Toyama
“ลมแรงๆ ที่พัดพาตัวแทบปลิว
เป็นช่วงที่คาบเกี่ยวระหว่างฤดูใบไม้ผลิไปเป็นฤดูร้อน
เป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติมาเที่ยวญี่ปุ่นสักเท่าไร
และเป็นช่วงที่นักศึกษาอย่างเราต้องเดินทางมาทำวิจัยไกลถึงญี่ปุ่น”

จากเด็กนักศึกษาคณะบริหารของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในชานเมืองของกรุงเทพฯ โดนลมพัดลมเพจากประเทศไทยมาราว 4,000 กิโลเมตร สู่ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยไปทำวิจัยที่ “โทยามะ (Toyama)” ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 2 เดือน (มิถุนายน-กรกฎาคม)

 

 

จังหวัดโทยามะ เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนัก เนื่องจากอยู่ห่างจากโตเกียวถึง 400 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่ล้อมไปด้วยทะเลและขุนเขา โดยการเดินทางมายังจังหวัดนี้จากโตเกียวอย่างรวดเร็วและสะดวกที่สุดคงเป็นเครื่องบินหรือไม่ก็ชินคันเซ็น จะใช้เวลาการเดินทางประมาณ 1-3 ชั่วโมง แต่ถ้าหากต้องการนั่งรถบัสหรือขับรถไปจะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 6-7 ชั่วโมง นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองนี้สักเท่าไร เนื่องจากระยะเวลาในการเดินทางที่ค่อนข้างนาน หรือถ้าต้องการความรวดเร็วก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่จะมาแนะนำสถานที่เที่ยวของเมืองนี้จากมุมมองของเด็กนักศึกษาคนหนึ่งค่ะ

 

Centram รถรางสาธารณะของจังหวัดโทยามะ (Toyama)

 

เริ่มจากการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวภายในตัวเมืองก่อน ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเมืองโทยามะเป็นเมืองที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่มาก ถ้าเทียบอัตราประชากรจะพบว่ามีผู้สูงอายุมากกว่ากลุ่มเด็กวัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาวพอสมควร จึงเป็นเมืองที่ไม่วุ่นวาย สามารถใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ได้ แต่เมืองโทยามะเองนั้นก็มีระบบต่างๆ ของผังเมืองที่ตอบสนองผู้สูงอายุได้ค่อนข้างดีมาก ที่เด่นๆ เลยน่าจะเป็นระบบการขนส่งสาธารณะทางรางหรือ Tram รอบเมือง โดยการออกแบบของ Tram นี้จะเสมอเรียบไปกับพื้นถนน สามารถเดินขึ้นไปได้โดยที่ไม่ต้องขึ้นบันได ทั้งนี้เพื่อความสะดวกและป้องการสะดุดของผู้สูงอายุอีกด้วย

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวภายในตัวเมืองโทยามะส่วนใหญ่จะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งรวบรวมแบรนด์ชื่อดังในญี่ปุ่นต่างๆ ไว้ และสวนสาธารณะรอบๆ ภายในตัวเมือง สวนสาธารณะที่ผู้คนค่อนข้างไปเที่ยวกันเยอะคือ Kansui Park เป็นสวนสาธารณะที่จัดได้ว่ามีร้านกาแฟนางเงือกไซเรนที่สามารถชมวิวทิวทัศน์สะพานข้ามแม่น้ำที่สวยจนต้องตะลึง และเป็นที่นั่งจิบชาเขียวอร่อยที่สุดในโทยามะเลยก็ว่าได้ อาจจะเป็นเพราะว่าด้วยการสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียงต่างๆ ส่งผลให้ชาเขียวแก้วนี้ละมุนเกินกว่าที่คาดไว้ซะอีก

 

Kansui Park สวนสาธารณะที่ต้องไปให้ได้เมื่อไปโทยามะ (Toyama)

 

