ไคเซกิที่โดดเด่นเรื่องปูและเต้าหู้แสนอร่อย

ประสบการณ์กว่า 40 ปี ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้านสาขาแรกที่จังหวัดฟุกุโอกะ ก่อนจะขยายเป็น 70 สาขาที่กระจายตัวอยู่ทั่วญี่ปุ่นในปัจจุบัน คือสิ่งที่ยืนยันความสำเร็จได้เป็นอย่างดี และนี่คือร้าน Umenohana สาขาเดียวที่มีอยู่ในเมืองไทย กับอาหารคอร์สเมนูในสไตล์ไคเซกิที่มีเต้าหู้คุณภาพดีเป็นจุดขาย ทั้งยังรังสรรค์กรรมวิธีการกินเต้าหู้ได้อย่างสนุกและมีสีสัน อีกหนึ่งเมนูที่โดดเด่นไม่แพ้เต้าหู้ คือเมนูปูแสนอร่อยหลากหลายชนิด ที่นำเข้าวัตถุดิบสดใหม่มาจากฮอกไกโด ทั้งปูทาราบะและปูซูไวเนื้อหวาน ขณะที่เมนูอื่นๆ ในคอร์สไคเซกิและเมนูอะลาคาร์ท ทางร้านก็ให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งเรื่องวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลและวิธีการปรุงอย่างพิถีพิถัน บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าอาหารไม่ใช่แค่การดับกระหาย แต่ยังสามารถช่วยเติมเต็มคุณค่าทางจิตใจให้กับทุกคนได้ พร้อมบริการจากพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี

เต้าหู้ที่อยู่เหนือความคาดหมาย

อย่างที่บอกไปว่า ร้านนี้มีเต้าหู้เป็นพระเอก ถึงขนาดจัดตั้งโรงงานผลิตเต้าหู้ของตัวเองขึ้นในเมืองไทย เพื่อผลิตเต้าหู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านคุณภาพที่มากพอจะนำมาใช้ในการปรุงอาหาร อีกทั้งยังเลือกใช้เฉพาะเมล็ดถั่วเหลืองคัดสรรที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ก่อนจะรังสรรค์เป็นเมนูเต้าหู้ที่อยู่เหนือความคาดหมายได้อยู่เสมอ หนึ่งในตัวอย่างเมนูเต้าหู้ที่น่าสนใจและหากินได้ที่นี่เท่านั้นคือ เมนู Fuku Fuku Tofu กับการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีประสบการณ์ในการทำเต้าหู้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ก่อนจะได้อร่อยกับเต้าหู้เนื้อเนียนที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ พร้อมซอส 2 ชนิด คือซอสมาโบใส่หมูสับและซอสผักผสมยูบะ (ฟองเต้าหู้) รสชาติกลมกล่อม

Hikiage Yuba (450 บาท)

อีกหนึ่งเมนูเต้าหู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้อร่อยและสนุกสนานกับการทำฟองเต้าหู้ด้วยตัวเอง เมื่อน้ำเต้าหู้ได้รับความร้อนจะเกิดเป็นแผ่นฟองเต้าหู้ที่ผิวหน้า ใช้ตะเกียบคีบกินพร้อมยูซุกับโชยุ ทั้งอร่อยและสนุกสมกับที่เป็นหนึ่งในเมนูขายดี

ผ่อนคลายในห้องแบบญี่ปุ่น

บรรยากาศของห้องรับรองที่เป็นส่วนตัวในสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งสร้างความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายได้ในคราวเดียว ผ่านพื้นห้องที่ปูไว้ด้วยเสื่อทาทามิ ประตูบานเลื่อนไม้ และการสร้างบรรยากาศให้มีกลิ่นอายของสวนญี่ปุ่นเล็กๆ ก็ดูลงตัว