Sea View Restaurant in Okinawa : รวม 7 ร้านวิวทะเลสวยในโอกินาว่า

7 ร้านน่านั่งเห็นวิวทะเลในโอกินาว่า

ถ้าพูดถึงทะเลสวยๆ ในญี่ปุ่นแล้ว คงจะหนีไม่พ้นโอกินาว่าอย่างแน่นอน จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องทะเลงามตาและเต็มไปด้วยเกาะมากมาย พร้อมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ บรรยากาศเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อน ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับใครที่ชื่นชอบทะเลและกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โอกินาว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว แต่จะดีแค่ไหนถ้านอกจากจะได้เที่ยวชื่นชมความสวยงามของท้องทะเลและธรรมชาติแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารแสนอร่อย ได้มองท้องทะเลสีฟ้าที่ไกลสุดลูกหูลูกตากับอาหารจานโปรด คงจะเป็นความทรงจำที่ดีไม่น้อยเลย ซึ่งวันนี้นั้นเราก็ได้รวบรวม 7 ร้าน น่านั่งพร้อมวิวทะเลในจังหวัด โอกินาว่า มานำเสนอให้ทุกคนได้ลองไปกันดู

01 Cafe Kokuu

มาเริ่มกันที่ร้านแรกกันเลยกับ ร้าน Cafe Kokuu ร้านคาเฟ่สำหรับชาวมังสวิรัติหรือคนที่รักสุขภาพ ตั้งอยู่บนเนินเขาของหมู่บ้านนาคิจิน (Nakijin) ทางตอนเหนือของ โอกินาว่า ตัวร้านหลังคากระเบื้องสีแดงส้มตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้ดูเด่นสะดุดตา พร้อมกับวิวทะเลอันงดงามอันกว้างขวาง อาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทางจากเมืองนาฮะ (Naha) สักหน่อย เนื่องจากตัวร้านอยู่บนเนินเขาและค่อนข้างลึก แนะนำให้เช่ารถขับจะสะดวกที่สุด

ภาพ: www.okinahours.com

พอเข้ามาด้านในร้านก็จะพบกับโต๊ะที่เรียงรายอยู่ภายใน ทั้งตัวโต๊ะและเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ทางร้านเลือกใช้เป็นไม้สีอ่อนๆ ให้ความรู้สึกไม่เคร่งขรึมจนเกินไป และยังให้ความรู้สึกเข้ากับธรรมชาติบนเนินเขาได้อย่างดีเยี่ยม ภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวาง มีการแบ่งสัดส่วนอย่างดี มีหลายมุมให้ได้เลือกนั่ง ทั้งโต๊ะริมหน้าต่างและที่นั่งแบบเคาน์เตอร์

ภาพ: www.okinawastory.jp

ตัวร้านใช้วัสดุเป็นไม้จำนวนมากในการสร้าง ไม่ว่าจะเป็น พื้น หน้าต่างบานใหญ่ และระเบียงด้านนอก รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำให้ได้บรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง มาที่ร้านนี้คุณจะได้เพลิดเพลินกับไปอาหารหลากเมนูพลางชมทิวทัศน์อันงดงามของโอกินาว่า เพิ่มประสบการณ์และความทรงจำกับมื้ออาหารแสนอร่อยได้อย่างไม่มีวันลืม

ภาพ: www.okinawastory.jp

เมนูแนะนำของ Cafe Kokuu ก็คือ Koku Plate เซ็ตอาหารผักเพื่อสุขภาพ อุดมไปด้วยผักสดหลายชนิดพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ใช้เฉพาะผักปลอดสารพิษไร้สารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถเพลิดเพลินกับผักสดตามฤดูกาลที่ปลูกหรือขึ้นเองตามธรรมชาติของเกาะได้ ยิ่งได้กินคู่กับน้ำซุปร้อนๆ ยิ่งเข้ากันสุดๆ ไปเลย

