Tag "อาหารญี่ปุ่น"

Yasuda (ยาสุดะ)
Yasuda คือร้านที่แฟนพันธุ์แท้เนื้อวัวทั้งหลายไม่ควรพลาด เพราะทุกเมนูของที่นี่ปรุงขึ้นจากเนื้อวัวโกเบระดับ A5 เท่านั้น มีสาขาที่ฟุกุโอกะถึง 4 สาขา นำเข้าเนื้อวัวโกเบชั้นดีมาถึงเมืองไทยได้แบบสดๆ ทั้งตัว ไม่ผ่านการแช่แข็งและไม่ต้องแล่แยกส่วน จึงมั่นใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพความสดใหม่
Miyazaki Teppanyaki (มิยาซากิ เทปปันยากิ)
Miyazaki Teppanyaki ร้านอาหารสไตล์เทปปันยากิ ในเครือร้าน MK Restaurant นอกจากจะอร่อยนุ่มลิ้นไปกับเนื้อคุณภาพดีเยี่ยมแล้ว ยังเพลิดเพลินไปกับลีลาโชว์ทำอาหารของเชฟที่พกมาทั้งความชำนาญ ความคล่องแคล่ว และความประณีต แถมยังเสิร์ฟร้อนๆ จานต่อจานกันเลยทีเดียว
Ise (อิเสะ)
ร้านกินดื่มขนาดกะทัดรัดที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก จนมีลูกค้าขาประจำล้นหลาม เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ ส่วนเมนูอาหารของที่นี่มีความโดดเด่นด้วยไก่บ้าน...
Takeichi (ทาเคอิจิ)
Takeichi สาขาแรกจึงถือกำเนิดขึ้นในโตเกียว ก่อนจะเป็นที่นิยมแพร่หลายออกไปในเมืองต่างๆ ความพิเศษอยู่ที่ซุปขาวซึ่งได้จากการเคี่ยวไก่ทั้งตัวนาน 10 ชั่วโมง อัดแน่นด้วยกลิ่นหอมและรสเข้มข้นกลมกล่อมที่เปี่ยมด้วยคอลลาเจน โดยทางร้านยืนยันว่าหากเป็นราเมนซุปไก่ที่นี่คือร้านที่ติดอันดับต้นๆ ของโตเกียว
Peko (เปโค)
Peko คือร้านอาหารที่เน้นขายเนื้อวัวนำเข้าจาก Ohira Farm บนเกาะฮอกไกโด ด้วยคอนเซ็ปต์ส่งตรงวัตถุดิบสดๆ จากฟาร์มมาถึงเมนูบนโต๊ะอาหารให้คนไทยได้ลิ้มรสชาติเนื้อวัวคุณภาพดี ที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟในร้านที่ตกแต่งด้วยดีไซน์เก๋ไก๋สไตล์ Hokkaido Garage
Hishou (ฮิโช)
ห้องอาหารญี่ปุ่น Hishou ในบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม ด้วยเคาน์เตอร์บาร์ที่ทอดยาวสามารถเห็นลีลาการทอดเทมปุระของเชฟได้ชัดเจน และยังมีเกลือให้เลือกถึง 6 รสชาติ!
Misato (มิซาโตะ)
ร้าน Misato ตั้งอยู่ในอาคารชาญอิสระ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยออฟฟิศย่านสีลม ช่วงเวลามื้อกลางวันกับมื้อเย็นของทุกวันจึงแน่นขนัดไปด้วยลูกค้ากลุ่มพนักงานออฟฟิศ เพราะที่นี่เสิร์ฟอาหารคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า อีกทั้งยังมีเมนูเด็ดเป็นเมนูชุบแป้งทอด จนเป็นที่กล่าวขานกันว่าต้องมาลองกินให้ได้สักครั้ง
Endo Sushi (เอ็นโด ซูชิ)
สำหรับชาวไทยที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น Endo Sushi น่าจะเป็นชื่อที่คุ้นหู เพราะนับแต่ญี่ปุ่นเปิดกว้างเรื่องการเข้าประเทศใน 5-6 ปีหลัง ชาวไทยจำนวนมากลากกระเป๋าเดินทางไปโอซาก้าเพื่อต่อคิวรอชิมซูชิของที่นี่ จนกลายเป็นที่เลื่องลือว่าหากมีโอกาสเหยียบโอซาก้า ต้องแวะไปที่ตลาดขายส่งชื่อดังของเมืองเพื่อลิ้มลองซูชิรสเด็ดดูสักครั้ง
Yellow Ribbon Home Kitchen (เยลโล่ ริบบอน โฮม คิทเช่น)
Yellow Ribbon Home Kitchen ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสาทรที่อบอุ่นรอต้อนรับทุกคนให้แวะเข้ามาพักกายใจฝากท้องได้ทุกเมื่อ ในบรรยากาศคล้ายนั่งรับประทานอาหารที่บ้านเรียงรายด้วยเมนูอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลาย ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีคุณแม่ชาวญี่ปุ่นทำอาหารให้กินในทุกวัน
Omi Beef Okaki (โอมิ บีฟ โอคาคิ)
เล่าขานความอร่อยมานักต่อนักกับร้าน Omi Beef Okaki ที่นำเข้าเนื้อวัวโอมิจากฟาร์มในจังหวัดชิกะ เป็นเนื้อวัวที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน นอกจากเนื้อโอมิที่เลื่องชื่อแล้ว การตกแต่งร้านยากินิกุแบบสไตล์คาเฟ่อเมริกัน พร้อมบรรเลงเพลงแจ๊สยุค 80’s ก็ดึงดูดผู้คนได้ไม่น้อยเชียวล่ะ 
Kizakaya (คิซากาย่า)
Kizakaya ร้านอิซากายะในรูปแบบโมเดิร์น ดึงดูดสายตาด้วยแสงไฟสีฟ้าเป็นเอกลักษณ์ให้บรรยากาศสนุกด้วยเพลงร่วมสมัย และเติมเต็มความอร่อยด้วยอาหารญี่ปุ่นหลากประเภท
Misoya Ramen (มิโซยะ ราเมน)
Misoya Ramen อร่อยสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมกับราเมน "น้ำซุปมิโซะ" ที่มีความเข้มข้นและความหอมแบบเฉพาะตัว ใครเป็นคอราเมนแล้วชอบซุปมิโซะ ไม่ควรพลาดร้านนี้เลยจริงๆ
Mikaku Cottage (มิคะขุ คอทเทจ)
หากจะให้เราแนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่น บรรยากาศเป็นกันเองไม่ต้องพิธีรีตอง เงียบสงบ และส่วนตัว เราจะแนะนำ Mikaku Cottage ให้เป็นร้านแรก ร้านอาหารญี่ปุ่นในบ้านหลังใหญ่ที่ส่งความรักและความจริงใจผ่านรสชาติของอาหารทุกเมนู
Daimasu (ไดมาซึ)
ปีโชวะ 30–40 (1955–1965) คือยุคสมัยที่รุ่งเรือง และน่าหวนรำลึกที่สุดของญี่ปุ่นสงครามโลกสิ้นสุด เศรษฐกิจเติบโต หลายคนอาจคุ้นภาพตรอกที่สองข้างเรียงด้วยร้านรวง เสาไฟฟ้า และโคมไฟญี่ปุ่นแขวนประดับ แต่ยากจะหาชมของจริงในยุคนี้ ซึ่ง Daimasu ได้จำลองภาพเหล่านั้นมาในรูปแบบร้านปิ้งย่างแนวอิซากายะย้อนยุค
Nirai Kanai (ปิดกิจการ)
จังหวัดโอกินาว่า คือเกาะทะเลใต้ของญี่ปุ่นที่กำลังมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวในเมืองไทยเป็นอย่างมาก ด้วยเสน่ห์เฉพาะของดินแดนที่ได้รับอิทธิพลจากจีนและญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่สมัยที่โอกินาว่ายังเป็นประเทศ รวมไปถึงอิทธิพลจากอเมริกาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมเฉพาะทั้งประเพณี อาคารบ้านเรือนและอาหารการกินที่มีสีสันแตกต่างออกไป
Yoichi (โยอิชิ) (ปิดกิจการ)
เมื่อก่อนการจะลองชิมวิสกี้ญี่ปุ่นในเมืองไทยดูจะเป็นเรื่องยาก แต่ตอนนี้สามารถมาลิ้มรสวิสกี้ญี่ปุ่นแท้ๆ ได้ที่ร้าน Yoichi แห่งนี้ ที่นี่รวบรวมวิสกี้ญี่ปุ่นไว้มากมายหลายสิบประเภท ทั้งต่างยี่ห้อ ต่างปี และมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิสกี้สามารถให้คำแนะนำเป็นภาษาอังกฤษคอยบริการ
Kisara (คิซาระ)
สิ่งที่ทำให้ Kisara เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นในโรงแรมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือการคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ที่หาได้ยากและวิธีการปรุงอันพิถีพิถัน อีกทั้งยังใส่ใจในรายละเอียดของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งเรื่องรสนิยมในการกินของคนแต่ละชาติ หรืออุปนิสัยที่ต่างกันของลูกค้าในแต่ละช่วงวัย
Akiyoshi (อะคิโยชิ)
ราว 20 ปีก่อนหน้า ช่วงเวลาที่ชาวไทยส่วนมากไม่รู้จักชาบูชาบู และรู้จักแต่สุกี้แบบไทย ร้าน Akiyoshi ถือกำเนิดขึ้นในกรุงเทพฯ จากนั้นชาบูชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นของแท้จึงเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ทั้งความนิยมและจำนวนร้าน
Yashima (ยาชิมะ)
Yashima ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น มีเมนูอาหารที่อยู่ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น ในบรรยากาศอบอุ่นแบบบ้านของคนญี่ปุ่น
Hoshi Japanese Restaurant (โฮชิ เจแปนนิช เรสเตอรอง)
เรือที่ติดโลโก้แบรนด์ร้านล่องอยู่กลางน่านน้ำญี่ปุ่นนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า Hoshi Japanese Restaurant เขาจริงจังเรื่องวัตถุดิบเพียงไร
Kofuku (โคฟูกุ)
Kofuku อิ่มอร่อยกับข้าวหน้าญี่ปุ่นหลากสไตล์ในราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาท! แถมยังเสิร์ฟสลัดโชยุกับซุปมิโซะให้ฟรีอีกด้วย คุ้มกว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้ว
Koyama Yakiniku (โคยามะ ยากินิกุ)
บุฟเฟ่ต์ อาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นร้าน Koyama Yakiniku กับความสุขในเวลา 1.45 ชั่วโมง ใน 3 ราคาให้เลือกสั่งตามความพรีเมียมของเนื้อและวัตถุดิบที่ต่างกัน
Cozy (ปิดกิจการ)
จากประสบการณ์ในต่างแดนที่เคยไปฝึกปรือฝีมือมามากถึง 5 ประเทศทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ที่หลากหลายเช่นนี้เอง ทำให้อาหารของเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันที่ได้มาจากการประยุกต์เอากลิ่นอายของอาหารนานาชาติ ผสานเข้ากับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างน่าสนใจ และเต็มไปด้วยไอเดียสนุกจนกลายเป็นเมนูพิเศษที่หากินที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้น
Osaka Izakaya (โอซาก้า อิซากายะ)
Osaka Izakaya ร้านอิซากายะที่รวมบรรยากาศสนุกสนานยามค่ำคืนด้วยอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอซาก้า และแบบฟิวชั่นอีกหลากหลาย พร้อมเมนูปูสุดอลังการที่สุดในย่านศรีนครินทร์!
