18 Onsen in Tohoku : เที่ยวโทโฮคุฤดูหนาว นั่งรถไฟไปแช่ออนเซ็นฟินๆ พร้อมชมวิวหิมะด้วย JR EAST PASS (Tohoku area)

นั่งโทโฮคุชินคันเซ็นลงที่สถานีชินอาโอโมริแล้วให้เปลี่ยนมานั่งรถไฟสายโออุ (Ou Main Line) ไปลงที่สถานีอาโอโมริ จากนั้นต่อ JR Bus Tohoku ชมวิวหิมะขาวโพลนเพลินๆ ระหว่างทางอีกราว 1 ชั่วโมง ก่อนจะมาลงที่ป้าย Sukayu Onsen ก็จะถึงสึกายุออนเซ็นแล้ว!

นี่คือหนึ่งในออนเซ็นเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการมานานกว่า 300 ปี อาคารไม้ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคตั้งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาฮักโกดะ (Mt. Hakkoda) ไฮไลท์ของออนเซ็นแห่งนี้คือ Hiba Sennin Buro บ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ทำจากไม้ฮิโนกิของอาโอโมริ สมกับชื่อที่แปลว่า “บ่ออาบน้ำพันคน”

ภาพ: Facebook 酸ヶ湯温泉株式会社

น้ำพุร้อนของที่นี่มีกรดกำมะถัน ว่ากันว่าดีต่อโรคเกี่ยวกับไขข้อ ประสาท และทางเดินอาหาร สามารถแวะมาแช่ออนเซ็นฤดูไหนก็ได้เพราะเปิดให้บริการตลอดปี แต่ฤดูหนาวนี้จะโรแมนติกเป็นพิเศษ ถ้าติดใจก็จะค้างคืนที่เรียวกังสักคืนก็เป็นไอเดียที่ดีนะ

หากต้องการหาที่เที่ยวใกล้ๆ เราแนะนำให้นั่ง JR Bus Tohoku ไปลงที่ป้าย Ropeway Ekimae (Hakkodasan) ราว 10 นาที แล้วนั่งโรปเวย์ขึ้นไปสูดอากาศบนเขาภูเขาฮักโกดะ ชมวิวหิมะสวยๆ หรือลานสกีสำหรับสายแอดเวนเจอร์ก็มีให้บริการเช่นกัน

ภาพ: Facebook 酸ヶ湯温泉株式会社

นี่คือหมู่บ้านออนเซ็นแสนโรแมนติกในอาโอโมริที่เราชอบมาก สถานที่ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนคุณภาพดีไปพร้อมกับชมวิวทะเลแสนสวย หรือจะเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศโลคอลของหมู่บ้านก็ได้ ถ้าชอบสไตล์นี้เหมือนกัน เราอยากให้ลองนั่งรถไฟโลคอลสาย Aoimori Railway Line มาลงที่สถานีอาซามุชิออนเซ็น

เพียงก้าวท้าวลงจากรถไฟก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศท้องถิ่นที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักใจ มีบ่อออนเซ็นสำหรับแช่เท้าฟรีรอต้อนรับ ประกอบด้วย 2 พื้นที่ ทิศตะวันออกเป็นเมืองน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิม ในขณะที่ทิศตะวันตกเป็นรีสอร์ทริมชายหาดที่หันหน้าไปทางทะเล ระหว่างทางเดินจะมีร้านอาหารและเรียวกังให้เลือกพักหลายแห่ง น้ำพุร้อนของที่นี่ใสบริสุทธิ์ ไร้กลิ่น สัมผัสเรียบลื่น ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ไขข้อ และอาการปวดหลังด้วย

ภาพ: www.tohokukanko.jp

แต่ถ้าตั้งใจมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ไม่ไกลจากสถานีรถไฟจะมีอาคาร Road Station Asamushi Onsen ที่บริเวณชั้น 5 มีโรงอาบน้ำร้อน Hadakayu ราคาประหยัดให้บริการเพียงคนละ 360 เยน แต่วิวตรงหน้าที่มองออกไปเห็นอ่าวมุตสึ (Mutsu Bay) สุดลูกหูลูกตานั้นดีงามเกินราคาสุดๆ

ภาพ: aomori-tourism.com

และด้วยความที่เป็นย่านริมทะเล จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอาซามุชิ (Asamushi Aquarium) ให้เยี่ยมชม ที่นี่มีสัตว์น้ำหาชมยากหลายร้อยสายพันธุ์จากทั้งอาโอโมริเองและจากทั่วโลกให้สำรวจ ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องโชว์โลมา ใครที่ชื่นชอบบรรดาสัตว์น้ำต้องแวะไปให้ได้เลย อยู่ไม่ไกลจากสถานีอาซามุชิออนเซ็น เดินเพียง 10 นาทีเท่านั้น

อยากไปหมู่บ้านออนเซ็นที่เดินทางสะดวก ขอแนะนำที่โอวานิออนเซ็น จากสถานีชินอาโอโมริสามารถนั่งรถไฟ JR Limited Express สายโออุ มาลงที่สถานีโอวานิออนเซ็นได้โดยตรงแบบที่ไม่ต้องเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนสายหลายต่อ

