ซัปโปโรวันเดย์ทริป รวม 10 จุดเช็คอินยอดฮิตที่เดินถึงกันได้
สารบัญ
S A P P O R O
ซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด หนึ่งในเมืองท่องเที่ยว
ที่คนไทยไปเยือนเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น
แม้จะมีอะไรเยอะแยะมากมายให้ไปลองทำในเมืองนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้มีเวลามากมายเหลือเฟือ เนื่องจากวางแพลนไว้ว่าต้องไปหลายที่ เสร็จจากซัปโปโรแล้วก็ต้องรีบมุ่งหน้าเพื่อไปจุดหมายอื่นต่อ วันนี้เลยคัดกรอง 10 จุดหมายสำหรับคนที่มีเวลาใน ซัปโปโร เพียงแค่ 1 วัน แม้น้อยมากแต่ก็อยากไปเก็บที่สำคัญๆ ของเมืองให้ครบ ทริปนี้จึงออกแนว “เน้นปริมาณ” มากหน่อย
เรามาเริ่มตั้งต้นกันที่สถานี Sapporo Station ใจกลางเมือง ถ้าดูจากแผนที่คนส่วนใหญ่มักจะ ‘ลงใต้’ กัน แต่ก่อนที่จะเราจะลงใต้ ผมอยากให้เรา ‘ขึ้นเหนือ’ ซะหน่อย เพราะไม่ไกลจากสถานี อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ
1) Hokkaido University
หลายคนอาจสงสัยว่าไปเที่ยวทำไมต้องไปดูมหาลัยฯ? อาจเพราะภายในเขตมหาวิทยาลัยฮอกไดโดแห่งนี้ มีความร่มรื่นสวยงาม มีการจัดการตกแต่งสวนที่ลงตัว รวมถึงสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่เก่าแก่ พื้นที่ทั่ววิทยาเขตมหาลัยฯ นั้นใหญ่มาก เราไม่จำเป็นต้องเดินให้หมด เพียงเลือกทางเข้าที่อยู่ใกล้สถานีที่สุด (ตรงถนน Nishi-5 chome Tarukawa Dori) ก็สามารถชื่นชมกับความร่มรื่นและบรรยากาศภายในตัวมหาลัยได้แล้ว
จะว่าไปก็เหมือนกับที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเมืองอ๊อกซฟอร์ดในอังกฤษ ก็มักจะต้องแวะไปเยือน University of Oxford หรือเมื่อไปเมืองเคมบริดจ์ ในสหรัฐอเมริกา ก็ต้องไปเยือน Harvard University มา ซัปโปโร ทั้งที มหาลัยฯ ก็อยู่ห่างเพียงแค่เดิน 5 นาที ก็น่าจะลองแวะหน่อยนะ
2) Sapporo Station
จากมหาลัยฯ เดินลงใต้กลับมาที่สถานี เอ ว่าแต่…สถานีรถไฟซัปโปโรมีอะไรให้เที่ยว? พื้นที่โดยรอบสถานีเป็นโครงการ Mixed-Use ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ 3 ห้างติดกันอย่างห้าง Daimaru ห้าง Stellar Place และห้าง ESTA
รวมถึงร้านค้าแฟชั่นชั้นนำ ร้านอาหารน่าสนใจ และจุดชมวิว T38 บนยอดตึก JR Tower (สายช็อปปิ้งเดินวนอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน…จริงๆ นะ!!)
