ฤดูร้อน 3 วัน 2 คืนที่ อาโอโมริ – อิวาเตะ ซึมซับความสุขผ่านวัฒธรรมท้องถิ่น ของกิน และฟินกับป่าเขียวขจี
สารบัญ
ฤดูร้อนอาจเป็นฤดูกาลที่คนส่วนใหญ่อยากจะหลีกเลี่ยง แต่สำหรับเราที่ญี่ปุ่นนั้นมีกิจกรรมน่าสนใจและน่าตื่นเต้นมากมาย โดยเฉพาะทริปนี้ที่เป็นโอกาสดีได้มาเที่ยวจังหวัด “อาโอโมริ (Aomori)” และ “อิวาเตะ (Iwate)” ฤดูร้อน เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ในภูมิภาคโทโฮคุซึ่งมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์กว่าที่ไหนๆ
หน้าร้อนเป็นฤดูแห่งการเก็บแอปเปิ้ล เดินป่าเขียว เที่ยวประวัติศาสตร์ และเพลิดเพลินกับเทศกาลฤดูร้อนสุดอลังการ แถมอาหารการกินท้องถิ่นก็รสชาติดี เราชอบเวลาที่มีแสงแดด เพราะมันทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ได้ใส่ชุดเบาสบายเหมือนกับที่ใส่ในบ้านเรา แถมยิ่งดีเข้าไปใหญ่ถ้ามีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ไว้ใช้โดยสารรถสาธารณะเครือ JR EAST ได้ทุกประเภท แล้วออกเดินทางไปสร้างความทรงจำใหม่ๆ ที่อาจทำให้รู้สึกเบิกบานใจในฤดูร้อนกันเถอะ
ป่ะ เก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวกัน!
DAY 1: อาโอโมริ
เราได้หาข้อมูลมาก่อนแล้วว่าช่วงฤดูร้อนที่จังหวัดอาโอโมริสามารถเก็บแอปเปิ้ลของโปรดเราได้ นี่เลยเป็นสาเหตุให้ต้องซื้อบัตรโดยสาร JR EAST PASS Tohoku area แล้วออกเดินทางไปภูมิภาคโทโฮคุ นอกจากจะปักหลักเที่ยวที่ฮิโรซากิแล้ว เรายังได้ใช้บัตรนี้ไปเที่ยวเมืองใกล้เคียงต่อได้อีก คุ้มค่าที่สุด!
Hirosaki Apple Park
ภาพ: www.twitter.com/hi_applepark
ในเมื่อเมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ในเมืองจึงมีสวนแอปเปิ้ลหลายแห่ง เราเลือก Hirosaki Apple Park เพราะที่นี่เดินทางง่าย มีแอปเปิ้ลหลายสายพันธุ์ และมีกิจกรรมให้ทำเพียบ
สวนแอปเปิ้ลฮิโรซากิ มีแอปเปิ้ลราว 1,300 ต้น หลากหลายกว่า 65 สายพันธุ์ มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวมาเก็บแอปเปิ้ลสดๆ จากต้น มีมุมเพาะชำ ตัดแต่งกิ่งให้ได้ลองลงมือทำ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับปิกนิกให้ปูผ้านั่งรับลมใต้ต้นแอปเปิ้ลเก๋ๆ ไปพร้อมๆ กับทอดสายตาชมวิวภูเขาอิวากิ (Mt. Iwaki) อันน่าประทับใจ
ภาพ: www.twitter.com/hi_applepark
นอกจากนี้ยังมี Ringo no Ie (りんごの家) อาคารอเนกประสงค์ที่ภายในมีทั้งโซนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมายจากแอปเปิ้ล ร้านอาหาร และคาเฟ่ มาแล้วห้ามพลาดชิม Apple Curry ข้าวแกงกะหรี่แอปเปิ้ล แล้วตบท้ายด้วยไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสแอปเปิ้ลเนื้อเนียน ก็เป็นอันจบกิจกรรมแสนเพลิดเพลินในสวนได้ครบรสสุดๆ
ข้าวแกงกะหรี่และซอฟต์เสิร์ฟรสแอปเปิ้ลฮิโรซากิ ภาพ: www.facebook.com/VisitAomoriอาคาร Ringo no Ie ภาพ: www.tohokukanko.jp
Hirosaki Apple Park
Apple Period: สิงหาคม-กลางพฤศจิกายน