Koku Plate ราคา 1,200 เยน ภาพ: savorjapan.com

นอกจากนี้ยังมีเมนูของหวานกับ Dried Fruit Chocolate Tart สัมผัสความหวานสดชื่นของทาร์ตช็อกโกแลตผสมผลไม้อบแห้ง แป้งทาร์ตเนื้อละเอียดเนียนนุ่มที่ภายในนั้นอัดแน่นไปด้วยช็อกโกแลต ด้านบนเป็นแยมที่ทำจากผลไม้อบแห้ง ให้รสชาติที่หวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นเมนูที่เน้นส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้แห้งออร์แกนิค แอปเปิ้ล ฯลฯ สำหรับคนที่อยากลิ้มลองเมนูวัตถุดิบสดใหม่และบรรยากาศดีๆ จากธรรมชาติ ไม่ควรพลาดร้านนี้เลย

Dried Fruit Chocolate Tart ภาพ: savorjapan.com

02 Coffee & Break Ginoza Farm Lab

มาต่อที่ ร้าน Coffee & Break Ginoza Farm Lab อยู่ไม่ไกลจากสถานีกิโนสะ (Ginoza Roadside Station) เป็นสถานีริมทางเพียงแห่งเดียวบนชายฝั่งตะวันออกของเกาะหลัก โอกินาว่า ตัวร้านอยู่บนชั้น 2 ของอาคารสีเบจที่ดีไซน์ออกมาคล้ายเรือลำใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน ร้านมีเมนูเด็ดคือ Ginoza Classic Burger ที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นรวมถึงมีกาแฟแสนกลมกล่อม เป็นอีกหนึ่งร้านที่สามารถอิ่มอร่อยกับอาหารสดใหม่ในบรรยากาศชิลล์ๆ

ภาพ: judengo.jp

ภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวาง มีโต๊ะนั่งหลากหลายมุมให้ได้เลือกนั่ง ไม่ว่าจะนั่งโต๊ะไหนก็สามารถมองเห็นวิวทะเลจากที่นั่งได้อย่างชัดเจน ด้วยตัวหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เปิดไว้รับลมธรรมชาติ ระหว่างจิบกาแฟแก้วโปรดก็ได้ชื่นชมทะเลสีครามผืนใหญ่เบื้องหน้าราวกับนั่งอยู่บนเรือเลยล่ะ

ภาพ: beokinawa.jp

สำหรับเบอร์เกอร์ที่เชื่อว่าจะถูกปากใครหลายคนก็คือ Okinawa Green Chilli Spicy เบอร์เกอร์ที่อัดแน่นไปด้วยผักสด เนื้อแฮมเบิร์กที่ทำขึ้นอย่างตั้งใจ ตัวเนื้อที่เหนียวนุ่มชุ่มช่ำกำลังดี ไม่แห้งจนเกินไป มาพร้อมกับซอสและการปรุงรสอันเป็นเอกลักษณ์ องค์ประกอบทุกอย่างล้วนแล้วแต่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นของโอกินาว่า จึงเป็นเมนูที่มีความอร่อยและพิเศษเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูแฮมเบอร์เกอร์อีกหลากหลายให้ได้ลิ้มลอง หากใครที่ชื่นชอบอาหารสไตล์อเมริกันยิ่งต้องมาที่นี่ให้ได้เลย

Okinawa Green Chilli Spicy ราคา 1,290 เยน ภาพ: Ginoza Farm Lab www.facebook.com

ต่อมาเป็นเช็ตอาหารเช้าแบบอเมริกัน จุใจกันแบบเต็มอิ่มด้วยขนมปังอบกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ดาวที่ตัวไข่แดงไม่สุกและดิบจนเกินไป ในเซ็ตนี้ยังมีซุปฟักทองร้อนๆ สีสันน่ากินและสลัดที่เข้ากัน เติมเต็มช่วงเวลาอาหารเช้าได้อย่างดีเยี่ยม

