Sakura Spots in Nara : 12 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในจังหวัดนารา
สารบัญ
- 12 จุดชมซากุระ ที่สวยที่สุดในจังหวัดนารา 🌸
- 01 สวนสาธารณะนารา (Nara Park)
- 02 วัดสึโบซากะเดระ (Tsubosaka-dera Temple)
- 03 ทาคาดะเซ็มบงซากุระ (Takada Senbonzakura)
- 04 มาตาเบซากุระ (Matabei Zakura)
- 05 ภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino)
- 06 แม่น้ำซาโฮะ (Saho River)
- 07 สวนซากปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle Ruins Park)
- 08 วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)
- 09 ทะเลสาบสึคิกาเสะ (Tsukigase Lake)
- 10 วัดอาเบะมงจุอิน (Abe Monju-in Temple)
- 11 วัดบุตสึริวจิ (Butsuryu-ji Temple)
- 12 โมโรกิโนะซากุระ (Morokino Sakura)
12 จุดชมซากุระ ที่สวยที่สุดในจังหวัดนารา 🌸
จังหวัดนาราเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว นอกจากจะเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น นารายังเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่อย่างโทไดจิ (Todaiji) อาคารไม้เก่าแก่ที่สุดในโลก รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติมากมาย แต่วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปชมความสวยงามของนาราในอีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยสัมผัส นั่นก็คือ จุดชมซากุระ สวยๆ ในหลายพื้นที่ของจังหวัดนารา โดยเราได้รวบรวมมาทั้งหมด 12 สถานที่ ถูกใจที่ไหน เราปักพิกัดแผนที่ไว้ให้แล้ว ตามรอยกันได้เลย
01 สวนสาธารณะนารา (Nara Park)
ไม่ว่าใครที่เคยไปเที่ยวเขตตัวเมืองในจังหวัดนารา คงต้องแวะไปเยือน สวนสาธารณะนารา กันสักหน่อย เพราะถ้าได้เดินในเขตเมืองมาก่อนก็จะพบว่าผู้คนค่อนข้างแน่นขนัดในแทบทุกมุม มีแต่สวนสาธารณะแห่งนี้เท่านั้นที่กว้างขวางเสียจนรู้สึกได้พื้นที่ส่วนตัวกลับมาบ้าง
ในขณะเดียวกันก็จะพบกับน้องกวางตัวน้อยใหญ่ที่มีจำนวนราว 1,200 ตัว ซึ่งไม่ได้มีท่าทีกลัวมนุษย์เลยสักนิด ด้วยพื้นที่ของสวนสาธารณะนาราที่กว้างถึง 5 ล้านกว่าตารางเมตร ต้นซากุระของที่นี่จึงมีหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งชนิดที่บานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงชนิดที่บานในช่วงต้นพฤษภาคม
ถ้ามาที่สวนสาธารณะนาราในจังหวะที่เริ่มมีกลีบซากุระร่วงโรยประมาณหนึ่งแล้ว จะพบกับฝูงกวางก้มหน้าลงดมกลีบซากุระที่ปกคลุมบนสนามหญ้า ซึ่งเป็นภาพที่หาชมที่อื่นได้ยากมาก ใครที่รักสัตว์รักธรรมชาติรับรองว่าจะต้องหลงรักบรรยากาศนี้ตั้งแต่แรกเห็น
สวนสาธารณะนารา (Nara Park)
Location: เมืองนารา (Nara) จังหวัดนารา
Sakura Period: ปลาย มี.ค.ถึงต้น พ.ค.