Location: เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: เข้าฟรี แต่หากต้องการเก็บแอปเปิ้ลมีค่าใช้จ่ายกิโลกรัมละ 200 เยน
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access:
วิธีที่ 1 จากสถานีฮิโรซากิ ให้ขึ้น Konan Bus ป้ายหมายเลข 6 ที่ทางออก Central Exit ไปลงที่ป้าย Tokiwazaka Entrance Bus Stop ประมาณ 20 นาที จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 7 นาที
วิธีที่ 2 จากสถานีฮิโรซากิ ให้ขึ้น Tamenobu-go เป็นรถบัสวิ่งรับ-ส่งระหว่างสถานีฮิโรซากิและ Hirosaki Apple Park ประมาณ 40 นาที ให้บริการเฉพาะฤดูเก็บแอปเปิ้ลเท่านั้น
Website: www.city.hirosaki.aomori.jp/ringopark/
Map: https://goo.gl/maps/2qv2e562kEjki4236
Hirosaki Castle
ชมธรรมชาติแล้วเปลี่ยนมู้ดมาชมประวัติศาสตร์กันบ้างที่ปราสาทฮิโรซากิ ที่นี่เป็นปราสาทสวยติดอันดับจากหลายสำนัก ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ด้วยเพราะสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ยังคงรักษาไว้เช่นในอดีต ตัวปราสาทถูกล้อมรอบไปด้วยคูน้ำและสวนสวย ทำให้มีเสน่ห์ต่างกันตลอดทั้งปี ทั้งซากุระ หิมะ ทุ่งใบไม้แดง และต้นไม้เขียวขจี สำหรับเราไม่ว่าจะแวะเวียนไปในฤดูไหน ก็ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่อยู่เสมอ
เราชอบตรงที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ ในวันอากาศร้อน มันทำให้รู้สึกเย็นขึ้นแบบบอกไม่ถูก นอกจากนี้ก็มีอีกหลายจุดภายในพื้นที่ปราสาทที่น่าสนใจ เช่น ประตู ป้อมปราการ สะพานแดงที่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ฯลฯ ประกอบกับความกว้างขวางและสวยงามทำให้ปราสาทแห่งนี้ได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานและเทศกาลประจำเมืองอยู่เป็นประจำ
Hirosaki Castle
Location: เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ
Hours: Honmaru และ Kita no Kuruwa Area 9:00-17:00 น. (1 เม.ย.-23 พ.ย.) / Botanical Garden 9:00-18:00 น.
Holiday: 24 พ.ย.-31 มี.ค.
Entrance Fee: Honmaru และ Kita no Kuruwa Area / Botanical Garden ผู้ใหญ่ 320 เยน, เด็ก 100 เยน / Combo Ticket Honmaru, Kita no Kuruwa Area, Botanical Garden, Fujita Memorial Garden ผู้ใหญ่ 520 เยน, เด็ก 160 เยน
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access: จากสถานีฮิโรซากิให้นั่ง Hirosaki City Loop Bus จากป้ายหมายเลข 2 Hirosaki Eki Mae ด้านหน้าสถานี ไปลงที่ป้ายหมายเลข 14 Shiyakusho-mae (City Office) หรือหมายเลข 15 Mutusinpou-mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 4 นาที อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับบัสเพิ่มเติมได้ที่นี่
Website: www.hirosakipark.jp/en/
Map: https://goo.gl/maps/nwWdeiVYeJxd8seM9
Taisho Roman Tea Room