ภาพ: bae.se

โอวานิออนเซ็นมีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี เป็นที่รู้จักในชื่อ “ห้องนั่งเล่นของสึการุ” ย่านนี้มีที่พักสวยๆ พร้อมออนเซ็นให้เลือกหลายประเภท ตั้งแต่โรงแรมแบบโมเดิร์น หรือเรียวกังสไตล์ดั้งเดิมก็มีให้พัก น้ำพุร้อนของที่นี่มีเกลือโซเดียมซัลเฟตสูง ซึ่งช่วยบรรเทาโรคประสาท อาการปวดข้อ ทั้งยังดีต่อผิวพรรณด้วย

Owani Onsen Fujiya Hotel ภาพ: www.yukoyuko.net

หากมาพักผ่อนที่ย่านออนเซ็นแห่งนี้แล้ว หลายๆ คนมักจัดแพลนไปเที่ยวที่เมืองฮิโรซากิต่อ โดยนั่งรถไฟ Limited Express ไปลงสถานีฮิโรซากิซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ฮิโรซากิมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายอีกทั้งช่วงฤดูหนาวก็ยังมีเทศกาลไฟประดับให้ได้แวะไปเดินชมกันอีกด้วย

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)

พูดถึงหมู่บ้านออนเซ็นในอาคิตะ จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากนิวโตออนเซ็น ติดอันดับท็อป 10 ออนเซ็นที่ดีที่สุดในใจคนญี่ปุ่นและในใจเราด้วย ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) ซึ่งการเดินทางมาที่นี่ได้ต้องนั่งอาคิตะชินคันเซ็นมาลงที่สถานีทาซาวาโกะ จากนั้นเปลี่ยนไปโดยสาร Ugo Kotsu Bus ประมาณ 45 นาที

Tsurunoyu Onsen ภาพ: Facebook 鶴の湯温泉

นิวโตออนเซ็นมีโรงแรมและเรียวกังโบราณให้บริการทั้งหมด 7 แห่ง ซึ่งความพิเศษของหมู่บ้านออนเซ็นแห่งนี้คือแต่ละที่จะมีแหล่งน้ำพุร้อนเป็นของตัวเอง ประโยชน์จึงแตกต่างกันไปตามแต่ละแห่ง คนส่วนใหญ่จึงนิยมมาค้างคืนเพื่อจะได้ลองแช่น้ำพุร้อนหลายๆ บ่อ โดยออนเซ็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือที่ Tsurunoyu ซึ่งเป็นเรียวกังเก่าแก่ที่สุดของย่าน น้ำพุร้อนของที่นี่จะมีสีขาวนวลเหมือนน้ำนม ช่วยผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ทั้งยังรักษาได้หลากหลายโรคอีกด้วย

Tsurunoyu Onsen ภาพ: voyapon.comTaenoyu Onsen ภาพ: Facebook 乳頭温泉郷　妙乃湯 Taenoyu

ได้นอนเรียวกังเก่าแก่แล้ว ถ้าอยากไปสัมผัสวัฒนธรรมแบบจัดเต็ม คาคุโนะดาเตะ (Kakunodate) ย่านบ้านซามูไรโบราณที่ถูกอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบันนั้นก็น่าสนใจ เพียงนั่ง Akita Shinkansen ต่อไปลงยังสถานีคาคุโนะดาเตะ ประมาณ 15 นาที แล้วเดินเท้าต่ออีกนิดหน่อย ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ถนนบุเคะยาชิกิ (Bukeyashiki Street) ภาพบ้านซามูไรเก่าแก่ที่เรียงรายตลอดทาง มีรถลากวิ่งไปมา ทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลากลับไปในสมัยของซามูไรทันที

หมู่บ้านออนเซ็นในหุบเขาโอยาสุเคียว เมืองยุซาวะ นักท่องเที่ยวยังไม่พลุกพล่านนัก วิวสวย ออนเซ็นดีเลิศ บรรยากาศเหมาะกับสายชิลล์ที่อยากพากายและใจมาพักผ่อนเงียบๆ เดินทางโดยรถสาธารณะได้ โดยนั่งอาคิตะชินคันเซ็นมาลงที่สถานีโอมาการิ แล้วเปลี่ยนมาโดยสารรถไฟธรรมดาสายโออุลงที่สถานียุซาวะ จากนั้นต่อบัส Ugo Kotsu ลงที่ป้าย Oyasu Hot Spring

Doroyu Onsen Okuyama Ryokan ภาพ: Facebook 泥湯温泉　奥山旅館

ในย่านนี้มีที่พักพร้อมออนเซ็นในตัวให้เลือกอยู่หลายแห่ง มักตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ ในบรรยากาศเงียบสงบ โดยแต่ละแห่งอาจไม่ได้อยู่ใกล้กันนัก ดังนั้นหากมีแพลนจะพักที่ไหน แนะนำให้เช็กรอบรถบัสหรือไม่ก็ติดต่อทางเรียวกังให้ชัดเจน น้ำพุร้อนของออนเซ็นแถบนี้ไหลมาจากช่องเขาแหล่งเดียวกันและถูกใช้มายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ

