โอคาซากิ เมืองกรุบกริบ 3 in 1 ซากุระสวยสะพรั่ง วัดวังน่าเลื่อมใส และคาเฟ่เก๋ไม่แพ้ใครในไอจิ
สารบัญ
ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ฉันนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวมุ่งหน้าไปยังสถานีนาโกย่า (Nagoya Station) เพื่อนเดินทางในวันนี้ชื่อโอคาซาเอมอนคุง (Okazaemon) เขาเป็นใครน่ะเหรอ? เขาคืออดีตผลงานศิลปะที่จัดแสดงในงาน Okazaki Art & Jazz 2012 ฝีมือของศิลปินชื่อไซโตะ โคเฮตะ (Saito Koheita) หน้าตาบวกลีลากวนๆ ชวนให้เอ็นดูทำให้โอคาซาเอมอนคุงคุงป๊อบขึ้นมาทันที และได้รับบทเป็นมาสคอตหรือ Yuru-Kyara แบบไม่เป็นทางการของเมือง โอคาซากิ (Okazaki) ไปด้วยเลย
ใช่ จุดหมายปลายทางในวันนี้คือเมือง “โอคาซากิ” นั่นเอง
โอคาซากิ เป็นเมืองน่ารักๆ ในจังหวัดไอจิที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นทางประวัติศาสตร์ เป็นบ้านเกิดของโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสึ (Ieyasu Tokugawa) ขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นต้นกำเนิดของมิโซะสูตรพิเศษที่เรียกว่าฮัทโจมิโซะ (Hatcho Miso) มีพระนอนให้เคารพบูชา อีกทั้งยังเป็นเมืองที่บรรยากาศชิลล์สบาย มีแม่น้ำและพื้นที่สีเขียวสบายตา มีคาเฟ่ชิคๆ ให้ฮอปกันอย่างเพลิดเพลิน
ต่อรถไฟแค่ครึ่งชั่วโมงจากชินคันเซ็นสถานีนาโกย่าก็ถึงสถานีโอคาซากิ (Okazaki Station) จังหวัดไอจิ (Aichi) แล้ว มาไม่ผิดที่แน่นอน เพราะโอคาซาเอมอนคุงยืนต้อนรับอยู่หน้าสถานีอย่างสดใส แค่เห็นหน้าโอคาซาเอมอนคุงก็รู้สึกคึกคักแล้วใช่ไหมล่ะ? ตามไปอ่านสรุปทริป 2 วัน 1 คืนฉบับรวบตึงจุดน่าแวะชม ชิมและชิลล์ง่ายๆ กันเลย!
Day 1 |
Zarame Classic → Aoizakura → Italian Kitchen Dico → Okazaki Castle → Janome Sushi → Okazaki New Grand Hotel
เติมพลังก่อนลุยด้วยโดนัทโฮมเมดที่ Zarame Classic
เติมพลังก่อนลุยเที่ยวด้วยโดนัทโฮมเมดและกาแฟหอมๆ ที่คาเฟ่ Zarame Classic กันดีกว่า ร้านนี้เขาโด่งดังเรื่องโดนัทและแฮมเบอร์เกอร์ และก็มีแฮมเบอร์เกอร์ที่ทำจากโดนัทด้วยนะ! แม้จะเน้น One Handed Food แต่ที่นี่อาหารคาวหวานมีครบทุกชนิดทั้งแซนด์วิช แพนเค้ก แฮมเบอร์เกอร์ ของหวานต่างๆ และเครื่องดื่มมากมาย ส่วนดีไซน์ภายในร้านแน่นอนว่าสวยเก๋ มีความโอ่โถงและอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ บางวันจะมีการแสดงดนตรีแจ๊สสดๆ ให้ชม ตามคอนเซ็ปต์ “อาหาร บรรยากาศ และดนตรี” แบบเป๊ะๆ
ฉันเลือกเมนูของหวานฟังดูน่าตื่นเต้นอย่างโฮมเมดโดนัทเฟรนช์โทสต์ราดด้วยซอสครีมพร้อมด้วยไอศกรีมวานิลลา คู่กับลาเต้ร้อนๆ โดนัทเนื้อเค้กอร่อยมากๆ นุ่มและกลมกล่อม เข้ากันได้ดีกับซอสครีมนวลๆ ที่ไม่หวานจนมากเกินไป ยิ่งมีกลิ่นวานิลลาเข้ามาผสมผสาน นับเป็นการเริ่มต้นทริปที่หอมหวานจริงๆInfo
Zarame Classic
Hours: 9:00-24:00 น.
