7 เรื่องที่ทำได้แสนง่ายดายในญี่ปุ่น
สารบัญ
เชื่อหรือไม่ว่าญี่ปุ่นนั้น “ง่าย” จริงๆ จะทำอะไรก็สะดวกและเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวแบบเราเป็นที่สุด บทความนี้เราขอยกตัวอย่าง 7 เรื่องที่ทำในญี่ปุ่นได้ง่าย(มาก) เวลาเดินทางไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่น เพื่อให้คนที่ยังไม่เคยไปหรือยังกังวลบางเรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่นอยู่ได้กระจ่างเข้าใจและสบายใจ เพื่อเตรียมตัวท่องเที่ยวได้ถูกต้อง อีกทั้งตอบคำถามในใจใครที่กำลังสงสัยว่าทำไมญี่ปุ่นจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจของใครหลายคน
เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า 7 เรื่องที่ทำในญี่ปุ่นได้ง่าย และเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวสุดๆ นั้นมีอะไรบ้าง
01 ข้ามถนนได้ง่าย
ฟุตปาธน่ะไม่มีปัญหา แต่หลายคนอาจจะกังวลเรื่องการข้ามถนนหนทาง แต่ขอบอกว่าหายห่วงได้เลย เพราะทางม้าลายข้ามถนนในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าข้ามได้ง่ายและปลอดภัยอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว โดยบริเวณที่เป็นจุดตัดทางข้ามกับถนนจะมีทางม้าลายให้เห็นชัดเจน (ตอนกลางคืนยังเห็นชัด)
ทางม้าลายชัดเจนแม้ตอนกลางคืน
ทางม้าลายในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมี “สัญญาณไฟจราจร” กำกับบอก ข้ามได้เมื่อไฟเขียว หยุดเมื่อไฟแดง ที่ดีงามคือมีการนับถอยหลังว่าต้องรออีกนานแค่ไหน ซึ่งมาในรูปแบบ “ตัวเลข หรือ นาฬิกาทราย” และไม่ใช่เฉพาะตามถนนใหญ่เท่านั้น แม้แต่ในซอยเล็กๆ ก็ยังมีทางม้าลายพร้อมไฟแบบนี้เหมือนกัน
มีสัญญาณไฟคนข้ามแทบทุกจุด ทางข้ามในซอยก็จัดเต็มไม่แพ้จากถนนใหญ่
ที่สำคัญคนญี่ปุ่นปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด ไฟแดงคือหยุดจริง ถึงเวลาไฟเขียวต้องข้ามถนนจริงจึงมักข้ามเป็นหมู่คณะใหญ่ อบอุ่นไปอีกแบบ อีกทั้งทางม้าลายบนถนนใหญ่สามารถข้ามได้จังหวะเดียว โดยไม่ต้องมายืนรอบนเกาะกลางแต่อย่างใด หากสังเกตให้ดีเส้นทึบรถหยุดมักอยู่ห่างไกลออกไป ทำให้คนที่กำลังเดินข้ามถนนสามารถมองเห็นรถได้ทุกเลน
ไม่มีเกาะกลางให้ต้องหยุดรอ
สิ่งที่ผู้สูงอายุหลายท่านกังวลคือ “สะพานลอย” แต่ก็หายห่วงได้ระดับหนึ่งเพราะมีน้อยมากๆ อีกทั้งจุดที่มีก็มักออกแบบให้เดินขึ้นได้สะดวกและบางแห่งก็มีลิฟต์ไว้คอยบริการ
ทีนี้มาพูดถึงวินัยจราจรของคนขับรถกันบ้าง ตามสี่แยกไฟแดงจะไม่มีใครหยุดรถทับทางม้าลายและมีเมื่อรถเลี้ยวมา(ฝั่งรถก็ไฟเขียวเช่นกัน) ก็จะหยุดให้คนข้ามไปก่อนเสมอ เราสามารถเดินตามปกติได้เลย ไม่มีการบีบแตรเร่งแน่นอน
02 ขับรถได้ง่าย
การเช่ารถขับเที่ยวในญี่ปุ่น โดยเฉพาะออกนอกเมืองสู่วิวชนบท เป็นเสน่ห์ที่ยากจะปฏิเสธและเป็นประสบการณ์คุณต้องลองซักครั้ง
ก่อนอื่นเลย มีบริษัทให้เช่ารถมากมายประจำอยู่เกือบทั่วญี่ปุ่น ร้อยทั้งร้อยตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟใหญ่และย่านสำคัญของเมืองนั้น แต่ละแห่งก็มีแพ็คเกจราคาให้เลือกต่างกันไป เมื่อตกลงเลือกรถจ่ายเงินเสร็จสรรพ เจ้าหน้าที่จะพามาที่รถพร้อมอธิบายการใช้งานโดยละเอียด สงสัยตรงไหนสอบถามโลด จากนั้นก็ได้เวลาลุย!