3) Former Hokkaido Government Office Building
ลงใต้ออกจากตัวสถานี จุดหมายแรกก็คือที่นี่เลยครับ “ศาลาว่าการเก่าฮอกไกโด” อยู่ห่างจากสถานีออกไปเพียงแค่ 2 บล็อกถนน วิธีเดินนั้นแนะนำว่า (ดูแผนที่ตามไปด้วยกัน) จากสถานีให้ลงใต้ผ่านตัวถนนใหญ่ที่มีต้นไม้เกาะกลางถนน บริเวณตรงกลางสถานี (สถานีใหญ่มากจนกินพื้นที่ 3 บล็อก) จากนั้นเดินลงใต้มาเรื่อยๆ อีกประมาณ 2 บล็อก
ขวามือจะเป็นทางเดินยาวววว ที่มีศาลาว่าการตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง เป็นอีกจุดถ่ายรูปหลักก่อนที่จะค่อยๆ เดินเข้าไปตัวตึก (ข้างๆ มีห้าง Akarenga Terrace แวะทานข้าวอะไรได้ รวมถึงชั้น 5F ที่มี observation deck พื้นที่ชมวิวศาลาว่าการได้…เข้าฟรี)
ศาลาว่าการนี้แม้ปัจจุบันไม่ได้ถูกใช้งานแล้ว แต่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแทน ซึ่งตัวอาคารสถาปัตยกรรมและสวนหย่อมเล็กๆ หน้าตึก มอบทัศนียภาพที่งดงามมากครับ ภาพโปรโมทการท่องเที่ยวของซัปโปโรหลายภาพก็ใช้รูปที่ถ่ายจากตึกบริเวณนี้แหล่ะ
4) Sapporo Clock Tower
จากศาลาว่าการมุ่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้ไปราว 3 บล็อกถนน ก็จะพบกับหอนาฬิกาซัปโปโร อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของซัปโปโร อาคารทำด้วยไม้หน้าตาฝรั่งที่ถูกรายล้อมด้วยตึกสูง สร้างมาตั้งแต่ปี 1878 เต็มไปด้วยความเก่าและขลังไม่น้อย มอบความแตกต่างจากพื้นที่รอบๆ ได้อย่างลงตัว
ปัจจุบันหอฬิกาถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าความเป็นมาของทั้งตัวอาคารเองและเมืองซัปโปโรเช่นเดียวกับศาลาว่าการ (เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกที่สร้างเมืองซัปโปโรเลย อยู่คู่กันมาเป็นเวลายาวนาน)
5) Odori Park
จากหอฬิกาเดินลงใต้มาเพียงแค่ 1 บล็อกถนน ก็จะเห็นทัศนียภาพที่เปิดโล่งสุดลูกหูลูกตา นี่คือสวนโอโดริ สวนสาธารณะใจกลางเมืองซัปโปโร กินพื้นที่มากกว่า 10 กว่าบล็อกจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก
นี่คือพื้นที่ที่คุณจะได้พบเห็นชาวซัปโปโรออกมาใช้ชีวิตทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น นอนเล่น นั่งม้านั่ง บางครั้งก็มีงานขายของกินหรือจัดอีเว้นท์ต่างๆ เป็นบรรยากาศที่โล่งสบาย แต่ว่าสวนนี้จะไม่สามารถเดิน ‘ต่อเนื่อง’ กันได้ เพราะแต่ละบล็อกมี ‘ถนนตัดผ่าน’ นั่นเอง (แค่ต้องรอไฟข้ามถนน ^^)
6) Sapporo TV Tower
แลนมาร์กที่อยู่ภายในพื้นที่สวนแห่งนี้ก็คือหอคอยซัปโปโร (ถ้ามาจากหอฬิกา เดินข้ามไป 1 บล็อก) นี่คืออีกหนึ่งสัญลักษณ์ของซัปโปโร เป็นหอคอยที่สร้างมาเป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่น (ก่อนหน้า Tokyo Tower 1 ปี) ที่ความสูง 147 เมตร