Holiday: –
Website: zarame.co.jp
ชมดอกคาวาสึซากุระริมแม่น้ำโอโตะที่ Aoizakura
รู้ไหมว่าเมือง โอคาซากิ วิวซากุระสวยติด 1 ใน 100 ตัวท็อปของญี่ปุ่นเลยนะ ลงจากสถานีฮิกาชิโอคาซากิ (Higashi Okazaki) ฝั่งทางออกตะวันออก เดินมาบริเวณทางเดินเลียบแม่น้ำจะได้พบกับท่าเรือเล็กๆ ที่รอพาเราล่องแม่น้ำโอโตะไปชมต้นคาวาสึซากุระเรียงรายบานสวยเป็นระยะทางประมาณ 800 เมตรอยู่ริมฝั่ง
ปีนี้เป็นปีแรกเลยที่มีเรือพานั่งไปชม ปกติมีแต่เรือที่พาไปยังปราสาทโอคาซากิ ส่วนถ้าจะไปชมคาวาซึซากุระที่อาโออิซากุระนั้นต้องเดินเลียบแม่น้ำไปเองซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารเรือนั้นแสนมิตรภาพ ไป-กลับเพียง 500 เยน
เงาสะท้อนสีชมพูอ่อนหวานบนผิวน้ำบอกให้เรารู้ว่าใกล้ถึงที่หมาย บรรยากาศบริเวณนี้น่ารื่นรมย์ชวนให้พักผ่อนหย่อนใจมาก มีทั้งที่นั่งริมตลิ่ง ทางเดินเลียบแม่น้ำ ขั้นบันไดให้เลือกนั่งหย่อนใจตามอัธยาศัย แค่ได้เดินเลียบแม่น้ำ มองดอกไม้สวยสีหวานบานรับแสงแดดอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิก็ทำให้รู้สึกตกหลุมรักเมืองนี้ไม่ยากเลย
Info
Aoizakura
Hours: จ.-ศ. 13:00-22:00 น. และ ส.-อา. 10:00-22:00 น.
Holiday: –
Website: okazaki-kanko.jp
ฟินกับลันช์เซ็ตราคามิตรภาพที่ Italian Kitchen Dico
อย่าเพิ่งงงกันไปว่า เอ๊ะ ทำไมกินอาหารอิตาเลียน เราแวะร้านนี้ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือเพราะว่า Lunch Set ของเขาราคามิตรภาพทีเดียว เพียงเพิ่มเงิน 980 เยน ก็จะได้ซอฟต์ดริงค์ 2 แก้วให้ดื่มก่อนและหลังอาหาร สลัด ขนมปังกระเทียม และมีพาร์เฟ่ต์ถ้วยโตรวมอยู่ในเซ็ตด้วยนะ! กินอิ่มยังตุนเสบียงซื้อแซนด์วิชผลไม้สดสอดไส้ครีมสดไปปิกนิกในสวนโอคาซากิได้อีกต่างหาก
Info
Italian Kitchen Dico
Hours: 11:00-16:30 น., 17:30-23:00 น.
