• Bookmark
  • Share

Uma Uma! (อุมะอุมะ)

  • Bookmark
  • Share

สุขุมวิท 23

  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 500 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = น้อย
    เนื้อวัว = ปานกลาง
    ผัก = ปานกลาง
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    มาก
  • Special
    Special
    มีเชฟญี่ปุ่น
    มีห้องส่วนตัว
    มีสาขาที่ญี่ปุ่น
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด
    มีโชจูมากกว่า 10 ชนิด

ตำนานฮากาตะราเมน

ถ้าจะให้เล่า … คงต้องย้อนไปไกล ถึงสมัยช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

จากร้านราเมนเล็กๆ ริมถนนย่านฮากาตะ จังหวัดฟุกุโอกะ ค่อยๆ เก็บหอมรอมริบจนในปี 1953 ได้เปิดร้านราเมนเป็นของตัวเองในชื่อ Umaro (ผู้ก่อตั้งร้านคือคุณพ่อของท่านประธานคนปัจจุบัน) ถัดมาอีก 41 ปี ในปี 1994 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น Uma Uma และย้ายร้านมาอยู่หน้าสถานีรถไฟฮากาตะ ทั้งหมดนั่นคือที่มาแบบย่อๆ ของตำนานซุปทงคตสึอันเลื่องชื่อ ที่กล่าวขานกันว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

เกิดเป็นแฟรนไชส์สาขาสุขุมวิทซอย 23 สาขา The Commons ทองหล่อ 17 และสาขาสุรวงศ์ที่เรามากันในวันนี้ (ปัจจุบันเหลือเพียงสาขาสุขุมวิท 23) สำหรับสาขานี้ตั้งตัวเป็นพื้นที่สำหรับการกินดื่ม พูดคุย และจบมื้อด้วยราเมนสูตรพิเศษ ตามคอนเซปต์ของร้าน “กิน ดื่ม คุย” บรรยากาศจึงมีส่วนผสมของอิซากายะและร้านอาหารแบบไดนิงที่มีทั้งสาเก โชจู และไวน์ ทั้งยังมีอาหารท้องถิ่นจากฮาคาตะอีกด้วย

อย่างแรกที่ต้องพูดถึงคือความโดดเด่นมีสไตล์ในการตกแต่งร้าน ดึงดูดสายตาด้วยอาคารปูนเปลือย 3 ชั้น ที่ผสมผสานตัวอาคารกับโครงสร้างไม้ไผ่ได้อย่างลงตัวและแปลกตา ภายในร้านตกแต่งเรียบง่าย ให้อารมณ์อบอุ่น มีกลิ่นอายของบรรยากาศในแบบเซน ชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่ของห้องครัว เคาน์เตอร์ และชุดโต๊ะ เก้าอี้ ทางฝั่งขวามีบันไดเดินไปสู่ชั้นสองของร้าน แบ่งพื้นที่เพื่อยกพื้นสูงสำหรับนั่งรับประทานบนเสื่อแบบญี่ปุ่น เหมาะกับการนั่งสังสรรค์ ส่วนชั้นบนสุดแบ่งเป็นห้องจัดเลี้ยงไซส์ต่างๆ รองรับความเป็นส่วนตัว

ความโดดเด่นของงานไม้ ทั้งโครงสร้างโดยรวมและการตกแต่ง

ชั้น 3 แบ่งเป็นห้องส่วนตัวขนาดต่างๆ รองรับการสังสรรค์

เมนูแรกที่แนะนำ Uma Uma Original Ramen ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูรสต้นตำรับของทางร้าน กับความหอมและเข้มข้นของน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวนานหลายชั่วโมง ให้รสเค็มนิดๆ เรื่องความเข้มข้นบอกเลยว่าไม่แพ้เจ้าอื่นๆ ชามถัดไปเป็น Uma Uma Aka Ramen (Spicy) ราเมนรสเผ็ดร้อนจากส่วนผสมของน้ำมันพริกเผา เข้ากันกับเส้นที่เลือกใช้เส้นขนาดเล็ก กลม เพิ่อรสสัมผัสแปลกใหม่เวลาเคี้ยว

Uma Uma Original Ramen (150/220 บาท)

Uma Uma Aka Ramen (Spicy) (150/220 บาท) ราเมนรสเผ็ดจากน้ำมันพริกเผา เผ็ดร้อนใช้ได้เลย