นี่เป็นหนึ่งในร้านแอปเปิ้ลพายที่ถูกปักหมุดในแผนที่ Apple Pie Map ซึ่งการท่องเที่ยวฮิโรซากิได้ทำแจกให้หยิบได้ฟรีตั้งแต่ที่สถานีรถไฟ เราเลือกร้านนี้เพราะอยู่ไม่ไกลจากปราสาทฮิโรซากิ Taisho Roman Tea Room เป็นคาเฟ่ที่เสิร์ฟทั้งเมนูคาวหวานในอาคารสไตล์วินเทจแบบตะวันตกที่สวยและน่าถ่ายรูปมาก
มาแล้วต้องสั่งแอปเปิ้ลพายนางเอกของร้าน แป้งด้านนอกกรอบหอมเนย ส่วนด้านในเนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ อบอวลไปด้วยรสชาติแอปเปิ้ลฮิโรซากิหวานหอมสมคำร่ำลือ กินคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วก็ยิ่งรู้สึกสดชื่นขึ้นมา เพื่อเพิ่มอรรถรสทางสายตา แนะนำให้นั่งโซนที่อยู่ติดสวนเป็นกระจกใสโปร่งซึ่งมีแดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาเสริมความอร่อย พนักงานบอกว่าวิวที่สวนแห่งนี้สวยทุกฤดูเลยล่ะ
Taisho Roman Tea Room
Location: เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
Hours: 9:30-16:30 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Access: จากสถานีฮิโรซากิให้นั่ง Hirosaki City Loop Bus จากป้ายหมายเลข 2 Hirosaki Eki Mae ด้านหน้าสถานี ไปลงที่ป้ายหมายเลข 14 Shiyakusho-mae (City Office) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับบัสเพิ่มเติมได้ที่นี่
Website: www.facebook.com/fujitataisyoromankissa/
Map: https://goo.gl/maps/7rWjM1kK8smbsQLSA
Nebuta Matsuri
ก่อนฟ้าจะมืด เรารีบนั่งรถไฟบึ่งไปที่สถานีอาโอโมริราว 50 นาที นี่คือเทศกาลฤดูร้อนที่ใหญ่ระดับท็อปทรีของภูมิภาคโทโฮคุ แต่ละปีมีผู้เดินทางมาชมเทศกาลนี้ราว 3 ล้านคน และยังได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าด้วย
เรามาถึงก่อนพระอาทิตย์ตกเลยถือโอกาสเดินถ่ายรูปเล่นไปพลางๆ จึงได้เห็นการเตรียมขบวนเนบูตะตามจุดต่างๆ ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่มาเรื่อยๆ อีกทั้งมียะไตอาหารทั้งคาวหวานจำหน่ายตลอดทั้งเส้นทางเลย
ไฮไลท์สำคัญของเทศกาลนี้คือขบวนพาเหรดโคมไฟขนาดยักษ์ที่มีลวดลายและสีสันโดดเด่นในยามค่ำคืน เกิดขึ้นเพื่อขอพรให้ไม่มีโรคภัยหรือบางตำนานก็เล่าว่าเป็นการส่งวิญญาณ เมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ขบวนเนบูตะก็เคลื่อนมาประจำที่ เวลา 19:10 น. เสียงกลองไทโกะก็ดังกระหึ่มตรงตามเวลาเป๊ะ! แสงไฟจากโคมกระดาษยักษ์ก็สว่างไสวขึ้น เสียงกลอง ขลุ่ย และฉาบเริ่มบรรเลงเป็นทำนองอย่างมีชีวิตชีวา มาพร้อมกับเสียงตะโกน “รัชเซรา…รัซเซรา” เป็นจังหวะเคล้าไปตามเสียงดนตรี ขบวนค่อยๆ เคลื่อนไปตามท้องถนนในเมือง เสียงตะโกนโห่ร้องยังคงดังต่อเนื่องอย่างครึกครื้น เป็นฤดูร้อนที่สนุกดีจังนะว่าไหม
แต่หากใครไม่ได้เดินทางไปในช่วงเวลาจัดงาน สามารถเพลิดเพลินกับระบำฮาเนโตะได้บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟอาโอโมริ และแวะไปชมโคมไฟของจริงที่จัดแสดงไว้ที่ Nebuta Museum WA RASSE
★ อ่านรีวิว Nebuta Matsuri ฉบับเต็มที่ www.kiji.life/nebuta-matsuri/
Nebuta Matsuri
Period: 2-7 สิงหาคมของทุกปี
Location: เมืองอาโอโมริ (Aomori) จังหวัดอาโอโมริ
Hours: 19:10-21:00 น.