Holiday: –
Website: www.hotpepper.jp
เรียนรู้ประวัติศาตร์ ณ Okazaki Castle
เพลิดเพลินกับธรรมชาติไปแล้วต้องไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้วย สำหรับคนสนใจประวัติของโทกุงาวะ อิเอยาสึ ที่ปราสาทโอคาซากินี่เหมาะมาก ภายในปราสาทมีข้อมูล ชุดเกราะ เอกสาร และโบราณวัตถุต่างๆ ให้ชมมากมาย และเมื่อเดินไปถึงชั้นบนสุดก็จะได้ชมวิวเมืองโอคาซากิแบบพาโนรามาด้วยล่ะ ซึ่งค่าเข้าชมปราสาทเพียง 200 เยนเท่านั้น มี Audio Guide เป็นภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ต้องการด้วยนะ นอกจากนี้ยังมีการแสดงของเหล่าซามูไรให้ชมทุกวัน และถ้าอินเรื่องประวัติศาสตร์และซามูไรสุดๆ ขอแนะนำให้ไป Ieyasu and Mikawa Bushi Museum ต่อด้วยเลย
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ปราสาทแห่งนี้คือหอนาฬิกาคาราคุริ ซึ่งจะมีตุ๊กตาโทกุงาวะ อิเอยาสึออกมาเล่นละครโนห์ (ศิลปะการแสดงโบราณของญี่ปุ่น) ให้ชมตอนเวลา 9:00 และ 18:00 น. งานละเอียดประณีตมาก ถือเป็นของที่หาชมได้ยากมากเลยล่ะ
รอบๆ ปราสาทคือสวนโอคาซากิอันแสนร่มรื่น นอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยังดูเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองด้วย มีคนมานั่งซ้อมดนตรีหรือนั่งปิกนิคกันหลายมุม บรรยากาศชวนเพลิดเพลิน นอกจากจะติดแม่น้ำ ยังมีสวนดอกไม้ทั้งวิสทีเรียและซากุระ ที่นี่ถือเป็นจุดชมดอกไม้ยอดฮิตประจำเมืองอีกที่หนึ่งเลยทีเดียว
ก่อนกลับอย่าลืมแวะไป Jonantei เรือนชงชาวิวดีที่เราสามารถนั่งในสวนจิบมัทฉะ ทานขนมไปพลางชมวิวปราสาทไปด้วย ชาเขียวมีให้เลือก 2 สูตร อธิบายง่ายๆ คือสูตรขมมากและขมน้อย เราเลือกชิมแบบขมน้อย ถือว่ากลมกล่อมกำลังดีInfo
Okazaki Castle
Hours: 09:00-17:00 น. (เข้าได้ถึงเวลา 16:30 น.)
Holiday: วันที่ 29 ธันวาคม ถึง 1 มกราคมของทุกปี
Entrance fee: เด็ก 100 เยน, ผู้ใหญ่ 200 เยน
Website: travel.okazaki-kanko.jp/th (ภาษาไทย)
Jonantei
Hours: 10:00-16:00 น.
Holiday: วันจันทร์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน (ยกเว้นเดือนมกราคม) และวันที่ 28 ธันวาคม ถึง 3 มกราคมของทุกปี
Entrance fee: 450 เยนต่อที่นั่ง (รวมขนมญี่ปุ่นประจำฤดูกาล)
Website: okazaki-kanko.jp
ดินเนอร์รสชาติดีที่ Janome Sushi
ก่อนกลับเข้าที่พัก แวะทานอาหารเย็นที่ร้าน Janome Sushi ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 15 นาที แต่เดินอย่างมีความสุข เพราะทางเลียบแม่น้ำของเมือง โอคาซากิ สวยมาก กว้างขวางและแสงสว่างส่องถึง สะพานเปิดไฟตอนกลางคืนสวยมาก โครงสร้างใต้อาคารก็เท่มากราวกับเป็นงานศิลปะอะไรสักอย่าง
มาถึงร้านเรียกได้ว่าไม่ผิดหวัง ซูชิอร่อยมากและราคามิตรภาพที่สุด เราสั่งเซ็ต 2 มินิด้งหน้าปลาแซลมอนและปลาอานาโกะ เสิร์ฟพร้อมซุป, ไข่ตุ๋น และไอศกรีม สนนราคาเพียง 1,720 เยน อีกเมนูเด็ดที่อยากให้ลองคือข้าวห่อสาหร่ายปลาทูน่าที่มีซอสเผ็ดหลายชนิดทั้งซอสเกาหลีญี่ปุ่นรวมพลังกันสร้างความเผ็ดร้อน แซ่บเลยInfo
Janome Sushi
Hours: 11:00-14:30 และ 17:30-22:30