Imoya (อิโมยะ)
ท่ามกลางอิซากายะสมัยใหม่มากมายในกรุงเทพฯ Imoya ยืนหยัดเป็นตัวแทนอิซากายะคลาสสิก อนุรักษ์บรรยากาศเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นยุคโชวะ ตกแต่งด้วยของหายากอย่างกระดิ่งโบราณและกล่องไม้ขีดเก่านับพัน นอกจากความอบอุ่นเป็นกันเองที่อวลด้วยกลิ่นอายญี่ปุ่นดั้งเดิมแล้ว เมนูของที่นี่ก็เป็นจุดเด่นที่ดึงดูดใครหลายคน
Izakaya En (อิซากายะ เอ็น)
อิ่มได้ตั้งแต่พักเที่ยง สังสรรค์ได้จนถึงดึกดื่นที่ Izakaya En Izakaya En ร้านอิซากายะบรรยากาศโมเดิร์นที่พร้อมเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นหลากหลาย ตั้งแต่ซูชิโรล ซาซิมิ ดงบุริ จนไปถึงเมนูเสียบไม้ต่างๆ อีกทั้งยังมีเซ็ตอาหารกลางวันให้ฝากท้องช่วงเที่ยงหรือตกเย็นจะกลับมาสังสรรค์กับผองเพื่อนก็ดีไปอีกแบบ ด้วยการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่มีใจรักในอาหารญี่ปุ่น ต่างคนต่างความถนัดทั้งด้านพ่อครัวอาหารญี่ปุ่น ด้านตกแต่งร้าน และอีกหลากความถนัดที่ต่างคนต่างลงใจช่วยกันปั้น Izakaya En (อิซากายะ เอ็น) ขึ้นมาได้สำเร็จ จนกลายเป็นอิซากายะบรรยากาศโมเดิร์นที่เราสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรกเข้ามาในร้าน หลังเลื่อนปิดบานประตูกระจกที่ตกแต่งด้วยเหล็กสีดำขึงขัง ผนังปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์ขัดมันเงาโดดเด่นรอบร้าน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้สีน้ำตาลเข้ม เป็นบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลายและทำให้รู้สึกดีได้ง่ายๆ เมื่อมารับประทานอาหารที่ร้านนี้ ตัวร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างมีโต๊ะเดี่ยวกระจายตัวอยู่โดยรอบ โปร่งโล่งด้วยผนังกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอก ทั้งยังมีโซนเคาน์เตอร์บาร์รับรองสำหรับใครที่อยากคุยกับเชฟผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารญี่ปุ่นโดยตรง ในส่วนของชั้นบนมีความกว้างขวางกว่าที่คิด ด้วยความที่เพดานสูงมากจึงทำให้ชั้นบนไม่มีความอึดอัดเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างที่เราแอบประทับใจคือมีห้องส่วนตัวไว้รับรองด้วย 2 ห้อง เป็นห้องนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่น แต่หากมาสังสรรค์กับผองเพื่อนประมาณ 10 คน ขึ้นไป ก็สามารถเปิดเชื่อมทั้ง 2 ห้องได้สะดวกสบายแถมมีความเป็นส่วนตัวสูงอีกด้วย ขึ้นชื่อว่าอิซากายะแต่ก็ไม่ได้เปิดแค่ช่วงเย็นย่ำอย่างเดียว ร้านนี้เปิดทำการตั้งแต่ช่วงสายสำหรับใครที่ต้องการมาฝากท้องในช่วงเที่ยงหรือพนักงานออฟฟิศที่มีเวลาพักแค่หนึ่งชั่วโมง ก็สามารถมารับประทานเซ็ตอาหารกลางวันสุดคุ้มได้ที่นี่ แต่เซ็ตอาหารกลางวันจะมีแค่ช่วง 11:00-15:00 น. เท่านั้นนะ  อย่างเมนูอาหารเซ็ตแรกที่อยากแนะนำคือ Engawalava […]
Hotei (ปิดกิจการ)
Hotei (โฮเตอิ) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นความสดใหม่ มีเฉพาะวัตถุคุณภาพฉบับพรีเมียมเท่านั้น ที่จะผ่านการปรุงอย่างพิถิพิถันจนได้อาหารญี่ปุ่นที่น่ารับประทาน
Sushi Sakuragawa (ซูชิ ซากุระกาวะ)
หากอยากรู้ว่าซูชิแบบ เอโดะมาเอะ (Edomae) ขนานแท้เป็นอย่างไรนั้น มาหาคำตอบกันได้ที่ร้านนี้ ในสมัยเอโดะ ซูชิก็เป็นอาหารยอดนิยมไม่ต่างจากปัจจุบัน แต่ไม่ได้มีเครื่องทำความเย็นสะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้ เนื้อปลาจึงต้องผ่านการหมัก ดอง แช่โชยุ โรยเกลือ เพื่อให้ปลาสด ยังคงมีกลิ่น สีสัน รสชาติ ที่ดีอยู่เสมอ
Osaka Recipe (โอซาก้า เรสซีพี)
ในช่วงเย็นย่ำของวันจันทร์ถึงศุกร์ แสงสว่างของโคมไฟสีแดงหน้าร้านเริ่มทำงานเป็นกิจวัตร เป็นสัญญาณปกติของร้าน Osaka Recipe ที่จะเปิดร้านพร้อมเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมดปรุงจานต่อจานในช่วงมื้อเย็น มื้อที่ได้ชื่อว่าเหมาะแก่การผ่อนคลายและละเลียดกับอาหารได้มากที่สุด
Gyuma (กิวมะ)
Gyuma ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นรสเด็ดพร้อมน้ำจิ้มสไตล์ญี่ปุ่น ลิ้มลองความอร่อยได้ในแบบบุฟเฟ่ต์เพียงแค่ 499 บาท / คน รวมเครื่องดื่ม เต็มอิ่มตลอด 2 ชั่วโมง!
Suikin Japanese Cuisine (ซุยคิน)
ด้วยทำเลที่ตั้งและความโอ่อ่า สร้างจินตนาการที่มีต่อร้าน Suikin ไว้จนแทบลังเลว่าอาหารแสนอร่อยอาจจะต้องแลกมาด้วยราคาหฤโหด แต่กลับผิดคาด เมื่อมูลค่าที่จ่ายกับสิ่งที่ได้กลับมาจากร้านอาหารแห่งนี้ ต้องเรียกได้ว่าลูกค้านั้นแทบจะได้กำไร
Sanriku Sushi Kyodoizakaya (ซานริคุ ซูชิ เกียวโดอิซากายะ)
ร้านอาหารญี่ปุ่นจากโทโฮคุ ที่มีให้เลือกกว่า 300 เมนู! ดำเนินกิจการมายาวนานตั้งแต่ปี 2016 กับร้าน Sanriku Sushi Kyodoizakaya (ซานริคุ ซูชิ เกียวโดอิซากายะ) ที่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เมนูซูชิ ซาชิมิ หม้อไฟ จนไปถึงสไตล์อิซากายะ ส่วนชื่อร้านมาจากคำว่า San ในภาษาญี่ปุ่น คือ เลข 3 และ riku ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า แผ่นดิน  เป็นการรวมอาหารพื้นเมืองของแต่ละจังหวัด ได้แก่ อิวาเตะ อะคิตะ และมิยากิ ซึ่งภูมิภาคนี้นอกจากส่วนใหญ่จะเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังโดดเด่นในเรื่องของอาหารทะเลเป็นอย่างมาก ฉะนั้นรับประกันความสดใหม่ของวัตถุดิบที่นำมาเสิร์ฟได้เลย ตัวร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นล่างมีทั้งเคาน์เตอร์บาร์และโต๊ะเดี่ยวนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งผนังด้วยสีแดงเข้มและประดับประดาด้วยผลงานศิลปะญี่ปุ่นทั่วทุกมุมร้านรองรับกว่า 40 ที่นั่ง  ชั้นบนตกแต่งผนังด้วยสีเขียว รับรองด้วยโต๊ะเดี่ยวนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่นเช่นกัน มีทั้งหมด 20 ที่นั่ง บรรยากาศบริเวณชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณชั้นบน บรรยากาศบริเวณชั้นบน […]
Nagiya (นากิยะ)
ร้าน Nagiya ตกแต่งด้วยบรรยากาศสนุกๆ ของแสงสีเสียงตอนกลางคืนสไตล์งานวัดญี่ปุ่น ทำให้แอบคิดไปได้ว่ากำลังนั่งกินอาหารปิ้งย่างอยู่ในเทศกาลอะไรสักอย่างในประเทศญี่ปุ่นจริงๆ พนักงานจะส่งเสียงดังต้อนรับ ตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้าน คอยบริการด้วยความกระตือรือร้น จนผู้ที่มาเยือนเหมือนได้รับพลังงานให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน
Sasaya (ซาซายะ)
ความโดดเด่นของบรรยากาศร้านที่สร้างความแตกต่างได้ตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า คือสิ่งที่ปลุกเร้าความตื่นเต้นในการมาเยือนร้านนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยการหยิบเอาเสน่ห์ของบ้านญี่ปุ่นโบราณมาผสานเข้ากับความเป็นร้านอาหารได้อย่างกลมกลืนแบบที่หาไม่ได้ในร้านอาหารญี่ปุ่นร้านอื่นแน่ๆ รวมไปถึงอาหารของร้านนี้ก็กระตุ้นความสนใจได้ไม่แพ้กัน
Sakurasaku (ซากุระซากุ)
Sakurasaku ร้านอาหารญี่ปุ่นที่แยกสาขามาจากเมืองซุซุกะ (Suzuka) ในจังหวัดมิเอะที่เปิดให้บริการที่ซอยสุขุมวิท 31 มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014
Anzu (ปิดกิจการ)
ทีเด็ดของทงคัตสึในแบบฉบับ Anzu คือการเลือกใช้เนื้อหมูคุโรบูตะ โดยคัดสรรเนื้อหมูเฉพาะส่วนที่ดีที่สุดทั้งกลิ่น รส สัมผัส และความฉ่ำน้ำ นำมาบ่มด้วยสูตรเฉพาะหลายชั่วโมง ก่อนจะนำมาชุบเกล็ดขนมปังทอดอย่างมีเทคนิค จนได้ชิ้นหมูเนื้อนุ่มฉ่ำหวานบันเทิงลิ้น ขณะที่เนื้อด้านในยังเป็นสีชมพูระเรื่อน่ากิน
Hakata (ฮาคาต้า)
สิริรวมเกือบ 50 ปี ของการเริ่มต้นเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านถนนสุขุมวิทมาตั้งแต่ปี 1968 ทำให้ร้าน Hakata คว้าตำแหน่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในย่านสุขุมวิทไปครอบครอง กับความอร่อยแบบเรียบง่ายด้วยเมนูอาหารญี่ปุ่นพื้นฐานหลากสไตล์หลายประเภท
Mizukoshi (ปิดกิจการ)
ใช่ว่าร้านซูชิชั้นเยี่ยมจะต้องคอยเสิร์ฟซูชิคอร์สแบบโอมาคาเสะเท่านั้น เพราะบางครั้งการเสิร์ฟเมนูซูชิและซาชิมิแบบเซ็ตก็ตอบโจทย์ความอร่อยได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยเฉพาะที่ร้าน Mizukoshi แห่งนี้ที่รังสรรค์ซูชิผ่านฝีมือเชฟ Kiminori Okuma ผู้มีประสบการณ์ทำอาหารมาอย่างยาวนานถึง 40 ปี