เจ้าหน้าที่อธิบายการใช้งานละเอียด
ถนนในญี่ปุ่นมี Speed Limit จำกัดความเร็วที่เหมาะสม เช่น ในตัวเมืองมักอยู่ที่ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในซอย 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง แน่นอนว่ามีคนฝ่าฝืนบ้างแต่มักเป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่ขับในระดับที่กฎหมายกำหนด ไม่ค่อยเปลี่ยนเลนไปมาบ่อยๆ สภาพการจราจรเป็นแบบไปเรื่อยๆ ในความเร็วระดับนี้ ยังสามารถหยุดให้คนข้ามถนนได้ง่ายด้วย
ที่สำคัญเส้นจราจรชัดเจนมากไม่มีเลือน แม้ตอนกลางคืนก็ยังมองเห็นชัดเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนได้เป็นอย่างดี หากขับในตัวเมืองใหญ่ที่มักเอาสายไฟลงดินหมดแล้ว ทำให้ทัศนวิสัยน์ตอนขับรถดี สามารถสังเกตป้ายบอกทาง สถานที่สำคัญ ตึกอาคาร หรือซอยที่จะเลี้ยวได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
มีป้ายบอก Speed Limit 50 กม./ชม.
เส้นจราจรสีสดชัดเจน ทัศนวิสัยน์ดี
จุดที่ต้องระวังเล็กน้อยคือ สัญญาณไฟจราจรบางแห่งก็ไม่มีตัวเลขนับถอยหลัง เลยต้องมีสติคอยดูไฟให้ดี และจังหวะเลี้ยวขวาบางแห่งใช้ระบบไปได้เมื่อรถอีกฝั่งโล่ง
ไฟจราจรไม่มี Countdown จุดนี้ต้องระวัง
สภาพจราจรเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว อาจมีการจราจรติดขัดในเส้นทางหลักบ้างเป็นธรรมดา (ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็คงไมได้เช่ารถขับวนเที่ยวในโตเกียวหรอก) แต่นอกเหนือจากนั้นรถราไม่ได้ติดขัด ออกจะโล่งด้วยซ้ำ ยิ่งโซนชนบทยิ่งไม่ต้องพูดถึง รถน้อย ขับได้ง่ายไปเรื่อยๆ แถมตามทางหลวงมีจุดพักรถที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ขอเพียงแค่เราปฏิบัติตามกฎจราจร การขับรถในญี่ปุ่นจะง่ายและราบรื่นมาก
03 หาของกินได้ง่าย
“หาของกินได้ทุกที่ในญี่ปุ่น” คำพูดนี้ไม่ได้มาเล่นๆ และไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด
อย่างแรกเลยคือจำนวน “ร้านสะดวกซื้อ” (รวมทุกแบรนด์) ในญี่ปุ่นมีมากกว่า 58,000 ร้านทั่วประเทศ ทั้ง 7-11, Lawson, Family Mart ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ต่างจาก 7-11 บ้านเรา หิวเมื่อไรก็แวะมามีของกินอร่อยๆ เพียบไว้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อย่าดูถูกเชียวบางอย่างอร่อยเหาะจริง และหลายสาขาทำที่นั่งกินเป็นเรื่องเป็นราว
มาต่อกันที่ “เชนร้านอาหารเร่งด่วน” ของญี่ปุ่นเองอย่าง Yoshinoya, Sukiya, MOS Burger, Pepper Lunch, Ichiran, CoCoICHIBANYA หรือแบรนด์ตะวันตกอย่าง McDonald’s, KFC และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งมีสาขากระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ หากินได้ทุกที่โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่เดินไปทางไหนต้องเห็นมันซักร้าน จนเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นไปแล้ว แม้เป็นร้านอาหารแบบเร่งด่วน แต่หลายเมนูก็มีโภชนาการที่ครบใช้ได้เลย แถมหลายสาขาเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