Entrance Fee: พื้นที่ทั่วไป ชมฟรี, โซนระบุเลขที่นั่ง 3,000 เยน, โซนที่นั่งชมพาเหรดกลางวันและกลางคืน 7,000 เยน
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ เดินประมาณ 5 นาที
Website: www.nebuta.jp/foreign/english.html
Map: https://goo.gl/maps/7RRTBrAvgf8uznow9
DAY 2: อาโอโมริ – อิวาเตะ
ขอยกให้วันนี้เป็นวันแห่งธรรมชาติ กินปลาดิบสดๆ มากมายจากธรรมชาติ ขึ้นเขา ชมวิว และเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้หัวใจอันอ่อนล้าได้เยียวยาจากป่าเขาเขียวขจีและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของ ฤดูร้อน อาโอโมริ ก่อนปิดท้ายวันที่จังหวัด อิวาเตะ แบบอิ่มท้องสุดๆ
Aomori Gyosai Center
มาอาโอโมริทั้งที ถ้าไม่ได้กินของดีประจำถิ่นเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง เช้านี้เราตั้งใจมากิน “นกเกะด้ง (Nokke Don)” ข้าวหน้าปลาดิบตามใจฉัน พระเอกตลอดกาลของตลาดสดอาโอโมริหรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า ตลาดฟุรุคาวะ (Furukawa Fish Market)
เราได้กลิ่นทะเลตั้งแต่เดินเข้ามา เพราะมีปลาสดหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ ที่นี่ใช้ระบบคูปองแลกอาหาร ดังนั้นเราต้องไป Ticket Counter ภายในอาคารเพื่อซื้อเซ็ตคูปองมาก่อน จากนั้นจึงนำไปแลกของชอบที่ร้านที่มีธงสีส้ม วิธีใช้แม้จะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็ไม่เป็นไร เราแนะนำให้สังเกตจากตัวเลขบนป้ายที่แปะบนวัตถุดิบนั้นๆ เช่น ป้ายมากุโร่มีเลข 1 เท่ากับว่า ใช้คูปอง 1 ใบสำหรับแลกมากุโร่นั่นเอง
เมื่อได้ข้าวหน้าปลาดิบที่ชอบแล้ว จะขึ้นไปกินบนชั้น 2 ก็ได้ ทางตลาดก็จัดหาที่นั่งไว้ให้พร้อมเลย ส่วนใครที่ไม่สันทัดปลาดิบก็มีร้านเนื้อวากิวและเนื้อหมูให้เลือกอร่อยด้วยเหมือนกัน
Aomori Gyosai Center / Furukawa Fish Market (Nokkedon)
Location: เมืองอาโอโมริ (Aomori) จังหวัดอาโอโอริ
Hours: พ.-จ. 7:00-16:00 น.
Holiday: วันอังคาร และวันหยุดช่วงปีใหม่
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.nokkedon.jp/
Map: https://goo.gl/maps/H25tG3vGAAEZav6C8
Mt. Hakkoda
ท้องอิ่มก็พร้อมไปต่อยังจุดหมายหลักของวันนี้ ฮักโกดะ ภูเขาชื่อดังของจังหวัดอาโอโมริที่มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศดีมาก เป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติ Towada Hachimantai จึงมีเส้นทางให้ศึกษาธรรมชาติทั้งแบบสั้นๆ และเดินเทรลแบบระยะยาว เลยมีกิจกรรมและสถานที่ระหว่างทางให้แวะชมเยอะเลย
การจะขึ้นไปบนเขาได้ต้องมาเริ่มต้นที่ ฮักโกดะโรปเวย์ (Hakkoda Ropeway) กระเช้าลอยฟ้าที่พาเราไต่เขาขึ้นไปประมาณ 10 นาที ก็จะถึง Summit Wood Deck ระเบียงไม้จุดชมวิวจุดแรกที่ทำให้เราเห็นวิวภูเขาสวยๆ แบบพาโนรามา ความน่ารักคือระเบียงนี้ถูกทำเพิ่มเพื่อให้คนที่ใช้รถเข็นหรือผู้สูงอายุได้ชมวิวแบบไม่ต้องลำบาก
ถ้าอยากใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ ด้านบนนี้มีเส้นทางเดินป่าชื่อ Gourd Line ให้เลือกทั้งแบบ 30 นาทีหรือ 60 นาที แล้วแต่กำลังขา เราเลือกแบบ 60 นาที ที่เดินเป็นวงกลม ระหว่างทางเดินมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ชัดเจน เดินง่ายไม่มีหลง เส้นทางนี้เราจะได้ชมพื้นที่ลุ่มน้ำทาโมยาจิ (Tamoyachi) ที่มีพื้นหลังเป็นทิวเขาเขียว สดชื่น สบายตามาก
นอกจากนี้ก็มีจุดให้ได้แวะถ่ายรูป มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้หยุดชมตลอดทาง บางช่วงก็มีลมธรรมชาติเย็นๆ พัดมาเหมือนเครื่องปรับอากาศ เดินไปเรื่อยๆ ก็จะวนครบรอบมาถึงจุดขึ้นโรปเวย์ที่เดิม ซึ่งใครที่รักการเดินเขาชอบสัมผัสอากาศสดชื่นก็ต้องมาเที่ยวในฤดูร้อนนี่แหละเหมาะที่สุด
ลงจากเขามาแล้ว แวะชิมน้ำแอปเปิ้ลอาโอโมริคั้นสด หรือหอยเชลล์ได้ที่หน้าสถานีโรปเวย์ก่อนออกเดินทางไปต่อ ก็เติมเต็มท้องที่อาจจะกำลังว่างอยู่ได้พอดีเลยนะ อร่อยเชียว
Hakkoda Ropeway
Location: เมืองโทวาดะ (Towada) จังหวัดอาโอโมริ
Hours: มีนาคม-ต้นพฤศจิกายน 9:00-16:20 น., กลางพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ 9:00-15:40 น.