Hamaoka (ฮามาโอกะ)
เสน่ห์อาหารแบบไคเซกิของร้าน Hamaoka คือวิถีการปรุงอาหารตามแบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละขั้นตอนอาจดูเรียบง่ายแต่งดงามและลึกซึ้ง เพิ่มเติมด้วยการสอดแทรกไอเดียสร้างสรรค์มาในรูปแบบของการจัดจาน ท่ามกลางการใส่ใจในทุกรายละเอียด
Akuma Izakaya (อคุมะ อิซากายะ)
อิซากายะบรรยากาศอบอุ่นที่ Akuma Izakaya สุดสัปดาห์นี้ ชวนทุกคนลัดเลาะเข้าซอยไปเจอกันที่ร้าน Akuma Izakaya ร้าน อิซากายะ บรรยากาศสนุกและอบอุ่นไปพร้อมกัน ที่จองห้องริมสุดของอาคารพาณิชย์ก่อสร้างเติมต่อจนกลายเป็นร้านอิซากายะจุดหมายของหลายคน พร้อมเสิร์ฟหลากอาหารทั้งกินเล่นและจริงจังแนวอิซากายะดั้งเดิมและฟิวชั่น จึงไม่แปลกที่ที่นี่กลายเป็นแหล่งแฮงเอาต์หลักช่วงเย็นหลังเลิกงานแบบนี้ เปิดร้านได้ไม่ถึง 10 นาที ผู้คนก็เริ่มจับจองที่นั่งจนหนาตา ทั้งมาแบบกลุ่มใหญ่ กลุ่มเล็ก หรือจะมาแค่ 2 คน ก็ดูไม่เคอะเขิน เพราะด้วยบรรยากาศที่ชวนอบอุ่นเหมือนนั่งกินอาหารอยู่บ้านเพื่อนในสไตล์บ้านไม้ญี่ปุ่นสมัยก่อนอย่างไรอย่างนั้น ตัวร้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะเดี่ยวเล็กๆ วางชิดผนังกระจกใส ด้านในสุดมีบันไดพาเราขึ้นไปชั้นบน ชั้นบนมีโต๊ะเดี่ยวรองรับกระจายตัวอยู่หลากขนาด ด้วยความที่ผนังตกแต่งด้วยกระจกใส จึงทำให้บรรยากาศในร้านดูโปร่งโล่ง กว้างขวาง ทั้งยังมีรูปภาพศิลปะสไตล์ญี่ปุ่นประดับประดาเพิ่มบรรยากาศอีกด้วย บรรยากาศด้านหน้าร้านบรรยากาศภายในร้านชั้นล่างบรรยากาศชั้นบน เมนูอาหารของร้านนี้แน่นอนว่าครบถ้วนในแบบที่อิซากายะฉบับญี่ปุ่นควรจะมี แต่ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ร้านคิดค้นปรับปรุงสูตรให้เข้ากับลิ้นของคนไทย ซึ่งหลายเมนูก็กลายเป็นเมนูโปรดของลูกค้าที่มาอย่างง่ายดาย เราขอเริ่มที่เมนู Sukiyaki สุกี้ยากี้เนื้อเสิร์ฟควันฉุย มาพร้อมเนื้อใบพายสไลซ์บาง เต้าหู้ เส้นบุก เห็ดหอม และผักอีกมากมาย ในน้ำซุปสุกียากี้สีดำฉบับญี่ปุ่น ปรุงรสกลมกล่อมให้ถูกปากคนไทย หลังจากเนื้อสุกได้ที่พอคีบเข้าปากอยากบอกเลยว่าเนื้อเหนียวนุ่มมาก เข้ากับน้ำซุปรสหวานหอมแถมยังมีไข่แดงสีสวยมาให้จิ้มตามชอบอีกด้วย ต้องลองจริงๆ  Sukiyaki […]
Uomura (สาขาธนิยะ ปิดกิจการ)
แม้ร้าน Uomura จะเป็นร้านอาหารอิซากายะหรือร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น แต่ทว่าอาหารของที่นี่ก็ไม่ได้มีแค่เมนูแนวกับแกล้มมาให้เลือกชิมแกล้มแอลกอฮอล์กันอย่างเดียว แต่ยังเต็มไปด้วยอาหารจานอร่อยอีกมากมายหลายเมนูที่ทำให้อิ่มได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นข้าวหน้าแกงกะหรี่ ข้าวห่อไข่ ข้าวหน้าไก่กับไข่ ข้าวหน้าปลาดิบ ฯลฯ...
Oji Izakaya (โอจิ อิซากายะ)
Oji Izakaya อิซากายะบรรยากาศสนุกโดยมี “ลุงโอจิ” มาสคอตประจำร้านคอยต้อนรับตั้งแต่หน้าประตู ครึกครื้นสไตล์ญี่ปุ่นด้วยเครื่องดื่มและอาหารญี่ปุ่นหลากเมนู
Hinoki Sushi (ฮิโนกิซูชิ)
ร้านอาหารญี่ปุ่น Hinoki Sushi เสิร์ฟความสดใหม่พร้อมบรรยากาศดีๆ และการันตีว่าอาหารทุกจานของที่นี่ “มากกว่าความอร่อย คือ ความประณีต”
CMC (ปิดกิจการ)
CMC Chicken Masters Cafe เป็นดังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ ทั้งคนรักเนื้อไก่และผู้คลั่งไคล้กลิ่นอายแดนปลาดิบ จากร้านยากิโทริฟู้ดทรัคหลายสาขาในญี่ปุ่น สู่การคิดค้นเมนูเนื้อไก่หลากหลายทั้งทอด ย่าง และเมนูสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง ชาบูไก่เย็น โซบะไก่และราเมนไก่
Rokkon (ปิดกิจการ)
ร้านอาหารญี่ปุ่นนั่งสบายที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากสาขาที่ญี่ปุ่น ในจังหวัดวากายาม่าและโอซาก้า นี่คือร้านที่สร้างความโดดเด่นด้วยอาหารจานปลาหลากสไตล์หลายเมนู อีกทั้งบางเมนูยังเป็นเมนูปลาที่กินที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้น
Sushirin (ซูชิริน)
หลายคนใฝ่ฝันจะได้ลิ้มซูชิรสญี่ปุ่นแท้ที่แดนปลาดิบ เพื่อสัมผัสบรรยากาศและรสชาติต้นตำรับ แต่หากได้ทำความรู้จักกับ Sushirin นอกจากจะรู้ว่าซูชิสไตล์ญี่ปุ่นแท้ไม่จำเป็นต้องไปกินถึงญี่ปุ่นแล้ว ยังอาจเข้าใจถึงความอร่อยที่แท้จริงจากเนื้อแท้วัตถุดิบซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอาหารญี่ปุ่นอีกด้วย
Ohachi (โอฮาชิ)
Ohachi ร้านข้าวหน้าหมูย่างเตาถ่านสไตล์ญี่ปุ่นในย่านชิคๆ อย่างอารีย์ มีที่นั่งรับรองเพียง 18 ที่นั่งเท่านั้น และที่สำคัญทั้งร้านมีแค่เมนูเดียว!
Masamoto True Express (มาซาโมโต้ ทรู เอ็กซ์เพลส)
Masamoto True Express ร้านอาหารญี่ปุ่นที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูอะลาคาร์ทและบุฟเฟต์ จัดเต็มกว่า 120 เมนู ที่เน้นคุณภาพโดยเชฟที่เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่น
Mitsumori (มิตซูโมริ)
ที่นี่ให้ความสำคัญกับเส้นโซบะเป็นอย่างมาก โดยนำเข้าแป้งโซบะมาจากฮอกไกโด และยังทำเส้นโซบะสดด้วยมือทีละขั้นตอนวันต่อวันทุกเช้า-เย็น ราวกับได้ใส่หัวใจลงไปในเส้นทุกเส้น เพื่อให้ได้เส้นโซบะที่ดีที่สุดสำหรับทุกชาม หากใครโชคดี
Senbonsakura (ปิดกิจการ)
ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งที่มีทั้งซูชิสุดพรีเมียมคำโตๆ แถมยังมีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และอะลาคาร์ท ที่สำคัญยังมีเซ็ตชาบูพร้อมเสิร์ฟอีกด้วย และร้านนั้นก็คือร้าน Senbon Sakura นี่เอง เรียกว่าครบถ้วนกระบวนความอร่อยขนาดนี้จะชักช้าได้อย่างไร รีบไปกัน!
Dainoki (ไดโนกิ)
ไฟน์ไดน์นิ่งย่านทองหล่อที่ดูแลโดยเชฟชาวฮ่องกงที่เชี่ยวชาญด้านอาหารฝรั่งเศสและอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าเมนูใดจึงดูหรูหราผ่านการคิดมาทุกมิติ
Ikuze (อิคุเสะ)
นับถอยหลังเวลาเลิกงาน เรามีนัดกันที่ Ikuze! หลังจากเต็มที่ให้กับงานมาทั้งวัน เหล่าพนักงานออฟฟิศในเมืองอย่างเราก็ต้องเต็มที่ให้กับการผ่อนคลายชุบชูจิตใจหลังเลิกงานด้วย จะดีแค่ไหนถ้าได้นั่งรับประทานอาหารในที่ที่อบอวลไปด้วยความสนุก อาหารอร่อยที่มาพร้อมเครื่องดื่มแก้วโปรดและเคล้าคลอด้วยบทสนทนาดีๆ ถ้าภาพของความผ่อนคลายของคุณเป็นอย่างที่กล่าวแล้วมาล่ะก็ มีสถานที่ตอบโจทย์ที่เราอยากแนะนำ นั่นคือร้าน Ikuze อิซากายะสุดสนุกในย่านทองหล่อนี่เอง! แค่คิดถึงคำว่า “อิซากายะ” ภาพความสนุกสนานเฮฮาก็แทรกเข้ามาไม่หยุด เป็นการดีที่วันนี้เราจะพาทุกคนไปยังร้านอิซากายะที่มีทั้งความสนุกและอร่อย ในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม เริ่มจากตัวร้านที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ภาพแรกที่สะดุดตาก็คือ ภาพซาราลี่แมนในท่าทางของป้ายไฟกูลิโกะในย่านโดทงโบริ (Dotonbori) การใช้แสงสีสดใสตัดกับท้องฟ้าในยามค่ำคืน และการตกแต่งที่ยกความเป็นอิซากายะญี่ปุ่นมาทุกอย่าง ตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ เรื่อยไปถึงของภาพภ่ายและของตกแต่ง เหมือนนั่งอยู่ในร้านอิซากายะที่ญี่ปุ่นจริงๆ เลย Let’s go to Izakaya! “Ikuze” ในภาษาญี่ปุ่นให้ความหมายประมาณว่า “ไปกันเถอะ!” เป็นการเรียกชวนให้มาสนุกกันได้อย่างเห็นภาพ ยิ่งสนุกไปพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศอิซากายะสไตล์ญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ ทำให้อดใจรอเวลาเลิกงานแทบไม่ไหว  มาเดินดูภายในร้านกันหน่อย ด้านในร้านแบ่งสัดส่วนชัดเจน โดยมีโซนเอาท์ดอร์ที่รองรับกว่า 50 ที่นั่ง ด้านในยังสนุกได้ในแบบส่วนตัวด้วยห้องรองรับ 4 ห้อง ที่สามารถเปิดทะลุหากันได้ (หากต้องการใช้บริการห้องส่วนตัวอาจจะต้องโทร.มาจองล่วงหน้า และที่สำคัญที่นี่ไม่เสียค่าห้องด้วย) และมีโต๊ะนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่นกว่า 30 ที่นั่ง ชอบตรงไหนรีบไปจองตรงนั้น หากช้าโต๊ะจะเต็มเร็วมากนะ […]
Sukiya (สุคิยะ)
Sukiya ต้นตำรับข้าวหน้าเนื้อจากญี่ปุ่นเนื้อนุ่มหอมละมุนในปาก โดยมีสาขามากถึง 2,000 สาขาในญี่ปุ่น และกระจายทั่วประเทศไทยกว่า 30 สาขา!
