซื้อกินระหว่างชมขบวนได้ด้วย เป็นเทศกาลฤดูร้อนที่ไม่ควรพลาดเดินทางมาชมเลยจริงๆ
แต่หากใครไม่ได้เดินทางไปในช่วงเวลาจัดงาน สามารถเพลิดเพลินกับระบำฮาเนโตะได้บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟอาโอโมริ และแวะไปชมโคมไฟของจริงที่จัดแสดงไว้ที่ Nebuta Museum WA RASSE
Nebuta Matsuri
Period: 2-7 สิงหาคมของทุกปี
Location: เมืองอาโอโมริ (Aomori) จังหวัดอาโอโมริ
Hours: 19:10-21:00 น.
Entrance Fee: พื้นที่ทั่วไป ชมฟรี, โซนระบุเลขที่นั่ง 3,000 เยน, โซนที่นั่งชมพาเหรดกลางวันและกลางคืน 7,000 เยน
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ เดินประมาณ 5 นาที
Website: www.nebuta.jp/foreign/english.html, www.nebuta.jp/warasse/foreign/english.html
Map: https://goo.gl/maps/aPf8NaajZMGyU2Wa7
DAY 2 อาโอโมริ
Aomori Gyosai Center
ตลาดสดอาโอโมริหรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า ตลาดฟุรุคาวะ (Furukawa Fish Market) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีอาโอโมริ มีเมนูท้องถิ่นชื่อดังที่มาอาโอโมริแล้วต้องกินให้ได้คือ “นกเกะด้ง (Nokke Don)” หรือข้าวหน้าปลาดิบที่เราสามารถเลือกท็อปปิ้งได้เอง
ถ้าอยากกินนกเกะด้งต้องซื้อเซ็ตคูปองมาก่อน จากนั้นจึงนำไปแลกของชอบที่ร้านที่มีธงสีส้ม วิธีใช้แม้จะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็ไม่เป็นไร เราแนะนำให้สังเกตจากตัวเลขบนป้ายที่แปะบนวัตถุดิบนั้นๆ เช่น ป้ายมากุโร่มีเลข 1 เท่ากับว่า ใช้คูปอง 1 ใบสำหรับแลกมากุโร่นั่นเอง ฯลฯ ได้ของที่ชอบแล้วไปนั่งกินที่ชั้น 2 ก็ได้นะ
Aomori Gyosai Center / Furukawa Fish Market
Location: เมืองอาโอโมริ (Aomori) จังหวัดอาโอโอริ
Hours: พ.-จ. 7:00-16:00 น.
Holiday: วันอังคาร และวันหยุดช่วงปีใหม่
Nearest Station:สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.nokkedon.jp
Map: https://goo.gl/maps/j4AYujtBsaDTqnrk7
Mt. Hakkoda
ท้องอิ่มก็พร้อมนั่งฮักโกดะโรปเวย์ (Hakkoda Ropeway) ขึ้นไปบนภูเขาฮักโกดะชื่อดัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Towada Hachimantai ในอาโอโมริ ธรรมชาติจึงยังอุดมสมบูรณ์มาก ด้านบนมีเส้นทางให้ศึกษาธรรมชาติทั้งแบบสั้น 30 นาทีและแบบระยะยาว 60 นาที เลยมีกิจกรรมและสถานที่ระหว่างทางให้แวะชมเพียบ เช่น Summit Wood Deck ระเบียงไม้ชมวิวภูเขาแบบพาโนรามา Tamoyachi พื้นที่ลุ่มน้ำที่มีวิวเบื้องหลังเป็นทิวเขาเขียว สดชื่นแบบฤดูร้อน นอกจากนี้ก็มีจุดชมธรรมชาติอีกมากมายให้แวะชื่นชมและถ่ายรูปได้ตามชอบ
Hakkoda Ropeway
Location: เมืองโทวาดะ (Towada) จังหวัดอาโอโมริ
Hours: มีนาคม-ต้นพฤศจิกายน 9:00-16:20 น., กลางพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ 9:00-15:40 น.
