รู้หรือไม่ว่า เมืองเซ็นได (Sendai – 仙台) เซ็นไดเป็นขนาดเมืองใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคโทโฮคุ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของโตเกียวที่จังหวัดมิยากิ สามารถนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวยิงยาวมาจอดที่เมืองเซ็นไดได้เลย (Tokyo-Ueno-Omiya-Sendai) ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ซึ่งถือว่าสะดวกรวดเร็วมาก จริงๆ แล้วเมืองนี้มีอะไรน่าสนใจที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้หรือไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับการมาเยือนแน่นอน

 

เมืองเซ็นได (Sendai - 仙台)

 

เมืองแห่งต้นไม้

เซ็นไดถูกยกให้เป็น “เมืองที่มีต้นไม้ใหญ่เขียวขจีมากที่สุดในญี่ปุ่น” ซึ่งต้นไม้ที่ว่านี้ ไม่ได้หลบอยู่ในสวนสาธารณะแต่อย่างใด แต่กระจายอยู่ตามท้องถนนทั่วไปทั้งเมือง โดยเฉพาะตลอดเส้นถนนอาโอบะ (Aoba Dori) ถนนหลักใจกลางเมือง เมื่อออกจากสถานีเซ็นได (Sendai Station) มาก็เจอเลย ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่เขียวขจีจนแสงแดดแทบส่องไม่ถึงพื้น

 

เมืองเซ็นไดเขียวร่มรื่นตลอดทางเดิน

 

ความร่มรื่นนี้ช่วยให้เราเดินได้สบายขึ้น รู้สึกร้อนน้อยลง สัมผัสได้ถึงอากาศดี และเสริมภูมิทัศน์ของเมืองให้ดูสบายตา จนถูกตั้งฉายาว่า “เมืองแห่งต้นไม้” หากใครเคยไปสิงคโปร์มาแล้วซึ่งขึ้นชื่อเรื่องต้นไม้ใหญ่โตเขียวขจี อยากให้ลองมาเซ็นได จะพบว่าทั้งเมืองเซ็นไดนั้นไม่เป็นรองเลยครับ (หลายมุมเขียวขจีกว่าสิงคโปร์ซะอีก)

 

Sendai - 仙台

เมืองเซ็นได (Sendai)ไม่แพ้สิงคโปร์เลยว่ามั๊ย

 

ที่ถนนโจเซ็นจิ (Jozenji Dori) เส้นคู่ขนานกับถนนอาโอบะ (Aoba Dori) เป็นที่ตั้งของรูปปั้น “สาวน้อยอาบน้ำ” ซึ่งตั้งอยู่เกาะกลางถนน ตรงจุดนี้เกาะกลางถนนถูกทำเป็นทางเดินปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่สองข้างทางพร้อมม้านั่งให้ได้ดื่มดื่ม ชมวิวเมืองใต้ต้นร่มไม้ใหญ่ จุดนี้ถือไฮไลท์ของเมืองเลยก็ว่าได้ เพราะสีของใบจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดงสะพรั่งทั้งย่านดูสวยงาม หรือในช่วงกลางคืนก็จะถูกตกแต่งประดับไฟอย่างงดงาม

 

เมือง Sendaiแดดส่องไม่ถึงพื้น

 

ส่วนใครอยากสัมผัสสวนสาธารณะจริงๆ ก็ขอให้ไปที่ Tsutsujigaoka Park ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเซ็นได สวนแห่งนี้ในช่วงฤดูกาลต่างๆ เช่น ฤดูใบไม้ผลิ เป็นแหล่งชมซากุระที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเมือง

 

ถนนสายช็อปปิ้ง (Ichibancho Arcade)

เฉกเช่นเมืองใหญ่ทั่วไป เซ็นไดก็มี “ถนนสายช็อปปิ้ง” ใจกลางเมืองที่ชื่อ “Ichibancho Arcade” มีลักษณะเหมือนที่ทั่วไปในญี่ปุ่น คือเป็นย่านช็อปปิ้งมีร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหารมากมายตลอดสองข้างทาง มาพร้อมโดมหลังคากันฝนเดินสบายตลอดเส้นทางโดยไม่ต้องกังวล

 

Ichibancho Arcade

 

แต่ต่างตรงที่…ด้วยความเป็นเมืองแห่งต้นไม้ ถนนคนเดิน Ichibancho นี้จึงเต็มไปด้วยต้นไม้ตลอดสองข้างทางในปริมาณที่เยอะหน่อย รอบฐานต้นไม้ก็ทำเป็นม้านั่ง พร้อมป้ายบรรยายว่านี่คือต้นไม้พันธุ์อะไร มาจากไหน รายละเอียดต่างๆ สมเป็นเมืองแห่งต้นไม้จริงๆ นอกจากร้านค้าร้านแบรนด์เนมทั่วไปแล้ว บางร้านในที่นี้เป็นร้านของที่ระลึกผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งอาจไม่ได้มีแค่เฉพาะเซ็นได แต่รวมทั้งภูมิภาคโทโฮคุเลยทีเดียว

 

ถนนสายช็อปปิ้ง Ichibancho Arcadeถนนสายช็อปปิ้ง Ichibancho Arcade

ถนน Ichibancho Arcadeเต็มไปด้วยต้นไม้ตลอดสองข้างทาง

ถนนคนเดิน Ichibancho Arcade

ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle)

หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ปราสาทเซ็นได” (ชื่อนี้จำง่ายกว่าเนอะ) ถือเป็นแลนมาร์คของเมืองที่ใครมาเซ็นไดเป็นต้องเจียดเวลามาเยือน (ไม่ต่างจากปราสาทโอซาก้าเวลาไปโอซาก้า) ปราสาทตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 100 เมตร ทำให้นอกจากปราสาทแล้ว เรายังจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเซ็นไดไปในตัว

 

ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle)ส่วนที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ของปราสาท ที่มาภาพ: photozou.jp

 

ปราสาทถูกสร้างมาตั้งแต่ยุค 1600 น่าเสียดายที่ถูกทำลายไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เห็นปัจจุบันคือเฉพาะส่วนของกำแพงที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ แต่ไม่ต้องเสียดายไป เพราะรอบๆ ยังมีจุดน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นขุนนาง Date Masamune เด่นสง่าบนหลังม้า, Sendai City Museum ที่รวบรวมแสดงมรดกทางประวัติศาสตร์ของเมืองเซ็นไดไว้มากมาย เลยไปอีกหน่อยราว 1 กิโลเมตรเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์ Sendai Yagiyama Zoo

 

รูปปั้นขุนนาง Date Masamuneรูปปั้นขุนนาง Date Masamune ที่มาภาพ: 4travel.jp

Sendai City MuseumSendai City Museum ที่มาภาพ: blog.goo.ne.jp

 

เทศกาลทานาบาตะ (Tanabata Festival)

จัดขึ้นวันที่ 6-8 เดือนสิงหาคมของทุกปีที่บริเวณใจกลางเมืองเซ็นได ถือเป็นเทศกาลที่ใหญ่มากของเมือง (และของญี่ปุ่น) ทั้งชาวเมืองเซ็นไดเองและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างก็นิยมเข้าร่วมเทศกาล ต้นไผ่และเสาสูงกว่า 10 เมตร รวมถึงการประดับตกแต่งตามรายทางถือเป็นหนึ่งในสีสันของเมืองที่เรียกความสนใจจากมวลชนทุกปี (หลายคนแต่งชุดยูกาตะมาร่วมงานด้วยนะ) นอกจากนี้ภายในงานยังมีดนตรีสด, การแสดงโชว์เต้นแบบดั้งเดิม, อาหารหลากประเภท การจัดแสดงพลุไฟยามราตรี ฯลฯ

 

เทศกาล Sendai Tanabata Matsuri 2018เทศกาล Sendai Tanabata Matsuri 2018 ที่มาภาพ: ameblo.jp

 

ลิ้นวัวย่าง (Gyutan)

หรือที่เรียกกันว่า กิวตัน (Gyūtan –  牛タン) ถือเป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อของเมืองเซ็นได ใครมาเป็นต้องลอง กรรมวิธีคือนำลิ้นวัวไปหมักให้ได้ที่ ปรุงรสก่อนนำไปย่าง ลิ้นวัวเซ็นไดนี้คือมาตรฐานที่พบเจอได้ทั่วไป ราคาไม่แรง และมักถูกประยุกต์ทำเป็นเมนูต่างๆ เช่น ข้าวหน้าลิ้นวัว ซุป เป็นต้น

 

ลิ้นวัวย่าง ของขึ้นชื่อเซ็นไดลิ้นวัวย่าง ของขึ้นชื่อเซ็นได ที่มาภาพ – ameblo.jp

ข้าวหน้าลิ้นวัวย่าง เซ็นไดข้าวหน้าลิ้นวัวย่าง อร่อยเหาะ ที่มาภาพ – mondbar.blog.fc2.com

 

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

เราสามารถเลือกเมืองเซ็นไดเป็นที่พักและออกท่องเที่ยวไปยังเมืองหรือสถานที่น่าสนใจโดยรอบได้ ไม่ว่าจะเป็นวัด Yamadera อายุนับพันปี, Sakunami Onsen ออนเซ็นน้ำแร่ธรรมชาติวิวดีที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง,  Akiu Fall 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น, Mitsui Outlet Park Sendai Port เอาท์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ หรือจะข้ามไปเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะก็ไม่ว่ากัน

 

Sakunami OnsenSakunami Onsen ที่มาภาพ: bitly.com

Sakunami Onsen, Sendaiเจอแบบนี้ไป ไม่อยากลุกเลย ที่มาภาพ: bitly.com

น้ำตก Akiu Fallน้ำตก Akiu Fall ที่มาภาพ: iko-yo.net

 

เมืองดี อากาศดี คนไม่พลุกพล่าน(และดูเครียด) เท่าโตเกียว ที่ว่ามาคือแลนมาร์คสำคัญต้นๆ อันที่จริงเซ็นไดยังมีแหล่งน่าสนใจน้อยใหญ่อีกเพียบรอการมาเยือนของพวกเราทุกคนอยู่ สำหรับใครที่เวลาจำกัดเหลือเกิน บอกเลยว่าแค่ได้มาเดินเล่นตัวเมืองก็มีความสุขได้ เขียวขจีร่มรื่นไปทั่วทั้งเมืองมันดีจริงๆ

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