Sloth Sukiyaki (สล็อธ สุกี้ยากี้)
Sloth Sukiyaki บุฟเฟ่ต์สุกี้ยากี้ ชาบูชาบู ที่คุ้มเกินคุ้ม! ถ้าชีวิตช่วงนี้รีบเร่งนัก มาใช้ชีวิตแบบช้าๆ กันที่ Sloth Sukiyaki กันหน่อยดีกว่า ทุกคนรู้ดีว่า “เจ้าสล็อธ” ตัวกลม กรงเล็บยาว หน้าตาน่ารักนี้มีความเชื่องช้าขนาดไหน ไม่ว่าจะกิน นอน เดิน ห้อยโหน และจะทำกิจกรรมทุกอย่างบนต้นไม้ แต่รู้ไหมว่าเจ้าสล็อธเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเพื่อเอาชีวิตรอดได้อย่างน่าทึ่ง วันนี้เราจะมาโคฟเวอร์เป็นเจ้าสล็อธตัวนี้กัน ชวนทุกคนมาเอาตัวรอดจากความหิว นั่งกินอย่างช้าๆ ละเมียดรสชาติอาหารที่หลากหลายทั้งสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น ชาบูชาบู ซูชิ และซาชิมิอีกมากมายเชียวล่ะ และด้วยสีสันการตกแต่งของร้านเรียกว่าน่ารักมากๆ ได้ฟีลบ้านต้นไม้ของเหล่าเจ้าสล็อธสุดๆ ทั้งตุ๊กตาและภาพวาดที่แอบอยู่ทุกมุมร้านเหมือนเชิญชวนให้เราถ่ายรูปเก็บความน่ารักก่อนมื้ออาหารได้ดีทีเดียว ส่วนของบุฟเฟ่ต์ ที่นี่มีทั้งหมด 2 ราคา คือ 495 บาท/คน และ 795 บาท/คน อิ่มอร่อยกันยาวๆ 2 ชั่วโมง ดูจากรายการอาหารแล้ว วันนี้เราขอจัดเต็มในราคา 795 บาท เพราะสามารถสั่งได้ทุกเมนูในร้านทั้งของคาวของหวาน ครบ! จากนั้นพนักงานจะให้เราเลือกว่าจะให้ตั้งเป็น “กระทะสุกี้ยากี้” หรือ “หม้อชาบูชาบู” หากมา […]
Hideya (ปิดกิจการ)
ที่โยโกฮาม่า หลายคนอาจได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันสวยงาม แต่อาจไม่เคยลิ้มรสราเมนเฉพาะทางที่มีต้นกำเนิดจากเมืองนี้อย่าง "อิเอะเค" ราเมน จุดเด่นคือซุปทงโคะสึผสมโชยุที่เข้มข้นและหอมมัน เข้ากันดีกับเส้นแบบตรงและเครื่อง 3 ชนิด คือ หมูชาชู สาหร่าย และผักโขม ซึ่งหาได้ยากในราเมนชนิดอื่น
Sabu Yakiniku (ซาบุ ยากินิกุ)
Sabu Yakiniku ร้านยากินิกุแบบฉบับพรีเมียม ร้านแรกของโลกที่นำเข้าเนื้อวัวยูกิฟูริ จากจังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมสัมผัสรสชาติของเนื้อวากิวและซอสหมักได้อย่างเข้มข้นโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม  ความพิเศษของร้านยังไม่หมดแค่นี้นะ ตามคิจิมาเราจะพาคุณไปล้วงลึกถึงความสุดยอดของร้านนี้กัน
Izakaya Tsudoi (อิซากายะ ซึโดอิ)
Izakaya Tsudoi ร้านอาหารญี่ปุ่นใจกลางทองหล่อ พร้อมเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นนานาชนิดคัดสรรวัตถุทุกอย่างมาเป็นอย่างดี รับประกันความสดใหม่
Midori (ปิดกิจการ)
Midori ร้านอาหารญี่ปุนร้านนี้ที่โดดเด่นเรื่องการผสมรวมอาหารหลายสัญชาติครีเอทออกมาเป็นเมนูที่หลากหลาย รังสรรค์โดยเชฟมิจิ คาโดตะ (Michi Kadota) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารสไตล์ Japanese Modern Twist และยังเป็นผู้ชนะในรายการเชฟกระทะเหล็กไทยแลนด์ อาหารญี่ปุ่น ปี 2018 อีกด้วย
Shichi Japanese Restaurant (ชิชิ เจแปนนีช เรสเตอร์รอง)
Shichi Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญในการผสานความร่วมสมัยลงไปในอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ในบรรยากาศโมเดิร์นเจแปนนีสสุดพรีเมียม
Ginryu Yakiniku Kenkyujo (กินริว ยากินิกุ เคนคิวโจ)
ร้านปิ้งย่างสไตล์สนุกด้วยแนวคิดห้องทดลองยากินิกุ ด้วยบรรยากาศร้านกว้างขวางโปร่งโล่งสบายตา ด้านในสุดมีบาร์สำหรับคนที่อยากกินปิ้งย่างคนเดียวอีกด้วย!
Ik-ki Izakaya (ปิดกิจการ)
ชวนเดินทางไกล ไปกับรถไฟสายอิซากายะ! Ik-ki izakaya ร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นในบรรยากาศแปลกตา เพราะตัวร้านตั้งอยู่ในตู้รถไฟเก่าที่จำลองบรรยากาศ ให้อารมณ์วินเทจเหมือนในยุคดั้งเดิมของญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยภาพศิลปะญี่ปุ่นร่วมสมัย พร้อมเสิร์ฟอาหารรสชาติกลมกล่อมที่มีให้เลือกหลากหลาย หากใครพร้อมที่จะออกเดินทางโดยรถไฟสายอิซากายะและเคล้าคลอความอร่อยไปในยามค่ำคืนแล้วล่ะก็ ตามเรามาได้เลย! ชวนทุกคนมาที่โครงการ The Camp : Vintage Flea Market เดินทางสะดวกเพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีกำแพงเพชร (ทางออกที่ 1) เดินเข้าไปด้านในโครงการจะพบกับร้านที่ตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดงเรียงรายอยู่โดยรอบตู้รถไฟนั่นแหละ คุณได้มาถึง “อิกกิ อิซากายะ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวร้านมีที่นั่งรับรองทั้งหมด 2 โซน โซนด้านในตู้รถไฟ มีโต๊ะเดี่ยว 2 โต๊ะ รวม 8 ที่นั่ง และโซนด้านนอกมีโต๊ะเดี่ยว 5 โต๊ะ รวม 20 ที่นั่ง ใครชอบดื่มด่ำบรรยากาศในตู้รถไฟหรือชอบความเปิดโล่งของโซนด้านนอก ก็เลือกกันตามใจชอบ บรรยากาศบริเวณด้านนอก หากใครชอบชมวิวต้องโซนนี้เลย บรรยากาศบริเวณด้านนอกมุมเครื่องดื่ม บรรยากาศบริเวณด้านใน เรื่องอาหารของที่นี่ก็ไม่เป็นรองใคร เรียกว่าถ้าขาดไปบรรยากาศในค่ำคืนนี้คงไม่สมบูรณ์ อย่างเมนูแรกที่เสิร์ฟมาร้อนๆ กับ Miso Ramen เส้นราเมนเหนียวนุ่มเสิร์ฟมาในซุปไก่ผสมหมูที่เคี่ยวนานกว่า 3-4 […]
Aburi Yatai (อะบุริ ยะไต)
Aburi Yatai อิซากายะบรรยากาศสนุกครึกครื้นในย่านสีลม ตัวร้านมี 2 ชั้น แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลาย ตกแต่งผนังด้วยสังกะสีเก่าสร้างความเป็นยะไตได้ดีมากเลย
Kelly’s (เคลลี่ส์)
ณ กลางซอยสุขุมวิท 51 หากใครเคยผ่านมาอาจสะดุดตากับร้านไม้หลังเล็กสีขาวตัดด้วยสีแดงของอิฐเปลือย ซึ่งภายในร้านตกแต่งด้วยโคมไฟหลากสีแนววินเทจยุค 50s ให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองเหมาะสำหรับมานั่งชิลหรือปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ก็ได้
Ajisan (อาจิซัง)
Ajisan ร้านอาหารญี่ปุ่นพร้อมเสิร์ฟทั้งราเมนเส้นเหนียวนุ่มในน้ำซุปเข้มข้น และ “ไส้กรอกโฮมเมด” ที่ได้รับการถ่ายทอดจากร้านโชสุเมยะ เมืองคารุอิซาวะ
Jizo Izakaya (จิโซะ อิซากายะ)
Jizo Izakaya อิซากายะในบรรยากาศญี่ปุ่นยุคเก่า พร้อมเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นหลากเมนู ให้บรรยากาศนั่งชิลสังสรรค์กับผองเพื่อนได้อย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งคืนเลยทีเดียว
Chousuke (ปิดกิจการ)
สำหรับคนอยากที่จะสัมผัสกับรสชาติในแบบฉบับฮอกไกโดแท้ๆ แนะนำว่าให้เดินทางมาที่ร้าน Chousuke ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไม่ได้มีดีแค่วัตถุดิบสดใหม่ที่นำเข้ามาจากเกาะฮอกไกโดเท่านั้น เพราะแม้แต่วิธีการปรุงอาหารทางร้านยังได้นำเอาเทคนิคและสูตรลับของการปรุงอาหารในแบบเฉพาะของชาวท้องถิ่นฮอกไกโดมาใช้ด้วยเช่นกัน
Yaoya (ปิดกิจการ)
แม้ไม่นำเสนอตัวเองให้โดดเด่น แต่อิซากายะขนาดกะทัดรัดแห่งนี้กลับเป็นที่วางใจของใครหลายคน เพราะนอกจากความเป็นกันเองของผู้ดูแลร้านชาวไทย ซึ่งมักจะทักทายและสมนาคุณลูกค้าด้วยของแถมเล็กน้อยเสมอแล้ว ห้องส่วนตัวพร้อมโทรทัศน์สำหรับชมรายการกีฬาต่างๆ (รวมถึงพรีเมียร์ลีก) ก็เป็นจุดเด่นที่ถูกกล่าวถึงเมนูหลากหลายของร้านอยู่ภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้ลูกค้าได้รับอาหารคุณภาพเดียวกับคนในครอบครัวตัวเอง
Hokkori (ปิดกิจการ)
ความโดดเด่นของร้านนี้ คือการดึงเอารสชาติความอร่อยของอาหารออกมาได้อย่างน่าสนใจ ด้วยกรรมวิธีพื้นบ้านอย่างการนำฟางข้าวมาใช้ในการปลุกเร้ากลิ่นรสของวัตถุดิบ ขณะเดียวกันยังสามารถเก็บกักรักษากลิ่นรสของอาหารจานนั้นไว้ได้เป็นอย่างดีก่อนที่จะเสิร์ฟถึงมือคนกิน
Nanohana (นาโนฮานา)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น บางท่านอาจรู้จักร้าน Nanohana จากจุดเด่นเรื่องอาหารตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไปในแต่ละเดือน หรือ Lunch Set ระดับพรีเมียม ที่เป็นเลิศทั้งเรื่องรสชาติ หน้าตา และปริมาณ แต่แก่นแท้ของร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอซาก้าแห่งนี้ที่หลายคนอาจยังไม่เคยลองคือ เมนูไคเซกิ
Sushi Na (ซูชินะ)
