นั่งชินคันเซ็นเช็คอิน 18 จุดชมซากุระปังๆ ตามเส้นทางสีชมพูทั่วโทโฮคุด้วย JR EAST PASS (Tohoku area)
สารบัญ
เมื่ออากาศอันเย็นยะเยือกแปรเปลี่ยนเป็นลมเย็นสบาย เป็นสัญญาณว่าญี่ปุ่นได้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้วเป็นที่เรียบร้อย และฤดูนี้จะมีอะไรที่หลายคนต่างรอคอยล่ะถ้าไม่ใช่ “ซากุระ” สัญลักษณ์แห่งการเบ่งบานและการเริ่มต้นใหม่ ซีซั่นที่เรามองไปมุมไหนก็รู้สึกถึงความสดใส สดชื่น และเพราะแบบนี้เองเราถึงอดใจไม่ไหวที่จะมาแนะนำ พิกัดชมซากุระ แบบจัดเต็มกันถึง 18 จุด จากทั้งหมด 6 จังหวัด ใน “โทโฮคุ” ภูมิภาคที่เรียกได้ว่างานธรรมชาติโซนนี้ของเขานั้นดีงามจนบรรยายออกมาเป็นภาษาไม่ได้ โดยไล่ลำดับจากจังหวัดที่ใกล้โตเกียวที่สุดไปยังจังหวัดที่อยู่ห่างจากโตเกียวที่สุด
สวนฮิโรซากิ
เพื่อให้การเดินทางไปชมซากุระคราวนี้ครอบคลุมมากกว่าครั้งไหนๆ โดยเฉพาะแถบโทโฮคุที่เราว่าการนั่งรถไฟเที่ยวได้อรรถรสมากกว่ายานพาหนะชนิดอื่นๆ เราจะต้องวางแผนให้รัดกุม เพราะการซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ เพื่อไปตรงนั้นตรงนี้หรือเดินทางกันข้ามจังหวัดบอกตรงนี้เลยว่าค่าเดินทางอ่วมแน่ๆ ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายและประหยัดที่สุดก็คือการท่องเที่ยวโดยใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ยิ่งกับใครที่ตั้งใจไว้แล้วว่าฤดูใบไม้ผลินี้จะต้องเก็บหลายๆ พิกัดชมซากุระ ใน โทโฮคุ ให้ได้ แนะนำให้ซื้อไว้เลย คุ้ม!
ข้อมูลบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area)🚄
JR EAST PASS (Tohoku area) ไม่เพียงแต่จะใช้ได้กับชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น รถไฟท่องเที่ยว Joyful Trains (บางขบวน) ตามเส้นทางของ JR EAST พร้อมกันนี้ยังสามารถใช้โดยสารรถบัส JR Bus Tohoku รวมถึงรถไฟด่วนเข้าเมือง Narita Express จากสนามบินนาริตะ และ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้อีกด้วย
ภาพ: East Japan Railway Company
ราคา: ผู้ใหญ่ 20,000 เยน, เด็ก 10,000 เยน
เงื่อนไข: ต้องใช้ 5 วัน ติดต่อกัน
จุดจำหน่าย: ซื้อผ่านเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation, เครื่องจำหน่ายตั๋วบางสถานี หรือซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทย
วิธีสำรองที่นั่ง: สามารถซื้อและสำรองที่นั่งออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation และไปออกตั๋วฉบับจริงได้ที่ตู้อัตโนมัติภายในสถานีรถไฟที่มี Passport Reader
วิธีใช้งาน: สอดบัตรโดยสารกับเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟได้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม: jreast.travel
จุดชมซากุระในฟุกุชิมะ
จุดชมซากุระนิชชูเซน
เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ “จังหวัดฟุกุชิมะ” ก็จะมีชีวิตชีวากว่าปกติ ว่ากันด้วยเรื่องจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ณ จังหวัดแห่งนี้ก็มีให้เลือกชมกันอยู่หลายแห่ง ใครที่สนใจอยากมาเห็นความสวยงามด้วยตาของตัวเอง มาง่ายๆ ด้วยชินคันเซ็นจากโตเกียวใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง สำหรับพิกัดที่เราแสนจะภูมิใจและอยากให้คุณมาชมก็มีตั้งแต่ ภูเขาซากุระใน สวนฮานามิยามะ, ต้นซากุระที่ใหญ่ที่สุดติดท็อปทรีในญี่ปุ่น มิฮารุ ทากิซากุระ และเส้นทางเดินและปั่นจักรยานยาว 3 กิโลเมตรท่ามกลางทิวต้นซากุระอย่าง จุดชมซากุระนิชชูเซน
>> 🌸 คลิกดู 3 จุดชมซากุระแนะนำในฟุกุชิมะ 🌸 <<
01 สวนฮานามิยามะ | Hanamiyama Park
ใครมาที่นี่ต่างก็ชมกันไม่ขาดปากสำหรับสวนฮานามิยามะ (Hanamiyama Park) โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิที่เหล่าดอกไม้พากันบานสะพรั่งอวดสีสันสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เดินทางมาชมความสวยงามของธรรมชาติ คนไหนโฟกัสไปที่ดอกซากุระที่สวนแห่งนี้เขาก็มีให้ได้ชมถึง 9 สายพันธุ์ ไล่เฉดชมพูพาสเทลจากซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะ (Someiyoshino) ไปจนถึงชมพูอมม่วงของคังฮิซากุระ (Kanhizakura) งดงามขนาดที่พูดได้เลยว่านี่แหละคือสวรรค์ของฟุกุชิมะอย่างแท้จริง ใช้เวลาในการเดินชม 1 รอบ ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
Hanamiyama Park
Location: เมืองฟุกุชิมะ (Fukushima) จังหวัดฟุกุชิมะ
Sakura Period: ต้นถึงกลางเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีฟุกุชิมะ (JR Fukushima Station)
Access: จากสถานีฟุกุชิมะ ให้ขึ้นรถบัสที่ทางออกฝั่งตะวันออก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที (มีเฉพาะช่วงเทศกาลซากุระ) มาลงที่ป้ายทางเข้าสวนฮานามิยามะ (Hanamiyama Iriguchi Bus Stop) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
Website: www.hanamiyama.jp
Note: แต่ละปีจุดขึ้นรถบัสอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบก่อนใช้บริการ
02 มิฮารุ ทากิซากุระ | Miharu Takizakura
มิฮารุ ทากิซากุระ (Miharu Takizakura) เป็นชื่อของต้นซากุระเก่าแก่ที่ยืนต้นอวดความสวยงามมานานนับ 1,000 ปี นอกจากอายุอานามแล้วขนาดของลำต้นก็ยังบิ๊กเบิ้มติดท็อปทรีในประเทศญี่ปุ่นด้วย และเพราะความอลังการนี่แหละที่ดึงดูดให้ใครหลายๆ คนเดินทางมาชมกันถึงฟุกุชิมะ มิฮารุ ทากิซากุระแผ่กิ่งก้านออกดอกตั้งแต่ต้นถึงกลางเดือนเมษายน ณ ปลายกิ่งทอดตัวลงคล้ายกับน้ำตกสมกับชื่อ “ทากิซากุระ” ที่แปลตรงตัวว่า “ซากุระน้ำตก” ความน่าสนใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะว่ายามค่ำยังมีการจัดไฟประดับ บรรยากาศที่ได้ก็จะสวยงามไปอีกแบบ แนะนำเลย!