Tarobee Ryokan ภาพ: Facebook 旅館多郎兵衛Motoyu Kurobu ภาพ: Facebook 小安峡温泉 湯の宿 元湯くらぶ

ภายในพื้นที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง ทั้งน้ำตก แม่น้ำ คาเฟ่ขนมหวาน ร้านอาหารก็มี แต่สถานที่ซึ่งต้องไปให้ได้คือ Oyasukyo Daifunto แหล่งน้ำพุร้อนทางธรรมชาติในหุบเขาที่ผุดขึ้นจนเกิดเป็นไอร้อนปกคลุมไปทั่วผาสวยงามแปลกตา บริเวณนี้จะมีเส้นทางให้เราได้เดินสัมผัสไอร้อนอย่างใกล้ชิดด้วย ถ้าใครอยากได้ภาพสวยๆ ไปลงโซเชียล แนะนำให้ถ่ายจากบนสะพานแดงคาวารายุ รับรองว่ายอดไลก์พุ่งชัวร์

ภาพ: Facebook 小安峡温泉 湯の宿 元湯くらぶ

เราว่านี่คือออนเซ็นที่แปลกใหม่และน่าสนใจในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูเขาของอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต ความพิเศษของที่นี่คือเป็นแหล่งที่มีปริมาณน้ำพุร้อนออกมามากที่สุดในญี่ปุ่นคือ 9,000 ลิตรต่อนาที อีกทั้งมีความเป็นกรดสูงที่สุดในญี่ปุ่น การเดินทางจากโตเกียวให้นั่งชินคันเซ็นมาลงที่สถานีทาซาวาโกะ จากนั้นต่อบัส Ugo Kotsu ไปลงที่ป้าย Tamagawa-onsen ได้โดยตรงประมาณชั่วโมงนิดๆ

ภาพ: www.tohokukanko.jp

ที่นี่ประกอบไปด้วยเรียวกัง 2 แห่ง ได้แก่ Shin-Tamagawa Onsen และ Tamagawa Onsen ด้วยความที่น้ำพุร้อนมีความเป็นกรดเข้มข้นและมาจากแหล่งหายาก จึงสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างดี ทำให้ออนเซ็นแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นบ่อน้ำพุร้อนเพื่อการพักฟื้น ถูกใช้เพื่อช่วยให้แขกที่มาใช้บริการหายจากอาการป่วยเป็นหลัก แตกต่างจากรีสอร์ทออนเซ็นอื่นๆ ในญี่ปุ่นที่ผู้คนมาเพื่อพักผ่อน

Tamagawa Onsen ภาพ: stayakita.com

ถ้าใครมีโอกาสค้างคืนเราอยากให้ลองไปเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติทามากาวะออนเซ็น เป็นเส้นทางวงกลมที่มีจุดให้แวะสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น Bedrock Bath Hut หรือการนอนบนหินร้อนจากธรรมชาติซึ่งช่วยบำบัดร่างกาย, Obuke (The Great Gusher) แหล่งน้ำที่พุ่งออกมาจากพื้นดิน เป็นต้น

มาเที่ยวอิวาเตะช่วงอากาศหนาวๆ อยากหาออนเซ็นใกล้แหล่งท่องเที่ยวเพื่อแวะแช่ผ่อนคลายให้หายเมื่อย เราขอแนะนำที่เมืองอิจิโนะเซกิเพราะแถวนี้มีออนเซ็นกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งบนเขาและในตัวเมือง เพียงนั่งชินคันเซ็นมาลงที่สถานีอิจิโนะเซกิ แล้วเปลี่ยนมานั่งบัส Iwateken Kotsu ไปต่อและลงที่ป้ายตามแต่ละเรียวกังที่สนใจ

Zuisenkyo ภาพ: Facebook 美人の湯　山王山温泉　瑞泉郷

เรียวกังแต่ละแห่งในเมืองนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามของอิวาเตะ ในบรรยากาศอันแสนสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลาย เราขอแนะนำที่พักบางแห่งที่อยู่ไม่ไกลจากหุบเขาเก็นบิเค (Genbikei Gorge) แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังของย่านนี้ เช่น Zuisenkyo ด้านในมีบ่อน้ำพุร้อนแบบเปิดโล่ง มาพร้อมดีไซน์การจัดวางหินอย่างกลมกลืนกับวิวภูเขาซันโน (Mt. Sanno) ที่อยู่เบื้องหลัง อีกทั้งน้ำพุร้อนของที่นี่ก็มาจากภูเขาซันโนเช่นกัน ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติจริงๆ

Itsukushien ภาพ: Facebook 厳美渓温泉　いつくし園

หากมีโอกาสได้มาพักที่นี่ก็สามารถนั่งบัสราว 20 นาที ไปลงที่ป้าย Gembikei จะได้พบกับหุบเขาสวย มีเส้นทางเดินลัดเลาะโขดหินเลียบลำธารระยะทางราว 2 กิโลเมตร ให้เดินชมธรรมชาติ ฟังเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ ก็อาจช่วยปลอบประโลมจิตใจในวันอากาศหนาวได้

ภาพ: www.tohokukanko.jp

ในเมืองฮานามากิมีแหล่งน้ำพุร้อนคุณภาพดีมากถึง 12 แห่ง รายล้อมไปด้วยภูเขาอันเงียบสงบและมีแม่น้ำไหลผ่าน คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “Hanamaki 12 To” จากโตเกียวเดินทางมาได้โดยโทโฮคุชินคันเซ็นลงที่สถานีโมริโอกะ แล้วเปลี่ยนไปโดยสารรถไฟธรรมดาสายโทโฮคุลงที่สถานีฮานามากิ จากนั้นนั่งบัส Iwateken Kotsu ไปลงที่ป้าย Hanamaki Onsen

Hanamaki Onsen ภาพ: Facebook 花巻温泉

แหล่งน้ำพุร้อนทั้ง 12 แห่ง มีการตกแต่งหลายสไตล์ให้เลือกใช้บริการได้ตามความชอบ เช่น Hanamaki Onsen ออนเซ็นเก่าแก่สุดของย่าน บนพื้นที่กว้างใหญ่ มีกิจกรรมหลากหลายให้ทำได้ไม่เบื่อ, Shidotaira Onsen โรงแรมสไตล์โมเดิร์นที่สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบรีสอร์ท ที่ชอบมากคือห้องพักทุกห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เราได้มองออกไปเห็นทิวทัศน์ขาวโพลนในฤดูหนาว ในวันที่อุณหภูมิติดลบ หากได้แช่น้ำพุร้อนที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมทอดสายตามองวิวเบื้องหน้านั้นช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษ

Hanamaki Onsen ภาพ: Facebook 花巻温泉 Shidotaira Onsen ภาพ: Instagram @shidotaira

มาเที่ยวอิวาเตะทั้งทีอย่าลืมกินของดีอิวาเตะ ที่เมืองฮานามากิมีร้านวังโกะโซบะเก่าแก่ชื่อ Wanko Soba Kajiya เปิดทำการมาตั้งแต่ ค.ศ. 1904 เส้นโซบะเสิร์ฟมาในชามเล็กๆ มีวิธีกินคือจุ่มเส้นลงในซอสสึยุ กินคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ แล้วแต่ร้าน โดยพนักงานจะทยอยเสิร์ฟเส้นให้เราเรื่อยๆ จนกว่าจะปิดฝาชามเพื่อส่งสัญญาณว่าเรากินต่อไม่ไหวแล้ว

Wanko Soba Kajiya ภาพ: www.wankosoba-kajiya.jp

ถ้าชอบชมวิวทะเลสาบ ที่นี่คือย่านออนเซ็นที่คุณควรปักหมุดมาเป็นอย่างยิ่ง สึนากิออนเซ็นตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบโกโช (Lake Gosho) ในเมืองโมริโอกะ จากโตเกียวเดินทางมาโดยนั่งโทโฮคุชินคันเซ็นมาลงที่สถานีโมริโอกะ จากนั้นต่อรถบัส Iwateken Kotsu จากบริเวณด้านหน้าสถานีไปลงที่ป้าย Tsunagi Onsen ซึ่งอยู่บริเวณริมทะเลสาบพอดี

Hotel Shion ภาพ: www.hotel-shion.com

สึนากิออนเซ็นประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ 6 แห่ง มีกำมะถันขึ้นชื่อในเรื่องการเผาผลาญ ประกอบกับน้ำที่มีความเป็นด่างจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า นอกจากนี้ยังมีกรดซิลิซิกซึ่งช่วยเติมความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ จึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้หญิง หากแพลนจะมาพักที่ย่านออนเซ็นแห่งนี้ แนะนำให้เลือกพักที่โรงแรมบริเวณริมทะเลสาบ เช่น Hotel Shion, Hotel Taikan เป็นต้น จะได้แช่ออนเซ็นฟินๆ พร้อมเพลิดเพลินกับวิวทะเลสาบไกลสุดสายตา

Hotel Shion ภาพ: www.hotel-shion.comHotel Taikan ภาพ: Facebook 湯守ホテル大観

หากจองโรงแรมเอาไว้แล้วไม่อยากเดินทางไปเที่ยวไกลๆ แนะนำให้ลองใช้เวลาเดินเล่นตามเส้นทางริมทะเลสาบโกโช เพราะมีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกแวะกินแวะช็อปเพียบ หรือจะนั่งแท็กซี่สั้นๆ ไม่เกินสิบนาทีไปเที่ยว Gosho Large Park อุทยานแสนสวยที่มีดอกไม้ตามฤดูกาลให้เยี่ยมชมตลอดปีก็ได้เช่นกัน

หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี ของจังหวัดยามากาตะ เนื่องจากมีที่พักสไตล์ย้อนยุคสร้างด้วยไม้เรียงรายกันเป็นแนว จะสวยเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาวที่หิมะทับถมจนดูคล้ายภาพหมู่บ้านในแอนิเมชัน Spirited Away หมู่บ้านอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา ใช้เวลาเดินทางไปค่อนข้างนาน จากโตเกียวให้โดยสารยามากาตะชินคันเซ็นไปลงที่สถานีโออิชิดะ แล้วเปลี่ยนขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Ginzan Hot Spring

น้ำพุร้อนของที่นี่หากลงแช่จะช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยมากมาย เช่น แผลน้ำร้อนลวก อาการปวดกล้ามเนื้อ ฯลฯ และหากดื่มเข้าไปจะช่วยบรรเทาโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ท้องผูกเรื้อรัง นิ่วในถุงน้ำดี ฯลฯ ภายในหมู่บ้านมีเรียวกังสไตล์โบราณให้เลือกพักหลายราคา ขอแนะนำบางแห่งที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ ได้แก่ Ginzanso และ Takimikan ซึ่งมองเห็นภูเขา ลำธาร และน้ำตกชิโรกาเนะที่ถูกหิมะทับถมได้จากห้องพักเลย

Ginzanso ภาพ: Facebook 銀山温泉　仙峡の宿 銀山荘 (Ryokan Ginzanso)Takimikan ภาพ: Facebook 滝と蕎麦の宿 瀧見舘

ด้วยความที่กินซังออนเซ็นอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา คนเลยนิยมไปค้างคืนและใช้เวลาเดินเล่นสำรวจภายในโซนหมู่บ้าน ใครที่มาแล้วแนะนำให้ลองชิม Obanazawa Soba โซบะโฮมเมดเส้นยาวมีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะที่ Takimikan

ภาพ: Facebook 滝と蕎麦の宿 瀧見舘

ซาโอออนเซ็นเป็นที่รู้จักในฐานะบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดยามากาตะ มีประวัติย้อนหลังราว 1,900 ปี ช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกจนมีสีขาวปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ ย่านออนเซ็นแห่งนี้จะสวยงามมาก เดินทางไปจากโตเกียวได้โดยยามากาตะชินคันเซ็นไปลงที่สถานียามากาตะ จากนั้นต่อ Yamako Bus ประมาณ 40 นาทีไปลงที่สถานีขนส่ง Zao Onsen Bus Terminal

Shinzaemon no Yu ภาพ: Facebook 湯の花茶屋　新左衛門の湯

น้ำพุร้อนซาโอะมีกำมะถันที่เป็นกรดอย่างแรง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยรักษาบาดแผล แผลไฟไหม้ โรคผิวหนัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ อีกทั้งเชื่อกันว่าแช่แล้วทำให้ผิวเนียนสวย จนได้รับฉายาว่า “น้ำพุร้อนแห่งความงาม” มาตั้งแต่สมัยโบราณ ขอแนะนำออนเซ็นบางแห่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากแวะแช่แบบไปเช้า-เย็นกลับ เช่น Shinzaemon no Yu ซึ่งมีทั้งบ่อในร่มและกลางแจ้ง โดยมีน้ำพุร้อนจากแหล่งธรรมชาติคอยเติมบ่อให้เต็มอยู่เสมอ, Zao Onsen Dairotenburo ออนเซ็นตั้งอยู่ท่ามกลางป่าให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ

Shinzaemon no Yu ภาพ: Facebook 湯の花茶屋　新左衛門の湯Zao Onsen Dairotenburo ภาพ: yamagatakanko.com

ช่วงฤดูหนาวที่ซาโอออนเซ็นมีจุดชมปีศาจหิมะ (Snow Monster) ที่มีชื่อเสียงมากอยู่บริเวณด้านบนภูเขาซาโอ ใครที่สนใจไปชมได้โดยการนั่งกระเช้าขึ้นไป บางวันจะมีการจัดแสงไฟสีสันต่างๆ ในยามค่ำคืน ทำให้ปีศาจหิมะยิ่งสวยน่าประทับใจขึ้นไปอีก หรือจะขึ้นไปเล่นสกีก็ได้เช่นกัน

อัตสึมิออนเซ็นเป็นน้ำพุร้อนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของยามากาตะ และได้รับเลือกให้เป็นแหล่งออนเซ็นอันดับหนึ่งของโทโฮคุโดยนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น Tohoku Jalan จากโตเกียวสามารถเดินทางมาได้โดยโจเอ็ตสึชินคันเซ็นลงที่สถานีนีงาตะ จากนั้นเปลี่ยนไปโดยสารรถไฟธรรมดาสายอินาโฮะลงที่อัตสึมิออนเซ็น สำหรับออนเซ็นแห่งนี้ใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) ได้เท่านั้น และไม่สามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) ได้