Entrance Fee: ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็กต่ำกว่า 13 ปี 700 เยน / เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,250 เยน เด็กต่ำกว่า 13 ปี 450 เยน (เด็กอนุบาลไม่เสียค่าใช้จ่าย)
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ นั่ง JR Bus ที่จุดขึ้นข้างๆ Tourist Information Center Aomori City ไปลงที่จุดขึ้นโรปเวย์ Hakkoda Ropeway Sanroku Station (ロープウェー駅前) ประมาณ 1 ชั่วโมง
Website: www.hakkoda-ropeway.jp/english
Note:
– หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) นั่งฟรี
– ไม่สามารถชำระด้วย IC Card (สมาร์ทการ์ด)
– JR BUS TOHOKU ให้บริการแบบ First come, First served ใครมาถึงก่อน ก็สามารถขึ้นรถได้ก่อนตามรอบที่มีให้บริการ ก่อนเดินทางแนะนำให้ตรวจสอบรอบรถทางเว็บไซต์ www.jrbustohoku.co.jp/en
Map: https://goo.gl/maps/1xGNkVzfm8MmTVpb8
Oirase Gorge
อดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นแหล่งภูเขาไฟที่เกิดการปะทุบ่อยครั้ง จนทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่และเกิดการกัดเซาะจนกลายเป็นลำธารโออิราเสะ ปัจจุบันเปิดเป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติยอดนิยมยาว 14 กิโลเมตร แต่ถ้ามีเวลาไม่มากแนะนำให้นั่งบัสสลับเดินแวะตามจุดไฮไลท์สำคัญต่างๆ เช่น Choshi-otaki Falls น้ำตกยอดฮิตในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ที่ใครๆ ก็แวะมาเช็คอิน Kumoinotaki Falls น้ำตกสูงใหญ่กับที่มาของชื่อน่ารักๆ Kumo แปลว่า ก้อนเมฆ เป็นการเปรียบเทียบน้ำที่กระทบลงบนหินจะเป็นละอองดูนุ่มเหมือนก้อนเมฆนั่นเอง เป็นต้น
Oirase Gorge
Location: ระหว่างป้ายรสบัส Yakeyama (焼山) กับ Nenokuchi (子ノ口) จำนวน 8 ป้าย
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ นั่งรถ JR Bus ที่ป้ายจุดขึ้นข้างๆ Tourist Information Center Aomori City ไปลงที่ป้าย Yakeyama (焼山) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางชมธรรมชาติโออิราเสะประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจากจุดขึ้นโรปเวย์นั่งบัสมาประมาณ 1 ชั่วโมง
Note:
– หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) นั่งฟรี
– ไม่สามารถชำระด้วย IC Card (สมาร์ทการ์ด)
– JR BUS TOHOKU ให้บริการแบบ First come, First served ใครมาถึงก่อน ก็สามารถขึ้นรถได้ก่อนตามรอบที่มีให้บริการ ก่อนเดินทางแนะนำให้ตรวจสอบรอบรถทางเว็บไซต์ www.jrbustohoku.co.jp/en
Map: https://goo.gl/maps/dmpuCEedvBGfXJpj6
Lake Towada
จากเส้นทางชมธรรมชาติโออิราเสะจะมาสุดสายที่ทะเลสาบโทวาดะพอดี ที่นี่เป็นทะเลสาบสวยที่เกิดจากการประทุของภูเขาไฟ บรรยากาศโดยรอบล้อมรอบไปด้วยภูเขาและป่าอุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะปรากฎภาพสีเขียวสดใสในฤดูร้อน ถือเป็นจุดชมธรรมชาติที่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยือนอยู่เสมอ บริเวณทะเลสาบมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึก และศาลเจ้า ทั้งยังมีกิจกรรมถีบเรือเป็ด พายเรือแคนู และล่องเรือสำราญสำหรับคนเบื่อริมฝั่งด้วย
Lake Towada
Period: เรือสำราญ, เรือแคนู และเรือเป็ด ให้บริการเฉพาะปลายเดือนเมษายนถึงกลางพฤศจิกายน
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ นั่งรถ JR Bus ที่จุดขึ้นข้างๆ Tourist Information Center Aomori City ไปลงสุดสายที่ป้าย Lake Towada (十和田湖) ซึ่งเป็นทะเลสาบโทวาดะพอดี แต่ถ้าจะล่องเรือให้ลงป้าย Nenokuchi (子ノ口) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
Website: www.towadako.or.jp/en
Note:
– หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) นั่งฟรี