Good Day Morning Breakfast ราคา 900 เยน ภาพ: beokinawa.jp

นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม Ginoza Farm Lab Latte ที่ทางร้านตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน ตัวลาเต้ที่มีกลิ่นหอมละมุนและนมที่กลมกล่อมทำให้ทุกอย่างเข้ากันอย่างลงตัว และยังมีเมนูกาแฟอื่นๆ ให้เลือกสั่งได้ตามความต้องการ

Ginzano Farm Lab Latte ราคา 540 เยน ภาพ: Instagram ginozafarmlab

03 Anettai Chaya

ถัดมาขอแนะนำ ร้าน Anettai Chaya ในเมืองโมโตบุ (Motobu) แขวงคุนิกามิ (Kunigami) เป็นหนึ่งในร้านที่ตกแต่งออกมาด้วยเสน่ห์แบบ โอกินาว่า เต็มๆ ซึ่งมีอาหารและวิวทะเลที่สวยงาม เดินเข้ามาก็จะพบกับร้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มีสวนหย่อมเล็กๆ อยู่ด้านหน้า ตัวร้านเป็นสีเหลืองอ่อนตัดกับหลังคาอิฐแดง ทั้งการตกแต่งและบรรยากาศเป็นสไตล์รีสอร์ทในพื้นที่กึ่งเขตร้อน บริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) ที่นี่จึงเหมาะกับการแวะมารับประทานในช่วงกลางวันเป็นอย่างมาก

ภาพ: jointhekellys.com

ในบริเวณร้านยังมีศาลาหลังเล็กๆ อยู่หลายหลังพร้อมเปลญวนให้ได้นอนพักผ่อน บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยต้นไม้เขตร้อนเขียวขจี เข้ากันกับชื่อร้านที่หมายถึง “โรงน้ำชากึ่งเขตร้อน”

ภาพ: beokinawa.jp

และมุมที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือมุมริมหน้าผาที่มีโต๊ะยื่นออกไปสู่วิวอันสวยงามของป่าไม้และทะเล ในวันที่ท้องฟ้าและอากาศแจ่มใสจะมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถเพลิดเพลินไปกับการชมท้องทะเลและดื่มด่ำกับช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมกับหลากเมนูที่ล้วนแต่เข้ากับบรรยากาศเป็นอย่างดี

ภาพ: beokinawa.jp

เมนูเด่นของร้านกลับกลายเป็นอาหารที่คนไทยเราคุ้นเคยอย่าง Chicken Gapao Rice ข้าวกะเพราไข่ดาวที่มีการตกแต่งมาอย่างสวยงามน่ารับประทาน ผัดกะเพราที่หอมใบกะเพราซึ่งเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์และไข่ดาวที่สุกกำลังดี รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมวิวทะเลสวยๆ แค่นี้ก็ทำให้กลายเป็นมื้ออาหารสุดพิเศษแล้ว

Chicken Gapao Rice ภาพ: okinawahai.com

ต่อมาเป็นเมนู Coconut & Cinnamon Toast ตัวขนมปังทาเนยที่นำไปปิ้งจนหอมกลิ่นเนยและกลิ่นเครื่องเทศเล็กน้อยเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟคู่กับแยมโรลเนื้อนุ่มที่มีส่วนผสมของมะพร้าวทำให้มีรสชาติที่ละมุนลิ้น และสลัดที่มาคู่กันทำให้สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่หลากหลายได้ในจานเดียว

Coconut & Cinnamon Toast ภาพ: okinawahai.com

สุดท้ายเป็นเมนู Tea Time ชาเย็นๆ ที่มาพร้อมแซนด์วิชสอดไส้ผัก ไม่ว่าจะเป็นแครอท กะหล่ำปลีม่วง ผักกาดหอม ทูน่า ฯลฯ ขนมปังมีความกรอบนอกนุ่มใน อัดแน่นไปด้วยผักและทูน่าที่ทะลักออกมา เสิร์ฟคู่กับบัตเตอร์เค้กที่ตัดมาเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำและวิปครีมสดที่ใส่มาในถ้วยเล็กๆ