Miharu Takizakura
Location: แขวงทามุระ (Tamura) จังหวัดฟุกุชิมะ
Sakura Period: ต้นถึงกลางเมษายน
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนชั้นมัยธมต้นและต่ำกว่าเข้าฟรี
Nearest station: สถานีมิฮารุ (JR Miharu Station)
Access: จากสถานีมิฮารุ นั่งรถบัสจากด้านหน้าสถานีประมาณ 20 นาที
Website: www.miharukoma.com
Note: บัสให้บริการเฉพาะช่วงเทศกาลซากุระเท่านั้น
03 จุดชมซากุระนิชชูเซน | Nicchusen Weeping Cherry Tree
นอกจากซากุระอายุยืนฟุกุชิมะก็ยังมีจุดชมซากุระนิชชูเซน (Nicchusen Weeping Cherry Tree) เส้นทางสีชมพูยาวกว่า 3 กิโลเมตร ให้เหล่าคนรักซากุระได้มาเช็คอิน เดินเล่น และถ่ายรูปกันอย่างจุใจ นอกจากซากุระสายพันธุ์ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) ห้อยระย้าเรียงรายทั้งสองฝากฝั่งถนนกว่า 1,000 ต้น ที่แห่งนี้ยังมีหัวรถจักรไอน้ำโบราณปลดระวางจัดแสดงใกล้ๆ กับ Kitakata Plaza ใครที่ชอบความแอนทีคอยากชมให้เห็นกับตาสามารถแวะมากันได้ สวยงามจริงๆ
Nicchusen Weeping Cherry Tree
Location: เมืองคิตะคาตะ (Kitakata) จังหวัดฟุกุชิมะ
Sakura Period: กลางถึงปลายเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีคิตะคาตะ (JR Kitakata Station)
Access: จากสถานีคิตะคาตะ เดินประมาณ 5 นาที
จุดชมซากุระในมิยากิ
ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ
เอ่ยชื่อ “จังหวัดมิยากิ” ส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นหู แต่ถ้าบอกว่า “เซนได” หลายคนน่าจะอ๋อและเคยไปสักครั้ง เหตุผลที่ทำให้เราออกเดินทางไปยังจังหวัดโซนตะวันออกเฉียงเหนือแทนที่จะเที่ยวเฉพาะโตเกียว เพราะแค่นั่งชินคันเซ็นก็ใช้เวลาเดินทางแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว จุดชมซากุระชื่อดังก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สวนปราสาทเก่าฟุนะโอกะ, ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ หรือ สวนไซเกียวโมโดชิโนะมัตสึ ส่วนตัวคิดว่ามิยากิน่าจะเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ดีจนต้องกลับมาซ้ำแน่นอน
>> 🌸 คลิกดู 3 จุดชมซากุระแนะนำในมิยากิ 🌸 <<
01 สวนปราสาทเก่าฟุนาโอกะ | Funaoka Castle Ruins Park
สมมง 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับสวนปราสาทเก่าฟุนาโอกะ (Funaoka Castle Ruins Park) แห่งจังหวัดมิยากิ มาที่นี่นอกจากจะได้ซึมซับสิ่งเพลินตาเพลินใจรายล้อมรอบตัว ยังเป็นการมาเที่ยวชมธรรมชาติที่ได้หลากหลายอารมณ์ด้วย เช่นการนั่งสโลปคาร์ขึ้นไปอิ่มเอมกับสวนดอกไม้พร้อมสักการะเจ้าแม่กวนอิม Funaoka Heiwa Kannon ซึ่งจากด้านบนนี้เรายังจะได้เห็นภูเขาซาโอ (Mt.Zao) และทัศนียภาพเบื้องล่างที่ปกคลุมไปด้วยสีชมพูสุดจะชื่นบานของต้นซากุระ ตลอดเดือนเมษายนจะมีการจัดการเทศกาล Shibata Cherry Blossom โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมปีละมากกว่า 200,000 คน
Funaoka Castle Ruins Park
Location: แขวงชิบาตะ (Shibata) จังหวัดมิยากิ
Sakura Period: ต้นถึงกลางเมษายน
Hours: อ.-อา. 9:00-17:00 น.
Holiday: วันจันทร์
Entrance Fee: ฟรี / Slope Car ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน
Nearest Station: สถานีฟุนาโอกะ (JR Funaoka Station)
Access: จากสถานีฟุนาโอกะ เดินประมาณ 15 นาที
Website: www.skbk.or.jp
02 ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ | Hitome Senbonzakura