Bankokuya ภาพ: www.bankokuya.jp

เคยได้ยินมาว่าอดีตที่นี่เป็นออนเซ็นอันเป็นที่รักของเหล่านักเขียนและศิลปินมากมาย เช่น Basho Matsuo และ Akiko Yosano เราขอแนะนำเรียวกังที่เหมาะจะใช้วันพักผ่อนให้เพลิดเพลินไปกับน้ำพุร้อนจากแหล่งน้ำธรรมชาติ Tachibanaya และ Bankokuya เรียวกังตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มีให้เลือกทั้งบ่อกลางแจ้งและบ่อส่วนตัวในห้องพัก ได้แช่น้ำพุร้อนพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ช่วยผ่อนคลายร่างกายและจิตใจได้ดีจริงๆ

Tachibanaya ภาพ: www.tachibanaya.jpBankokuya ภาพ: Facebook あつみ温泉　萬国屋

มาใช้เวลาผ่อนคลายที่อัตสึมิออนเซ็นแล้วไม่ต้องไปไหนไกล เพราะละแวกเดียวกันเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว อย่างที่เมืองซากาตะ (Sakata) ใกล้ๆ มีโรงเก็บข้าวเก่าแก่ชื่อว่า Sankyo Soko Storehouse สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1893 ก็เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าไปเยี่ยมชม ปัจจุบันเป็นทั้งร้านอาหารและร้านค้า รวมถึงจุดถ่ายรูปที่น่าประทับใจ

ขอเริ่มต้นที่เมืองหลักอย่างเซนได เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าในเมืองนี้จะมีย่านออนเซ็นด้วย อันที่จริงอาคิอุออนเซ็นมีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์มายาวนานแล้ว อีกทั้งเป็น 1 ใน 3 บ่อน้ำพุร้อนที่โด่งดังที่สุดในแคว้นโอชู เดินทางจากโตเกียวได้โดยโทโฮคุชินคันเซ็นมาลงสถานีเซนได แล้วเปลี่ยนไปนั่งสายเซนซัง (Senzan Line) ไปลงที่สถานีอายาชิ จากนั้นต่อ Sendai City Bus ไปที่ป้าย Akiu Sato Center

Hotel Kiyomizu ภาพ: Facebook 秋保温泉　ホテルきよ水

น้ำพุร้อนของอาคิอุมีชื่อเสียงในการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ, แผลไหม้, โรคผิวหนัง, บรรเทาความเมื่อยล้า และช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ฯลฯ เราขอบอกต่อที่พักพร้อมวิวสวยสบายตา Hotel Sakan โรงแรมเก่าแก่มีบ่อออนเซ็นหลายแบบ แต่ถ้าเดินทางไปช่วงฤดูหนาวเราอยากให้ไปลองแช่ที่บ่อเอาท์ดอร์จะฟินสุดๆ และอีกแห่งคือ Hotel Kiyomizu ตั้งอยู่กลางภูเขาที่รายล้อมไปด้วยเสียงที่น้ำไหลเอื่อยๆ ของแม่น้ำนาโทริ (Natori River) แค่วิวหิมะขาวที่มองเห็นจากหน้าต่างบานใหญ่บริเวณล็อบบี้นั้น เชื่อว่าใครเห็นก็ตกหลุมรักแน่นอน

Hotel Sakan ภาพ: www.hotel-sakan.com

ช่วงประมาณเดือนธันวาคมในตัวเมืองเซนไดจะมีจัดแสดงงานไฟประดับ Sendai Pageant of Starlight ที่เต็มไปด้วยไฟประดับกว่า 600,000 ดวงบริเวณถนน Jozenji-dori ทำให้ถนนสว่างไสวไปด้วยแสงอันอบอุ่น ถ้ามีโอกาสเที่ยวช่วงนั้นพอดีก็อยากให้ลองแวะเดินชมไฟประดับ อีกทั้งอย่าลืมกินกิวตัน (ลิ้นวัวย่าง) เมนูดังประจำเมืองให้ได้นะ

ภาพ: www.tohokukanko.jp

หมู่บ้านออนเซ็นลับริมชายฝั่งซันริกุที่สวยจับใจ แม้จะเดินทางจากโตเกียวมาหลายต่อหน่อย แต่เมื่อเราเดินทางมาถึงที่โรงแรมก็จะพบวิวทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาทันที มันดีต่อใจจริงๆ

Minami Sanriku Hotel Kanyo ภาพ: www.mkanyo.jp

ที่โรงแรม Minami Sanriku Hotel Kanyo แห่งนี้มีบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งวิวทะเลแบบพาโนรามาว่าสวยแล้ว ยิ่งพิเศษกว่าเดิมเมื่อได้แช่น้ำพุร้อนในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเห็นแสงแดดระยิบระยับบนผิวน้ำ มาพักแล้วห้ามพลาดชิมเมนูขึ้นชื่อของโรงแรม Kirakiradon ข้าวหน้าอาหารทะเลที่นำเอาของอร่อยมิยากิมาเต็มชาม ทั้งหอยเป๋าฮื้อ ไข่ปลาแซลมอน และหอยนางรม

