Akita City : บอกต่อโลเคชั่นสุดชิลล์ในตัวเมืองอาคิตะ ที่เดินเท้าจากสถานีรถไฟได้สบายมาก
สารบัญ
ตัวเมือง “อาคิตะ” น่าเที่ยวกว่าที่คิด
กลับมาเที่ยวที่ “อาคิตะ” กันอีกครั้ง หลายคนจะทราบมาแล้วบ้างว่าสถานที่เที่ยวซึ่งเป็นที่รู้จักส่วนใหญ่ของจังหวัดอาคิตะจะอยู่ที่เมืองเซมโบกุ (Semboku) อาทิ หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ ทะเลสาบทาซาวะ นิวโตออนเซ็น ฯลฯ นักท่องเที่ยวจึงมักนั่งชินคันเซ็นมาถึงแค่สถานีทาซาวาโกะ (Tazawako Station) หรือคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station) เท่านั้น แต่คราวนี้เราลองนั่งยาวมาลงที่สถานีอาคิตะ (Akita Station) เพราะเชื่อมากว่าเป็นถึงสถานีหลักชื่อเดียวกับจังหวัดขนาดนี้ ยังไงต้องมีพื้นที่เดินเล่นและสิ่งที่น่าสนใจให้เราสำรวจแน่นอน
จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) เรานั่งชินคันเซ็นสายอาคิตะ (Akita Shinkansen) มาลงที่สถานี อาคิตะ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 54 นาที แต่ถ้าแวะเที่ยวที่เมืองเซมโบกุมาก่อนแล้วนั่งรถไฟจากสถานีคาคุโนะดาเตะจะใช้เวลาเพียง 43 นาทีเท่านั้น
เมื่อรถไฟจอดเทียบท่า เรารีบขนสัมภาระที่แบกมามากมายไปที่โรงแรม Hotel Metropolitan Akita ที่จองไว้ ซึ่งอยู่ติดกับสถานี แอบบอกอีกนิดว่าเราเลือกที่นี่เพราะมีทางเดินเชื่อมถึงโรงแรมเลย เช็คอินเรียบร้อยจากนั้นก็หยิบกล้องออกเดินเล่นได้ เฮ้!
01 Senshu Park
เราเลือกมาสวนเป็นโลเคชั่นแรก Senshu Park เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองที่เปรียบเหมือนหัวใจของอาคิตะ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงมีพืชพรรณไม้มากมาย ทำให้เป็นที่นิยมของคนท้องถิ่นในการเดินทางมามาปิกนิกพักผ่อนนั่งมองวิว ออกกำลังกายท่ามกลางบรรยากาศแสนสดชื่น ชมซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง แม้กระทั่งช่วงฤดูหนาวยามที่หิมะปกคลุมก็สวยตะลึงเหมือนกัน
ภายในสวนยังเป็นที่ตั้ง Kubota Castle ปราสาทเก่าของตระกูลซาตาเกะ (Satake) ซึ่งอดีตเคยปกครองเมืองอาคิตะที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1604 มีหอคอยโบราณ Osumi Yagura ที่ยังเปิดให้เข้าชม นอกจากนี้ก็มีรูปปั้นของซาตาเกะ โยชิทากะ (Satake Yoshitaka) ศาลเจ้าเล็กๆ ให้ผู้คนได้แวะสักการะ เพิ่มเติมอีกนิดว่าสวนนี้เข้าฟรีและเดินเท้ามาได้จากสถานีรถไฟราว 10 นาทีเท่านั้นเอง
Omote-mon อดีตเคยถูกใช้เป็นประตูทางเข้าปราสาท
Info
Hours: Senshu Park 24 ชั่วโมง, Osumi-Yagura 9:00-16:30 น.
Holiday: Senshu Park ไม่มีวันหยุด, Osumi-Yagura ธ.ค.-มี.ค.
