MAEDA FOREST PARK :

เดือนกุมภาพันธ์เดือนหน้านี้แล้ว เป็นเดือนที่คนไทยไปเที่ยวฮอกไกโด (โดยเฉพาะซัปโปโร) กันเยอะมากๆ เพราะมีเทศกาลระดับโลกอย่าง Sapporo Snow Festival วันนี้ผมเลยขอแนะนำสถานที่น่าสนใจมากแห่งหนึ่งไม่ไกลจากตัวเมือง Sapporo ครับ

ไม่ใช่จุดชมรูปปั้นน้ำแข็งนะ แต่มันคือ “Maeda Forest Park” ต่างหาก! หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ 前田森林公園 (Maeda shinrinkōen)

 

สวนป่า MAEDA FOREST PARK

 

ทำไมถึงต้องเจาะจงมาที่สวนนี้? บอกได้คำเดียวครับว่า เพราะมันสวยมาก และยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเท่าที่ควร ไม่พลุกพล่านแน่นอน ต้องเรียนก่อนว่า ตามชื่อเลยคือ Forest Park ภายในจะเป็น “สวนป่า” ที่ค่อนข้างกว้างขวาง ต้นไม้หลากหลายปกคลุมไปทั่ว มีทางเดินลัดเลาะไปมาจำนวนมาก

สวนนี้เริ่มสร้างเมื่อปี 1982 ใช้เวลาสร้างกว่า 10 ปี จึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่เวลาที่ยาวนานนั้นคุ้มค่ามากครับ ถ้าเทียบกับทัศนียภาพและความงามที่เปิดให้ผู้คนสาธารณะได้เข้ามาชื่นชม

 

 

ทางเดินเล็กๆ ภายในสวนมากมาย

 

แต่ Highlight หลักของที่นี่คือจุด Landscape ที่ตรงกลางเป็นคลองเล็กๆ พร้อมทางเดินและต้นไม้สูงใหญ่ประกบตลอดสองข้างทาง ตลอดระยะความยาว 600 เมตร โดยมีภูเขา Mt.Teine เป็นฉากหลัง

 

จุด Landscape ที่ตรงกลางเป็นคลองเล็กๆ พร้อมทางเดินและต้นไม้สูงใหญ่ประกบตลอดสองข้างทาง ตลอดระยะความยาว 600 เมตร โดยมีภูเขา Mt.Teine เป็นฉากหลัง

 

จุดในการชมทัศนียภาพที่สวยที่สุดก็หนีไม่พ้นบริเวณด้านบนตัวตึกที่เป็นร้านค้า (Maeda Forest Park Observation Lounge Shop) มีทางเดินให้ขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นด้านในตึกหรือระเบียงด้านนอกตึกก็ได้ทั้งนั้น

 

Maeda Forest Park Observation Lounge Shop
ขึ้นไปที่ตึกนี้เลย ข้างนอกเป็นระเบียง ข้างในเป็นร้านค้ามีที่นั่งชมวิว
ระเบียงชมวิว Outdoor แบบพาโนราม่า ที่ Maeda Forest Park Observation Lounge Shop
ระเบียงชมวิว Outdoor แบบพาโนราม่า
ภายใน Maeda Forest Park Observation Lounge Shop
ภายในเป็นร้านค้า (ชั้นบนสุดได้จุดที่สูงกว่า)
กินซอฟครีมไปด้วยมีความสุข ^^

 

เมื่อมองลงมายังทางเดินภูมิทัศน์จุดนี้…สวยมากครับ ^^

 

 前田森林公園 (Maeda shinrinkōen)

 

การจัดวางผังสวนตรงจุดนี้ได้รับ “แรงบันดาลใจ” มาจากผังบริเวณ Washington Monument และ Lincoln Memorial ที่เป็นลักษณะเดียวกันคือ มีคลองตรงกลางพร้อมด้วยทางเดินและต้นไม้ประกบสองข้างทาง เรียบง่าย ปลอดโปร่ง และดูโล่งสบาย

สิ่งที่พีคมากคือ สภาพภูมิทัศน์ที่เห็นจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล!!

ฤดูใบไม้ผลิ- เบื้องหน้าจะเต็มไปด้วยสี “ชมพู”

ฤดูร้อน-ต้นไม้สูงใหญ่ “เขียวขจี”

 

สวนป่า MAEDA FOREST PARK ในช่วงฤดูร้อน
ขียวขจีแลดูอุดมสมบูรณ์ ที่มาภาพ – bit.ly/2DbCzMA

 

ฤดูใบไม้ร่วง- “สีเหลือง”ของใบไม้เปลี่ยนสีรายล้อม

 

สวนป่า MAEDA FOREST PARK ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
เปลี่ยนสีตามฤดูกาล ที่มาภาพ – bit.ly/2DhbSu3

 