ชามถัดไปแนะนำ Bushi Tonkotsu Ramen ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูผสมปลาแห้ง ชามนี้เลือกใช้เส้นราเมนขนาดกลาง เพื่อให้เข้ากับน้ำซุปรสเข้มข้นแต่ไม่เลี่ยน ด้วยส่วนผสมของน้ำซุปกระดูกหมูสูตรของร้านและปลาแห้ง จึงได้กลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมท็อปปิ้งอย่าง หมูชาชู หน่อไม้ ต้นหอม และถั่วงอก  ปิดท้ายด้วย 2 เมนูกินเล่นแต่ขายดีสุดๆ Torikawa หนังไก่ปิ้งของดีย่านฮากาตะ โดยใช้หนังไก่คัดพิเศษ ทำการขูดชั้นไขมันใต้ผิวหนังไก่ออกจนหมด ก่อนนำไปเสียบไม้และปิ้งด้วยไฟอ่อนๆ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที จนกระทั่งน้ำมันไหลออกจนหมด จะได้หนังไก่ที่กรอบนอกนุ่มใน กลิ่นและรสชาติของซอสช่วยเพิ่มรสชาติความหวานหอมยิ่งขึ้น และ Tebasaki Karaage ปีกไก่ทอดรสชาติระดับเทพ (ในเมนูเขาเขียนแบบนี้จริงๆ) ทางร้านนำปีกไก่ไปหมักเกลือนิดหน่อย ก่อนนำมาคลุกแป้งบางๆ เพื่อความกรอบ ทอดในน้ำมันร้อนๆ จนสุกก่อนทาด้วยซอสสูตรเด็ด ยกมาเสิร์ฟร้อนๆ หนังกรอบ เนื้อฉ่ำ อร่อยล้ำสุดบรรยาย

Bushi Tonkotsu Ramen (240 บาท) ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูผสมปลาแห้ง หอม กลมกล่อม

Torikawa (2 ไม้ 100 บาท) หนังไก่ปิ้ง ของดีย่านฮากาตะ สัมผัสนอกกรอบๆ แต่ข้างในยังคงชุ่มฉ่ำ

แม้จะดูเป็นเมนูง่ายๆ แต่ยังคงพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน

Tebasaki Karaage (160 บาท) ปีกไก่ทอดรสชาติระดับเทพ อีกหนึ่งเมนูกินเล่นที่ลูกค้าสั่งบ่อยเช่นกัน

นอกเหนือจากนี้ อีกหนึ่งวัฒนธรรมของราเมนสไตล์ฮากาตะ นั่นคือการเลือกเส้นราเมนแบบแข็งที่เรียกว่า “Bari Kata” หรือใครอยากเลือกระดับความแข็งของเส้นราเมนแบบไหน แจ้งกับทางพนักงานได้เลย Uma Uma! อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศดี อาหารอร่อย ที่ไม่ว่าจะไปนั่งซดราเมนคนเดียว สั่งนาเบะกินกัน 2-3 คน หรือสั่งอาหารพร้อมเครื่องดื่มปาร์ตี้ฉลองยกแก๊ง เรามั่นใจ ว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งมื้อพิเศษของคุณ

Mazesoba (Dry Ramen) 250 บาท

ราเมนแบบแห้ง กับหลากหลายท็อปปิ้งที่ใส่มาให้เยอะมากๆ ก่อนกินคลุกเคล้าให้เข้ากันเพื่อความกลมกล่อม

Motsu Nabe (590 บาท : 2 คน)

นาเบะไส้วัว สุดยอดหม้อไฟของดังจากฮากาตะ มีให้เลือกทั้งซุปเกลือ โชยุ และมิโซะ โดยทางร้านนำเข้าไส้วัวจากประเทศญี่ปุ่น นำมาล้างและตัดตกแต่งอย่างพิถีพิถัน พร้อมท็อปปิ้งที่ให้เราเลือกได้ตามใจชอบ

Hitokuchi Gyoza (10 ชิ้น 130 บาท)

ปิดท้ายเมนูด้วยเกี๊ยวซ่าสไตล์ฮากาตะ ที่นิยมแบบ "ฮิโตคุจิ" หรือเกี๊ยวซ่าชิ้นเล็กแบบพอดีคำ ห่อสดๆ ด้วยมือทุกวัน กินพร้อมน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ผสมน้ำมันพริกเผา เพื่อความหอมมากยิ่งขึ้น

Map