Minami Sanriku Hotel Kanyo ภาพ: www.mkanyo.jpMinami Sanriku Hotel Kanyo ภาพ: Facebook 南三陸ホテル観洋

ไม่ไกลจากตรงนี้มีเมืองริมฝั่งทะเลที่น่าแวะไปเที่ยวคือเคเซ็นนุมะ โดยใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) นั่งรถ BRT ไปลงสถานีเคเซ็นนุมะได้ในเวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เคเซ็นนุมะเป็นแหล่งประมงสำคัญ มีตลาดปลาและร้านอาหารให้แวะชิมของทะเลสดใหม่ พิพิธภัณฑ์ปลาฉลามแห่งเดียวในญี่ปุ่น คาเฟ่สำหรับนั่งพักชิลล์ๆ ก็มีเยอะเลย

ออนเซ็นชั้นเลิศในหุบเขามีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี โอบล้อมไปด้วยป่าใหญ่อันเต็มไปด้วยต้นไม้หลากสายพันธุ์ มีจุดชมวิวสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำอยู่หลายแห่ง จากโตเกียวเดินทางไปได้โดย Tohoku Shinkansen ลงที่สถานีฟุรุคาวะ แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟโลคอลสายริคุอุโตะ (Rikuuto Line / Rikuu East Line) ก่อนจะลงที่สถานีนารุโกะออนเซ็น

ภาพ: www.tohokuandtokyo.org

น้ำพุร้อนของนารุโกะออนเซ็นขึ้นชื่อว่ามีคุณสมบัติมากถึง 9 ใน 11 ของน้ำพุร้อนที่พบในญี่ปุ่น เช่น ไบคาร์บอเนตซึ่งดีต่อผิวพรรณ กำมะถันช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ส่วนของที่พักก็มีให้เลือกหลายสไตล์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีออนเซ็นให้บริการพร้อมสรรพภายในโรงแรม แต่นักท่องเที่ยวแบบเราๆ ที่เดินทางมาตั้งไกล เราอยากให้ลองตระเวนแช่น้ำพุร้อนหลายๆ แบบเพื่อตามหาน้ำพุร้อนที่ถูกใจ

Ryokan Ohnuma ภาพ: Facebook 旅館大沼Naruko Hotel ภาพ: Facebook 宮城県 鳴子温泉 名湯の宿 鳴子ホテル

บรรยากาศในเมืองนี้เหมาะกับการเดินเล่นหย่อนใจ มีอาคารบ้านเรือนน่ารักท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ ถ้าลองสังเกตให้ดีจะเห็นตุ๊กตาโคเคชิตกแต่งอยู่ทั่วมุมเมือง ที่นี่ยังมี Japan Kokeshi Museum ซึ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย หากใครมีเวลาจะลองทำเวิร์คช็อปตุ๊กตาโคเคชิก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ

ภาพ: visitmiyagi.com

หนึ่งใน ออนเซ็น ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ทาคายุออนเซ็นตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงอาซุมะ จึงเป็นที่มาของชื่อ Taka แปลว่า “สูง” และ Yu แปลว่า “น้ำพุร้อน” จากโตเกียวนั่ง โทโฮคุ ชินคันเซ็นไปลงที่สถานีฟุกุชิมะ แล้วต่อ Fukushima Kotsu Bus ยิงยาวไปลงที่ป้าย Takayu ถึงแล้วลองแวะใช้บริการบ่อแช่เท้าสาธารณะที่มีให้บริการฟรีใจกลางหมู่บ้านก็เป็นการเริ่มต้นที่แสนผ่อนคลายมากทีเดียว

ภาพ: Facebook 高湯温泉観光協会

ในพื้นที่ของทาคายุออนเซ็น มีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติทั้งหมด 9 แหล่ง ให้น้ำแร่สีฟ้าพาสเทลพร้อมส่งตรงถึงบ่อของเรียวกังที่เปิดให้บริการทั้งหมด 11 แห่ง มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆ มากมาย ถ้าเลือกไม่ถูกว่าจะพักที่ไหน Tamagoyu นับเป็นเรียวกังที่โด่งดังสุดของย่าน ด้วยความเก๋ที่บ่อน้ำพุร้อนทำจากไม้ให้ความรู้สึกแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันธรรมชาติรอบตัวก็สวยฟินจนแค่ไปเช้าเย็นกลับคงไม่พอ

Tamagoyu ภาพ: Facebook 高湯温泉観光協会Adachiya ภาพ: Twitter @adachiya346

ค้างคืนที่ออนเซ็นแล้ววันถัดไปอยากหาที่เที่ยวใกล้ๆ จะบอกว่าในตัวเมืองฟุกุชิมะก็น่ารักใช่ย่อย สายกินก็มีร้านอาหารคาเฟ่ให้เลือกชิม สายชิลล์จะเดินดูบ้านเมืองหรือนั่งเล่นในสวนก็เพลิดเพลิน และยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima Prefectural Museum of Art) ให้สายอาร์ตแวะไปชื่นชมงานศิลปะ ที่จะมีนิทรรศการหมุนเวียนเปลี่ยนไปให้ชมได้ไม่มีเบื่อ

