พระเซนรูปหนึ่งบรรจงกวาดใบไม้ กวาดสวนหิน อย่างประณีต แล้วเฝ้ามองผลงานตัวเองอย่างภูมิใจ หลังต้นไม้นั้นมีพระเซนอีกรูปแอบอยู่หลังต้นไม้มองดูอย่างเงียบๆ พระเซนรูปนั้นจึงเอ่ยปากชวนพระอีกรูปว่า…

“ขอเชิญท่านวิจารณ์ บอกกล่าวกับงานข้าเถิด”
“ข้ามิกล้า”
“ได้โปรด….”
“งั้นข้าขอแล้วกันนะ”
พระเซนอีกรูปเลยเดินไปที่ต้นไม้ใกล้สวนหินพ ลางเขย่าต้นไม้ให้ใบร่วงหล่นลงในสวนหิน จากนั้นก็เอ่ยว่า
“นี่ไง สวยขึ้นแล้ว!”
นิทานเซนเรื่องหนึ่ง ว่าด้วยความงามในสวนหิน

เกียวโตที่ผมรู้จักนอกจากจะเป็นเมืองอันเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ สิ่งที่น่าสนใจยังเป็นแหล่งรวมวัดเซนสำคัญๆ ในญี่ปุ่น เนื่องจากมีสำนักเซนสายรินไซอยู่ หนึ่งในนั้นคือวัดเรียวอังจิ (Ryoanji) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต ตัววัดอยู่บนเชิงเขา สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความลาดชัน ต้นไม้ขึ้นครึ้ม อีกหนึ่งสถานที่ในเกียวโตที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี ค.ศ. 1994

 

 

ในฐานะสถาปนิก ผมจึงมุ่งเน้นชมสถาปัตยกรรมเป็นหลัก แต่ส่วนที่อยากชมที่สุดภายในวัดกลับเป็นภูมิสถาปัตยกรรมที่มีองค์ประกอบเรียบง่ายแต่เด่นขึ้นมาด้วยพื้นที่ว่างเมื่อวางเคียงกับอารามไม้ โดยความตั้งใจในคราวนี้คือมาชมสวนแห้ง ณ วัดเรียวอังจิ

 

 

ก่อนจะเข้าชมสวนเราต้องเดินไต่ขึ้นบันไดชัน เนื่องจากตัวอารามตั้งอยู่เชิงเขา เมื่อแรกเข้าต้องเดินผ่านทางเข้าที่ควบคุมสภาพแสงให้มืดสลัว จนล่วงมาถึงระเบียงของอาคารโฮโจหรืออาคารเจ้าอาวาสซึ่งสร้างราวปี ค.ศ. 1488 ทำให้รูม่านตาเปิดรับแสงจ้าของระเบียงวัดจนคล้ายกับหลุดมาสู่อีกโลกหนึ่ง ในโลกนั้นข้างหน้าคือสวนแห้งอันลือชื่อ สร้างโดยช่างก่อสร้างสวนผู้ต่ำต้อยสองคน หรือ คาวาระโมโนะ ซึ่งปรากฏลายเซ็นของพวกเขาที่หลังหินก้อนหนึ่งในสวน

 

ความพิเศษของสวนหินที่คนส่วนใหญ่ตั้งใจมาชมก็คือการเรียงหินทั้ง 15 ก้อน

 

ความพิเศษของสวนหินที่คนส่วนใหญ่ตั้งใจมาชมก็คือการเรียงหินทั้ง 15 ก้อน ที่ไม่ว่ามองจากมุมใดก็จะมองหินได้ไม่ครบทุกก้อน โดยมันจะถูกบังจนชวนให้ตีความถึงการสื่อสารของช่างสวนว่าคืออะไร ในแง่การออกแบบสถาปัตยกรรมที่สัมพันธ์กับสวนจะเห็นได้ชัดเมื่อลองนั่งชมหินที่ระเบียงระนาบกับกำแพงดิน ที่สูงกว่าระดับสายตาเล็กน้อยช่วยให้สวนแลดูสงบ ตัดขาดจากโลกภายนอก สร้างสภาพแวดล้อมภายในขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้เทคนิคที่เรียกว่า “ชัคเค (Shakkei)” หรือการยืมทิวทัศน์จากแนวต้นไม้ด้านล่างเชิงเขา ช่วยกั้นสายตาไม่ให้พ้นส่วนวัดนี้ไป จะอนุญาตเพียงวิวจากท้องฟ้าเกียวโตให้เข้ามาเท่านั้น เมื่อนั่งมองจากจุดนี้ทำให้รู้ได้ว่าสวนนี้ถูกออกแบบให้พอดีระดับสายตาเมื่อมองจาก ภายในอาคารเจ้าอาวาส พร้อมไปกับการสร้างกรอบภาพด้วยกรอบประตู ซึ่งน่าเสียดายที่โซนภายในไม่อนุญาตให้เข้า จึงพลาดโอกาสที่จะได้ชมสวนจากภายในสถาปัตยกรรม

 

สวนหินแห้งอันลือชื่อของวัดเรียวอังจิ (Ryoanji)

 

ปลายสายตาเมื่อชมสวนหินคือกำแพงที่ก่อสร้างจากดินอัดผสมน้ำมันดิบ วันดีคืนดีก็จะมีน้ำมันดิบสีเข้มซึมออกมาเพื่อบอกถึงความงามแบบเก่ากร้านหรือ “วะบิสะบิ (Wabisabi)” วะบิคือความงามหยาบกร้าน สะบิคือความงามที่ผ่านกาลเวลา เมื่อพิจารณาสวนจะเห็นกำแพงแสดงถึงความเก่าที่มีความหยาบแบบวะบิ มันชวนให้เห็นถึงความงามแบบสะบิของหิน ทั้งวะบิสะบิจึงถูกผสานให้กลืนกันในสวนนี้รับกับแนวคิดของนิกายเซนที่เน้นให้ตีความเป็นอย่างดี หญ้ามอสที่ขึ้นอยู่เต็มวัดนัยหนึ่งก็ทำให้ดูเก่า อีกนัยหนึ่งก็ทำให้ห้รื่นรมย์ไปกับคราบไคลของกาลเวลาInfo
Hours: มี.ค.-พ.ย. 8:00-17:00 น., ธ.ค.-ก.พ. 8:30-16:30 น.
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็กต่ำกว่า 15 ปี 300 เยน
Website: ryoanji.jp

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