TARO TOKYO ONIGIRI : ร้านโอนิกิริแนวใหม่ในโตเกียว

TARO TOKYO ONIGIRI @ Toranomon, Tokyo 🍙

โอนิกิริ (Onigiri) หรือ ข้าวปั้นสามเหลี่ยม ที่หลายคนโปรดปราน ไม่ว่าจะในช่วงเวลาเร่งรีบ หรือช่วงที่ต้องวุ่นกับการอ่านหนังสือ เจ้าโอนิกิรินี้ ถือว่าเป็นตัวช่วยให้อิ่มท้องได้เสมอ แม้ปัจจุบันตามร้านสะดวกซื้อ หรือซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย จะมีโอนิกิริให้เลือกซื้อหลากไส้หลายรส แต่เชื่อว่าถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็ต้องอยากลองซื้อโอนิกิริแบบออริจินอลบ้างจริงไหม

องค์การยูเนสโก (Unesco) ได้บันทึกให้ “อาหารญี่ปุ่น” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เมื่อธันวาคม ค.ศ. 2013 ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชัดว่า อาหารญี่ปุ่นนั้นได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้ว นอกจากนี้ไม่ว่าจะอาหารญี่ปุ่นจานใด ก็มักจะมีพื้นฐานจาก “ข้าว” ทั้งนั้น จะเรียกว่าคนญี่ปุ่น มีวัฒนธรรมการกินข้าวเป็นอาหารหลัก ก็คงไม่ผิดนัก โอกินิริจึงเป็นหนึ่งในอาหารญี่ปุ่น ที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน

ล่าสุดมีร้านโอนิกิริเปิดใหม่ ที่ย่านโทระโนะมง (Toronomon) ในโตเกียว ชื่อว่า ทาโร่ โตเกียว โอนิกิริ (TARO TOKYO ONIGIRI) ซึ่งร้านนี้ขายแต่โอนิกิริอย่างเดียวจริงๆ โดยชื่อร้านก็จำง่าย เพราะใช้ชื่อ “ทาโร่” ซึ่งเป็นชื่อที่คนญี่ปุ่น ใช้กันมากในสมัยก่อน เสริมด้วยชื่อเมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่าง “โตเกียว” ปิดท้ายด้วย “โอนิกิริ” ที่เป็นตัวชูโรงของร้านนั่นเอง

โอนิกิริตัวแรก ที่อยากจะหยิบมาแนะนำคือ ข้าวปั้นอิคุระดองโชยุ จากฮอกไกโด โรยด้วยผักหั่นซอย 3 ชนิด ราคา 420 เยน (รวมภาษี) โดดเด่นด้วยท็อปปิ้งไข่ปลาแซลมอน ซึ่งคนญี่ปุ่นขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งท็อปปิ้ง” ที่มีความสวยงามน่ารับประทาน ราวกับเป็นสมบัติ ที่ซ่อนอยู่ในทะเลฮอกไกโดเลยทีเดียว

อีกตัวที่น่าลองเหมือนกันก็คือ ข้าวปั้นปลาแซลมอนสีเงินจากซันริกุ หมักด้วยเกลือ และ หัวเชื้อโคจิ ราคา 250 เยน (รวมภาษี) เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างเนื้อปลาแซลมอนสีเงิน ในแถบซันริกุ (Sanriku) หรือพื้นที่ตอนบนของภูมิภาคโทโฮคุ เข้ากับรสหวานอมเปรี้ยว ที่เกิดจากเกลือผสมกับหัวเชื้อโคจินั่นเอง

ส่วนเมนูที่ดูเฮลตี้เป็นพิเศษ ก็ต้องยกให้ ข้าวปั้นหอยอาซาริตุ๋นหวาน และ ฟุกิมิโซะสไตล์เอโดะมาเอะ ราคา 250 เยน (รวมภาษี) โดดเด่นด้วยข้าวไรซ์เบอร์รี่ กับหอยอาซาริ ที่ใช้วิธีปรุงรสแบบ สึคุดานิ (Tsukudani) ซึ่งจะออกรสหวาน

เมนูสุดท้าย ที่อยากแนะนำคือ ข้าวปั้นดาชิ 3 หมัด ราคา 280 เยน (รวมภาษี) ที่มาของชื่อเมนู นั้นมาจาก 3 คุณประโยชน์ ที่อยู่ในข้าวปั้นก้อนนี้ อันได้แก่ กรดกลูตามิค ในสาหร่ายโอโบโระคอมบุ กรดกัวนิลิกในเห็ดชีตาเกะ และ ซุปดาชิ ที่ออกมาจากสาหร่ายปรุงรส ทันทีที่กัดคำแรก ก็เหมือนเจอหมัดความอร่อย ชกเข้าปากรัวๆ เลยล่ะ

ภาพ: www.ssnp.co.jp

ไม่ว่าจะเมนูใด ทาโร่ โตเกียว โอนิกิริ ก็ล้วนแต่พิถีพิถัน ในการคัดเลือกวัตถุดิบจำเป็น สำหรับการทำโอนิกิรินั่นคือ ข้าว เกลือ และ สาหร่าย ผ่านการลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน จนตัดสินใจเลือกใช้ข้าวแบรนด์ Hitomebore จากจังหวัดมิยากิ ใช้เกลือจากเมืองอิชิโนะมากิ (Ishinomaki) จังหวัดมิยากิเช่นกัน  และ ใช้สาหร่ายจาก ทะเลอาริอาเกะ (Ariake Sea) แถบคิวชู

ภาพ: www.tarotokyo.jp

ทริปหน้าถ้าได้ไปโตเกียว อย่าลืมแวะเที่ยวย่านโทระโนะมง แล้วกินโอกินิริที่ร้านนี้ดู แต่ทางร้านย้ำหลายรอบว่านี่เป็น “สาขาแรก” นั่นหมายความว่าในอนาคต น่าจะเปิดอีกหลายที่เลยล่ะ

ที่มา prtimes.jp