Entrance Fee: Senshu Park เข้าฟรี, Osumi-Yagura 100 เยน
02 Akita Museum of Art
ไม่ไกลจากสวนเซนชู เดินเลียบสระบัวมาเรื่อยๆ จะพบกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะปูนเปลือย ผ่านประตูเข้ามาเชื่อว่าทุกคนจะต้องสะดุดตากับบันไดโค้งจนถึงเพดานสูง ที่เปิดรับแสงเข้าจากหลังคาสามเหลี่ยมด้านบนสุดซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกญี่ปุ่นชื่อดังอันโดะ ทาดาโอะ (Tadao Ando) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นอกจากจะเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะแล้ว ยังมีอีกจุดมุ่งหมายสำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมศิลปะกับเมืองและคนท้องถิ่นอาคิตะให้เข้าถึงศิลปะได้เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรม
ภายในผสมผสานงานศิลปะเอาไว้ทั้งแบบชั่วคราวและถาวรตลอดทั้งปี ที่ชั้น 2 มี Tsuguharu Foujita Gallery คอลเลคชั่นถาวรของซึกุฮารุ ฟุจิตะ และมีโซนห้องสมุด ร้านขายของที่ระลึก และคาเฟ่บรรยากาศดีเสิร์ฟเมนูที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก ความเก๋คือทุกโต๊ะจะหันหน้าออกด้านนอก เผยให้เห็นอาคารคอนกรีตปกคลุมด้วยผิวน้ำผ่านกระจกใส ให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งจิบชาอยู่ริมน้ำนิ่งๆ แต่กลับทำให้ใจสงบอย่างบอกไม่ถูก เป็นการออกแบบที่เราประทับใจมาก
Info
Hours: 10:00-18:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 310 เยน, ชั้นมหาวิทยาลัย 210 เยน, ต่ำกว่าชั้นมหาวิทยาลัย เข้าฟรี
Website: www.akita-museum-of-art.jp/
03 Nakakoji Street
เดินต่อมาอีกนิดจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาคิตะจะพบกับถนนนาคาโคจิ คล้ายกับว่าที่นี่เป็นถนนสำหรับช็อปปิ้งหรือแวะชิลล์ยามสาย เพราะมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของฝาก และร้านค้ามากมายตลอดเส้นถนน เราว่าแถวนี้เหมาะมากสำหรับคนที่เดินเที่ยวเล่นชมเมืองจนเหนื่อยแล้วอยากหาที่นั่งพัก กินขนม จิบกาแฟแก้ง่วง อีกทั้งมีตึกหน้าตาน่ารักมากมาย เหมาะกับการเดินถ่ายรูปเล่นเป็นที่สุด
04 Akita Citizen’s Market
ตลาดที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอาคิตะในราคาเป็นมิตร ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ ผักภูเขา เห็ด ผลไม้ตามฤดูกาล รวมถึงยังสามารถหาวัตถุดิบ อาหารแห้ง หรือเครื่องเทศสำหรับใช้ในการปรุงอาหาร ส่วนตัวเราก็อดใจไม่ได้เหมาสาหร่ายและของแห้งกลับไปฝากคนที่บ้าน แนะนำเลยเพราะราคาดีมากจริงๆ เพิ่มเติมอีกนิดว่าถ้าสนใจจะซื้อจริงๆ เราสามารถขอชิมก่อนได้ด้วยนะ
นอกจากนี้ก็ยังมีเหล่าบรรดาร้านอาหาร อาทิ ราเมน ดงบุริ ซูชิสายพาน ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากตลาดทุกวัน แต่ถ้าไม่อยากเข้าร้านอาหาร จะซื้อตามร้านค้าไปนั่งกิน ภายในตลาดก็มีพื้นที่ให้นั่งฟรีด้วยเช่นกัน
Info
Hours: 5:00-18:00 น.
Holiday: วันอาทิตย์
05 Shopping Mall
หลายคนน่าจะเคยเป็นเหมือนกันที่บางทีเราก็ไม่ได้อยากไปเที่ยวแบบที่ต้องใช้แรงหรือเสียเหงื่อมากมาย แค่อยากไปเดินดูของ ช็อปปิ้ง กินขนมหวานหรือของอร่อยในห้างฯ แอร์เย็นๆ ก็เพียงพอแล้ว บริเวณติดสถานีรถไฟอาคิตะและใกล้ๆ กันนั้นเรียกได้ว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้งชั้นดี เพราะมีห้างสรรพสินค้าให้เลือกเดินเข้าเพียบ ได้แก่ ALS, Topico, FONTE, Seibu, OPQ แต่ละห้างก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันไป อยากให้ลองเดินสำรวจกันเอง ที่ดีคือบางแห่งก็มีทางเชื่อมถึงกัน เดินให้ตาลายกันเลย คนรักการเดินห้างฯ แบบเราคือเพลินมากจนขอแวะมาแนะนำ