คุณจะเห็นวิว Odori Park อยู่สุดลูกหูลูกตา รวมถึงตึก อาคารที่อยู่รายล้อม ในวันที่ท้องฟ้าเปิดสามารถมองเห็นภูเขา Moiwa ที่อยู่ด้านข้างเมืองด้วยนะ
7) Nijo Market
จาก TV Tower เดินลงใต้เยื้องขวาไปประมาณ 3 บล็อก ก็จะเจอกับตลาดนิโจ แหล่งรวมของสด กุ้ง หอย ปู ปลา ไข่หอยเม่น อุนิ แซลมอน ฯลฯ อร่อยโฮก เดินเหนื่อยๆ มาฝากท้องที่นี่กันได้ก่อนในราคาสมเหตุสมผล ก่อนที่จะไปลุยย่านทานุกิโคจิช็อปกันให้ขาเดี้ยงไปข้าง
8) Tanukikoji Shopping Arcade
จากสวน Odori Park ลงใต้มาราว 3 บล็อกก็จะเริ่มเข้าสู่ย่าน Susukino แล้ว โดยก่อนถึงจะเจอย่านช็อปปิ้งทานุกิโคจิ ซึ่งเป็น ‘ถนนคนเดิน’ (ลักษณะที่พบเห็นได้ทั่วไปในญี่ปุ่น)
เป็นถนนที่มีร้านอาหารของกินเพียบ! อาหารหลัก ของหวาน ของกินเล่นมีครบ รวมถึงร้านเสื้อผ้าแฟชั่น (ร้านแบรนด์ชั้นนำจะมากระจุกตรงใจกลางเมืองย่านนี้)
ถนนคนเดินนี้คล้ายสวนโอโดริตรงที่ มีความยาว 1 กม. ตัดผ่านถนน 6 บล็อก ระหว่างจุดตัดถนนก็ต้องยืนรอสัญญาณไฟคนข้าม แต่ข้อดีคือมี Canopy หรือโดมกันแดดกันฝนยาวตลอดเส้นทาง
9) Norbesa Ferris Wheel
ถัดมาเพียง 1 บล็อกจะสังเกตเห็นได้แต่ไกลแล้วว่ามี “ชิงช้าสวรรค์” อยู่บนตึกเรียกว่า Norbesa ชิงช้าสวรรค์ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของตึกซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้า ภายในห้างก็จะมีร้านค้าร้านอาหารทั่วไป แวะทานข้าวเสร็จแล้วขึ้นมาที่ความสูง 78 เมตรสามารถชมทัศนียภาพของเมืองซัปโปโรได้โดยรอบโดยเฉพาะย่าน Susukino แม้ชิงช้าสวรรค์นี้อาจไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าที่อื่น แต่ก็ถือเป็นสถานที่ที่น่าสนใจและมอบทิวทัศน์อันแสนประทับใจไม่รู้ลืม
10) Susukino
จากชิงช้าสวรรค์ชั้น 7 ข้ามมาแค่ 1 บล็อกเข้าสู่ย่านซูซูกิโนะแล้ว ซูซูกิโนะไม่ใช่แค่ชื่อถนนแต่เป็นทั่วบริเวณทั้งย่านที่อุดมไปด้วยของกินมากมายที่เดินถึงกันหมด! “ตรอกราเมง” ชื่อดังก็ตั้งอยู่ในย่านนี้ด้วยนะ ในยามกลางคืนย่านนี้จะเปลี่ยนเป็นย่านท่องราตรีมีไนท์คลับ บาร์ ผับ อิซากายะ คาราโอเกะจำนวนมาก ถ้าอยากมาสำรวจแต่กังวลใจ กลัวไม่ปลอดภัยก็เดินตามถนนใหญ่ก็สามารถสัมผัสบรรยากาศยามราตรีได้แล้ว
ถ้าไปครบทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็ถือว่าได้สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ใน ‘ซัปโปโร’ ไปบ้างแล้วครับ
สำหรับการท่องเที่ยวแบบนี้ค่อนข้างอัดแน่นเกินไปหน่อย แต่สำหรับคนมีเวลาน้อยก็ถือว่า “เป็นไปได้” ที่จะเที่ยวให้ครบ คนมีเวลาเยอะก็ปักหมุดแบ่งวันค่อยๆ ไปก็ได้ เชื่อไหมครับว่าที่เที่ยวทั้งหมดที่่ผมเล่ามานี้อยู่ในระยะการเดินแค่ราวๆ 2 กิโลเมตรเองซึ่งถือว่าไม่ได้ไกลมากเลย ตัวเมืองซัปโปโรนั้นดีที่มีน่าสิ่งใจกระจุกรวมตัวกันอยู่ใจกลางเมือง สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วถือว่าสะดวกสบายมากๆ เที่ยวให้สนุกครับ ^^