Gransnow Okuibuki : สกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันไซ อยู่ในจังหวัดชิกะ

ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้วก็ตาม แต่ยังไงในเมืองไทยก็คงไม่มีหิมะตกอยู่แล้ว ถึงแม้อากาศจะเย็นลงในตอนกลางคืนอยู่บ้าง แต่ก็ยังร้อนอบอ้าวในตอนกลางวันอยู่ดี  งั้นเรื่องหนาวๆ จึงขอยกให้ประเทศญี่ปุ่น อย่างที่เรารู้ๆ กันดีว่าจะมีหิมะตกในช่วงฤดูหนาว และบนภูเขาจะมีหิมะทับถมเร็วกว่าที่อื่นๆ วันนี้เลยขอพาไปเที่ยวชมสกีรีสอร์ทบนภูเขาที่แกรนสโนว์ โอคุอิบุคิ (Gransnow Okuibuki) รีสอร์ทที่ไม่ได้เป็นแค่จุดเล่นสกีธรรมดาๆ แต่ยังมีกิจกรรมหนาวๆ ฟินๆ รอให้ทุกคนไปสัมผัส

แกรนสโนว์ โอคุอิบุคิ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดชิกะ เป็นสกีรีสอร์ทที่มีปริมาณหิมะหนาแน่นและมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันไซ เหมาะสำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวแถบคันไซ แล้วอยากลองแวะไปเล่นสกีด้วย ซึ่งทางรีสอร์ทเปิดให้เข้าไปเล่นแบบไปเช้าเย็นกลับได้โดยไม่จำเป็นต้องค้างคืน ทั้งยังสามารถเดินทางมาที่นี่ได้อย่างสะดวกมาก เมื่อมาจากเกียวโต โอซาก้า โกเบ หรือนาโกย่า 

ภาพ: www.okuibuki.co.jpภาพ: www.okuibuki.co.jp

เนื่องจากเป็นหิมะที่ทับถมอยู่บนพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,000 เมตร ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ หิมะของที่นี่จึงมีคุณภาพที่ดี ยิ่งในช่วงที่หิมะทับถมจนหนาแน่นเต็มที่แล้ว สามารถดึงดูดนักสกีและนักสโนว์บอร์ดให้เดินทางมาใช้เวลาแสนสนุกแบบไปเช้าเย็นกลับได้มากกว่า 220,000 คน เลยทีเดียว

ภาพ: www.okuibuki.co.jp

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของแกรนสโนว์ โอคุอิบุคินั่นก็คือ ‘สกีลิฟต์ (Ski Lift)’ ที่ให้คุณได้นั่งชมวิวหิมะจากมุมสูง โดยสามารถนั่งได้สูงสุดถึง 4 คน ไม่ว่าจะมาเป็นคู่หรือมาเป็นแก๊งก็สามารถนั่งไปด้วยกันและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ 

จุดเด่นของแกรนสโนว์ โอคุอิบุคิก็คือความเป็นสกีรีสอร์ทที่ครบครัน ซึ่งภายในรีสอร์ทนั้นนอกจากจะมีกิจกรรมสนุกๆ แล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ร้านอาหาร ที่พัก โรงเรียนสอนเล่นสกีและสโนว์บอร์ด เป็นต้น ส่วนใครที่ไม่ได้เตรียมชุดหรืออุปกรณ์สำหรับเล่นสกีหิมะและสโนว์บอร์ดมาก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่นี่มีบริการให้เช่าทั้งชุดและอุปกรณ์ที่สามารถพร้อมเล่นได้ทันที อีกทั้งยังมีสำหรับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย 

นอกจากนี้ ในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในรีสอร์ทด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสกีลิฟต์ตัวใหม่ การนำเครื่องผลิตหิมะเทียมเข้ามาใช้ถึง 9 เครื่อง เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้ยาวนานถึง 4 เดือน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมไปถึงการใช้เครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งเหมาะกับยุค  New Normal แบบนี้เอามากๆ 

สำหรับปี ค.ศ. 2022 เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกหลังมีการเปิดประเทศญี่ปุ่นให้ชาวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยว ก็อยากให้ทุกคนได้ลองไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้ในบ้านเรา ไม่ว่าจะไปกับเพื่อนหรือครอบครัวก็คงสนุกสนานและสร้างความทรงจำที่ดีไม่น้อย

ที่มา: prtimes.jp