ข้าวหน้าปลาดิบภูเขาที่ปะทุความอร่อยจนพูนชาม! Sushi Na ร้านซูชิขนาดกะทัดรัดซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดินศูนย์การค้าฟอร์จูน​ทาวน์​  ที่โด่งดังในโลกโซเชียลด้วยเมนูข้าวหน้าปลาดิบภูเขาไฟพูนชาม เห็นจากในรูปว่ายิ่งใหญ่แล้วมาเจอของจริงอลังการยิ่งกว่า! เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยไปห้างสรรพสินค้าฟอร์จูนทาวน์มาบ้างแล้ว นอกจากจะเดินทางง่ายยังมีร้านรวงหลากหลายให้เลือกสรร แต่จะมีใครรู้บ้างว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่น ซุกซ่อนตัวเสิร์ฟความอร่อยอยู่ที่ชั้นใต้ดินด้วย ตัวร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย ผ่อนคลายด้วยโทนไม้สีอ่อนอบอุ่น ตัวร้านรองรับ 30-40 กว่าที่นั่งเชียวนะ  เมนูของร้านมีมากกว่า 100 เมนู มีทั้งซาชิมิ ซูชิ โรล มากิ ดงบุริ หรือเมนูครัวร้อนอย่างแซลมอนเทริยากิ ข้าวแกงกะหรี่หมู พิซซ่าญี่ปุ่น เป็นต้น ที่สำคัญราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ อย่างเมนูแรกที่คิจิอยากแนะนำเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเมนู Fuji San หรือ ข้าวหน้าปลาดิบภูเขา นั่นเอง! อยากจะบอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เสิร์ฟปลาดิบมาพูนชามทั้งแซลมอน ทูน่า ฮามาจิ ปลาไหล และอื่นๆ อีกมากมาย ความสูงกว่า 6 นิ้ว เมนูนี้อาจจะต้องกิน 2-3 คน ใครกินคนเดียวหมดนี่เราขอคาราวะเลย ข้าวหน้าปลาดิบคุณภาพดีเสิร์ฟมาในราคานี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว! Fuji San หรือ ข้าวหน้าปลาดิบภูเขา (359 บาท) Fuji […]
Hokkaido Style Ramen Danryuya (ฮอกไกโด สไตล์ ราเมน ดันริวยะ)
Hokkaido Style Ramen Danryuya ร้านอาหารที่ผสมรวมทั้งความเป็นญี่ปุ่นและจีนได้เข้ากันอย่างกลมกล่อม ปักหลักเริ่มต้นถิ่นฐานแรกที่ฮอกไกโด ด้วยความเข้มข้นในรสชาติและความพิถีพิถันในการปรุงแต่ละเมนู ทำให้ได้ใจทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทยไปเต็มๆ
Gindaco (กินดาโกะ)
ทาโกยากิลูกกลมโตสีเหลืองสวยกรอบนอกนุ่มในที่ สอดไส้ด้วยด้วยปลาหมึกยักษ์กรอบนุ่มหนึบหนับชิ้นใหญ่ ราดด้วยซอสรสชาติหวานเค็มที่เป็นเอกลักษณ์ที่ร้าน Gindaco
Nanpuu Okonomiyaki (นันปู โอโคโนมิยากิ)
Nanpuu Okonomiyaki ร้าน โอโคโนมิยากิ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 30 ปี ส่งตรงจากภูมิภาคคันไซที่กระจายความอร่อยไปยัง 35 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น
Kin Shabu (คิน ชาบู)
อิ่มอร่อยเป็นคู่ ทั้งบุฟเฟ่ต์ชาบูและบุฟเฟ่ต์แซลมอน จะดีแค่ไหนหากเราสามารถสั่งได้ทั้งบุฟเฟ่ต์ชาบูและบุฟเฟ่ต์แซลมอนได้ในร้านเดียว วันนี้เราพาทุกคนมาที่ร้าน KIN Shabu ร้านอาหารญี่ปุ่นที่พร้อมเสิร์ฟเมนูบุฟเฟ่ต์ทั้งชาบูและแซลมอนตลอด 90 นาที เราคนหนึ่งล่ะที่ขอพุ่งตัวเข้าไปจองโต๊ะคนแรก ก็เพราะว่ามันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มแบบนี้ให้อดใจไหวได้ยังไงล่ะ! วันนี้เราเดินทางมาที่ร้าน KIN สาขาเกตเวย์เอกมัย แต่หากใครเคยมาเดินเล่นน่าจะสงสัยเหมือนเราว่าทำไมที่นี่มีร้าน KIN ถึง 2 ร้าน เพราะว่าที่นี่มีทั้ง  KIN Donburi ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูดงบุริ เมนูเซ็ตข้าวหน้า หรือเมนูอื่นๆ ที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว เหมาะสำหรับใครที่ต้องการเติมความอิ่มแบบเร็วๆ หรือพนักงานออฟฟิศที่มาฝากท้องช่วงพักกลางวัน และอีกหนึ่งร้าน คือร้านที่เราจะพาทุกคนมาในวันนี้ นั่นคือ KIN Shabu ร้านที่พร้อมพรั่งไปทั้งรายการอาหารบุฟเฟ่ต์ชาบูและบุฟเฟ่ต์แซลมอน แถมยังมีบาร์อาหารให้เดินไปตักได้เรื่อยๆ ทั้งคาวและหวานครบจบที่นี่ ตัวร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นล่างส่วนใหญ่จะรับรองลูกค้าที่สั่งเมนูอาหารจานเดี่ยวและเมนูบุฟเฟ่ต์แซลมอน และชั้นบนสำหรับรับรองลูกค้าที่เลือกรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูเป็นหลัก หรือใครอยากนั่งบริเวณใดของร้านกระซิบสอบถามพนักงานได้เลย ตัวความมีที่ 2 ชั้น ตัวร้านเลยโปร่งโล่ง สว่าง ตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ จึงให้ความรู้สึกผ่อนคลายขณะรับประทานอาหารได้ดี ในส่วนของอาหาร หากใครที่อยากสั่งแต่ Shabu Buffet อย่างเดียว ราคา […]
Kikoroku (ปิดกิจการ)
Kikoroku ร้านราเมนจากโตเกียวที่ตอบโจทย์ทั้งสำหรับคนรักราเมนและคนรักสุขภาพ จุดเด่นคือซุปสูตรพิเศษที่บรรจงเคี่ยวกระดูกหมู กระดูกไก่ และปลาแห้ง นานหลายชั่วโมง ก่อนผสมกับซุปที่ปรุงจากเห็ด ผักและ พืชหัว รวม 9 ชนิด ทำให้ได้ซุปเข้มข้นที่ได้รสชาติจากผัก ที่เรียกว่า เวจิโปตะ (Vegepota)...
Hero Izakaya (ฮีโร่ อิซากายะ)
Hero Izakaya ร้านอิซากายะในย่านอารีย์ ที่มีคอนเซ็ปต์นำของสะสมอย่างตุ๊กตาซุปเปอร์ฮีโร่มาตกแต่งร้าน กินดื่มไปกับโลกในจิตนาการที่ยังคงความคลาสสิคในวัยเด็ก
Umenohana (อุเมะโนะฮานะ)
ประสบการณ์กว่า 40 ปี ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้านสาขาแรกที่จังหวัดฟุกุโอกะ ก่อนจะขยายเป็น 70 สาขาที่กระจายตัวอยู่ทั่วญี่ปุ่นในปัจจุบัน คือสิ่งที่ยืนยันความสำเร็จได้เป็นอย่างดี และนี่คือร้าน Umenohana สาขาเดียวที่มีอยู่ในเมืองไทย กับอาหารคอร์สเมนูในสไตล์ไคเซกิที่มีเต้าหู้คุณภาพดีเป็นจุดขาย
Takumi (ทาคูมิ)
หลากเมนูบุฟเฟ่ต์ อิ่มอร่อยได้แบบไม่จำกัดเวลา ที่ห้องอาหารญี่ปุ่นทาคูมิ  หากจะให้เอ่ยชื่อร้านอาหารญี่ปุ่นในโรงแรมที่ให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ พรั่งพร้อมทั้งเมนูอาหารให้เลือกสรรกว่า 100 เมนู ทั้งคาวและหวาน อิ่มอร่อยแบบไม่จำกัดเวลา อีกทั้งยังเดินทางง่ายเพราะใกล้รถไฟฟ้า คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “ห้องอาหารญี่ปุ่นทาคูมิ (Takumi)” ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา ย่านห้วยขวาง ตรงนี้นี่เอง เดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีรัชดาภิเษกเพียงชั่วครู่ก็จะพบตึกสูงของโรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด ด้านในโอ่อ่าด้วยโถงต้อนรับขนาดใหญ่ เดินตรงเข้าไปและมองไปทางขวาเล็กน้อยก็จะพบจุดหมายของเราในวันนี้ ตัวร้านตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มและอ่อน ทั้งเฟอร์นิเจอร์และโต๊ะ เก้าอี้ ในส่วนของผนังร้านเป็นแผ่นไม้ขนาดเท่าๆ กัน วางสลับระดับสูงต่ำ เว้นช่องว่างขนาดพอดี และสร้างความโปร่งด้วยการเจาะรูเป็นรูปวงกลมกระจายทั่วแผ่นไม้ ทำให้บรรยากาศที่ได้มีความโปร่งโล่ง และสว่าง แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ได้ดี  ภายในมีทั้งพื้นที่รับรองแบบโต๊ะเดี่ยวทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โซนเคาน์เตอร์บาร์ รวมกว่า 100 ที่นั่ง ทั้งยังมีห้องส่วนตัวที่พร้อมรองรับอยู่ด้านในทั้งหมด 4 ห้อง (ห้องส่วนตัวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ห้องเล็ก 700 บาท++ และห้องใหญ่ 1200 บาท++) ห้องส่วนตัวโดดเด่นด้วยที่นั่งห้อยขาสไตล์ญี่ปุ่น ให้ความโปร่งโล่งด้วยกระจกบานใหญ่มองเห็นวิวต้นไผ่ปลิวไหวๆ อยู่ด้านนอก ได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมแบบสุดๆ ทั้งเรียบหรูและตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสัมผัสอาหารญี่ปุ่นชั้นเยี่ยม ในการบริการชั้นเลิศ […]
Hagakure (ฮะกะคุเระ)
จากคัมภีร์ “ฮะกะคุเระ” ในตำนานของชาวญี่ปุ่น กล่าวถึงจิตวิญญาณและแนวทางแห่งนักรบที่แท้ ซึ่งอาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสมรภูมิรบ ทว่าในสมรภูมิแห่งอาหารก็สามารถยืนหยัดด้วยจิตวิญญาณได้เฉกเช่นเดียวกัน นี่คือสิ่งที่เชฟ Yoshihiro Yamamoto เชื่อมั่นและยึดถือเป็นคำสอนประจำใจ
SushiOO (ซูชิโอ)
SushiOO ต้นตำรับซูชิ 2 ชั้นเจ้าแรกในไทย ที่เสิร์ฟความยิ่งใหญ่มาแบบคูณสอง! เสิร์ฟความอร่อยมายาวนานกว่า 7 ปี ความอร่อยระดับพรีเมียมในราคาที่ใครๆ ก็กินได้
Uta Andon (อุตา อันดง)
Uta Andon ทีเด็ดของที่นี่คืออุด้งเส้นสดที่บดนวดขึ้นใหม่แบบวันต่อวัน ทั้งยังเข้ากันกับน้ำซุปหอมๆ ที่ปรุงขึ้นมาใหม่ในทุกๆ เช้านอกจากเมนูเส้นแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูน่าอร่อยอีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นซาชิมิ ซูชิ ชาบูชาบู นาเบะ ข้าวหน้าอาหาร ทะเล เทมปุระ ของทอด ของย่างและอีกมากมาย
Nojiya / Yushi Ramen (โนจิยะ / ยูชิ ราเมน)
ร้าน Nojiya/Yushi แม้จะเป็นร้านราเมนเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยความหลากหลายที่ทางร้านคัดสรรจากทั่วญี่ปุ่น และคงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมตามแบบฉบับราเมนท้องถิ่น ทั้งหมดปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องปรุงชั้นเลิศส่งตรงจากญี่ปุ่น ไม่ว่ามิโซะ โชยุ หรือทาเระ นับเป็นความหลากหลายในกลิ่นอายต้นตำรับญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
Yakinikudo (ปิดกิจการ)
เดินทางมายังย่านทองหล่อกันอีกแล้ว อย่างที่รู้กันว่าย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งสองข้างทางหลากหลายทั้งร้านซูชิ ร้านราเมน ร้านอิซากายะ และแน่นอนว่ามีร้านยากินิกุด้วย วันนี้คิจิขอชวนทุกคนมารู้จักร้านยากินิกุร้านหนึ่งที่มีความพิเศษไม่แพ้ร้านไหนๆ นั่นคือร้าน Yakinikudo นั่นเอง!