ฤดูหนาว- แม้ต้นไม้ใบจะร่วงหมดแล้วเหลือแต่กิ่งก้าน แต่คลองตรงกลางจะเย็นยะเยือกจนกลายเป็น “น้ำแข็ง” ลงไปเดินได้! แถมภูเขาลูกใหญ่ที่เห็นอยู่ฉากหลังก็จะมี “หิมะ” ปกคลุม เมื่อมองออกไปจะทัศนยีภาพเบื้องหน้าจะขาววววโพลนไปเสียหมด ><

 

เย็นยะเยือกจนกลายเป็นน้ำแข็ง!
เดิน วิ่ง กระโดด…ลงไปนอน ก็ได้ทั้งนั้น! 555

 

สรุปคือมาได้ทุกฤดู สวยทุกฤดู!

และด้วยความที่เป็นสวน จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าใดๆ และเปิดทุกวัน สำหรับการมาเที่ยวนั้น ผมแนะนำให้เผื่อเวลาอย่างน้อย (เมื่อมาถึงสวน) เป็นเวลา 2 ชั่วโมงในการชื่นชมความงามนี้ครับ ถ้าบางคนที่ชื่นชอบธรรมชาติหรือชอบการจัดผัง Landscape สวยๆ แบบนี้ อาจอยู่ได้ทั้งวัน! ฮ่าๆๆๆ

นอกจาก Landscape ตัวชูโรงแล้ว ผู้คนท้องถิ่นวิ่งออกกำลังกาย เดินเล่นสบายๆ จูงหมาตาแป๋ว สมาชิกมากันทั้งครอบครัว พนักงานยิ้มแย้มบริการเป็นกันเอง นักท่องเที่ยวประปรายยืนถ่ายรูป ผู้คนไม่หนาตา…นี่เป็นภาพที่พบเห็นได้เสมอใน Maeda Forest Park ขอให้มีความสุขครับ ^^

 

สวนป่า MAEDA FOREST PARK ในช่วงหน้าหนาว

_

วิธีการเดินทาง:

การเดินทางพอจะไปโดยระบบขนส่งมวลชนได้ ถ้าเริ่มจากสถานีใจกลางเมืองอย่าง Sapporo Station ให้นั่งรถไฟ JR Hakodate Line ➔ ลงสถานี Teine Station รวม 6 สถานี ประมาณ 20 นาที จากนั้นให้ออกทางออก North Exit (ป้ายบอกทางมีเขียนว่าไป Maeda)

จากนั้นก็นั่งรถบัสต่อ (ออกมาหน้าสถานีจะเป็นโซนจุดจอดรถบัส) ซึ่งไปได้หลายสายมากทั้งสาย 40, 41, 42, 48 ราคาประมาณ 200 เยน ใช้เวลานั่งบัสประมาณ 15 นาที ลงป้ายที่เขียนว่า Maeda Chūōdōri Nishi (前田中央通西)

เมื่อลงรถบัส ให้เดินต่อไปอีกประมาณ 1.5 กม. (เปิด Google Maps ช่วยดูได้)

ว่ากันตามตรง การเดินทางมายังที่นี่ด้วยระบบขนส่งมวลชน…ไม่สะดวกอย่างแรง!!

แต่อีกวิธีหนึ่งที่มาได้ง่ายๆ เลยคือ “เช่ารถขับมา” ถ้าเป็นไปได้ผมแนะนำให้มาโดยวิธีนี้จะสะดวกกว่ามาก เพราะรถเช่าในญี่ปุ่นมักมีระบบ GPS บอกทาง (เดี๋ยวนี้มักมีภาษาอังกฤษด้วย) โดยเราแค่ใส่ “เบอร์โทรศัพท์” ของจุดหมายปลายทางที่เราจะไป GPS ก็จะบอกเส้นทางมาให้โดยละเอียด ส่วนวิธีการจะรู้เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ยากเลยครับ แค่เสิชชื่อใน Google Maps (ภาษาอังกฤษก็ได้) ระบบก็จะขึ้นรายละเอียดข้อมูลมาให้ ซึ่งรวมถึง “เบอร์โทรศัพท์” โดยทั่วไปแล้ววิธีง่ายๆ นี้ ใช้ได้ผลเสมอครับ

 

ขับรถมาชิวๆ สบายๆ ไปเรื่อยๆ

 

และถ้าขับออกจากแถว Sapporo Station ใช้เวลาไม่น่าเกิน 30 นาทีก็ถึงแล้ว (ประมาณ 12 กม.) ซึ่งภายในสวนก็มีที่จอดรถรองรับในปริมาณที่เหลือเฟือ รวมถึงที่จอดรถ Priority Parking และที่สำคัญ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ ^^

 

ที่จอดรถเหลือเฟือครับ
พร้อม Priority Parking (และห้องน้ำผู้พิการ) ^^

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