Entrance Fee: ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็กต่ำกว่า 13 ปี 700 เยน / เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,250 เยน เด็กต่ำกว่า 13 ปี 450 เยน (เด็กอนุบาลไม่เสียค่าใช้จ่าย)
Nearest Station: สถานีอาโอโมริ (Aomori Station)
Access: จากสถานีอาโอโมริ นั่ง JR Bus ไปลงที่จุดขึ้นโรปเวย์สถานีฮักโกดะ โรปเวย์ ซันโรกุ (Hakkoda Ropeway Sanroku Station) ประมาณ 1 ชั่วโมง
Website: www.hakkoda-ropeway.jp/english
Map: https://goo.gl/maps/x4nyxKUQysc4VQmm6
Taishouen
ภาพ: www.facebook.com/Jejeje-IWATE/
จากภูเขาเรานั่งรถบัสต่อรถไฟเพื่อจะมาพักที่เมืองอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki) จังหวัดอิวาเตะ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมีร้านยากินิกุ (ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น) ที่คนท้องถิ่นแนะนำเหมาะกับการแวะไปฝากท้องยามเย็นอย่างยิ่ง ตัวร้านเป็นอาคาร 2 ชั้น พอเข้ามาด้านในจะพบว่ามีคนท้องถิ่นเยอะมาก ตามฝาผนังก็มีลายเซ็นของคนดังมากมายเป็นเครื่องการันตีความอร่อยของร้านนี้ได้เป็นอย่างดี
ภาพ: www.facebook.com/Jejeje-IWATE/
เมนูของร้านมีทั้งแบบคอร์สจัดเต็มและแบบอะลาคาร์ทเบาๆ มาแล้วขอให้สั่งเนื้อวัวส่วนใดก็ได้ที่ชอบ ทางร้านจะเสิร์ฟคลุกเคล้ามากับน้ำปรุงสูตรเฉพาะ ส่วนใครที่ไม่รับประทานเนื้อ ทางร้านก็มีหมูและไก่ให้เลือกอยู่ด้วยเช่นกัน
Taishouen
Location: เมืองอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki) จังหวัดอิวาเตะ
Hours: จ.-ส. 17:00-24:00 น., อา. 12:00-23:00 น.