Yamazato (ยามาซาโตะ)
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนถามหาห้องอาหารญี่ปุ่นที่โดดเด่นเรื่องอาหารชุดไคเซกิ ชื่อของห้องอาหาร Yamazato มักจะได้รับการกล่าวถึงเป็นลำดับต้นๆ เสมอในหมู่คนญี่ปุ่น เพราะนี่คือห้องอาหารที่มีความเชี่ยวชาญในการนำเสนออาหารชุดไคเซกิได้อย่างสร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์โดดเด่น
Jaiko Sushi Buffet (ปิดกิจการ)
Jaiko Sushi Buffet ร้านอาหารญี่ปุ่นที่พร้อมเสิร์ฟเมนูบุฟเฟ่ต์หลากหลายกว่า 149 เมนู ให้อิ่มอร่อยกันได้ถึง 90 นาที เริ่มต้นที่ 599++ บาท เท่านั้น!
Botejyu Thailand (ปิดกิจการ)
Botejyu ร้านโอโคโนมิยากิแบบฉบับดั้งเดิมส่งตรงจากโอซาก้า คำว่า “โบเต” แปลว่าการพลิกด้าน ส่วนคำ “จู” แปลว่าเสียงที่เกิดเวลาพลิกแผ่นแป้งบนกระทะที่มีความร้อน
Tohkai Japanese Restaurant (โตไก)
Tohkai Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อคุ้นหูที่มีสาขากว่า 10 สาขา ปัจจุบันร้านนี้มีให้บริการ 2 รูปแบบ ทั้ง อาหารญี่ปุ่น และ ปิ้งย่าง ซึ่งวันนี้เราจะชวนทุกคนมาชิมรสชาติญี่ปุ่นแท้ของอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ ที่บอกเลยว่าเมนูที่เรายกมาแนะนำนี้ไม่สั่งไม่ได้จริงๆ
Sushi Hana (ซูชิ ฮานะ)
ละเมียดละไมไปกับรสชาติญี่ปุ่นดั้งเดิมและเมนูที่ผสานความเป็นไทยได้ลงตัว หากจะให้แนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผสานทั้งความดั้งเดิมและความร่วมสมัยได้อย่างลงตัวคงต้องมีร้านอาหารญี่ปุ่น Sushi Hana (ซูชิ ฮานะ) อยู่ในลิสต์เป็นแน่ ร้านนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญและความตั้งใจของ เชฟสุริยัน ปะวะเสนะ ผู้ชำนาญการทำอาหารศาสตร์ไคเซกิ (Kaiseki) มานานกว่า 25 ปี ด้วยเทคนิคการปรุงอาหารแบบพิเศษ จัดเสิร์ฟได้อย่างประณีตสวยงามและคงความละเมียดละไมถึงที่สุด ก่อนจะเสิร์ฟถึงมือลูกค้า Sushi Hana กระจายความอร่อยไปทั้งหมด 7 สาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งทุกสาขาก็มีลูกค้าประจำเชื่อใจและมั่นใจให้ร้านนี้เป็นที่ฝากท้องตลอดมา ใครที่มารับประทานบ่อยๆ เราแนะนำให้สมัครสมาชิกไว้เลย ค่าสมัคร 300 บาท / คน มีอายุสมาชิก 2 ปี ได้ทั้งสะสมแต้ม ถ้ามารับประทานในวันเกิดจะได้เมนูพิเศษจากทางร้าน และในเดือนเกิดจะได้ส่วนลดถึง 20 % เชียวนะ รับรองเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ   วันนี้เราเดินทางมาที่สาขา บางนา หน้าร้านโดดเด่นเห็นชัดมาแต่ไกลทำให้รู้เลยว่าที่นี่ชัวร์ไม่พลาดแน่ ด้วยการตกแต่งโดยใช้ไม้โทนสีเข้มวางเรียงเป็นระเบียบ เว้นช่องไฟให้พอโล่งตาก่อนจะวางชื่อและโลโก้ร้านรูปดอกไม้ขนาดใหญ่ (Hana ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ดอกไม้) ไว้กึ่งบริเวณกึ่งกลาง เป็นโทนสีน้ำตาลอบอุ่นตัดกับสีเขียวของสวนหน้าร้านได้อย่างลงตัว  ดูแค่ภายนอกอาจจะคิดว่าร้านคงไม่ใหญ่มาก แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปเราแอบตกใจอยู่เหมือนกัน […]
Tensui (เทนซุย)
อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขยันออกคอร์สเมนูไคเซกิใหม่ๆ มาให้ได้ลิ้มลองกันทุกเดือนตามช่วงฤดูที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งยังสร้างความประทับใจได้แต่แรกเห็น ด้วยความวิจิตรตระการตาของอาหารหลากเมนูในคอร์สที่ค่อยๆ ประดิษฐ์ประดอยดั่งงานฝีมือ
Tsukemen Jo (สึเคะเมน โจ)
สิ่งที่ทำให้เราแน่ใจว่าสึเคะเมนของ Tsukemen Jo เป็นเมนูที่โดดเด่นและขึ้นชื่ออย่างแท้จริงคือ กลิ่นหอมและความเข้มข้นจากซุปที่เคี่ยวไก่กับซุปปลาหลายชั่วโมงจนได้รสชาติที่ลงตัว รวมถึงเส้นราเมน ที่ทางร้านเลือกใช้เส้นแบบต่างๆ ตามประเภทของน้ำซุป เพื่อความเหมาะสมและขับรสชาติของราเมนในแต่ละชาม ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
Rice (ไรซ์)
RICE ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมด ที่อยู่ในความประทับใจมาตลอด 10 ปี ร้านที่ตั้งใจเสิร์ฟเมนูอาหารสไตล์ Home-cook ในเมนูอาหารญี่ปุ่นที่เลือกกินได้ทุกวัน ปรุงด้วยความใส่ใจคล้ายมีคุณแม่มาทำอาหารให้อย่างไรอย่างนั้น
Suehiro (ปิดกิจการ)
เริ่มต้นจากธุรกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าปลาสดที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นถึงเมืองไทยมานานหลายปี ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินอีกหนึ่งธุรกิจควบคู่กันไป ด้วยเห็นว่าไหนๆ ก็เป็นผู้นำเข้าปลาสดที่มีวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมอยู่ในมืออยู่แล้ว และเมื่อผู้นำเข้าปลาสดมาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นความสดของปลาเป็นสำคัญ ผลประโยชน์จึงตกอยู่ที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ
Unagi Sanya (อุนางิ ซันญ่า)
สิ่งที่ทำให้ร้าน Unagi Sanya โดดเด่น นอกจากวิธีปรุงแบบต้นตำรับญี่ปุ่นซึ่งหาได้ยากในไทยแล้ว ที่นี่ยังกำเนิดขึ้นจากความรักและความคลั่งไคล้ในเมนูปลาไหลอย่างแท้จริง นับแต่เข้าสู่วงการอาหารเมื่ออายุ 17 ปี เชฟผู้ก่อตั้งก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะยึดเมนูปลาไหลเป็นทางสายหลัก
Uma Uma! (อุมะอุมะ)
Uma Uma! พื้นที่สำหรับการกินดื่ม พูดคุย และจบมื้อด้วยราเมนสูตรพิเศษ ตามคอนเซปต์ของร้าน "กิน ดื่ม คุย" บรรยากาศจึงมีส่วนผสมของอิซากายะและร้านอาหารแบบไดนิงที่มีทั้งสาเก โชจู และไวน์ ทั้งยังมีอาหารท้องถิ่นจากฮาคาตะอีกด้วย
Yakiniku Kirabi (ยากินิกุ คิราบิ)
Yakiniku Kirabi เสิร์ฟแต่สิ่งดีๆ ให้ลูกค้าอยู่เสมอ ทั้งเนื้อวัว วัตถุดิบต่างๆ และยังมีห้องส่วนตัวเพื่อให้ลูกค้าได้กินไปคุยไป เพิ่มอรรถรสในการกินมากยิ่งขึ้น
Hama Ichi (ฮามะ อิจิ)
ร้าน Hama Ichi คือร้านอาหารญี่ปุ่นแบบนั่งสบายภายใต้เจ้าของเดียวกันกับร้าน Tensui (P.26) แต่ไลน์อาหารจะเน้นมาทางอาหารทะเลสไตล์ปิ้งย่าง ที่ให้บรรยากาศเงียบเชียบเรียบร้อยกว่าร้านอิซากายะโดยทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสนุกสนานแต่ไม่อึกทึกคึกโครมเท่าไรนัก มีเชฟผู้ดูแลอาหารเป็นชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี
Kuruma (คุรุมะ)
Kuruma ร้านอาหารญี่ปุ่นที่รวมทั้งเมนูฉบับดั้งเดิมและเมนูฟิวชั่นร่วมสมัย อีกทั้งละลานตาไปกับความหลากหลายของอาหารหลายประเภท พร้อมเสิร์ฟในบรรยากาศสบายใจด้วยเพลงบรรเลงเบาๆ และสบายตาในความโปร่งโล่งของร้าน
Hoshu Sushi (ปิดกิจการ)
Hoshu Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่พร้อมเสิร์ฟเมนูระดับพรีเมียม ด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อรังสรรค์เมนูด้วยความละเมียดละไม โดยวิธีการปรุงอย่างเชี่ยวชาญ
Saboten (ซาโบเตน)
กว่า 50 ปีที่ต้นตำรับทงคัตสึ "ซาโบเตน" ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ชินจูกุ ประเทศญี่ปุ่น จวบจนปัจจุบันได้ขยายกิจการไปกว่า 550 สาขาทั่วโลก เป็นเครื่องยืนยันถึงความนิยมที่คนรักทงคัตสึทั่วโลกมีให้กับซาโบเตนด้วยความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ
Carnival Yakiniku (คาร์นิวัล ยากินิกุ)
Carnival Yakiniku เป็นหนึ่งในร้านเนื้อย่างที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะให้บริการเนื้อย่างสูตรต้นตำรับญี่ปุ่นในไทยมากว่า 24 ปี และยืนยันเต็มเสียงว่าการคัดสรรเนื้อแต่ละส่วนนั้นพิถีพิถันยิ่งกว่าร้านใด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้าน จะหมักก่อนย่างหรือจิ้มก่อนกินก็ช่วยเสริมรสชาติของเนื้อได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
Naruto (ปิดกิจการ)
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอาซาฮิกาว่าบนเกาะฮอกไกโดจะได้รับความนิยมแล้ว ราเมนต้นตำรับของที่นี่ก็ขึ้นชื่อเช่นกัน ซึ่ง Naruto เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านของกรุงเทพฯ ที่ขายราเมนเฉพาะทาง และเลือกนำเสนออาซาฮิกาว่าราเมนจากฮอกไกโดนี้เอง จุดเด่นคือ ซุปเข้มข้นที่ผสมจากซุปทงโคะสึและซุปปลา
Ryoshi Sushi (เรียวชิ ซูชิ)
หากใครที่ร่างกายเรียกร้องอาหารญี่ปุ่นมาหลายวัน และอยากให้รางวัลตัวเองนิดๆ หน่อยๆ ด้วยการเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศน่านั่ง และที่สำคัญมีอาหารอร่อยให้เลือกเยอะๆ ล่ะก็ เรามีอยู่ร้านหนึ่งที่อยากแนะนำรับรองเลยว่าถูกใจทั้งบรรยากาศและรสชาติอาหารแน่นอน นั่นคือร้านอาหารญี่ปุ่น Ryoshi Sushi นั่นเอง!