Nearest Station: สถานีคินเท็ตสึนารา (Kintetsu-Nara Station)
Access: จากสถานีคินเท็ตสึนารา เดินประมาณ 6 นาที
02 วัดสึโบซากะเดระ (Tsubosaka-dera Temple)
ใครชอบซากุระด้วยเป็นสายมูด้วย ก็ต้องมาที่ วัดสึโบซากะเดระ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดมินามิฮกเกจิ (Minami Hokkeji Temple) เพราะวัดแห่งนี้มีทั้งความสวยงามทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรม อีกทั้งศักดิ์สิทธิ์มากในเรื่องการขอให้หายป่วยจากโรคภัยเกี่ยวกับดวงตามาตั้งแต่โบราณ อาคารภายในวัดมีลักษณะเด่นตรงการผสมผสานระหว่างศิลปะญี่ปุ่นและอินเดียเข้าด้วยกัน
ไฮไลท์สำคัญของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระแม่กวนอิมขาวสูง 15 เมตรซึ่งโอบล้อมด้วยกิ่งก้านซากุระ จนเป็นชื่อทิวทัศน์อันโด่งดังที่เรียกติดปากกันว่า “องค์พระใหญ่ซากุระ” สำหรับช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งคือราวปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน โดยตกกลางคืนจะมีการจัดแสงไฟให้ชมบรรยากาศของซากุระในยามค่ำคืนอีกด้วย สิ่งที่ต้องพึงระวังที่สุดในการเดินทางมาที่นี่คือหากไม่ได้เช่ารถขับเองหรือเหมาแท็กซี่ไว้ ขากลับจะต้องเดินไปขึ้นรถเมล์ซึ่งป้ายรถเมล์ค่อนข้างไกลและไม่ค่อยมา
วัดสึโบซากะเดระ (Tsubosaka-dera Temple)
Location: แขวงทาคาอิจิ (Takaichi) จังหวัดนารา
Sakura Period: ปลาย มี.ค.ถึงต้น เม.ย.
Hours: 8:30-17:00 น. (เฉพาะช่วงซากุระเปิดถึง 20:00 น.)
Nearest Station: สถานีสึโบซากะยามะ (Tsubosakayama Station)
Access: จากสถานีสึโบซากะยามะ นั่งแท็กซี่ประมาณ 7 นาที
03 ทาคาดะเซ็มบงซากุระ (Takada Senbonzakura)
ถ้าอยากนั่งปิกนิกหรือนั่งทอดหุ่ยเหม่อมองสายน้ำไหลเอื่อยๆ เห็นกลีบซากุระปลิวลงสายน้ำทุกครั้งที่ลมพัด แนะนำให้มาที่ริมแม่น้ำทาคาดะ (Takada River) เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวซากุระชื่อดังของจังหวัดนาราที่เรียกกันว่า ทาคาดะเซ็มบงซากุระ หรือหมายถึง “ซากุระ 1,000 ต้นแห่งทาคาดะ” นั่นเอง
ต้นซากุระสองฝั่งแม่น้ำสายเล็กๆ ทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 2.5 กิโลเมตร ได้รับการปลูกโดยชาวเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1948 ต้นซากุระทุกต้นจึงมีอายุมากกว่า 70 ปี โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่สวนโอนากะ (Onaka) เนื่องจากเป็นจุดชมซากุระริมน้ำที่กินระยะทางค่อนข้างไกล จึงหามุมส่วนตัวได้ง่ายมาก
บริเวณนี้ยังเคยถูกใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Tenshi no iru Toshokan ที่ฉายในปี ค.ศ. 2017 ถ้าใครเคยดูก่อนมาเที่ยวที่นี่คงจะยิ่งประทับใจเป็นแน่ นอกจากนี้ถ้าอยู่ถึงช่วงฟ้ามืดจะมีจุดที่จัดแสงไฟเพื่อให้ชมบรรยากาศของซากุระตอนกลางคืนอีกด้วย
ทาคาดะเซ็มบงซากุระ (Takada Senbonzakura)
Location: เมืองยามาโตะทาคาดะ (Yamatotakada) จังหวัดนารา
Sakura Period: ปลาย มี.ค.ถึงต้น เม.ย.