Nearest Station: สถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki Station)
Access: จากสถานีอิชิโนะเซกิ เดินประมาณ 7 นาที
Website: www.taishouen1969.com
Map: https://goo.gl/maps/EQA7gEpj5SGVvtzB7
DAY 3: อิวาเตะ
วันสุดท้ายขอตะลอนเที่ยวแบบเบาๆ เติมพลังใจจากวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อิวาเตะ ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และอาหารท้องถิ่นสุดปังที่ใครไปใครมาก็ต้องลองชิมให้ได้สักครั้ง
Motsuji Temple
จากเมืองโมริโอกะ ขอแวบมาชมรดกโลกก่อนกลับโตเกียวที่เมืองฮิราอิซุมิ (Hiraizumi) นั่งรถไฟราว 1 ชั่วโมงก็ถึง เราเดินเท้าจากสถานีรถไฟไปวัดโมสึจิ วัดพุทธใหญ่ของนิกายเทนได หนึ่งในมรดกโลกประจำเมืองฮิราอิซุมิ
ภายในวัดบรรยากาศสวยสง่า สงบ และร่มรื่นมาก มีหลายจุดน่าสนใจให้เยี่ยมชม อาทิ วิหารฮนโดะ (Hondo Main Hall) ซึ่งพระประธานในวิหารดังเรื่องขอให้โรคภัยไข้เจ็บหาย ในมือพระพุทธรูปจึงถือถุงยาด้วย แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือสวนโจโด (Pure Land Garden) สวนสวยอายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งมีการออกแบบและใช้เทคนิคการจัดสวนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเฮอัน ซึ่งยังมีศาลาเก่าและโขดหินต่างๆ ของสมัยเฮอันหลงเหลืออยู่ให้นึกถึงด้วย
★ อ่านรีวิว Motsuji Temple ฉบับเต็มที่ www.kiji.life/chusonji-motsuji-temple-iwate/
Motsuji Temple
Hours: 8:30-17:00 น. (5 พ.ย.-4 มี.ค. 8:30-16:30 น.)
Holiday: –
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 700 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 400 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมต้นและชั้นประถม 200 เยน
Nearest Station: สถานีฮิราอิซุมิ (Hiraizumi Station)
Access: จากสถานีฮิราอิซุมิเดินเท้าประมาณ 10 นาที
Website: www.motsuji.or.jp/th
Map: https://goo.gl/maps/39k8cX3S8hyyEoYP7
POKÉMON with YOU Train
ที่สถานีอิชิโนะเซกิมีรถไฟท่องเที่ยว Joyful Train ขบวนพิเศษที่น่าสนใจให้นั่ง รถไฟขบวนสีเหลืองสดใสที่โดดเด่นเห็นมาแต่ไกลมาในคอนเซ็ปต์ “โปเกมอน” เพราะจุดประสงค์หลักของรถไฟคือ การสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ในแถบโทโฮคุซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 2011
ภายใน 2 ตู้โดยสารเต็มไปด้วยปิกาจูอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ขึ้นแล้วต้องแวะไปถ่ายรูปที่ตู้ Playroom ซึ่งออกแบบเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็มีกิจกรรม Stamp Rally และห้ามพลาดซื้อเบนโตะปิกาจูมาชิมด้วย แนะนำว่าควรจองล่วงหน้า เพราะมีที่นั่งจำกัดและไม่ได้มีให้บริการทุกวัน หากนั่งจนสุดสายจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
★ อ่านรีวิว POKÉMON with YOU Train ฉบับเต็มที่ www.kiji.life/pokemon-with-you-train/
POKÉMON with YOU Train
Route: ระหว่างสถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki Station) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) กับสถานีเคเซ็นนุมะ (Kesennuma Station) จังหวัดมิยากิ (Miyagi)
Available Date: วันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) และไม่ได้บริการทุกวัน ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดของนักเรียนทุกระดับชั้น (ช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาว) ก่อนสำรองที่นั่งแนะนำให้ตรวจสอบวันเดินทางก่อนที่เว็บไซต์
Reservation: หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ล่วงหน้าฟรีได้ทางเว็บไซต์ eki-net.com ก่อนไป 1 เดือน หรือที่ห้องจำหน่ายตั๋ว JR EAST Travel Service Center สีเขียวบริเวณสถานีใหญ่ๆ ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น เช่น สถานี Tokyo, Shinjuku, Ueno, Hachinohe, Morioka, Ichinoseki ฯลฯ
Note: ที่นั่งทั้งหมดบนรถไฟขบวนนี้ต้องสำรองที่นั่งเท่านั้น
Geibikei Gorge
ระหว่างเส้นของขบวนรถไฟโปเกมอนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะชมเรื่อยๆ ส่วนตัวเราเลือกแวะที่สถานีเกบิเค เพราะมีหุบเขาหินเก่าแก่กว่า 100 ปี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยแตกต่างกันไปทุกฤดู หุบเขาเกบิเคในฤดูร้อนจะได้พบต้นไม้เขียวขจีตามโขดหินผา น้ำใสสะอาดมองเห็นปลาในแม่น้ำและเห็นเป็ดน้ำออกมาว่ายอย่างเพลิดเพลิน
ที่นี่มีกิจกรรมให้ล่องเรือโบราณที่ต่อด้วยมือทีละลำด้วยวิธีดั้งเดิม ฝีพายจะขับเคลื่อนเรือด้วยไม้พายเพียงอันเดียว พร้อมขับกล่อมนักท่องเที่ยวด้วยบทเพลงท้องถิ่น อีกกิจกรรมให้ไฮไลท์อยู่บริเวณด้านในสุดของหุบเขา ที่จะเปิดให้เข้าไปโยนหินเสี่ยงทาย เชื่อกันว่าถ้าขว้างหินผ่านเข้าไปในช่องได้ คำอธิษฐานของเราจะเป็นจริง ก่อนกลับอย่าลืมแวะชิมปลาอายุย่างหอมๆ หรือซื้อของฝากที่ร้านตรงท่าเรือด้วยนะ
★ อ่านรีวิว Geibikei Gorge ฉบับเต็ม: www.kiji.life/geibikei-gorge/
Geibikei Gorge
Location: เมืองอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Hours: 8:30-16:30 น.