Sushi Juban (ซูชิ จูบัน)
ถึงแม้ว่า Sushi Juban จะมีขนาดร้านที่ไม่ใหญ่โตและทำเลที่ตั้งไม่โดดเด่น จนใครหลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อ แต่การแนะนำร้านนี้เปรียบเสมือนการบอกทางสู่ขุมสมบัติล้ำค่าของคอซูชิ จากคำของเชฟที่ว่าถ้าหากไม่มีคนญี่ปุ่นพามา ยากจะเห็นชาวไทยย่างเท้าสู่ร้านนี้
ChouNan (โชนัน)
หลายคนคงคุ้นตากับร้านอาหารญี่ปุ่นที่คุมโทนร้านสีเหลืองสดสะดุดตา พบเจอได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป อีกอย่างที่คุ้นตาคือ โลโก้ร้านที่มีรูปชามข้าวแบบญี่ปุ่นวางอยู่บนพื้นดำตัดกับพื้นหลังสีเหลืองพร้อมตัวอักษรที่เขียนว่า Chounan และนี่คือร้านอาหารญี่ปุ่นที่พร้อมจะมาเป็นเพื่อนคุณในเวลาหิวได้ทุกวัน
TOBAN Dining 18 (โทบัน ไดนิ่ง 18)
TOBAN Dining 18 ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ โดดเด่นด้วยการเสิร์ฟอาหารแต่ละเมนูในกระทะใบเล็ก สนุกสนานด้วยการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟหลากสี
Suzuran Sushi (ซูซูรัน ซูชิ)
Suzuran Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศเท่ๆ สไตล์การ์ตูนญี่ปุ่น เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นหลากหลายรูปแบบหลากเมนู เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงเมนูให้ทันยุคสมัยอยู่เสมอ และได้กลายเป็นร้านโปรดของใครหลายๆ คนได้ไม่ยาก
Don (ดน)
ร้านซูชิของแท้โดยเชฟมือเก๋าที่หยิบเอาประสบการณ์กว่า 32 ปี มาโชว์ฝีมือให้คนไทยมีโอกาสได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่แท้จริงของซูชิในแบบดั้งเดิม เริ่มต้นจากวัตถุดิบสดๆ หลากหลายชนิดที่ส่งตรงจากทะเลของญี่ปุ่นสัปดาห์ละหลายครา ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น
Robata Genshiyaki (โรบาตะ เก็นชิยากิ)
เป็นที่รู้กันดีว่าวัตถุดิบจากทะเลฮอกไกโดนั้นเลื่องลือขึ้นชื่อในทุกด้าน แต่สำหรับ Robata Genshiyaki นอกจากวัตถุดิบชั้นเลิศแล้ว ยังอนุรักษ์วิธีปรุงดั้งเดิมอย่าง “เก็นชิยากิ” การย่างบนเตาถ่านขนาดใหญ่ โดยใช้ไม้เสียบปักกับพื้นทรายอิงไฟแทนตะแกรง
Ramen Kaosoi (ราเมงเข้าซอย)
สาวกอาหารญี่ปุ่นที่ชอบอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์มารวมตัวกันทางนี้ วันนี้คิจิจะพาไปรู้จักกับร้านอาหารญี่ปุ่นใจใหญ่ ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารหลากหลายทั้งอะลาคาร์ทและบุฟเฟ่ต์ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ที่จับทั้ง ราเมน ซูชิ และอาหารญี่ปุ่นอีกหลากหลายมาไว้ด้วยกัน นั่นคือร้าน Ramen Kaosoi นั่นเอง เชื่อเถอะว่าไม่มีใครให้มากกว่านี้อีกแล้ว!
Banya (บังยะ)
อีกหนึ่งร้านอิซากายะหรือร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่าในราคาที่ไม่แพงเกินไป แต่ทว่ายังคงไว้ซึ่งเสน่ห์และกลิ่นอายของอาหารญี่ปุ่นในสไตล์อิซากายะไว้ได้อย่างครบครัน ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศสบายๆ ที่ผ่อนคลายได้เต็มที่ ซึ่งมีทั้งส่วนของบาร์และห้องส่วนตัวไม่แพ้ร้านอิซากายะยอดนิยมในญี่ปุ่น
Date Sakaba (ดาเต้ ซาคาบะ)
Date Sakaba ร้านอาหารญี่ปุ่นจากจังหวัดมิยากิ สไตล์อิซากายะจากภูมิภาคโทโฮคุ ที่ปรุงแต่งโดยเชฟชาวญี่ปุ่นมากฝีมือจนกลายเป็นอาหารที่มีรสชาติและบรรยากาศเฉพาะตัว
Isshin (อิชชิน)
ร้าน Isshin ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ด้านหลังห้างเอ็มโพเรียม บนซอย สุขุมวิท 24 มองผ่านๆ อาจดูเหมือนบ้านสีขาวโอ่อ่าธรรมดา แต่เมื่อเปิดประตูไม้บานเลื่อนก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น
Hokkaido Genshiyaki & Kamameshi (ฮอกไกโด เก็นชิยากิ แอนด์ คามะเมชิ)
ต้นตำรับฮอกไกโด สาขาที่ 3 แล้ว สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นสุดโดดเด่นในเรื่องของเมนูซีฟู้ดสดๆ ส่งตรงจากเมืองท่าเกาะฮอกไกโด รับประกันความสดโดยชาวประมงท้องถิ่น รวมไปถึงเทคนิคการปรุงอาหารแบบโบราณของชาวฮอกไกโด เน้นการใช้ถ่านไม้แบบวิถีดั้งเดิม บรรยากาศร้านทั้งตัวอาคารและการตกแต่งดูสวยงามและกว้างขวางกว่า 2 สาขาแรก และอีกหนึ่งความพิเศษของสาขานี้คือเมนูข้าวหุงปรุงรสที่เรียกว่า “คามะเมชิ” ซึ่งมีหลายชนิด ไม่ว่าหน้าไข่ปลา หน้ากุ้ง หรือหน้าหอยเชลล์ และยังมีข้าวหน้าปลาดิบหลากประเภทซึ่งเป็นของขึ้นชื่อจากฮอกไกโด รวมถึงเมนูยอดนิยมจากสาขาอื่น นอกเหนือจากอาหาร บรรยากาศและการตกแต่งของที่นี่ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ไฮไลท์ของที่นี่คือการย่างปลาแบบ “genshiyaki” ภูมิปัญญาดั้งเดิมในการปรุงอาหารของชาวฮอกไกโด กับความชำนาญในการใช้พลังงานความร้อนจากไฟในอุณหภูมิที่พอเหมาะ ด้วยการเว้นระยะห่างระหว่างไฟกับวัตถุดิบ วิธีนี้จะทำให้ปลามีกลิ่นหอม หนังกรอบ แต่เนื้อข้างในยังคงชุ่มฉ่ำ เพราะเชื่อว่าการย่างแบบนี้จะทำให้เนื้อปลามีรสชาติอร่อยที่สุด Genshiyaki เทคนิคการย่างแบบโบราณของชาวฮอกไกโด ความแรงของไฟถือเป็นตัวกำหนดความอร่อยของเมนูนี้อย่างแท้จริง อีกหนึ่งวัตถุดิบพรีเมี่ยมที่เราอยากแนะนำ คือ Hon Maguro เนื้อปลาทูน่าส่วนท้องที่ว่ากันว่าอร่อยและมีราคาแพงที่สุด เพราะเต็มไปด้วยเนื้อนุ่มๆ และชั้นไขมัน โดยที่ร้านนำเข้าจากตัวแทนจำหน่ายปลาทูน่าอันดับหนึ่งของตลาดปลาซึกิจิเลยทีเดียว สดๆ จากตลาดปลาซึกิจิ ให้เห็นชัดๆ กันไปเลย ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ซีฟู๊ดเพียงอย่างเดียว มาดูทางฝั่งเนื้อกันบ้างเราขอแนะนำเมนู Furano Wagyu Ribeye Nigiri Sushi ซูชิเนื้อวัววากิวฮอกไกโดจากเมืองฟุราโนะ เมืองที่เงียบสงบและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรและทัศนียภาพทางธรรมชาติ […]
Kisso (คิสโสะ)
ห้องอาหารญี่ปุ่น Kisso ตั้งอยู่ในโรงแรม The Westin Grande Sukhumvit, Bangkok คอยสร้างความประทับใจให้นักเดินทางมาตลอด 21 ปี โดยล่าสุดได้รับรางวัลห้องอาหารญี่ปุ่นยอดเยี่ยมจากนิตยสารไทยแลนด์ แทตเลอร์ ประจำปี 2015 และ 2016 เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน
Genshiyaki Sukhumvit 26 (เก็นชิยากิ สุขุมวิท 26)
หลังจาก Robata Genshiyaki เปิดให้บริการอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงจากฮอกไกโดถึงกรุงเทพฯ เป็นสาขาแรก ด้วยรสชาติถูกปากและราคาถูกใจนักชิม ทำให้เมนูของที่นี่เป็นที่เลื่องลือ นำทางสู่การเปิดสาขาที่ 2 คือ Restaurant Genshiyaki
Arizuki (อาริซึกิ)
ร้าน Arizuki เปิดสาขาแรกที่โตเกียวเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ช่วงเวลานั้นแม้แต่ในโตเกียวเอง การจะหาร้านที่เปิดขายนาเบะในซุปมิโซะสไตล์ฟุกุโอกะแท้ๆ แบบนี้ก็ยังหายาก การที่ร้านนี้มาเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ทำให้สามารถหานาเบะที่มีคุณภาพจริงๆ ได้โดยไม่ต้องไปไกลถึงฟุกุโอกะ หรือโตเกียว
Hinaya (ปิดกิจการ)
เมนูหลักของที่นี่เน้นเนื้อไก่เป็นส่วนประกอบ โดยเลือกใช้ไก่สดใหม่คุณภาพดีวันต่อวัน คิดค้นดัดแปลงแต่ละเมนูจนมีรสชาติเฉพาะตัว เช่น ซุปนาเบะที่ใช้ไก่ทั้งตัวเคี่ยวนานถึง 6 ชั่วโมง...
