โตเกียวคราฟต์ที ชาดีต้องชงเอง
เย็นวันสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย ฉันเลือกเดินเที่ยวโตเกียวแบบไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ จากละแวกที่พัก เพื่อหนีความวุ่นวายในสถานีรถไฟ ร้านท้ายสุดที่บังเอิญเดินมาเจอซ่อนตัวอยู่บนถนนเล็กๆ เงียบๆ ตลอดทั้งทริปฉันเข้าร้านกาแฟจนนับร้านไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แวะร้านชา
จริงๆ ฉันชอบดื่มชามาก มาโตเกียวเที่ยวก่อน เพื่อนชาวญี่ปุ่นได้พาไปร้านที่เสิร์ฟชาเขียวขึ้นชื่อจากหลายแหล่งทั่วประเทศคู่กับขนมญี่ปุ่นอย่างดังโงะไทยากิ บรรยากาศแตกต่างจากร้านนี้ที่ขายชาเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีขนมขายและไม่มีที่ให้นั่งดื่ม จะว่าไปบรรยากาศที่นี่ดูคล้ายกับร้านกาแฟแบบ Coffee Stand หลายร้านที่ฉันไปมา แต่ร้านชาเล็กๆ แห่งนี้พิเศษกว่านั้น
ผนังตึกภายนอกก่ออิฐโชว์แนวกับป้ายตัวอักษรชื่อร้านเล็กๆ และโนเร็นหรือม่านผ้าญี่ปุ่นโบราณแขวนไว้เหนือประตู ทำให้เดาได้ว่านี่คงไม่ใช่ร้านชาแบบมินิมัลเรียบหรูแน่ๆ และก็คงไม่ใช่ร้านชาแบบวินเทจเกียวโตอีกเช่นกัน แต่ชวนให้แอบคิดถึงความฮิปสเตอร์แบบพอร์ตแลนด์ที่ผสมความเป็นญี่ปุ่นไว้อย่างแนบเนียน
ร้าน Nakamura Tea Life Store เป็นร้านเล็กๆ ที่ขายชาเขียวของตระกูลนากามุระ จากเมืองฟูจิเอดะ (Fujieda) จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) ซึ่งทำกิจการปลูกชาเขียวมากว่าร้อยปี และเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์เมื่อ 30 ปีมานี้ ชาเขียวที่จำหน่ายมีให้เลือกหลากชนิดจาก 3 แหล่งปลูก จึงมีชาหลายระดับราคาให้เลือกซื้อ โดยพนักงานจะเชิญชวนให้เราลองชิมชาหลายๆ ชนิดก่อน เพื่อเลือกซื้อชาได้ตรงตามความต้องการที่สุด แถมยังอธิบายความแตกต่างของชาแต่ละชนิดให้คนที่ไม่คุ้นเคยสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายๆ แต่จะว่าไปในฐานะที่เป็นคนต่างชาติ ฉันคิดว่าสิ่งที่ช่วยให้รู้สึกไม่เหวอที่สุดก็คือฉลากภาษาอังกฤษกับดีไซน์ร่วมสมัยที่ติดอยู่บนหีบห่อชานั่นเอง แตกต่างจากหีบห่อของชาเขียวทั่วไปที่มักจะใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก ทำให้เราต้องรอฟังคำอธิบายจากผู้ขายเท่านั้น หรือไม่ก็ต้องหลับหูหลับตาเลือกซื้อไปโดยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชานั้นเลย
ฉันลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับชาร้านนี้ คุณนากามุระ มิจิโอะ (Michio Nakamura) ผู้บริหารคนปัจจุบันซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 4 เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เขาอยากให้ผู้บริโภคกับผู้ผลิตชาเขียวเข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น และอยากให้คนรุ่นใหม่ได้เพลิดเพลินกับการดื่มชา ตัวเขาเองคลุกคลีกับทุกขั้นตอนการผลิตชามาตั้งแต่เด็ก แต่รู้สึกว่าคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ไม่ค่อยสนใจเรื่องการดื่มชา เขากับคุณนิชิงาตะ เคอิโงะ (Keigo Nishigata) เพื่อนวัยเด็กที่ต่างคุ้นเคยกับการชงชาเขียวดื่มเอง จึงตัดสินใจทำแบรนด์นี้ด้วยกันในปี ค.