Holiday: วันพุธ
เติมเต็มค่ำคืนวันพักผ่อนที่ Okazaki New Grand Hotel
ค่ำนี้นอนที่โรงแรม Okazaki New Grand Hotel ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ห้องพักกว้างขวาง เปิดกระเป๋าแผ่แล้วยังเหลือที่เล่นโยคะ และที่สำคัญวิวจากห้องพักของเรามองเห็นปราสาทด้วย! บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าจัดเต็มมาก อาหารหลากหลายและอร่อยด้วย แถมยังมีแก้วกาแฟแบบเทคเอาท์ให้อีกต่างหาก สุดประทับใจ (แน่นอนว่าจากห้องอาหารก็มองเห็นปราสาทโอคาซากิ) ถ้ามาช่วงหน้าร้อนบนดาดฟ้ามีเบียร์การ์เด้นที่มองเห็นวิวปราสาท หันซ้ายหันขวามีทั้งแม่น้ำ ปราสาท และเครื่องดื่มเย็นๆ นี่แหละการพักผ่อนที่แท้จริง
Info
Okazaki New Grand Hotel
Website: www.grand-okazaki.jp
Day 2 |
Sugao Shrine → Kakukyu (Hatcho Miso) → Ichihatasan Yakushiji → Otoginokura Mamenoki Cafe
ไหว้พระขอพรจากเทพเจ้าด้วยเครื่องรางสุดคิวท์และเต้าหู้ทอด ณ Sugao Shrine
แม้แผนการเที่ยวของเราในวันนี้จะใช้รถยนต์เป็นหลัก แต่หลังเช็คเอาท์จากโรงแรมแล้วเดินมานิดเดียวจะได้พบกับศาลเจ้าสึกาโอะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อยู่ริมแม่น้ำที่คู่ควรแก่การแวะสุดๆ เพราะเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง โอคาซากิ สมัยก่อนแม้แต่โทกุงาวะ อิเอยาสึเองก็ยังเคยมาขอพรที่นี่ด้วยนะ
แม้จะเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุด แต่มีความทันสมัยมากเพราะเอมะหรือแผ่นไม้สำหรับขอพรของที่นี่เป็นลวดลายการ์ตูนของศิลปินหญิงในท้องถิ่น แถมยังเป็นรูปทรงหัวใจสีชมพูอีกด้วย น่ารักจนอยากซื้อกลับบ้านมากกว่าแขวนไว้ที่ศาลเจ้า อีกทั้งตราประทับโกะชุอิน (ตราประทับที่ศาลเจ้าปั๊มลงสมุดให้ผู้มาเยือน คล้ายๆ กับการเช็คอินที่วัด) ก็เป็นลายแบบโมเดิร์นที่มีสีสันสดใส เปลี่ยนดีไซน์ตามเทศกาลวันสำคัญต่างๆ อีกด้วย ต่างจากทั่วไปที่จะเป็นตัวหนังสือสีดำกับตราประทับสีแดง ส่วนสายมูที่อยากเสี่ยงเซียมซี ที่นี่มีแบบภาษาอังกฤษด้วยล่ะ
และที่เก๋อีกอย่างคือการซื้ออาบุระอาเกะหรือเต้าหู้ทอดถวายเทพเจ้าเพื่อขอพร ซึ่งเราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย คนของทางศาลเจ้าเล่าให้ฟังว่า เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเทพสุนัขจิ้งจอกชอบทานอาบุระอาเกะ จึงเตรียมสิ่งนี้ไว้ให้คนซื้อบูชาด้วย แนวคิดคล้ายๆ กับน้ำแดงและนางกวักของไทยสินะInfo
Sugao Shrine
Website: sugojinja.jp
ทำความรู้จักและชิมมิโซะสุดเข้มข้น Hatcho Miso ที่ Kakukyu
เชื่อว่า “ซุปมิโซะ” เป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คน มิโซะหรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นนั้นจริงๆ แล้วมีหลายชนิด อาจจะแบ่งตามสี เช่น ขาว, เหลือง หรือแดง หรือจะแบ่งตามวัตถุดิบที่ใช้หมักก็ได้ มีทั้งข้าวหรือข้าวบาร์เลย์ หรือใช้ถั่วเหลืองล้วนๆ Hatcho Miso ที่เราจะไปเรียนรู้ต่อกันในวันนี้ คือมิโซะสูตรพิเศษเฉพาะของ โอคาซากิ ที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ที่นี่จึงเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมอาหารที่สำคัญของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเลย
Kakukyu เป็นผู้ผลิตฮัทโจมิโซะมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1645 สืบทอดต่อกันมาจนถึงทายาทรุ่นที่ 19 ผู้ดูแลกิจการในปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่กรรมวิธีและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำฮัทโจมิโซะนั้นยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ซึ่งความอร่อยเข้มข้นหอมละมุนนี้ใช้เพียง “ถั่วเหลือง” “เกลือ” และ “น้ำ” เท่านั้น ในขณะที่มิโซะแบบอื่นใช้เวลาหมักแค่ไม่กี่เดือน แต่ฮัทโจมิโซะใช้เวลาถึง 2 ปี! และต้องหมักในถังไม้ไซส์มหึมาที่สูงเกือบ 2 เมตร! ปิดฝาและวางทับด้วยหินอีก 355 ก้อน! แค่หินอย่างเดียวก็หนัก 3 ตัน! มิโสะอีก 6 ตัน! การหมักมิโสะนี่มันงานหนักจริงๆ
อุด้งในซุปฮัทโจมิโซะ
ข้าวไก่คาราอาเกะราดซอสมิโซะ
ถ้าเริ่มสนใจแล้วละก็ ที่นี่เขามี Factory Tour ทัวร์ชมพิพิธภัณธ์และโรงเก็บมิโซะเพื่อเรียนรู้เรื่องราวการทำมิโซะแบบดั้งเดิม มีโซนชิม โซนช็อป และโซนที่เราชอบที่สุดอย่างโซนฟู้ดคอร์ท! อาคารที่อยู่ติดกันเป็นร้านอาหาร/คาเฟ่ที่เราสามารถทานอาหารที่ทำจากมิโซะหลายๆ แบบทั้งแบบข้าวและเส้น เราลองสั่งอุด้งในซุปฮัทโจมิโซะ ซุปอร่อยเข้มข้นมากกก เข้าเนื้อเส้นอุด้งสุดๆ ข้าวไก่คาราอาเกะราดซอสมิโสะก็ดี ส่วนข้าวอบชีสราดแกงกะหรี่ก็เข้มข้น รสเครื่องเทศและมิโสะโดดเด่นพอๆ กัน สำหรับอาหารทานเล่นต้องสั่งหมูชุบแป้งทอดราดซอสมิโสะ แป้งกรอบ หมูนุ่ม ซอสดี ชีวิตดีจริงๆ
ไอศกรีมรสมิโซะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ห้ามพลาดอีกอย่างคือไอศกรีมรสมิโซะ! ก่อนที่จะคิดว่ามันไม่เข้ากัน ขอให้วางอคติลง คิดถึงไอศกรีมรสคาราเมลแล้วลองชิมนะ ผงที่โรยอยู่ด้านบนก็เป็นผงมิโซะ คุกกี้ที่เสียบมาก็เป็นคุกกี้มิโซะเช่นกันจ้ะ! หวานมันฉันรักเธอInfo
Kakukyu
Hours: 09.00-17.00 น.
Holiday: –
Website: www.kakukyu.jp (ภาษาอังกฤษ)
ขึ้นเขาไปไหว้พระนอนแห่งวัด Ichihatasan Yakushiji
อิ่มท้องแล้วไปไหว้พระกันที่วัดอิจิฮาตะซัง ยาคุชิจิ (Ichihatasan Yakushiji) ที่อยากมาวัดนี้เพราะว่ามีความพิเศษ 3 อย่าง ความพิเศษแรก วัดที่อยู่บนเขาแห่งนี้มีพระนอนให้เราเข้าไปไหว้ด้วย! ทางวัดบอกเรามาว่าน่าจะไม่ใช่แบบเดียวกับของไทย เพราะพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระยาคุชิเนียวไร ความพิเศษที่ 2 คือ มีเครื่องรางแบบที่เราเขียนคำอธิษฐานสอดในถุงเครื่องรางได้เองอีกต่างหาก และความพิเศษสุดท้าย คนที่ซื้อเครื่องรางจะได้ลงไปเดินในทางเดินมืดๆ ใต้พระพุทธรูปเพื่อสะเดาะเคราะห์ ทางเดินมืดๆ นี้เปรียบดั่งการเข้าไปเดินในท้องของพระท่าน เมื่อเดินออกมานั่นคือเราได้เกิดใหม่แล้วนั่นเอง จุดสุดท้ายที่ฝ่าเท้าของพระพุทธรูป มีจุดให้เราเอามือไปสัมผัสเพื่อสิริมงคลด้วย
ไหว้พระเสร็จแล้วอย่าลืมมองสำรวจรายละเอียดของอาคารไม้ด้วยนะ เพราะสวยวิจิตรมากๆ เลยInfo
Ichihatasan Yakushiji
Hours: 09.00-16.30 น.
