ประโยคในบรรทัดถัดไปอาจจะดูไม่น่าเชื่อ

“..ถ้าคุณสั่งขนมปังจากร้าน Gateau d’ange วันนี้…อีก 14 ปี คุณถึงจะได้กินขนมปังของคุณค่ะ!..”

ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ มันเป็นเรื่องน่าประทับใจซึ่งเกิดขึ้นจริงที่เมืองคะมะกุระ (Kamakura) ประเทศญี่ปุ่น

ว่าแต่ทำไมถึงนานขนาดนั้นกันล่ะ ตอนที่ฉันได้ยินครั้งแรกก็สงสัย ปกติฉันอบขนมปังกินเองที่บ้านอยู่บ้าง ถ้าคำนวณตั้งแต่การเตรียมข้าวของไปจนถึงตอนอบเสร็จก็น่าจะใช้เวลาสัก 3 ชั่วโมง ช่วงนี้ฉันกำลังสนุกกับการทำขนมปังแบบไม่นวดหรือที่เรียกว่า Artisan Bread เป็นวิธีทำขนมปังแบบโบราณ ใช้เพียงแป้ง เกลือ ยีสต์ และน้ำ มาผสมเข้าด้วยกันแล้วปิดฝาภาชนะทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แค่นี้แป้งก็จะพองขึ้นมาเป็นสองเท่าอย่างง่ายดายแบบไม่ต้องเมื่อยหรือเหนื่อยจากการนวดแป้งเลย

แต่ขนมปังของไทระ มิซุกิ (Taira Mizuki) แห่ง Gateau d’ange เป็นขนมปังที่นวดด้วยมือค่ะ โดยนำส่วนผสมทั้งหมดนั้นมานวดเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ขนมปังที่อบออกมาแล้วมีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มอร่อย คุณอาจกำลังสงสัยว่านี่ก็เป็นวิธีทำขนมปังตามปกตินี่นา ไม่เห็นจะแปลกหรือพิเศษตรงไหนจนทำให้ต้องรอนานถึง 14 ปีเลยใช่ไหมคะ แต่…การนวดด้วยมือของไทระนี่แหละค่ะเป็นส่วนสำคัญของร้านขนมปังเล็กๆ แห่งนี้

ถึงจะพูดว่าเป็น “ร้านขนมปัง” แต่จริงๆ แล้วขนมปังของไทระสั่งซื้อได้ทางออนไลน์เท่านั้น ไม่มีหน้าร้านค่ะ (ตอนนี้คุณกำลังสงสัยอีกใช่ไหมคะว่าแล้วลูกค้ามากมายขนาดนั้นมาจากไหนกัน)

ก่อนที่ไทระจะมาเป็นคนอบขนมปัง เขาเคยเป็นนักแข่งจักรยานมืออาชีพ แต่เพราะประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงจากการแข่งขันในเดือนสิงหาคมปี ค.ศ. 2005 ทำให้ไม่สามารถลงแข่งได้อีกและอาจจะถึงกับต้องนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลตลอดไป แต่ไทระไม่ยอมแพ้ ทุ่มเทให้กับการทำกายภาพบำบัดจนสามารถลุกยืนได้อีกครั้ง แม้ประสิทธิภาพและการเคลื่อนไหวของร่างกายจะไม่เหมือนเดิม แต่เขาคิดว่ามันคือ “ปาฏิหาริย์” ที่ทำให้ได้กลับมาใช้ชีวิตในบ้านแสนรัก

แล้วงานอะไรล่ะที่จะทำในบ้านได้และเป็นการทำกายภาพบำบัดไปด้วย คำตอบก็คือ “การทำขนมปัง”
ดังนั้นไทระกับภรรยาจึงเริ่มต้นอาชีพใหม่ด้วยการทำขนมปัง (ขนมเค้ก คุกกี้ แยม และปัจจุบันจำหน่ายอุปกรณ์ทำสวนกับงานฝีมือด้วย)

ไทระและภรรยาใช้ครัวเล็กๆ ในบ้านเป็นสถานที่อบขนมปัง พวกเขาใช้เตาอบแบบที่ใช้งานตามบ้านทั่วไป ทำให้อบขนมปังได้จำนวนไม่มากต่อวัน ถ้าวันไหนสภาพร่างกายของไทระไม่เอื้ออำนวยก็ต้องหยุดพัก แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งเขากลับได้เรียนรู้ว่าการนวดขนมปังอย่างตั้งใจและมีสมาธินั้น ช่วยให้ลืมความเจ็บปวดทางร่างกายได้เช่นกัน

เมื่อผู้คนได้ยินเรื่องราวของร้านขนมปังแห่งนี้ไปทั่วประเทศ ก็มียอดสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับจดหมายให้กำลังใจ ทั้งนิตยสารและรายการโทรทัศน์ก็มาสัมภาษณ์เรื่องราวของพวกเขา เมื่อฉันหาข้อมูลเพิ่มเติมตามเว็บไซต์ต่างๆ ปรากฏว่าในปี ค.ศ. 2015 มียอดสั่งซื้อที่ยังไม่ได้จัดส่งอีกประมาณ 14,600 คน พูดง่ายๆ คือพวกเขายังต้องทำขนมปังต่อไปอีกยาวนานเป็นสิบๆ ปี (อย่างน้อยก็ 14-15 ปี)

ฟุซะกิ อุซะมิ (Fusaki Usami) ภรรยาของไทระเล่าถึงการจัดส่งขนมปังไปให้ลูกค้าในบทสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์หนึ่งว่า ก่อนจะจัดส่งต้องโทรศัพท์ไปคอนเฟิร์ม ปรากฏว่าบางคนก็ย้ายที่อยู่ไปแล้ว หรือบางคนสั่งขนมปังตั้งแต่ตอนยังไม่แต่งงานหรือมีลูก บ้างก็โมโหฟุซะกิที่โทรฯมาเพราะคนที่สั่งขนมปังไว้เป็นแฟนเก่า ย้ายออกไปแล้ว และไม่อยากได้ยินชื่อนั้นอีก (ฮา)

ตอนที่ได้ฟังและเห็นใบหน้าของพวกเขาทั้งสองคนผ่านรายการ ฉันก็อดอมยิ้มไปด้วยไม่ได้ ประทับใจที่แม้ว่าคุณลูกค้ารู้อยู่แล้วว่าต้องรออีกแสนนาน แต่พวกเขาก็ยินดีจะสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ใครสักคนหนึ่งระหว่างรอคอยการมาถึงของขนมปัง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่สิ่งสำคัญ มันเป็นสัญลักษณ์แทนการสู้ชีวิตของไทระ และการได้รอคอยสิ่งที่มาจากความใจสู้เช่นนี้เองที่เป็นรสชาติของ ‘ความสุข′ สำหรับคุณลูกค้าอย่างแท้จริง

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