เชนเร่งด่วน Sukiya
ยังมี “เชนร้านกาแฟ” ที่รองรับคนในทุกช่วงเวลาอย่าง Doutor, Starbucks, Excelsior Caffe ฯลฯ ซึ่งมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ (นี่ยังไม่รวมร้านกาแฟท้องถิ่น) แม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง แต่ก็เปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงเช้าถึงดึก เป็นที่พึ่งของเหล่าคนทำงานได้ทุกเวลา
หากคุณพักอยู่ตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ เชื่อว่าจะมีอาหารการกินเลี้ยงปากท้องคุณได้ตลอดทั้งทริป นี่ยังไม่ได้พูดถึงย่านค้าขายอย่างตลาดหรือถนนคนเดิน ที่มีตัวเลือกอาหารให้เลือกชนิดที่ทั้งทริปก็กินไม่ครบแน่นอน ไม่จำเป็นต้องเข้าห้างก็หาของกินอร่อยๆ ได้ รับประกัน
ตลาด Ameyoko ณ เวลา 5 ทุ่ม
04 หาห้องน้ำสาธารณะได้ง่าย (และคุณภาพดีมาก)
สถานีรถไฟส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นมีห้องน้ำในตัว ผู้โดยสารสามารถเข้าใช้ได้ฟรี
ใครที่มากับผู้ใหญ่ที่จำเป็นต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ บอกเลยหายห่วงครับ แม้เป็นห้องน้ำสาธารณะแต่หลายแห่งคุณภาพดีงามพระรามเก้าไม่ต่างจากในห้างเลย และมี Priority Toilet เป็นมาตรฐาน รองรับผู้ใช้วีลแชร์ คนท้อง ฯลฯ
ห้องน้ำในสถานีรถไฟ
Priority Toilet
อีกแห่งที่หาได้ง่ายและบางคนอาจยังไม่รู้คือที่ร้านสะดวกซื้อ จะมีห้องน้ำให้เข้าได้ฟรีเช่นกัน มักตั้งอยู่ในมุมด้านในสุด อาจไม่ได้หรูหราสวยงามนักแต่ส่วนใหญ่สะอาดน่าใช้ อนึ่ง เพราะทิชชู่ในห้องน้ำที่ญี่ปุ่นเป็นแบบย่อยสลายได้ง่าย เช็ดเสร็จทิ้งลงชักโครกได้เลย ช่วยลดปริมาณขยะ โดยรวมจึงไม่สกปรกนัก ลดงานแม่บ้านได้พอควร
เรายังพบเจอห้องน้ำได้หลากหลายสถานที่มากๆ คนญี่ปุ่นซีเรียสกับเรื่องห้องน้ำ ตามสถานที่ทั่วไปห้องน้ำโดยรวมมีมาตรฐานการใช้งานที่ค่อนข้างดีพอสมควร
05 แม้มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็เดินทางได้ง่าย
เริ่มตั้งแต่เดินทางไป-กลับ จากสนามบินถึงตัวเมือง ไม่ว่าจะนั่งรถบัสหรือรถไฟก็ล้วนมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่รองรับไว้อย่างดี รถบัสเก็บไว้ใต้ท้องรถ รถไฟก็มีพื้นที่สำหรับเก็บกระเป๋าพร้อมที่ล็อคระหว่างโบกี้
รถบัส
รถไฟ
ปัจจุบันสถานีรถไฟหลายสถานีมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เช่น มีทางลาด หรือ ลิฟต์ คอยให้บริการ ส่วนเครื่องตรวจตั๋วก็กว้างขวางมีช่องเหลือเฟือให้เข็นกระเป๋าผ่านได้ ถ้าต้องการฝากกระเป๋าเพื่อไปเที่ยวรอบสถานีก็มีล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าหลายขนาดไว้คอยบริการเช่นกัน
ช่องกว้างผ่านได้
ลิฟต์สู่สถานี
แต่ถ้าเราไม่สะดวกเข็นกระเป๋าไปเองก็สามารถใช้บริการ Delivery ที่มีอยู่ทั่วไปในเมืองและสนามบิน (หากสนใจใช้บริการรับส่งสัมภาระ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากที่นี่)