Holiday: –
Website: www.aichi-now.jp
Otoginokura Mamenoki คาเฟ่ธีมตำนานนิทานพื้นบ้านสุดคาวาอี้
เริ่มต้นทริปด้วยความหวานก็ต้องจบแบบหวานๆ เราแวะที่ Otogi-no-kura Mame-no-ki คาเฟ่ชื่อแสนยาวแต่อร่อยยิ่งก่อนกลับโตเกียว ที่นี่เป็นร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่มีทั้งแบบนั่งทานในร้าน ซื้อกลับบ้าน และโซนขายผลงานของศิลปินในท้องถิ่น โซนซื้อกลับบ้านมีขนมโมจิและขนมกรุบกรอบอย่างเซมเบ้รูปแบบต่างๆ ให้เลือกมากมาย ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแพ็คเกจน่ารัก เป็นตัวการ์ตูนต่างๆ ที่ดูญี่ปุ่นแบบโบราณหน่อยๆ ซึ่งเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของร้านที่ใช้ตำนานของญี่ปุ่นเป็นแรงบันดาลใจ
ของดีของดังของร้านนี้คือ มิทาราชิดังโกะราคาน่ารัก 80 เยน ดังโงะร้านนี้แตกต่างจากที่อื่นตรงที่เขาทำแบบแบนให้กินง่ายและซอสซึมเข้าเนื้อเข้มข้นสุด ไม่แปลกใจเลยที่ขายได้วันละ 2,000 ไม้! ดังโงะสอดไส้สตรอว์เบอร์รีลูกโตก็เริ่ดมาก เนื้อแป้งนุ่มละไมกับปริมาณถั่วบดที่กำลังดีสุดๆ เข้ากับรสเปรี้ยวอมหวานของสตรอว์เบอร์รีได้ดี นี่ก็ขายดีประมาณวันละ 1,000 ชิ้นเลยทีเดียว ชูครีมก็แป้งดี๊ดี กรอบหอม กัดพร้อมไส้ครีมสตรอว์เบอร์รีเนื้อเนียนด้านในคือความเพลิดเพลิน
มิทาราชิดังโกะ ราดซอสเข้มข้นสุด
ดังโงะสอดไส้สตรอว์เบอร์รีลูกโต
และสุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้คือพาร์เฟ่ต์สตรอว์เบอร์รี แต่ละชั้นอร่อยเข้ากันได้ดีมากทั้งรสสัมผัสและรสชาติ แถมส่วนประกอบละเอียดสุดๆ เช่น เมอแรงค์ วุ้นถั่ว ครีมสด ถั่วแดง เยลลี่ พุดดิ้ง ไอศกรีมวานิลลา ฯลฯ อยากทานขนมเมนูสตรอว์เบอร์รีต้องมาช่วงหน้าหนาว เพราะทางร้านใส่ใจในรายละเอียด จะใช้เฉพาะของที่อร่อยที่สุดในช่วงนั้นๆ โดยรับซื้อตรงจากไร่ในท้องถิ่น รับรองว่าได้ทานขนมแสนอร่อยที่เหมาะกับฤดูกาลที่นี่แน่นอน
ดอกวิสทีเรียก็อยากดู ขนมก็อยากกิน แบบนี้ก็ต้องแวะมาเที่ยว โอคาซากิ ทุกฤดูแล้วสินะInfo
Otoginokura Mamenoki
Hours: 09.30-18.30 น.
Holiday: วันพุธ
Website: japanese-sweets-restaurant-22.business.site