– ไม่สามารถชำระด้วย IC Card (สมาร์ทการ์ด)
– JR BUS TOHOKU ให้บริการแบบ First come, First served ใครมาถึงก่อน ก็สามารถขึ้นรถได้ก่อนตามรอบที่มีให้บริการ ก่อนเดินทางแนะนำให้ตรวจสอบรอบรถทางเว็บไซต์ www.jrbustohoku.co.jp/en
Map: https://goo.gl/maps/XSycoC6GBiM3hxXP7
Hotel Mets Hachinohe
ภาพ: www.hotelmets.jp/en/hachinohe/
เที่ยวมาทั้งวัน จะใช้พลังเดินอีกเยอะๆ คงไม่ไหว จึงเลือกพักโรงแรมซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฮาจิโนเฮะ สามารถเดินจากประตูทิศตะวันออกของสถานีไปถึงที่โรงแรมเพียงไม่กี่ก้าว ที่นี่มีห้องพักให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Single สำหรับหนึ่งคน และ Twin สำหรับสองคน ห้องอาจไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมทั้งอาหารเช้าท้องถิ่นแบบเซ็ตเมนู อร่อยและอิ่มท้องแน่นอน
ภาพ: www.hotelmets.jp/en/hachinohe/
Hotel Mets Hachinohe
Location: เมืองฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori Station)
Nearest Station: สถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe Station)
Access: จากสถานีฮาจิโนเฮะ เดินประมาณ 1 นาที
Website: www.hotelmets.jp/en/hachinohe/
Map: https://goo.gl/maps/5hUsrTGa6irYcauY6
DAY 03 อาโอโมริ – อิวาเตะ
TOHOKU EMOTION
ภาพ: East Japan Railway Company
11 โมงตรงเรามีนัดไปขึ้นรถไฟท่องเที่ยว Joyful Train ขบวนพิเศษที่ถูกออกแบบให้เป็นร้านอาหารที่เคลื่อนที่ได้ ระหว่างเดินทางเราจะได้ลิ้มรสอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นชั้นดีที่ปรุงขึ้นโดยเชฟชื่อดัง พร้อมชมทัศนียภาพทั้งทะเลและป่าเขาของโทโฮคุที่สวยจับใจ อีกทั้งภายในขบวนยังมีดีไซน์สวยเก๋ที่นำเอางานคราฟต์ท้องถิ่นเข้ามาตกแต่งด้วย แนะนำว่าให้นั่งทั้งไปและกลับ เพราะจะได้กินทั้งคอร์สอาหารคาวและขนมหวานแบบบุฟเฟ่ต์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว
TOHOKU EMOTION
Route: ระหว่างสถานีสถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe Station) จ. อาโอโมริ (Aomori) กับคุจิ (Kuji Station) จ. อิวาเตะ (Iwate)
Available Date: วันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) ให้บริการในวันศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ จันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก่อนสำรองที่นั่งแนะนำให้ตรวจสอบวันเดินทางก่อนที่เว็บไซต์ https://www.jreast.co.jp/e/joyful/tohoku.html
How to reserve seat: สำรองที่นั่งที่ห้องจำหน่ายตั๋ว JR EAST Travel Service Center สีเขียวบริเวณสถานีใหญ่ๆ ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น เช่น สถานี Tokyo, Shinjuku, Ueno, Shin-Aomori, Hachinohe ฯลฯ
Note: ราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตามเมนูอาหารที่เสิร์ฟในวันนั้นๆ
Roadside Station Kuji
มีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงระหว่างรอขึ้น TOHOKU EMOTION เที่ยวกลับ ขอแวะมาเดินเล่นเบาๆ ที่จุดแวะพักคุจิ ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์รวมของดีทั้งในแง่อาหารและวัฒนธรรมของเมืองคุจิเอาไว้ มีทั้งมุมให้ข้อมูล มีชุดอามะจัง หรือนักดำน้ำหญิงเก่าแก่ที่สามารถงมหอยในทะเลได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจให้ลองใส่ ซึ่งเมืองคุจิเป็นต้นกำเนิดของอาชีพอามะจัง โซนอาหารก็มีทั้งขนม ของฝาก และผักผลไม้สดที่เก็บได้จากท้องถิ่น และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถแวะมาเดินเล่นได้เพลินเลย
Roadside Station Kuji
Location: เมืองคุจิ (Kuji) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Hours: 9:00-19:00 น. (เดือนพ.ย.-มี.ค. ปิด 18:00 น.)