Fukushima Prefectural Museum of Art ภาพ: Twitter @fukushima_kenbi

หมู่บ้านออนเซ็นที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอาซุมะ (Mt. Azuma) ล้อมรอบด้วยภูเขา บรรยากาศสวยงามน่าเที่ยวทุกฤดู แต่ตอนที่ทางเดินริมแม่น้ำและอาคารบ้านช่องถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวนั้นเป็นช่วงที่เราชอบที่สุด จากโตเกียวให้นั่ง โทโฮคุ ชินคันเซ็นมาลงที่สถานีฟุกุชิมะ แล้วเปลี่ยนมาโดยสาร Fukushima Kotsu Bus ไม่นานก็ถึงป้าย Tsuchiyuonsen ซึ่งเป็นบริเวณหมู่บ้าน ออนเซ็น พอดี

ที่นี่มีที่พักพร้อมบ่อน้ำพุร้อนอยู่เยอะมากราว 20 แห่งให้เลือกตามความชอบ ถ้าไม่อยากต่อรถบัสเราขอแนะนำที่ Sansuiso Hotel ซึ่งมี Shuttle Bus รับส่งฟรีถึงสถานีฟุกุชิมะ บ่อออนเซ็นภายในโรงแรมก็วิวปังสุดๆ ขณะที่แช่ตัวอยู่ในน้ำอุ่น ก็สามารถมองเห็นแม่น้ำอาราคาวะและน้ำตกสองชั้นด้วย พร้อมให้ทุกคนได้บำบัดร่างกายและจิตใจให้ผ่อนคลายอย่างช้าๆ ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ

Sansuiso ภาพ: Facebook 水織音の宿 山水荘（風望天流太子の湯 山水荘）

แช่ออนเซ็นจนหนำใจแล้ว หลายคนนิยมไปเที่ยวเมืองไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) กันต่อ ซึ่งระหว่างทางสามารถแวะลงสถานีอิวานาชิโระ (Inawashiro Station) ด้วยบริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติซึ่งเหมาะกับการไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวอยู่เพียบ ไฮไลท์หลักคือ ทะเลสาบอินาวาชิโระ (Lake Inawashiro) โดยในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีฝูงหงส์กว่า 2,000 ตัวบินอพยพมารวมตัวกันอยู่ริมทะเลสาบ และจุดถ่ายรูปแนะนำคือบริเวณชายหาดชิดาฮามะ (Shidahama)

ฮิกาชิยามะออนเซ็นคือหมู่บ้านน้ำพุร้อนเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ของเมืองไอสึวากามัตสึที่เหมาะกับการนั่งรถไฟไปพักผ่อน แม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองมาสักหน่อยแต่รับรองว่าได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ จากโตเกียวให้นั่งโทโฮคุชินคันเซ็นมาลงที่สถานีโคริยามะ แล้วเปลี่ยนมานั่งรถไฟโลคอลสายบังเอ็ตสึไซไปที่สถานีไอสึวากามัตสึ จากนั้นต่อ Haikara-san Bus ลงที่ป้าย Higashiyamaonseneki

ภาพ: www.tohokukanko.jp

น้ำพุร้อนของที่นี่มีโซเดียมซัลเฟต ลักษณะใส ไม่มีกลิ่น มีส่วนช่วยรักษาอาการบาดเจ็บภายนอก ลดความดันโลหิต ดีต่อระบบประสาท และผิวพรรณด้วย ฯลฯ ย่านนี้มีมากกว่า 10 เรียวกังให้เลือกพัก เราขอแนะนำบางแห่งที่มีบ่อน้ำพุร้อนแบบเปิดโล่งให้สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สุดอลังการ ช่วงฤดูหนาวภาพหิมะขาวฟูทั่วหมู่บ้านนั้นน่ารักจนต้องยอมเอามือเย็นๆ ออกจากกระเป๋าเสื้อโค้ทมาถ่ายรูปเก็บไว้เลย

Higashiyama Grand Hotel ภาพ: yu-yu1126.netHarataki Ryokan ภาพ: Facebook 東山温泉原瀧

ไม่ไกลจากหมู่บ้านออนเซ็นเป็นที่ตั้งของเมืองไอสึวากามัตสึ เมืองนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าซามูไรในสมัยเอโดะ อาคารบ้านช่อง ร้านอาหารต่างๆ จึงให้บรรยากาศย้อนยุค ทั้งมีปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) ประจำเมืองที่น่าแวะไปชม พอมีหิมะปกคลุมด้วยแล้วยิ่งสวยเป็นพิเศษเลยล่ะ

Tsuruga Castle ภาพ: www.aizukanko.com