Overnight Sleeper Train : รถไฟนอนเส้นทางสุดท้ายในญี่ปุ่น
สำหรับคนชื่นชอบรถไฟคงไม่มีใครปฏิเสธ “เสน่ห์” ของรถไฟนอน Overnight Sleeper Train ที่การเดินทางรูปแบบอื่นทำให้ไม่ได้ สมัยก่อนญี่ปุ่นก็มีรถไฟนอนให้บริการหลายเส้นทางทั่วประเทศ แต่นับวันความล้ำสมัยก็ยิ่งทำให้มีรถไฟรุ่นใหม่ๆ เข้ามา เร็วขึ้นสบายขึ้นหรูขึ้นในหลายเส้นทาง รวมถึง Overnight Bus ที่วิ่งข้ามคืนประหยัดค่าที่พักไปได้อีก ส่งผลให้รถไฟนอนแทบจะ “ไม่มีที่ยืน” ในสังคมญี่ปุ่น ความต้องการน้อยลงเรื่อยๆ ไม่มีคนใช้ก็ขาดทุนและทยอยปิดตัวลงไป จนถึงตอนนี้เหลือ Overnight Sleeper Train เพียงแค่แห่งเดียวในญี่ปุ่นแล้ว!
ที่มาภาพ: jr-odekake.netรถไฟสมัยใหม่สวยๆ มากมาย
ซึ่งนั่นก็คือ “Sunrise Izumo” และ “Sunrise Seto” ซึ่งให้บริการมาตั้งแต่ 10 กรกฎาคม ปี 1998 ที่มี 2 ชื่อเพราะทั้งคู่จะเป็นรถไฟเชื่อมติดกันยาว 14 ตู้ และเริ่มออกวิ่งจากสถานี Tokyo Station พร้อมกัน ก่อนจะไปแยกทางกันที่สถานี Okayama เหลือฝั่งละ 7 ตู้ (จอดหยุดระหว่างทาง 7 สถานี แต่ไม่หยุดที่สถานี Osaka Station นะ)
Sunrise Izumo และ Sunrise Seto ที่มาภาพ: youtube.com
โดย Sunrise Izumo มุ่งหน้าไปยังปลายทางเมืองอิซุโมะ (Izumo) จังหวัดชิมาเนะ (Shimane) ขณะที่ Sunrise Seto มุ่งหน้าไปยังเมืองทาคามัตสึ (Takamatsu) จังหวัดคางาวะ (Kagawa) รถออกทุกวันเวลา 22:00 น. จากสถานี Tokyo Station หากออกเดินทางจากโตเกียวไปสถานีเมืองอิซุโมะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ระยะทาง 954 กม. และหากไปสถานีเมืองทาคามัตสึใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทาง 805 กม.
รถไฟมี 2 ชั้น ที่มาภาพ: junya-travel.comเชื่อมติดกันก่อนแยกทางที่สถานี Okayama ที่มาภาพ: tetsumonoheya.seesaa.net
เที่ยวขากลับก็เช่นกัน ทั้งคู่ต่างออกจากเมืองของตน ก่อนจะมารวมเชื่อมกันที่สถานี Okayama และมุ่งหน้าสู่สถานี Tokyo พร้อมกัน อย่างไรก็ตามจุดที่แตกต่างคือ ขณะวิ่งกลับสู่สถานี Tokyo Station เจ้า Sunrise จะจอดหยุดที่สถานี Osaka Station หากมองในมุมนักท่องเที่ยวที่มักกระจุกอยู่บริเวณโตเกียวและโอซาก้า แล้วอยากลองสัมผัสรถไฟตู้นอนในญี่ปุ่นสักครั้ง แต่ก็กังวลว่าต้องนั่งนานเกินไป นี่จึงเป็นโอกาสดีที่สามารถขึ้นจากสถานี Osaka มายัง Tokyo ได้ โดยรถไฟจะออกจากโอซาก้าเวลา 00:34 น. และถึงโตเกียวในตอนเช้าเวลา 7:08 น.