Sandwich ภาพ: beokinawa.jp

04 Cafe Curcuma

ร้านคาเฟ่ชื่อดังในเมืองนันโจ (Nanjo) ที่มีชื่อว่า Cafe Curcuma นี้ ดูแลโดยเชฟชาวไทย หน้าร้านประดับด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด ทันทีที่เดินเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่สดชื่น ตรงทางเข้าร้านนั้นมีป้ายไม้ที่เป็นชื่อของร้านติดอยู่ เมื่อขับรถผ่านมาจะต้องสะดุดตา ไม่ขับรถเลยแน่นอน

ภาพ: www.okinawatraveler.net

คาเฟ่แห่งนี้มีทัศนียภาพอันงดงามของทะเลโอกินาว่าอยู่หลายจุด คุณจึงสามารถดื่มด่ำกับการรับประทานมื้ออาหารได้อย่างไม่มีเบื่อเลย พื้นที่เปิดโล่งทำให้รับลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ มีโต๊ะเคาน์เตอร์ที่หันออกไปสู่ท้องทะเลสีครามสดใสไกลสุดลูกหูลูกตา 

ภาพ: curcuma.cafe

นอกจากนี้ยังมีโต๊ะในร่มให้นั่งรับลมเย็นๆ สบายๆ แต่ยังคงมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลได้เหมือนกัน เพื่อให้คนที่เข้ามาใช้บริการสามารถเลือกที่นั่งได้ตามความต้องการ

ภาพ: curcuma.cafe

จานซิกเนเจอร์ของร้าน ได้แก่ Curcuma Thai Special เซ็ตอาหารไทยที่เสิร์ฟในภาชนะลวดลายไทยๆ รสชาติของเนื้อไก่ที่นุ่มละมุน เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ทั้งยังมาพร้อมกับแกงแบบไทยๆ อีก 2 ชนิด กินคู่กับสลัดที่มากไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และน้ำจิ้มไก่เด็ดที่ต้องลอง 

Curcuma Thai Special ราคา 1,899 เยน ภาพ: curcuma.cafe

แน่นอนว่ากินคาวแล้วต้องตบด้วยของหวานอย่าง Kurukama ZenZai ที่ทำมาจากน้ำกะทิสุดเข้มข้นที่มีกลิ่นหอมละมุนเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยถั่วแดงและโมจิก้อนกลมๆ เหนียวนุ่ม เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์เอเชียและสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว

Kurukama ZenZai ราคา 462 เยน ภาพ: curcuma.cafe

และก็มีเมนูใหม่ของทางร้านอย่าง Butterfly Pea Harusame Salad หรือยำวุ้นเส้นอัญชัน จุดเด่นของเมนูนี้ก็คือตัววุ้นเส้นที่มีการแต่งสีโดยใช้สีธรรมชาติซึ่งเป็นสีของดอกอัญชัน จึงออกมาเป็นสีฟ้าอมม่วงที่สวยงาม เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งตัวโตๆ และน้ำยำที่แยกถ้วยมาให้ จึงสามารถเลือกใส่ปริมาณน้ำยำได้ตามความต้องการ ถ้าใครที่สนใจอยากจะลองลิ้มรสอาหารสไตล์เอเชีย ต้องมากินที่ Cafe Curcuma สักครั้ง เพราะว่าไม่ใช่แค่อาหารอร่อยแต่ยังมาพร้อมวิวทะเลสวยหลักล้านอีกด้วย

Butterfly Pea Harusame Salad ราคา 1,694 เยน  ภาพ: Instagram cafe_curcuma

05 Cafe Lodge

ถัดมาที่ร้าน Cafe Lodge คาเฟ่บนเนินเขาที่มองเห็นวิวทะเลสวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ  ให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเค้กโฮมเมดและเซ็ตเมนูที่น่าพึงพอใจมากมายในบ้านไม้สไตล์วินเทจท่ามกลางอากาศที่สดใสและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ด้านหน้าร้านปกคลุมไปด้วยต้นไม้ทั้งไม้ยืนต้นและไม้เลื้อย โดดเด่นด้วยป้ายชื่อร้านสีขาวตัวใหญ่ และทางเดินเข้าร้านเล็กๆ ชวนให้รู้สึกน่าค้นหา