Holiday: –
Entrance Fee: ค่าบริการล่องเรือ (90 นาที) ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็กประถม 900 เยน, เด็กต่ำกว่าชั้นประถม 200 เยน
Nearest Station: สถานีเกบิเค (Geibikei Station)
Access: จากสถานีอิชิโนะเซกิ นั่งรถไฟ POKÉMON with YOU Train มาลงที่สถานีเกบิเคประมาณ 45 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 6 นาที
Website: www.geibikei.co.jp/th/
Map: https://goo.gl/maps/BCvks595M9DFdAZCA
ถึงเวลาบอกลาทริป ฤดูร้อน ที่ “อาโอโมริ” และ “อิวาเตะ” แล้วสินะ จากสถานีเกบิเคเราขึ้นรถไฟไปสถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki Station) เพื่อนั่งชินคันเซ็นที่สำรองไว้ล่วงหน้ากลับโตเกียว จากโตเกียวก็ยังใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) สำรองที่นั่ง Narita Express ไปสนามบินต่อได้อีก ใช้คุ้มจนนาทีสุดท้ายจริงๆ ประทับใจมาก
ตลอด 3 วัน 2 คืน ของเรานั้นสนุก สบาย สดชื่น และเหนื่อยกำลังดี สำหรับเรา ความรู้สึกเหนื่อยนั้นช่วยย้ำเตือนให้เราหวนนึกถึงสถานที่ต่างๆ ว่าเราเคยเดินทางไปมาแล้ว เอาจริงๆ ระหว่างทางก็แอบเห็นสถานที่น่าไปในอาโอโมริและอิวาเตะอีกหลายแห่งเลย ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ก็จะกลับมาตามเก็บต่ออีกเยอะๆ ให้ได้เลย!
★ 5 Days Summer Trip in Aomori & Iwate (แพลน 5 วัน 4 คืน)
ข้อมูลบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)
เที่ยว “อาโอโมริ” และ “อิวาเตะ” ฤดูร้อน ให้คุ้มเว่อร์ ต้องใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ซึ่งใช้แทนตั๋วสำหรับโดยสารรถไฟ ที่ใช้นั่งทั้งชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น รถไฟท่องเที่ยว Joyful Train (บางขบวน) ในเส้นทาง JR EAST Lines ได้ฟรีทั้งหมด รวมถึงสามารถใช้โดยสารรถ JR BUS TOHOKU นั่งรถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะ หรือ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน
ราคา: ผู้ใหญ่ 20,000 เยน, เด็ก 10,000 เยน
เงื่อนไข: ต้องใช้ 5 วัน ติดต่อกัน
จุดจำหน่าย: ซื้อผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋วบางสถานี, เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว หรือซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทย
วิธีสำรองที่นั่ง: ตั้งแต่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2021 เป็นต้นไป สามารถซื้อและสำรองที่นั่งออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation และไปออกตั๋วฉบับจริงได้ที่ตู้อัตโนมัติภายในสถานีรถไฟที่มี Passport Reader
วิธีใช้งาน: สอดบัตรโดยสารกับเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟได้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.jreast.travel/th/index.php