Nearest Station: สถานีทาคาดะชิ (Takadashi Station)
Access: จากสถานีทาคาดะชิ เดินประมาณ 10 นาที
04 มาตาเบซากุระ (Matabei Zakura)
เปลี่ยนบรรยากาศมาชมซากุระในพื้นที่ชนบทเงียบๆ กันบ้าง ที่เมืองอุดะ (Uda) มีต้นซากุระเก่าแก่ที่เรียกกันว่ามาตาเบซากุระ หรือ ฮงโกโนะทาคิซากุระ (Hongo no Takizakura) ซึ่งมีอายุมากกว่า 300 ปี ที่มาของชื่อเรียกนี้ว่ากันว่าซากกำแพงอิฐที่อยู่ใต้ต้นซากุระต้นนี้คือบ้านของโกโต มาตาเบ (Matabei Goto) ซามูไรในสมัยเซงโงกุที่หลบมาบวชใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จนถึงบั้นปลายชีวิต
ด้วยที่อายุที่มากโขมาตาเบซากุระจึงมีขนาดลำต้นโดยรอบ 3 เมตร สูงถึง 13 เมตร มีจุดเด่นตรงที่เป็นซากุระสายพันธุ์กิ่งย้อยที่เรียกว่า “ชิดาเระซากุระ” ทำให้ทั้งกิ่งและดอกซากุระมีลักษณะห้อยย้อยคลายน้ำตก ในหนึ่งปีมีผู้คนเดินทางมาชมซากุระเก่าแก่ต้นนี้มากถึง 5-6 หมื่นคนเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่ซากุระต้นนี้ต้นเดียวเท่านั้น บริเวณโดยรอบยังมีดอกไม้สวยๆ อีกมากมายให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน อย่างด้านหลังมีดอกท้อสีบานเย็นบานสะพรั่งในเวลาเดียวกัน อาจจะเดินทางมาลำบากหน่อย แต่ถือได้ว่าเป็นอีก จุดชมซากุระ ในนาราที่สวยงามจริงๆ
มาตาเบซากุระ (Matabei Zakura)
Location: เมืองอุดะ (Uda) จังหวัดนารา
Sakura Period: ต้นถึงกลาง เม.ย.
Nearest Station: สถานีไฮบาระ (Haibara Station)
Access: จากป้ายรถประจำทางหน้าสถานีรถไฟไฮบาระ (Haibaraeki Bus Stop) นั่งรถประจำทางสาย 1 มาลงที่ป้ายโรงเรียนมัธยมปลายโออุดะ (Oudakoko Bus Stop) ใช้เวลาประมาณ 16 นาที จากนั้น เดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
05 ภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino)
หากใฝ่ฝันว่าอยากชมป่าซากุระหรือภูเขาที่มีต้นซากุระแน่นๆ ภูเขาโยชิโนะ เป็นจุดที่ตอบโจทย์นี้สุด เพราะได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นแหล่งมรดกโลก อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระ ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยต้นซากุระส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นสายพันธุ์ชิโรยามะซากุระ (Shiroyama Zakura) ต้นซากุระทั้งหมดมีจำนวนคร่าวๆ ราว 30,000 ต้น
เนื่องจากเป็นภูเขาจึงมีการแบ่งจุดชมซากุระแยกย่อยไปอีกเป็น 4 จุดหลักๆ ได้แก่ ชิโมะเซมบง (Shimo-senbon) นากะเซมบง (Naka-senbon) คามิเซมบง (Kami-senbon) และโอคุเซมบง (Oku-senbon) โดยไม่ว่าจุดไหนก็จะเห็นต้นซากุระสีโทนชมพู-ขาวเรียงสลับกันบนเนินเขาอย่างน่าตื่นตา เป็นทิวทัศน์ที่มองเพียงมุมเดียวก็ยังเห็นซากุระนับพันต้น
เนื่องจากการเดินทางค่อนข้างสะดวก ถ้ามาในช่วงพีคคนจะค่อนข้างแน่นมาก แต่ตอนกลางคืนจะมีการจัดแสงไฟซึ่งบรรยากาศจะโรแมนติกมากๆ แนะนำให้เผื่อเวลาไว้เยอะๆ เนื่องจากระหว่างทางมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ศาลเจ้า และจุดน่าแวะอีกมากมาย
ภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino)
Location: แขวงโยชิโนะ (Yoshino) จังหวัดนารา
Sakura Period: ต้นถึงปลาย เม.ย.
