เผลอแป๊บๆ ฤดูร้อนก็เวียนกลับมาอีกแล้ว ทำให้นึกถึงช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีก่อนที่ฉันตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง โดยมีจุดมุ่งหมายคือเทศกาลเล็กๆ งานหนึ่ง ที่ฉันเองติดตามความเคลื่อนไหวของงานนี้มาหลายปีเพราะชอบใจภาพงานกลางแจ้งที่มีร้านหนังสืออิสระ และร้านค้ามากางเต็นท์ออกร้านกันอยู่ตามริมทะเลสาบ อาการติดบ้านทำให้ฉันไม่ค่อยคิดอยากไปเที่ยวไหน แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจผลักตัวเองออกไป โดยใช้เทศกาลนี้เป็นข้ออ้างให้ออกเดินทาง

 

Alps Book Camp at Omachi in Nagano

 

งาน Alps Book Camp จัดครั้งละสองวัน ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ที่เมืองโอมาจิ (Omachi) จังหวัดนากาโน่ (Nagano) บริเวณริมทะเลสาบคิซากิ (Lake Kizaki) ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศที่งดงาม แวดล้อมด้วยเทือกเขาสูงที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าเจแปนแอลป์ ในฤดูที่ทั่วประเทศอุณหภูมิสูง โตเกียวร้อนจัดเกือบ 40 องศาเซลเซียส แต่ในอ้อมกอดภูเขายังเย็นสบาย แม้จะเป็นเทศกาลเล็กๆ แต่ร้านค้าที่มาออกงานและสถานที่จัดก็จูงใจให้เราอยากเดินทางไกลไปหา

 

ที่งาน Alps Book Camp มีร้านค้าต่างๆ มาเปิดอยู่เยอะ

 

ฉันเดินทางจากโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็น โดยซื้อบัตร JR East Pass ใช้เวลาราวๆ ครึ่งวันก็มาถึงสถานีรถไฟ Shinano-Kizaki ซึ่งเป็นสถานีที่เล็กมาก ฉันตั้งใจมาค้างคืนละแวกนี้เพื่ออยู่เที่ยวงานทั้งสองวัน จึงจองที่พักมาล่วงหน้า นำกระเป๋าไปเก็บเรียบร้อยแล้วค่อยเดินไปยังบริเวณที่จัดงาน ใช้เวลาราว 30 นาที ระหว่างทางเดินมาแทบไม่เจอผู้คนเลยจนแอบหวั่นใจ กระทั่งมองเห็นลานที่มีรถจอดและซุ้มเขียนป้าย Alps Book Camp นั่นเอง จึงมั่นใจว่ามีงานจัดอยู่ตรงนี้จริงๆ ว่าแล้วก็เดินไปจ่ายค่าเข้างาน เพื่อแลกกับตราปั๊มที่ข้อมือ  

 

ร้านขายหนังสือ ในงาน Alps Book Camp

 

พ้นจากซุ้มทางเข้า ฉันเริ่มตื่นตาตื่นใจกับร้านค้าต่างๆ ที่จัดร้านกันอย่างสวยงาม นอกจากร้านหนังสือ ยังมีร้านกาแฟ ร้านขายสินค้าทำมือ สินค้าวินเทจ และของใช้สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง ปะปนกันไปแบบไม่แยกประเภท ทำให้เดินสนุกเพลิดเพลินได้เรื่อยๆ มีแค่ส่วนฟู้ดทรัคขายอาหารและร้านเครื่องดื่มที่จัดไว้เป็นกลุ่มเป็นก้อนใกล้ทางเข้า เที่ยงวันนั้น ฉันเลือกกินข้าวราดแกงคล้ายๆ แกงเขียวหวานที่เจ้าของร้านเป็นชาวกัมพูชา ซื้อแล้วก็ไปหาที่นั่งใต้ร่มไม้ กินข้าวไปมองผู้คนไป ในบรรยากาศที่คึกคักแต่ไม่วุ่นวาย

 

ที่งาน Alps Book Camp มีเสื้อขายด้วยนะ

 

พื้นที่งานแบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนร้านค้าและส่วนพักอาศัย เนื่องจากพื้นที่จัดงานเป็นแคมปิ้งกราวด์ให้นักท่องเที่ยวมากางเต็นท์นอนอยู่แล้ว จึงมีความเหมาะสมและปลอดภัยพอที่จะมาพักค้างคืนได้ โดยผู้ที่จะมากางเต็นท์ในช่วงที่มีการจัดงานต้องสมัครกับทางผู้จัดเพื่อคัดเลือกก่อน เนื่องจากรับจำนวนจำกัด ส่วนใหญ่เห็นเป็นครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่มีลูกเล็ก เป็นโอกาสให้เด็กๆ ได้เล่นน้ำในทะเลสาบ และใช้ชีวิตกลางแจ้งใกล้ชิดธรรมชาติ