ภาพ: okibluesky.com

เมื่อเข้ามาด้านในของร้านจะพบว่ารอบร้านติดกระจกใส ทำให้เห็นบรรยากาศด้านนอกได้อย่างชัดเจนและได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ในร้านจะถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีไม้โอ๊ค ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ และพื้น ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในรีสอร์ทสไตล์เอเชีย

ภาพ: okiguru.com

นอกจากนี้ยังมีที่นั่งริมระเบียงซึ่งเผยให้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของท้องทะเลที่สวยงามเหนือป่าดงดิบเขตร้อน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาร้านอาหารอร่อยๆ แวะเติมพลังระหว่างทริปท่องเที่ยว ร้าน Cafe Lodge ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเหมาะอย่างมาก

ภาพ: okiguru.com

เมนูแรกที่อยากเชิญชวนให้ลิ้มลองก็คือ Chicken No Teriyaki เซ็ตอาหารสุดคุ้ม ตัวเนื้อไก่ที่ย่างร้อนๆ และราดกับซอสสูตรเฉพาะของทางร้านที่หวานเล็กน้อย มาพร้อมกับข้าวสวยและซุปร้อนๆ กินคู่กันยิ่งอร่อยกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียง เช่น สลัดผัก และชีสเค้กที่ตัวเค้กหนานุ่ม เรียกได้ว่าสั่งเมนูเซ็ตนี้ได้ทั้งของคาวและของหวานเลย คุ้มมากๆ 

Chicken No Teriyaki ราคา 1,500 เยน ภาพ: Instagram cafefuju

ถัดมาเป็นเมนูยอดนิยมไม่แพ้กันนั่นก็คือ Hamburg Demi Glace Sauce สไตล์อาหารตะวันตก แฮมเบิร์กอย่างดีเนื้อแน่นๆ เต็มๆ คำ กับซอสสูตรเข้มข้นของทางร้านที่เคี่ยวอย่างพิถีพิถัน จนมีรสชาติที่ลุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังเสิร์ฟพร้อมกับข้าวและน้ำซุปร้อนๆ พ่วงด้วยเครื่องเคียงและของหวานให้กินตบท้าย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดเลย

Hamburg Demi Glace Sauce ราคา 1,500 เยน ภาพ: Instagram cafefuju

สำหรับใครที่อยากเน้นเฉพาะของหวาน ขอแนะนำ Half & Half Cake Set เซ็ตบัตเตอร์เค้กเนื้อนุ่มฟูและเค้กช็อกโกแลตสุดเข้มข้นที่แบ่งมาเป็นชิ้นสวยงาม ตกแต่งจานด้วยผลไม้ทำให้จานดูมีสีสันน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น เสิร์ฟพร้อมชาร้อนๆ ช่วยตัดรสชาติหวานของตัวเค้กได้ดีอีกด้วย นั่งจิบชาพร้อมหม่ำขนมหวานสุดฟินท่ามกลางวิวทะเลสวยๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม

Half & Half Cake Set ราคา 950 เยน ภาพ: Instagram cafefuju

06 Tenku Terrace OOLOO

มาต่อกันที่ร้าน Tenku Terrace OOLOO ที่นี่เป็นทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองนันโจ (Nanjo) ใช้เวลาขับรถ 30 นาที จากตัวเมืองนาฮะ (Naha) ถ้ากำลังมองหาอาหารกลางวันใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว อย่างเช่น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเซฟา อุตากิ (Sefa Utaki) หรือสวนสนุกโอกินาว่า เวิลด์ (Okinawa World) ร้านนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เลย ในส่วนโครงสร้างของร้านมีลักษณะเป็นตัวอาคารที่ออกแบบสไตล์ลอฟท์กับหลังคาอิฐที่ดูตัดกันแต่ลงตัว