Nearest Station: สถานีโยชิโนะ (Yoshino Station)
Access: จากสถานีโยชิโนะ สามารถเดินไปขึ้นกระเช้าขึ้นเขาได้
06 แม่น้ำซาโฮะ (Saho River)
หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าในตัวเมืองนารา นอกจากสวนสาธารณะนาราแล้ว ยังมีจุดที่คนนิยมไปชมซากุระมากอีกแห่งหนึ่งนั่นก็คือริมแม่น้ำซาโฮะ เพราะบริเวณนี้มีการปลูกต้นซากุระขึ้นในสมัยเอโดะตอนต้น และใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลเกี่ยวกับซากุระหลายงานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เนื่องจากเป็นต้นซากุระที่ปลูกขึ้นมาทำให้มีการเรียงเป็นทิวแถวสวยงามยาวตลอดริมน้ำกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งไม่มีจุดไหนที่ต้นซากุระขาดแหว่งไปแม้แต่จุดเดียว จึงถือว่าเป็นจุดที่มีซากุระขึ้นแน่นที่สุดในตัวเมืองนารา หากไปในช่วงที่กลีบซากุระเริ่มร่วงแล้วจะพบกับสิ่งที่เรียกว่า “พรมซากุระ” นั่นคือทิวทัศน์ของกลีบซากุระที่ปกคลุมผิวน้ำมากจนเห็นเป็นพรมสีชมพูผืนใหญ่
เนื่องจากเป็นทิวต้นซากุระที่อยู่ในเขตเมือง จึงมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมายที่ผสมผสานระหว่างซากุระกับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ลองเดินเล่นหามุมที่ถูกใจแล้วเก็บภาพซากุระสวยๆ เป็นที่ระลึกสัก 100 รูป จะได้ไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งเคยเดินชมซากุระจนเมื่อยขาแต่อิ่มใจ
แม่น้ำซาโฮะ (Saho River)
Location: เมืองนารา (Nara) จังหวัดนารา
Sakura Period: ปลาย มี.ค.ถึงต้น เม.ย.
Nearest Station: สถานีชินโอมิยะ (Shin-Omiya Station)
Access: จากสถานีชินโอมิยะ เดินประมาณ 6 นาที
07 สวนซากปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle Ruins Park)
สวนซากปราสาทโคริยามะ ชื่ออาจจะฟังดูไม่น่าสนใจ แต่สวนแห่งนี้เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามประจำเมืองยามาโตะโคริยามะ (Yamatokoriyama) ในจังหวัดนารา ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยตัวปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle) อายุกว่า 400 ปี ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวน
ภายในสวนมีต้นซากุระที่ปลูกขึ้นล้อมคูน้ำราว 800 ต้น ซึ่งในช่วงที่ซากุระบานสะพรั่งจะมีส่องไฟใต้ต้นซากุระมากถึงราว 600 ต้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกับความสวยงามของปราสาทเก่าแก่และต้นซากุระในยามค่ำคืน ทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาชมซากุระมากถึงประมาณ 8 หมื่นคนเลยทีเดียว
ใครที่เป็นแฟนปราสาทญี่ปุ่นอยู่แล้ว แนะนำให้มาช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ซากุระบานเต็มที่ เพราะสีชมพูอ่อนของซากุระที่ดูอ่อนหวานจะยิ่งตัดกับปราสาทที่ดูเคร่งขรึม ที่สำคัญสวนนี้เข้าฟรีและเดินทางสะดวกมาก ไม่ไกลจากตัวเมืองนารา แม้ตารางทริปจะแน่นแล้วก็ยังพอยัดที่นี่เพิ่มได้
สวนซากปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle Ruins Park)
Location: เมืองยามาโตะโคริยามะ (Yamatokoriyama) จังหวัดนารา
Sakura Period: ปลาย มี.ค.ถึงต้น เม.ย.