Nearest Station: สถานีคุจิ (Kuji Station)
Access: จากสถานีคุจิ เดินประมาณ 6 นาที
Website: www.dofukan.com/
Map: https://goo.gl/maps/7Y7viBAV87V1mmXg8
Miroku Yokocho
ถ้ายังกินไม่จุใจพอขอให้ไปที่มิโรกุ โยโกะโจกันต่อ เพราะที่นี่เป็นเหมือนตรอกรวมร้านอิซากายะแบบบ้านๆ เข้าถึงง่าย ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาจิโนเฮะเลย แต่ละร้านมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เช่น ร้านเน้นปิ้งย่าง ร้านอาหารท้องถิ่น ร้านราเมน ร้านที่เน้นเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เป็นต้น หลายๆ ร้านเลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นตัวชูโรงด้วย จะใช้เป็นจุดเริ่มต้นหรือที่ปิดค่ำคืนอันแสนสนุกก็เข้าท่า
Miroku Yokocho
Location: เมืองฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
Hours: แตกต่างกันไปตามแต่ละร้านค้า
Nearest Station: สถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe Station)
Access: จากสถานีฮาจิโนเฮะ นั่งรถไฟ JR สาย Hachinohe Line ไปลงที่สถานีฮน ฮาจิโนเฮะ (Hon-Hachinohe Station) ประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 12 นาที หรือนั่งแท็กซี่จากสถานีฮาจิโนเฮะไปโดยตรงก็ประมาณ 20 นาที
Website: www.36yokocho.com
Map: https://goo.gl/maps/VrrgQn8rCDFd9CaV7
Day 04 อิวาเตะ
Morioka Kippushi
พื้นที่สร้างสรรค์ริมแม่น้ำคิตะคามิ (Kitakami River) เหมาะสำหรับการมานั่งจิบกาแฟ ละเลียดขนมหวาน หรือกินอาหารมื้อหนักก็ได้ เพราะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่เปิดตั้งแต่เช้าถึงดึกให้บริการอยู่พอสมควร อีกทั้งส่วนใหญ่เป็นที่นั่งแบบเอาท์ดอร์ให้ได้รับลมชิลล์ๆ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับคนที่อยากมาปิกนิกหรือแคมปิ้งด้วย
Morioka Kippushi
Location: เมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Hours: แตกต่างตามแต่ละร้านค้า
Nearest Station: สถานีโมริโอกะ (Morioka Station)
Access: จากสถานีโมริโอกะ เดินประมาณ 6 นาที
Website: www.facebook.com/kippushi
Map: https://goo.gl/maps/PRhDLE3oV44PWjSo8
Morioka Castle Site Park
อดีตพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นปราสาทโมริโอกะ เมื่อยุคซามูไรสิ้นสุดลง ปราสาทจึงถูกทำลาย เหลือเพียงกำแพงหินเป็นร่องรอยแห่งความรุ่งเรืองในอดีต เรื่องน่าสนใจคือหินทุกก้อนบนกำแพงถูกเรียงโดยไม่ใช้ตัวยึดใดๆ แต่กลับแข็งแรงขนาดที่ไม่หวั่นแม้เกิดแผ่นดินไหว นอกจากนี้ภายในยังมีสวนสวยที่เต็มไปด้วยไม้นานาพันธุ์ สระน้ำเล็กๆ เสริมให้บรรยากาศเย็นสบายขึ้นอีก
Morioka Castle Site Park
Location: เมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Hours: 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีโมริโอกะ (Morioka Station)
Access: จากสถานีโมริโอกะเดินประมาณ 15-20 นาที
Map: https://goo.gl/maps/zvYP1oZfS3BzP6iT7
Azumaya Honten
ภาพ: www.twitter.com/azumayahonten/
ร้านวังโกะโซบะเก่าแก่ในเมืองโมริโอกะ ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 5 เป็นผู้บริหารร้าน วังโกะ เป็นภาษาถิ่นหมายถึงถ้วยไม้เล็กๆ วังโกะโซบะคือโซบะที่อยู่ในถ้วยเล็กๆ ใส่เส้นได้พอดีกับปริมาณ 1 คำ เมื่อเรากินเส้นที่อยู่ในถ้วยหมด พนักงานร้านจะเติมให้เราทันทีด้วยความรวดเร็วและจะเติมไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะปิดฝาถ้วยซึ่งมีความหมายว่าเราอิ่มแล้วนั่นเอง!