การเดินเข็นลากกระเป๋าตามทางเดินเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะผิวฟุตปาธเรียบสนิท จุดตัดทางข้ามต่างๆ เช่น ทางม้าลาย ก็เป็นทางลาดทำให้เราไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้น-ลงให้เหนื่อย แม้ของจะหนักแต่ไม่ใช่อุปสรรคต่อการเที่ยวเลย
06 เดินไปไหนมาไหนในตอนกลางคืนได้ง่าย
นักท่องเที่ยวสามารถเดินตอนกลางคืนดึกดื่นคนเดียวในญี่ปุ่นได้ค่อนข้างปลอดภัย ด้วยความที่ญี่ปุ่นกฎหมายแรง อัตราการก่ออาชญากรรมหรือฉกชิงวิ่งราวถือว่าไม่สูงนัก ตามซอกซอยก็มีไฟส่องสว่างเพียงพอ มี CCTV กล้องวงจรปิดติดตั้งตามระยะ อันที่จริงแสงไฟจากเชนร้านค้าทั้งหลายแหล่ที่เปิด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 หรือร้านอาหารเร่งด่วนอย่าง Yoshinoya ก็ช่วยเพิ่มความสบายใจให้กับคนเดินถนนตอนกลางคืนได้มาก
ในซอยพอมีแสงไฟสว่างไสว
CCTV
นอกจากตัวเราเองแล้ว ยังพบเห็นคนญี่ปุ่นทั่วไปเดินตามซอกซอยได้อย่างปกติ จะว่าไป “ดึกดื่น” ของคนญี่ปุ่น ไม่ใช่ 2-3 ทุ่ม แต่อาจเป็นช่วง 4-5 ทุ่มเป็นอย่างต่ำเลยด้วยซ้ำ ด้วยวัฒนธรรมกินดื่มที่แข็งแกร่งทำให้หลายย่านผู้คนยังพลุกพล่านอยู่เลยแม้เป็นเวลา 4 ทุ่มแล้วก็ตาม
ผู้คนยังเยอะแม้เวลา 4-5 ทุ่ม
หากเทียบกับเมืองระดับโลกอื่นๆ อย่างเช่น ปารีส นิวยอร์ก โตเกียวถือว่าปลอดภัยกว่าพอสมควรสำหรับการเดินคนเดียวตอนดึกดื่น อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยขอแนะนำว่ายังไงก็ไม่ควรประมาทอยู่ดี
07 ผลิตภัณฑ์ใช้งานง่าย
สินค้าญี่ปุ่นถูกออกแบบแพ็กเกจจิ้งมาให้ใช้งานง่าย คือแกะง่าย ฉีกง่าย เปิดง่าย กินง่าย ทิ้งง่าย ตั้งแต่ต้นจนจบ ที่สำคัญ มันง่ายไม่ใช่เฉพาะกับสินค้าแบรนด์หรูราคาแพง แต่รวมถึงสินค้าในชีวิตประจำวันด้วย อาทิ ฝาถ้วยโยเกิร์ตบางยี่ห้ออย่าง Meiji หรือ Morinaga จะใช้วัสดุพิเศษกับตัวฝา ฉีกเปิดมาแล้วโยเกิร์ตไม่ติดฝาเลย
โยเกิร์ตไม่ติดฝา ภาพ – bit.ly/2XovKBj
หรือซอส 2 in 1 ที่ใช้มือเดียวก็บีบเปิดได้แล้วซอสจะหล่นมาผสมกันเลย โดยส่วนใหญ่มักเป็นซอสที่กินคู่กัน เช่น ซอสมะเขือเทศกับมัสตาร์ด
ซอส 2 in 1 ภาพ – bit.ly/2EPh9I4
ถ้วยกาแฟ Take Away ของร้านกาแฟบางแห่งเป็นแบบป้องกันความร้อน สามารถถือมือเปล่าได้แบบอุ่นกำลังดี
กาแฟพร้อมดื่มตามร้านสะดวกซื้อจะมีหลอดติดอยู่ข้างๆ ซึ่งเราไม่ต้องฉีกเลย เพียงแค่กดที่หัวด้านบนเบาๆ หลอดจะทะลุพลาสติกออกมาด้านล่างทันที ไร้เศษพลาสติกปลิวว่อน จากนั้นปรับหลอดให้ยาวขึ้นก็พร้อมดื่มได้แล้ว
หรือพวกขนมของกินเล่นก็มักมีเส้นรอยประ แค่ออกแรงกดลงไปก็จะทะลุตามรอยทันที ไม่ต้องมาคอยฉีกให้ขาดแหว่งกระจาย ถ้านึกไม่ออกตัวอย่างสุดคลาสสิกก็คือ Kit Kat นั่นเอง
ทั้ง 7 ข้อนี้ เอาเข้าจริงแล้วต้องการจะบอกนักท่องเที่ยวที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับญี่ปุ่นนักได้รับทราบว่าญี่ปุ่นนั้น “เที่ยวง่าย” เพื่อความสบายใจและเตรียมตัวเที่ยวได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร เที่ยวให้สนุกนะ