Bankara Ramen (บังคาระ)
Bankara Ramen อีกหนึ่งร้านราเมนชื่อเสียงโด่งดังทั้งในประเทศญี่ปุ่นเองและในประเทศไทย ด้วยมาตรฐานและกลิ่นอายต้นตำรับทุกอย่างนับแต่รสชาติจนถึงภาชนะ บรรยากาศ ความทุ่มเทของพนักงานในการต้อนรับทุกครั้งด้วยเสียงดังฟังชัด และความเข้มข้นของน้ำซุปทงคตสึอันเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างไม่เหมือนใคร
Sushi Hinata (ซูชิ ฮินาตะ)
Sushi Hinata ร้านซูชิที่ขยายสาขาจากเมืองนาโกย่า ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี บรรยากาศเยี่ยมมองเห็นวิวสีเขียวสบายตาผ่านกระจกกว้าง 180 องศา ด้านหน้าตาอาหารทุกจานก็ล้วนตกแต่งร้อยเรียงออกมาได้อย่างประณีต จากฝีมือการรังสรรค์โดยเชฟชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์มากกว่า 21 ปี
Naniwa (นานิวะ) (ปิดกิจการ)
อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่ต่อยอดความสำเร็จ มาจากร้านอาหารในตำนานย่านสุขุมวิทอย่างร้าน Hakata (P.126) ทว่าแม้ความเก่าแก่จะไม่เท่า แต่ความเก๋าในเรื่องรสชาตินั้นพอกัน โดยเฉพาะรสชาติที่เรียบง่ายได้มาตรฐานญี่ปุ่น และการให้ความสำคัญกับวัตถุดิบสดใหม่
Yokoi Udon (ปิดกิจการ)
นับจาก Uta Andon สาขาแรกในกรุงเทพฯ เปิดเมื่อ 24 ปีที่แล้ว ร้านอาหารเลื่องชื่อนี้ดำเนินการต่อเนื่องยาวนาน เติบโตและพัฒนาจนเกิด Yokoi Udon ร้านในเครือเดียวกันที่เน้นเมนูซานูกิอุด้ง ซึ่งเป็นอุด้งที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่น
Kawa Izakaya Samurai (คาวะ อิซากายะ ซามูไร)
Kawa Izakaya Samurai อิซากายะสไตล์โอซาก้า อีกหนึ่งทางเลือกของนักชิมในย่านเจริญนครฝั่งธนบุรี  การันตีความอร่อยโดยเชฟที่มีประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่น กว่า 30 ปี
TANK Restaurant and Cafe (ปิดกิจการ)
เราขอนำเสนอ TANK Restaurant and Cafe ร้านที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์สุดเจ๋ง โดยการทำร้านอาหารญี่ปุ่นให้เหมือนกับ “โลกใต้น้ำ” ที่เต็มไปด้วยฝูงปลานานาชนิด โดยนำตู้ปลามาเป็นส่วนสำคัญในการตกแต่งร้าน
Kinshiro (คินชิโร่)
หนึ่งในร้านไม่กี่ร้านในกรุงเทพฯ มีที่ใช้เนื้อวากิวนางาซากิของแท้ ที่ร้านคัดเลือกเฉพาะเนื้อระดับ A4 มาทำเป็น Sirloin Steak หรือจะเป็นเมนู Aburi Sukiyaki (เนื้อสไลด์บางหมัก ด้วยซอสสุกี้ยากี้ที่นำไปย่างกับหินร้อนๆ แล้วชุบไข่พร้อมรับประทาน)
Marumomo Ramen (มารุโมโมะ ราเมน)
Marumomo Ramen ร้านราเมนต้นตำรับญี่ปุ่นที่โดดเด่นด้วยน้ำซุปกระดูกหมูสไตล์โตเกียวและสไตล์นากาโน่ พร้อมเสิร์ฟน้ำซุปที่เอาใจคนรักสุขภาพอีกด้วย
Menya Nakano (ปิดกิจการ)
Menya Nakano ร้านราเมนที่พร้อมเสิร์ฟความเผ็ดร้อนรสกลมกล่อมแบบฉบับญี่ปุ่นตระกูล Tantan Men โดดเด่นในด้านรสชาติที่จัดจ้านของน้ำซุปเผ็ดมีให้เลือกถึง 7 ระดับ
Ramen HABU (ราเมน ฮาบุ)
Ramen HABU เสิร์ฟความเข้มข้นไปกับราเมน 6 น้ำซุป ต้นตำรับจากแต่ละจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น นี่แหละที่เขาเรียกว่าแหล่งรวมคนรักราเมนที่แท้จริง!
Jidori Cuisine Ken (จิโดริ คุยซีน เคน)
หากพูดถึงเมนูไก่ย่างของบ้านเราอาจจะดูธรรมดา แต่ถ้าเป็นไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นหรือยากิโทริที่ร้าน Jidori Cuisine Ken แห่งนี้ไม่มีอะไรที่ธรรมดาเลย ตั้งแต่ไก่ที่มาจากฟาร์ม ตัวถ่าน วิธีการย่าง และเครื่องปรุงสูตรพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจหากราคาต่อไม้อาจจะดูสูงสักหน่อย แต่เมื่อได้ลองชิมก็จะบอกว่าคุ้มค่ากับรสชาติ
Ebisu Sushi (เอบิสึ ซูชิ)
Ebisu Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่จะชวนทุกคนนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในบรรยากาศคล้าย “ยุคโชวะ” หรือยุคเปลี่ยนผ่านของประเทศญี่ปุ่น ที่มีแต่ความสนุกสนานให้ไปลองสัมผัส ถ้าคุณเห็นเจ้าก็อตซิลล่าตัวโตถือป้ายแนะนำเมนูอยู่หน้าร้านล่ะก็นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณได้มาถึง Ebisu Sushi เป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะ
Ramenga (ราเมงอะ)
Ramenga ร้านราเมนที่เริ่มต้นความอิ่มท้องในราคาที่น่าคบเพียง 80 บาท กลมกล่อมด้วยน้ำซุปทงคัตสึหอมกรุ่นและน้ำซุปต้มยำรสชาติเข้มข้น ได้ทั้งความอร่อยและความสุขใจไปพร้อมๆ กัน
KARE Curry House (คาเร เคอรี่ เฮ้าส์)
คอมฟอร์ตฟู้ดที่หนึ่งในใจกับข้าวแกงกะหรี่โฮมเมดสไตล์ ย่านคลองสาน KARĒ Curry House ร้านข้าวแกงกะหรี่สุดโฮมเมด ตั้งอยู่อย่างเป็นกันเองที่ย่านคลองสาน เสิร์ฟข้าวแกงกะหรี่กลิ่นหอมกรุ่น พร้อมท็อปปิ้งที่หลากหลาย จากความตั้งใจของเจ้าของร้านผู้ที่รักการทำอาหารอย่างที่สุด!
Yakiniku Joeng (ยากินิกุ โจเอง)
Yakiniku Joeng ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นในซอยธนิยะ โดดเด่นด้วยเนื้อคุณภาพดีในบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นยุคเก่า พร้อมที่นั่งรับรองทั้งโต๊ะเดี่ยวและห้องส่วนตัว
Sushi Tama (ซูชิ ทามะ)
ความหลากหลายและความสดใหม่ของวัตถุดิบเรียกว่าเป็นจุดเด่นของ Sushi Tama เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ทางร้านนำเข้าวัตถุดิบทุกอย่างเองโดยตรง ความจริงจังและจริงใจส่งผ่านคุณภาพชั้นเยี่ยมของแต่ละวัตถุดิบผสมรวมกับความพิถีพิถันในการปรุงอาหาร ก่อนจะมาเสิร์ฟตรงหน้าให้เราลิ้มลองได้ในราคาสบายกระเป๋า
Ippudo (อิปปุโดะ)
แม้ราเมนจะเป็นเมนูที่นิยมทั้งในหญิงและชาย แต่หลายครั้งภาพที่เห็นคือในร้านมีเพียงลูกค้าชายเท่านั้น เนื่องจากเป็นอาหารค่อนข้างหนัก บรรยากาศร้านมักจะเรียบง่าย ไม่หรูหรา ทำให้สุภาพสตรีส่วนมากอาจไม่นิยมนัก แม้ชื่นชอบรสชาติของราเมนก็ตาม Ippudo จึงเป็นตัวแทนร้านสำหรับหญิงสาว
Joushitsu Sushi (โจชิซึ ซูชิ)
Joushitsu Sushi ร้านซูชิในย่านเอกมัย พร้อมเสิร์ฟเมนูสุดพรีเมียมที่หลากหลาย รังสรรค์แต่ละเมนูด้วยเชฟมากประสบการณ์ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี ในบรรยากาศที่เคล้าคลอความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม แต่อบอุ่นราวกับนั่งรับประทานอาหารที่บ้าน
Kitsune No Oudon (คิทสึเนะ โนะ โอะอุด้ง)
หากคิดถึงความนุ่มหนึบของเส้นอุด้ง อวบอ้วนเคี้ยวแล้วเด้งดึ๋งในปากแล้วล่ะก็ ร้าน Kitsune No Oudon ต้องเป็นอีกหนึ่งร้านที่อยู่ลิสต์ของหลายคนเป็นแน่ บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมทั้งด้านหน้าร้านและด้านใน พร้อมเสิร์ฟอุด้งร้อนๆ ชามโตจากสูตรเชฟชาวญี่ปุ่นขนานแท้ให้ละเลียดจนน้ำซุปหยดสุดท้าย
Kitaohji (คิตะโอจิ)
ความไม่ธรรมดาของอาหารญี่ปุ่นในคอร์สเมนูไคเซกิของร้านนี้ มิใช่แค่ความพิถีพิถันในการปรุงอาหาร หากแต่ยังใส่ใจในทุกกระบวนการอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์หนึ่งเดียวที่ทางร้านคาดหวังไว้ คือการสร้างความประทับใจอย่างถึงที่สุดให้กับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