ศ. 2013 โดยเริ่มจากการจำหน่ายทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว คุณนิชิงาตะ ผู้รับหน้าที่ดูแลเรื่องการออกแบบบอกว่า แรกเริ่มพวกเขาจำหน่ายชาโดยไม่มีหน้าร้าน แต่ต้องการสื่อสารให้ผู้ซื้อได้เห็นภาพของชาจากไร่มากที่สุด จึงออกแบบฉลากสินค้าให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าถึงข้อมูลเฉพาะของชานั้นๆ ทั้งแหล่งปลูก คนปลูก วิธีการปลูกและช่วงเวลาการเก็บเกี่ยว ซึ่งแนวคิดการขายชาลักษณะนี้ ฉันมองว่าช่างเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน ซึ่งผู้บริโภคใส่ใจที่จะเข้าถึงข้อมูลการปลูกและการผลิตอาหารใดๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เช่นเดียวกับการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟแบบ Single Origin สักถุง ที่เราจะได้รู้ว่าเมล็ดนั้นพันธ์ุอะไร ปลูกที่ไหน แปรรูปอย่างไร ใครเป็นคนคั่วและคั่วเมื่อไหร่ ซึ่งข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ต่างส่งผลถึงรสชาติของกาแฟในถุงนั้น ฉันใดก็ฉันนั้น คุณนิชิงาตะเองก็มองว่าในปัจจุบันคนหันมาสนใจชงกาแฟดื่มเองกันอย่างแพร่หลาย เขาหวังว่าการดื่มชาเขียวที่ชงเองคงจะเข้าถึงวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันได้เช่นกัน
ส่วนตัวร้าน Nakamura Tea Life Store นี้เปิดในปี ค.ศ. 2015 หลังจากได้รับการตอบรับดีมากจากการขายออนไลน์ ทั้งคู่ตัดสินใจเลือกย่านคุรามาเอะ (Kuramae) ที่เขาบังเอิญได้มาเดินเที่ยวแล้วถูกใจ เพราะมีบรรยากาศสบายๆ ไม่วุ่นวาย ซึ่งเป็นย่านที่คนรุ่นใหม่นิยมเลือกมาเปิดร้านประเภทงานสร้างสรรค์ ภายในร้านตกแต่งแบบร่วมสมัย ผนังด้านหนึ่งมีกระดานดำเขียนบอกวิธีชงชาอย่างที่เรามักจะคุ้นตาในร้านกาแฟคลื่นลูกที่สาม โดยมีพนักงานสาธิตให้เรายืนดูแบบสบายๆ ซึ่งการชงชาให้ลูกค้าดื่มแบบสดๆ ร้อนๆ นี้เองที่เหมือนจะเป็นหัวใจและเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านต้องการใช้สื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เห็นว่าจริงๆ แล้วการชงชาเขียวดื่มเองที่บ้านนั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากวุ่นวาย อุปกรณ์ที่ใช้ชงชาก็ดูสวยเท่มีเสน่ห์ดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้ไม่แพ้อุปกรณ์ชงกาแฟ
ฉันตัดสินใจซื้อชาที่ชิมแล้วชอบกลับมาด้วย (ถึงจะแอบติดใจป้านชาสวยเรียบเท่น่าใช้ แต่ก็กลัวแตกระหว่างการเดินทาง) จริงๆ แล้วคงไม่อาจบอกได้ว่าชาเขียวของที่นี่รสชาติดีมากน้อยอย่างไร แต่คิดว่าสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาในยุคที่ชาขวดสำเร็จรูปแพร่หลาย ถ้าได้เจอร้านขายชาที่ท้าให้เราเปลี่ยนจากแค่คนดื่มมาลองเป็นคนชงแบบนี้ อาจพบเสน่ห์อันละเมียดละไมของวิถีคราฟต์ที จนถึงขั้นติดใจอยากชงชาเขียวดื่มเองแบบ Tea Master ดูบ้าง
Info
Hours: ทุกวัน 12:00-19:00 น.
Close: ปิดทุกวันจันทร์
Website: www.tea-nakamura.com
Facebook: www.facebook.com/nakamuratealifestore