Nearest Station: สถานีคินเท็ตสึโคริยามะ (Kintetsu-Koriyama Station)
Access: จากสถานีคินเท็ตสึโคริยามะ เดินประมาณ 9 นาที
08 วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)
วัดฮาเซเดระ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในนารา ตั้งอยู่ที่เมืองซากุราอิ (Sakurai) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 686 มีชื่อเล่นว่า “วัดแห่งบุปผา” เพราะภายในเขตอารามมีดอกไม้สวยงามหลากหลายชนิดผลัดกันเบ่งบานตลอดทั้งปี หนึ่งในนั้นคือดอกซากุระที่จะบานสะพรั่งเป็นระยะเวลาราวครึ่งเดือนซึ่งมีจำนวนมากถึงราว 1,000 ต้น
วัดแห่งนี้มีจุดน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นองค์พระแม่กวนอิม 11 หน้า ซึ่งเคยถูกอ้างถึงในวรรณคดีโบราณของญี่ปุ่น อาทิ ตำนานเก็นจิ มากูระโนะโซชิ ฯลฯ เจดีย์สีแดงที่สีตัดกับดอกซากุระอย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีอาคารไม้เก่าแก่อีกหลายหลังที่เก็บซ่อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย
ด้วยบรรยากาศของเขตศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าใครที่มาเยือนนอกจากจะได้รับพลังงานดีๆ กลับไป ยังอิ่มใจไปกับความสวยงามของซากุระในฤดูใบไม้ผลิที่ชวนให้อารมณ์ดีทุกครั้งที่มอง ใครที่มีเรื่องไม่สบายใจแนะนำไปให้ขอพรที่นี่ อาจจะได้ผลเกินคาด
วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)
Location: เมืองซากุราอิ (Sakurai) จังหวัดนารา
Sakura Period: ปลาย มี.ค.ถึงกลาง เม.ย.
Nearest Station: สถานีฮาเซเดระ (Hasedera Station)
Access: จากสถานีฮาเซเดระ เดินประมาณ 15 นาที
09 ทะเลสาบสึคิกาเสะ (Tsukigase Lake)
พื้นที่ริมทะเลสาบสึคิกาเสะก็เป็นอีกจุดที่มีต้นซากุระสวยๆ ขึ้นตามธรรมชาติมากมาย ทะเลสาบแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำนาบาริ (Nabari River) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของนารา ผู้คนนิยมไปเก็บภาพของสะพานฮาจิมัง (Hachiman Bridge) กับสะพานสึคิกาเสะ (Tsukigase Bridge) ที่ทอดยาวเหนือทะเลสาบสีฟ้า โดยมีต้นซากุระป่าเติมแต่งบรรยากาศให้ฟีลกู้ดยิ่งขึ้น
ถ้าใครเช่ารถขับก็สามารถขับเลียบทะเลสาบเพื่อชมวิวซากุระได้ยาวๆ กว่า 4 กิโลเมตร มีการนับจำนวนซากุระในแถบนี้คร่าวๆ ได้มากกว่า 2,000 ต้น ใครที่รู้สึกแห้งเหี่ยวกับชีวิต ลองหาโอกาสมาใช้เวลาอยู่ใกล้ๆ แหล่งน้ำสะอาดอย่างทะเลสาบแห่งนี้ น่าจะช่วยเติมจิตใจให้ชุ่มชื้นได้เยอะ
ทะเลสาบสึคิกาเสะ (Tsukigase Lake)
Location: เมืองนารา (Nara) จังหวัดนารา
Sakura Period: ต้นถึงกลาง เม.ย.
Nearest Station: สถานีสึคิกาเสะกุจิ (Tsukigaseguchi Station)
Access: จากสถานีสึคิกาเสะกุจิ นั่งแท็กซี่ประมาณ 13 นาที
10 วัดอาเบะมงจุอิน (Abe Monju-in Temple)
วัดอาเบะมงจุอินเป็นศาสนสถานที่คนญี่ปุ่นเคารพบูชามาหลายศตวรรษ เป็นที่ประดิษฐานของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ขนาดมหึมาบนสิงโต อีกทั้งมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือศาลาสีส้มกลางน้ำที่ในฤดูใบไม้ผลิจะถูกโอบล้อมด้วยซากุระสวยๆ มอบรอยยิ้มให้แก่ศาสนิกชนทั้งหลายที่เดินทางมาสักการะ
ภายในเขตวัดมีต้นซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะมากถึง 500 ต้น ในวันที่อากาศแจ่มใสจะเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าตัดกับรั้วและศาลาสีสด ทั้งยังเห็นแนวต้นซากุระสะท้อนลงบนผิวน้ำ นอกจากบริเวณศาลายังมีอีกหลายจุดที่มีมุมซากุระสวยๆ ลองไปสำรวจกันดู
สำหรับใครที่เช่ารถขับก็จะพบว่าซากุระของวัดแห่งนี้สวยตั้งแต่ที่จอดรถเลย หรือจะนั่งแท็กซี่ก็สะดวกเพราะไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไร หรือถ้าชอบเดินก็สามารถชมบรรยากาศของย่านที่พักอาศัยอันเงียบสงบของเมืองซากุราอิระหว่างทางได้เช่นกัน
วัดอาเบะมงจุอิน (Abe Monju-in Temple)
Location: เมืองซากุราอิ (Sakurai) จังหวัดนารา
Sakura Period: ปลาย มี.ค.ถึงต้น เม.ย.