หลังจากแนะนำที่ท่องเที่ยวที่เด่นๆ ภายในเมืองไปแล้ว มาต่อกันด้วยแหล่งท่องเที่ยวนอกเมืองกันบ้าง การไปเที่ยวสถานที่ต่อไปนี้ต้องขอขอบคุณ “ยูกะ” เพื่อนชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่อาสาขับรถพาไปเที่ยว ยูกะเองเป็นคนที่รักการท่องเที่ยว รักเสียงดนตรี ชอบเล่นกีตาร์ ใจดี คุยสนุก และชอบการสวมใส่รองเท้ารัดส้นของ Montbell มาก โดยสถานที่ที่เราจะไปกันนั่นคือหมู่บ้าน Ainokura ที่ได้รับการพิจารณาจาก UNESCO World Heritage ให้เป็นมรดกโลก โดยลักษณะหมู่บ้านนี้จะคงความเป็นบ้านของชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนที่อยู่ห่างไกลเมือง ภูมิประเทศเป็นหุบเขา คนจึงประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ตัวบ้านจะทำด้วยไม้และหลังคามุงจาก

 

Ainokura หมู่บ้านมรดกโลกโบราณของจังหวัดโทยามะ (Toyama)

 

สิ่งที่น่าประทับใจของทริปนี้คือ “ระหว่างทาง” การเดินทางมาหมู่บ้านนี้นั้นต้องขับรถไต่ล้อมรอบภูเขา พอขึ้นเขามีฝนตกปรอยๆ และหมอกค่อนข้างหนา ตามรายทางจะเป็นภูเขา หุบเขา ต้นไม้ แม่น้ำ และลำธาร ผสมกับดนตรีที่ฟังอยู่บนรถ มันเคล้าคลอกันได้อย่างลงตัวและเราเองก็อดไม่ได้ที่จะเพลินกับธรรมชาติจนลืมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายในบางจังหวะที่รถแล่นผ่านไป มันลงตัวมากจริงๆ เหมือนหลุดไปอยู่อีกห้วงหนึ่ง เป็นสถานที่ที่อยากจะแนะนำให้มาเที่ยวมากๆ เชื่อว่าถ้าคนที่ชอบธรรมชาติถ้ามาที่นี่ จะต้องใช้คำว่าหลงรักเลยทีเดียวและได้เข้าใจคำนี้อย่างถ่องแท้จริงๆ ว่า 

“ระหว่างทางของการเดินทางนั้นก็สำคัญไม่แพ้กับจุดหมายปลายทางเลย”

 

Ainokura, Toyama

 

สุดท้ายนี้ขอบอกลาบทความความนี้ไปกับอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองโทยามะนั่นคือ “ราเมนน้ำดำ” จากชื่อเสียงเรียงนามของเมนูน้ำดำที่ชาวญี่ปุ่นหลายๆ คนกล่าวไว้ว่าถ้ามาแล้วต้องลอง เลยไปชิมที่ร้านในตัวเมืองโทยามะ ราคาชามละประมาณ 1,000 เยน ต้องขอเกริ่นไว้ก่อนว่ารุ่นพี่ที่ไทยที่เคยมาทำวิจัยปีที่แล้วแนะนำไว้ว่ารสชาติเหมือนพะโล้บ้านเรา แต่เราเลือกเมนูข้าวหน้าหมูน้ำดำ (เลือกแตกต่างจากรุ่นพี่หน่อย) แต่ก็ได้ชิมน้ำซุปน้ำดำนะ พบว่ามีรสชาติที่เค็มปนหวานกลมกล่อมให้รสชาติไปทางซอสญี่ปุ่น ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมือนพะโล้บ้านเรา แต่แนะนำลองไปหากินกันดูนะ

 

 

สุดท้ายแล้วจริงๆ อยากเชิญชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวเมืองโทยามะกันดูนะคะ โทยามะเป็นเมืองที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกช่วงของฤดูกาล เป็นสถานที่รวบรวมทุกอย่างเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ทะเล แม่น้ำ ลำธาร หรือหิมะช่วงฤดูหนาว เพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกว่าที่นี่เคยหนาวที่สุดราว -2 องศาเซลเซียส และส่วนใหญ่จะมาเที่ยวภูเขาน้ำแข็งที่ทาเทยามะ (Tateyama) กัน แต่เราไม่ได้ขึ้นไปเพราะหิมะตอนช่วงที่เราไปนี้จะละลาย 

“การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นจะลงตัวที่สุดหากควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรมของญี่ปุ่น”

 

 

การเดินทาง 

จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ให้นั่งโฮกุริกุชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen) มาลงที่สถานีโทยามะ (Toyama Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