สำหรับใครที่ต้องการอยู่เที่ยวงานสองวันแต่ไม่สะดวกมากางเต็นท์ บริเวณรอบๆ ทะเลสาบคิซากิก็มีที่พักเล็กๆ อยู่พอสมควร จริงๆ แล้วงานขนาดนี้เดินเที่ยวให้จบในวันเดียวก็ได้ แต่ฉันคิดว่าบรรยากาศริมทะเลสาบยามเย็นและตอนหัวค่ำนั้นคงน่ารื่นรมย์ไปอีกแบบ แถมในงานยังมีเวทีแสดงดนตรีและมีฉายหนังตอนกลางคืนด้วย ไหนๆ ก็มาตั้งไกลแล้ว น่าจะอยู่ค้างคืนดีกว่า

 

ริมทะเลสาบคิซากิ (Lake Kizaki)

 

นอกจากพื้นที่จัดงานหลักบริเวณ Lake Kizaki Campsite ยังมีงานอีกส่วนแยกไปจัดที่ Lake Kizaki Powwow ซึ่งมีรถและเรือเตรียมไว้วิ่งรับส่งระหว่างสองพื้นที่ พื้นที่จัดงานส่วนที่สองใช้ชื่อว่า Alps Book Café มีขนาดเล็กกว่า จำนวนร้านค้าน้อยกว่า ไม่มีส่วนที่กางเต็นท์ แต่ด้วยสภาพพื้นที่ที่มีความลาดชัน แทรกอยู่ในป่าสน บังคับให้ฉันค่อยๆ เดินจากถนนลงไปยังริมทะเลสาบ จึงให้ความรู้สึกพิเศษเหมือนตลาดเล็กๆ กลางป่า

ฉันไปถึงได้สักพัก บนเวทีด้านล่างติดริมทะเลสาบก็เริ่มมีการแสดงดนตรี เพลงบรรเลงที่ชวนให้จิตใจสงบ ลมพัดเย็นสบาย และภาพของทะเลสาบเบื้องหน้า ทำให้ฉันนึกขอบคุณตัวเองที่ยอมละความสบายเมื่ออยู่บ้าน ออกมาข้างนอกบ้าง เปิดใจและเปิดโอกาสให้ได้มาเห็นและชื่นชมผลงานของคนอื่นบ้าง

 

โซนดนตรีภายในงาน Alps Book Camp

 

คุณคิคุจิ โทรุ (Toru Kikuchi) เจ้าของร้านหนังสือ Sioribi ในเมืองมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโน่ ผู้จัดงานสัปดาห์หนังสือ ให้สัมภาษณ์ไว้ในเว็บไซต์ www.pmq.org.hk ว่าเขาอยากจัดงานเกี่ยวกับหนังสือแบบที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ อยากให้คนที่มาได้ประสบการณ์ที่จะไม่มีวันลืม จังหวัดนากาโน่ที่เขาอาศัยอยู่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและอากาศเย็นสบายแม้ในหน้าร้อน เขาเลือกพื้นที่บริเวณริมทะเลสาบเพื่อดึงให้คนที่ชอบอ่านหนังสือลองออกมาอยู่นอกบ้าน ใช้ชีวิตกลางแจ้งบ้าง ขณะเดียวกันก็อยากให้คนที่ชอบการผจญภัยได้เห็นเสน่ห์ของการอ่านหนังสือ และเปิดโอกาสให้คนทำหนังสือได้พบเจอกับคนอ่านด้วย

 

 

หลังจากเดินไปมาหลายรอบและได้หนังสือเล่มที่ต้องการอยู่ในมือ ฉันนั่งลงริมทะเลสาบเมื่อพบที่ว่างขนาดพอดีตัว เป็นครั้งแรกที่ฉันได้นั่งอ่านหนังสือใกล้-ชิดติดทะเลสาบ แดดร่มลมตกแล้ว ฉันนั่งมองเจแปนแอลป์ที่อยู่เบื้องหน้ากับผืนน้ำกว้างไกล นึกอยากให้เวลาหยุดเดิน อยากนั่งมองภาพนี้ ซึมซับบรรยากาศนี้ไปเรื่อยๆ เงียบแต่ไม่เหงา มีน้ำ มีเขา และมีหนังสือเป็นเพื่อน

 

จิบกาแฟที่ใช้แก้วเฉพาะในงาน Alps Book Camp นั่งชิลริมทะเลสาบคิซากิ

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