ภาพ: bewave.jp

พอเข้ามาในร้านก็จะเห็นการใช้สีฟ้าในการตกแต่งเบาะและเก้าอี้ บวกกับผนังที่ใช้สีขาวทำให้ภายในร้านดูสว่างยิ่งขึ้น กลายเป็นโทนฟ้าขาวทำให้ดูสบายตา และยังมีกระจกบานใหญ่ที่ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของร้านก็สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เต็มๆ ตา ท้องทะเลสีฟ้าครามก็เข้ากับบรรยากาศในร้านเป็นอย่างมาก

ภาพ: Instagram tenku_terrace_ooloo

สำหรับใครที่อยากจะชมวิวเมืองด้านล่างและวิวทะเลแบบชัดๆ ขอแนะนำที่นั่งริมระเบียงสุดพิเศษ โซฟาตัวสีน้ำเงินเข้มที่ตั้งหันหน้าเข้าหาวิวอันสวยงามทำให้ชมวิวได้อย่างจุใจ ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารไปพร้อมๆ กับรับลมทะเลได้อีกด้วย ฤดูร้อนอาจจะร้อนเล็กน้อย แต่ลมจากทะเลจะช่วยให้สดชื่นมากยิ่งขึ้น

ภาพ: bewave.jp

เมนูของร้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Tamago Tappuri Demio Omelette Rice ไข่เนื้อนุ่มและเยิ้มปกคลุมข้าวที่ถูกผัดและปรุงรสอย่างกลมกล่อม ตัดด้วยซอสมะเขือเทศสุดเข้มข้นที่ราดรอบตัวไข่ กลายเป็นรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังตกแต่งจานให้ดูมีสีสันมากขึ้นด้วยมะเขือเทศราชินีด้านบน

Tamago Tappuri Demio Omelette Rice ราคา 1,188 เยน (รวมภาษี) ภาพ: Instagram tenku_terrace_ooloo

ต่อด้วยเมนู Ryukyu Tropical โทสต์พิเศษ ใช้ขนมปัง 1 ก้อนโตๆ อย่างอลังการ กินคู่กับซอสโฮมเมดที่มีให้เลือกถึง 2 รสชาติ ตัวโทสต์อัดแน่นไปด้วยไอศกรีมรสละมุน ตกแต่งด้วยดอกไม้และผลไม้สไตล์ฮาวายที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับตัวโทสต์อีกด้วย ทั้งรสหวานที่ได้จากซอสโฮมเมดและตัวไอศกรีม บวกกับความเปรี้ยวจากผลไม้ ทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป เพิ่มความสดชื่นในหน้าร้อนได้อย่างดีเยี่ยม

Ryukyu Tropical ราคา 2,728 เยน (รวมภาษี) ภาพ: Instagram tenku_terrace_ooloo

เมนูที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งเมนูนั่นก็คือ Ribeye Steak สเต็กเนื้อซี่โครงที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ตัวเนื้อปรุงรสด้วยเครื่องเทศทำให้มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แต่ยังคงความชุ่มฉ่ำของเนื้อเอาไว้ ทำให้เนื้อมีสัมผัสที่นุ่ม สามารถรับประทานได้ง่าย เสิร์ฟมาคู่กันกับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน เมื่อราดซอสบนเนื้อสเต๊กก่อนรับประทานก็จะเพิ่มรสสัมผัสของสเต๊กได้ดียิ่งขึ้น  