ภาพ: www.twitter.com/azumayahonten/
Azumaya Honten
Location: เมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Hours: 11:00-15:00 น., 17:00-18:30 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโมริโอกะ (Morioka Station)
Access: จากสถานีโมริโอกะ เดินประมาณ 26 นาที หรือเดินจาก Morioka Castle Site Park ประมาณ 5 นาที
Website: www.wankosoba.jp/en/wankosoba/
Map: https://goo.gl/maps/iUZY4Y2MnVj52J1Q8
Morioka Handi-Works Square
งานฝีมือของอิวาเตะค่อนข้างโด่งดังในญี่ปุ่น เช่น เครื่องเหล็กนัมบุ เซรามิก ผ้ามัดย้อม ฯลฯ จึงอดไม่ได้ที่จะแวะไปชม หมู่บ้านงานฝีมือที่รวบรวมงานแฮนด์เมดพื้นบ้านจากท้องถิ่นต่างๆ เอาไว้ครบในที่เดียว โซนหลักที่ห้ามพลาดคือ Handmade Workshop Zone แบ่งประเภทงานฝีมืออย่างเป็นสัดส่วนให้เลือกเดินเข้าไปชมได้ตามความสนใจ บางครั้งก็มีเวิร์คช็อปเปิดให้คนทั่วไปเข้าร่วมอีกด้วย แต่ถ้าไม่มีเวลาก็สามารถซื้อชิ้นงานที่ชอบกลับบ้านได้ด้วย
Morioka Handi-Works Square
Hours: 8:40-17:00 น.
Holiday: วันปีใหม่
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Bus stop: Morioka Tezukurimura-mae
Access: จากสถานีโมริโอกะ ให้ขึ้นรถบัสที่ป้ายหมายเลข 10 และขึ้นคันที่เขียนว่าปลายทาง Tsunagi (うなぎ) เท่านั้น นั่งมาลงที่ป้าย Morioka Tezukurimura-mae (盛岡手づくり村前) ประมาณ 20 นาที
Website: www.tezukurimura.com
Map: https://goo.gl/maps/RhmJBVYH4pEFdBdE8
PYON PYON SYA Moriokaekimaeten
ปิดท้ายวันด้วยอีกหนึ่งเมนูดัง โมริโอกะเรเมน (Morioka Reimen) บะหมี่เย็นที่คนท้องถิ่นนิยมกินตบท้ายเนื้อย่าง จึงสามารถหากินได้ตามร้านยากินิกุนั่นเอง ลักษณะพิเศษคือเส้นที่เหนียวนุ่ม ซึ่งทำจากแป้งมันฝรั่งเคลือบด้วยน้ำมันงาเสิร์ฟมาในซุปใสเย็นๆ ท็อปด้วยกิมจิ แตงกวา เนื้อสไลซ์ ไข่ต้ม และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือผลไม้หั่นชิ้นอย่างแตงโมหรือลูกแพร์ กินแล้วสดชื่นเหมาะกับวันอากาศร้อนสุดๆ
PYON PYON SYA Moriokaekimaeten
Location: เมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Hours: 11:00-23:00 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโมริโอกะ (Morioka Station)
Access: จากสถานีโมริโอกะ เดินประมาณ 3 นาที
Website: www.pyonpyonsyamoriokaekimae.gorp.jp/
Map: https://goo.gl/maps/Hsj3PYfAhm2qoD6y5
Hotel Metropolitan Morioka
โรงแรมในเครือ JR ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าโลเคชั่นดีมาก เพราะมักจะตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ สำหรับสาขาเมืองโมริโอกะนั้นพิเศษขึ้นอีก เพราะมีถึง 2 อาคาร ได้แก่ Main Building อาคารหลักที่อยู่ติดสถานี ส่วนเราพักที่ New Wing เป็นอาคารสร้างใหม่ เด่นที่ห้องพักซึ่งกว้างขวางและมีให้เลือกมากกว่า ลืมอะไรไปก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีสิ่งจำเป็นให้ครบจริงๆ อาหารเช้าก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะในโรงแรมก็มีบริการอาหารเช้าโลคอลแบบบุฟเฟ่ต์ด้วย
Hotel Metropolitan Morioka