Nearest Station: สถานีซากุราอิ (Sakurai Station)
Access: จากสถานีซากุราอิ นั่งแท็กซี่ประมาณ 7 นาที
11 วัดบุตสึริวจิ (Butsuryu-ji Temple)
วัดบุตสึริวจิเป็นจุดที่สามารถชมต้นซากุระเก่าแก่ที่มีชื่อว่า “ต้นซากุระพันปี” ได้ แท้จริงแล้วต้นซากุระต้นนี้คาดว่าอายุราว 950 ปี แต่ก็จัดว่าเป็นต้นซากุระที่อายุยืนที่สุดในจังหวัดนารา เป็นซากุระสายพันธุ์โมจิซึกิซากุระ (Mochizukizakura) ที่มีลักษณะเด่นคือกลีบออกเป็นสีขาว มีขนาดรอบลำต้นถึง 7.5 เมตร สูง 16 เมตร บริเวณใกล้เคียงรายล้อมด้วยต้นซากุระเล็กๆ อีกมากมาย
ในช่วงกลางเดือนเมษายนจะมีผู้คนเดินทางมาชมซากุระเก่าแก่ต้นนี้ราว 8,000 คน ซึ่งหลังจากพระอาทิตย์ตกดินจนถึงราว 3 ทุ่มจะมีการจัดแสงไฟให้ชมความยิ่งใหญ่ของต้นซากุระยักษ์ซึ่งดูน่าตื่นตาเป็นพิเศษ
วัดบุตสึริวจิ (Butsuryu-ji Temple)
Location: เมืองอุดะ (Uda) จังหวัดนารา
Sakura Period: ต้นถึงกลาง เม.ย.
Nearest Station: สถานีไฮบาระ (Haibara Station)
Access: จากป้ายรถประจำทางหน้าสถานีรถไฟไฮบาระ (Haibaraeki Bus Stop) นั่งรถประจำทางสาย Wakuwaku มาลงที่ป้ายไทไค (Taikai Bus Stop) ใช้เวลาประมาณ 13 นาที จากนั้น เดินต่ออีกประมาณ 30 นาที
12 โมโรกิโนะซากุระ (Morokino Sakura)
ปิดท้ายด้วยจุดชมซากุระลับในนาราที่สวยตะลึงไม่เหมือนที่ไหน นี่คือโมโรกิโนะซากุระ จุดชมต้นซากุระสะท้อนบนนาข้าว เมื่อก่อนจะรู้จักกันในหมู่ช่างภาพเท่านั้น โดยไม่มีการเปิดเผยพิกัดของซากุระต้นนี้ว่าอยู่ที่ไหน อีกทั้งถนนหนทางบริเวณนี้ต้องบอกว่าชนบทเต็มขั้น รถราเข้าถึงได้ยากมาก จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ซีรีส์และโฆษณาในญี่ปุ่นใช้จุดนี้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ ในที่สุดจึงกลายเป็นจุดชมซากุระที่ไม่ลับอีกต่อไป
ใครที่ชอบความท้าทายหรือตื่นเต้นไปกับการเดินทางแบบดั้นด้นเพื่อเข้าถึงจุดที่น้อยคนจะไปถึง การันตีเลยว่าซากุระต้นนี้เดินทางไปชมได้ยากที่สุดในนาราแล้ว ว่ากันว่ามีช่างภาพบางคนลงทุนขนาดไปกางเต็นท์ปักหลักอยู่แถวนั้นเป็นสัปดาห์เพื่อหาวันที่ถ่ายรูปซากุระต้นนี้ได้สวยที่สุด
โมโรกิโนะซากุระ (Morokino Sakura)
Location: เมืองอุดะ (Uda) จังหวัดนารา
Sakura Period: ต้นถึงกลาง เม.ย.
Nearest Station: สถานีไฮบาระ (Haibara Station)
Access: จากสถานีไฮบาระ นั่งแท็กซี่ประมาณ 17 นาที