Ribeye Steak ราคา 2,178 เยน (รวมภาษี) ภาพ: Instagram tenku_terrace_ooloo

07 Rockers Cafe

ร้านสุดท้ายที่อยากจะแนะนำก็คือ Rockers Cafe คาเฟ่ขวัญใจชาวร็อคที่มีเมนูมังสวิรัติมากมาย ตัวร้านตั้งอยู่ที่แขวงนาคางามิ (Nakagami) ด้านหน้าร้านตกแต่งด้วยโทนสีดำแดง โดดเด่นด้วยป้ายไฟหน้าร้านที่ตัดกับสีกำแพง ออกแนวเป็นบาร์สไตล์ฮาวายหน่อยๆ ดูอาร์ตๆ มีป้ายและกระดานเมนูอาหารแนะนำให้ดูหน้าร้าน ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจมากขึ้น

ภาพ: okinawa-now.com

ด้านในร้านมีที่นั่งชมวิวทะเลอันกว้างขวาง ทั้งเก้าอี้และโต๊ะหันออกไปทางทะเล แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาจากทางระเบียงทำให้ท้องทะเลเปล่งประกายเป็นระยิบระยับดูสวยงาม เสริมให้มื้ออาหารนี้พิเศษกว่าที่ไหนๆ 

ภาพ: www.oki-islandguide.com

เมนูเด็ดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Jerk Chicken Burrito เป็นอาหารแบบเม็กซิกัน ห่อด้วยแป้งข้าวสาลีผสมแป้งข้าวโพดบดหยาบ ไส้ข้างในประกอบไปด้วยข้าว เนื้อไก่ และรวมผักปลอดสารพิษที่ปลูกในโอกินาว่า ฯลฯ เอาไว้ ลิ้มรสความสดใหม่และความอร่อยที่เข้ากันได้อย่างจุใจเต็มๆ คำ สำหรับใครที่รับประทานมังสวิรัติก็มีเมนูสำหรับมังสวิรัติโดยเฉพาะเช่นเดียวกัน

Jerk Chicken Burrito ราคา 1,180 เยน (รวมภาษี) ภาพ: naturaldineout.com

ต่อมาเป็นเมนู Vegan Teriyaki Burger เบอร์เกอร์พร้อมด้วยซอสมะเขือเทศโฮมเมดสุดเข้มข้นซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ตัวเนื้อเบอร์เกอร์แม้เป็นเนื้อที่ทำจากพืชแต่ก็อร่อยไม่ต่างจากเนื้อสัตว์ เข้ากันกับผักและขนมปังได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเบอร์เกอร์ปลามังสวิรัติพร้อมซอสสูตรพิเศษแบบโฮมเมดอีกด้วย

Vegan Teriyaki Burger ราคา 1,180 เยน (รวมภาษี) ภาพ: naturaldineout.com

ร้านนี้ไม่ได้มีแค่เมนูของคาวเท่านั้น ยังมีเมนูขนมหวานสุดพิเศษอย่างเค้ก Matcha Strawberry อีกด้วย แป้งเค้กไม่มีส่วนประกอบของไข่หรือส่วนประกอบที่มาจากสัตว์แต่อย่างใด ชั้นล่างสุดของเค้กเป็นเค้กช็อกโกแลต ซ้อนทับด้วยมูสรสมัทฉะที่หนาแน่นและนุ่มละมุนลิ้น มาพร้อมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ด้านบนเป็นครีมมัทฉะ ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสีแดงสดรสหวานอมเปรี้ยวตัดกับความหวานของช็อกโกแลต เป็นเค้กที่ได้ทั้งความอร่อยและรสสัมผัสนุ่มนวลในคราวเดียวกัน

Matcha Strawberry Cake ภาพ: Instagram rockers_cafe

เป็นยังไงกันบ้างกับ 7 ร้านอาหารวิวทะเลสวยในจังหวัดโอกินาว่าที่เราได้คัดสรรมาเพื่อให้ทุกคนได้ลองไปเปิดประสบการณ์มื้ออาหารแสนพิเศษพร้อมกับการชมวิวทะเลสวยๆ ของโอกินาว่า หากใครอยากแบ่งปันเรื่องราวหรือแชร์ประสบการณ์ ก็สามารถมาบอกต่อที่เพจคิจิกันได้นะ