Location: เมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Nearest Station: สถานีโมริโอกะ (Morioka Station)
Access: จากสถานีโมริโอกะ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.morioka.metropolitan.jp/
Map: https://goo.gl/maps/ebtSqSLy32rEUKa8A
Day 05 อิวาเตะ
Motsuji Temple
เอาฤกษ์เอาชัยเช้าวันใหม่ด้วยการไปสักการะที่วัดพุทธใหญ่ หนึ่งในมรดกโลกประจำเมืองฮิราอิซุมิ ภายในวัดบรรยากาศสวยสง่า สงบ และร่มรื่นมาก ไฮไลท์ของที่นี่คือสวนโจโด (Pure Land Garden) สวนสวยอายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งมีการออกแบบและใช้เทคนิคการจัดสวนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเฮอัน ซึ่งคือการผสมผสานกันระหว่างน้ำ ต้นไม้ และภูเขา นอกจากนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆ ให้แวะชมอีกมาก อาทิ วิหาร ศาลาเก่า และโขดหินต่างๆ ฯลฯ
Motsuji Temple
Hours: 8:30-17:00 น. (5 พ.ย.-4 มี.ค. 8:30-16:30 น.)
Holiday: –
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 300 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมต้นและชั้นประถม 100 เยน
Nearest Station: สถานีฮิราอิซุมิ (Hiraizumi Station)
Access: จากสถานีฮิราอิซุมิเดินเท้าประมาณ 10 นาที
Website: www.motsuji.or.jp/th
Map: https://goo.gl/maps/ngdaiyGKvy6fG18x6
POKÉMON with YOU Train
ขบวนรถไฟสีเหลืองสดใสที่เดบิวต์ขึ้นเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ในแถบโทโฮคุซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 2011 ภายใน 2 ตู้โดยสารเต็มไปด้วยปิกาจูอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ขึ้นแล้วต้องแวะไปถ่ายรูปที่ตู้ Playroom ซึ่งออกแบบเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็มีกิจกรรม Stamp Rally และห้ามพลาดซื้อเบนโตะปิกาจูมาชิมด้วย แนะนำว่าควรจองล่วงหน้า เพราะมีที่นั่งจำกัดและไม่ได้มีให้บริการทุกวัน หากนั่งจนสุดสายจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ภาพ: East Japan Railway Company
POKÉMON with YOU Train
Route: ระหว่างสถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki Station) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) กับสถานีเคเซ็นนุมะ (Kesennuma Station) จังหวัดมิยากิ (Miyagi)
Available Date: วันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) และไม่ได้บริการทุกวัน ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดของนักเรียนทุกระดับชั้น (ช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาว) ก่อนสำรองที่นั่งแนะนำให้ตรวจสอบวันเดินทางก่อนที่เว็บไซต์
How to reserve seat: หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ล่วงหน้าฟรีได้ทางเว็บไซต์ eki-net.com ก่อนไป 1 เดือน หรือที่ห้องจำหน่ายตั๋ว JR EAST Travel Service Center สีเขียวบริเวณสถานีใหญ่ๆ ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น เช่น สถานี Tokyo, Shinjuku, Ueno, Hachinohe, Morioka, Ichinoseki ฯลฯ
Note: ที่นั่งทั้งหมดบนรถไฟขบวนนี้ต้องสำรองที่นั่งเท่านั้น
Geibikei Gorge