เส้นทางให้บริการคร่าวๆ ที่มาภาพ: japan-guide.com
เอาล่ะ เมื่อขึ้นมาบนรถไฟกันแล้ว! นอนข้ามคืนแบบนี้ไม่ต้องห่วง เพราะมีห้องอาบน้ำให้ (เสียเงินแยกต่างหาก) อย่างไรก็ตามจุดที่ต้องระวังคือ ต้องซื้อบัตรอาบน้ำก่อน ซึ่งมีอยู่จำนวนจำกัดพอสมควร เมื่อขึ้นรถมาแล้วควรรีบซื้อเลย รวมถึงต้องเตรียมผ้าเช็ดตัวมาเอง (มีแต่สบู่, แชมพู และเครื่องเป่าผมให้) อีกทั้งเป็นห้องอาบน้ำแบบมีเวลาจำกัดเพียงแค่ 6 นาที (320 เยน) เมื่อเสียบบัตรสำหรับอาบน้ำแล้วเวลาจะนับถอยหลัง เมื่อหมดเวลาน้ำจะหยุดไหลทันที ระวังอย่าอาบเพลินนะครับ ฮ่าๆ
ต้องซื้อบัตรอาบน้ำก่อน ที่มาภาพ: butti15.comจำกัดเวลาอาบ 6 นาที ที่มาภาพ: yassee.blog38.fc2.com
เฉกเช่นรถไฟอื่นๆ เจ้ารถไฟนอน Sunrise ก็มีแบ่งคลาสออกเป็นตั๋วหลายประเภทเช่นกัน ตั้งแต่แบบราคาแพง Single Deluxe เป็นห้องส่วนตัวพร้อมห้องน้ำในตัวไปจนถึง “Nobinobi Zaseki” คือที่นอนแบนราบ(ชั้นปกติถูกสุด) ซึ่งที่นอนประเภทนี้ถูกครอบคลุมใน “Japan Rail Pass” นักท่องเที่ยวสามารถนั่งได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ เพียงแค่ต้องจองที่นั่งก่อนเท่านั้น (แต่หากต้องการนอนพรีเมียมขึ้น ก็ต้องจ่ายเพิ่มเอง)
ที่นอนหรู Single Deluxe มีความส่วนตัว ที่มาภาพ: jr-odekake.net
ที่นอนแบบ Nobinobi Zaseki เป็นที่นอนส่วนใหญ่ของรถไฟ ลักษณะคล้ายโรงแรมแคปซูล มีพื้นที่ให้เราหมุนตัวนอนได้นิดหน่อย มีไฟอ่านหนังสือ แต่ไม่ควรใช้เสียงดังรบกวนคนอื่นจนเกินไป ควรถอดรองเท้าก่อนเข้าเสมอ ไม่มีหมอน และมีกำแพงกั้นแค่ช่วงหัวที่นอน ส่วนที่เหลือไร้กำแพงกั้นระหว่างที่นอนเรากับคนข้างๆ แต่ก็มีผ้าม่านมาช่วยบัง จึงพอมีความเป็นส่วนตัวบ้าง
ที่นอนแบบอื่นๆ เป็นห้องๆ ที่มาภาพ: butti15.comที่นอนแบบ Nobinobi Zaseki มีอยู่ 2 ชั้น ที่มาภาพ: cont.t-com.ne.jpที่นอนแบบ Nobinobi Zaseki ที่มาภาพ: tenhama.seesaa.net
เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาจะมีตู้ Lounge พร้อมเคาเตอร์บาร์ติดริมหน้าต่างใหญ่ให้เรานั่งรับประทานอาหารเช้าได้ น่าเสียดายที่บนรถไม่มีบริการเสิร์ฟอาหารใดๆ แต่ยังดีที่มีตู้กดน้ำอัตโนมัติพอช่วยชีวิตได้บ้าง จึงขอแนะนำให้ซื้อเอคิเบนอาหารกล่องตั้งแต่ก่อนขึ้นรถไฟ กินพร้อมชมวิวตามรายทางไปฟินสุดๆ เนื่องจาก Sunrise เป็นรถไฟที่วิ่งไม่เร็วมาก เราจึงสามารถซึมซับวิวทิวทัศน์ระหว่างทางได้เต็มที่ อีกทั้งเรายังสามารถพบปะหรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมทางใหม่ๆ ทาง Lounge นี้ได้ด้วยนะ
Lounge ที่มาภาพ: kotobus-express.jpวิวรายทาง เอคิเบนไปชมพระอาทิตย์ขึ้นไป ที่มาภาพ: kotobus-express.jpยังดีที่มีตู้กดน้ำบริการ ที่มาภาพ: yassee.blog38.fc2.com
ได้ยินบ่อยๆ ว่าระหว่างทางก็สำคัญไม่แพ้ปลายทาง ผมว่าเจ้า Sunrise นี้สะท้อนแนวคิดนี้ได้เป็นอย่างดี มันอาจลำบากไปบ้าง ไม่สะดวกสบายเว่อร์เหมือนการเดินทางรูปแบบอื่น แต่ก็มอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้เราได้เช่นกัน
เจ้า Sunrise ยังพอได้รับความนิยมอยู่บ้างในหมู่คนชื่นชอบรถไฟชาวญี่ปุ่น แม้ไม่อยากให้เกิด แต่ว่ากันตามตรงหากดูจากประวัติที่ผ่านมามีความเป็นไปได้ว่าเจ้า Sunrise ทั้งคู่จะถูกยกเลิกให้บริการ ใกล้ถึงเวลาบอกลารถไฟนอน Overnight Sleeper Train ในญี่ปุ่นแล้ว ใครมีโอกาสอยากสัมผัสรถไฟนอนในญี่ปุ่นก็ขอให้รีบเถอะครับ คุณอาจอยู่ในประวัติศาสตร์หน้าสุดท้ายของวงการรถไฟตู้นอนนี้ในญี่ปุ่นก็ได้นะ