ภาพ: www.geibikei.co.jp
เราไม่ได้นั่งจนสุดสาย เพราะระหว่างเส้นทางรถไฟโปเกมอนมีสถานที่ที่เราสนใจคือ “หุบเขาเกบิเค” หุบเขาหินที่มีประวัติศาตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ล่องเรือโบราณเป็นกิจกรรมที่ไม่ว่าใครแวะเวียนมาก็ต้องนั่ง เพราะมีความพิเศษตรงที่เป็นแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ขับเคลื่อนเรือด้วยคนและไม้พายเพียงอันเดียวทั้งขาไปและขากลับ อีกไฮไลท์น่าสนใจตรงหุบเขาด้านในสุด ฝีพายจะแวะให้เราลงเดินเล่น บริเวณนั้นจะมีช่องหินอธิษฐานอยู่บนหน้าผา เชื่อกันว่าถ้าขว้างหินผ่านเข้าไปในช่องได้ คำอธิษฐานของเราจะเป็นจริง
Geibikei Gorge
Location: เมืองอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Hours: 8:30-16:30 น.
Holiday: –
Entrance Fee: ค่าบริการล่องเรือ (90 นาที) ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็กประถม 900 เยน, เด็กต่ำกว่าชั้นประถม 200 เยน
Nearest Station: สถานีเกบิเค (Geibikei Station)
Access: จากสถานีอิชิโนะเซกิ นั่งรถไฟ POKÉMON with YOU Train มาลงที่สถานีเกบิเคประมาณ 45 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 6 นาที
Website: www.geibikei.co.jp/th/index.html
Map: https://goo.gl/maps/BCvks595M9DFdAZCA
จากหุบเขาเกบิเคเรานั่งรถไฟ JR ท้องถิ่นกลับไปที่สถานีอิชิโนะเซกิ จากนั้นเปลี่ยนสายไปนั่งโทโฮคุชินคันเซ็นต่อไปยังโตเกียว ก็เป็นจบทริปเที่ยว ‘อาโอโมริ’ และ ‘อิวาเตะ’ ได้สนุกมาก อากาศสดชื่น วิวสวยสบายตาและใจ เสน่ห์เต็มเปี่ยมสมกับเป็นฤดูร้อนญี่ปุ่น ชักจะตกหลุมรักฤดูร้อนขึ้นมาแล้วสิ เจอกันใหม่ทริปหน้า!
★ 3 Days Summer Trip in Aomori & Iwate (แพลน 3 วัน 2 คืน)
ข้อมูลบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)
เที่ยวให้ อาโอโมริ และ อิวาเตะ ให้คุ้มเว่อร์ ต้องใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ซึ่งใช้แทนตั๋วสำหรับโดยสารรถไฟ ที่ใช้นั่งทั้งชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น รถไฟท่องเที่ยว Joyful Train (บางขบวน) ในเส้นทาง JR EAST Lines ได้ฟรีทั้งหมด รวมถึงสามารถใช้โดยสารรถ JR BUS TOHOKU นั่งรถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะ หรือ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน
ราคา: ผู้ใหญ่ 20,000 เยน, เด็ก 10,000 เยน
เงื่อนไข: ต้องใช้ 5 วัน ติดต่อกัน
จุดจำหน่าย: ซื้อผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋วบางสถานี, เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว หรือซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทย
วิธีสำรองที่นั่ง: ตั้งแต่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2021 เป็นต้นไป สามารถซื้อและสำรองที่นั่งออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation และไปออกตั๋วฉบับจริงได้ที่ตู้อัตโนมัติภายในสถานีรถไฟที่มี Passport Reader
วิธีใช้งาน: สอดบัตรโดยสารกับเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟได้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.jreast.travel/th/index.php