หากใครต้องการชมทิวต้นซากุระแบบอลังการจัดเต็ม จะบอกว่าฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ (Hitome Senbonzakura) คือจุดชมซากุระที่ไม่ควรพลาดที่สุด ด้วยทัศนียภาพที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ตระการตา นานาไปด้วยทิวซากุระเรียงรายริมแม่น้ำชิโรอิชิ (Shiroishi River) มากถึง 1,200 ต้น ซึ่งกินระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร ข้อดีของที่นี่อีกอย่างคือพื้นที่กว้างขวาง แม้ผู้คนจะแห่แหนกันมามากก็ไม่สร้างความอึดอัดให้ ใช้เวลาอยู่ได้ทั้งวันเพราะบรรยากาศชิลล์มาก ตลอดจนยามค่ำที่นี่ก็ยังมีโซนจัดแสงไฟใต้ต้นซากุระด้วยนะ โรแมนติกมากเลยแหละ
Hitome Senbonzakura
Location: แขวงชิบาตะ (Shibata) จังหวัดมิยากิ
Sakura Period: ต้นถึงกลางเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีฟุนาโอกะ (JR Funaoka Station)
Access: จากสถานีฟุนาโอกะ เดินประมาณ 9 นาที
03 สวนไซเกียวโมโดชิโนะมัตสึ | Saigyo Modoshi no Matsu Park
ผืนทะเลสีฟ้าครามและเกาะน้อยใหญ่มากมายในอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ที่แต่งแต้มความอ่อนหวานด้วยเฉดชมพูอ่อนจากซากุระ นี่คือทิวทัศน์สุดอลังการที่จะได้พบเห็นเมื่อไปถึงสวนไซเกียวโมโดชิโนะมัตสึ (Saigyo Modoshi no Matsu Park) ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีมัตสึชิมะไคกังหากเดินทางโดยแท็กซี่ ว่ากันว่ามีซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะยืนต้นเรียงรายอยู่รอบๆ สวนมากถึง 260 ต้น ท่ามกลางต้นสนเขียวชอุ่มที่ช่วยขับสีชมพูของซากุระให้สวยงามน่าดูชมยิ่งขึ้นไปอีก
Saigyo Modoshi no Matsu Park
Location: แขวงมิยากิ (Miyagi) จังหวัดมิยากิ
Sakura Period: ต้นถึงกลางเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีมัตสึชิมะไคกัง (JR Matsushima Kaigan Station)
Access: จากสถานีมัตสึชิมะไคกัง เดินประมาณ 16 นาที
Website: www.matsushima-kanko.com
จุดชมซากุระในยามากาตะ
สวนคาโจกับยามากาตะชินคันเซ็น
นอกจากกินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) อันโด่งดัง “จังหวัดยามากาตะ” ยังมีจุดชมซากุระสวยๆ ให้เราได้ไปเช็คอินหลายต่อหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สวนคาโจ สวนสาธารณะใจกลางเมืองที่นอกจากจะห้อมล้อมไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระยังมีหลายสิ่งน่าดูชมให้เลือกสรรด้วย, จุดชมทิวต้นซากุระที่มีฉากหลังเป็นภูเขา ริมฝั่งแม่น้ำอาคางาวะ และเพลิดเพลินไปกับเทศกาลหมากรุกมนุษย์ท่ามกลางดอกซากุระที่ สวนเท็นโด บนยอดเขา ไมซุรุยามะ
>> 🌸 คลิกดู 3 จุดชมซากุระแนะนำในยามากาตะ 🌸 <<
01 สวนคาโจ | Kajo Park
สวนคาโจ (Kajo Park) สวนสวยขนาดใหญ่ล้อมรอบปราสาทยามากาตะ ถ้ามาเยือนในฤดูใบไม้ผลิราวๆ กลางเดือนเมษายนก็จะพบกับเหล่าซากุระ ณ พื้นที่แห่งนี้กว่า 1,500 ต้น ทั้งบริเวณใกล้เคียงยังมีอาคารประวัติศาสตร์มากมายให้เราได้แวะเข้าไปเยี่ยมชม อาทิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะยามากาตะ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โมงามิ โยชิอากิ เป็นต้น พอตกกลางคืนต้นซากุระโซนเลียบคูน้ำก็ยังมีการจัดแสงไฟไล่ไปตั้งแต่ทิศตะวันออกจนถึงทิศใต้ ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศต้องการดื่มด่ำกับวิวซากุระในอีกอารมณ์หนึ่ง แนะนำเลยที่นี่ มีครบจบในที่เดียว
Kajo Park
Location: เมืองยามากาตะ (Yamagata) จังหวัดยามากาตะ
Sakura Period: ต้นถึงกลางเดือนเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานียามากาตะ (JR Yamagata Station)
Access: จากสถานียามากาตะ เดินประมาณ 6 นาที
Website: yamagatakanko.com
02 ริมฝั่งแม่น้ำอาคางาวะ | Akagawa Riverbank
สถานที่อีกแห่งในยามากาตะที่เราคิดว่าในเมื่อมาถึงจังหวัดนี้ทั้งทีก็ควรหาเวลามาพักผ่อนหย่อนใจกันที่นี่สักหน่อยจะเป็นไร ณ ริมฝั่งแม่น้ำอาคางาวะ (Akagawa Riverbank) แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นพื้นที่สาธารณะริมน้ำที่เราสามารถมองเห็นวิวของภูเขากัสซัง (Mt. Gassan) กับภูเขาโจไก (Mt. Chokai) ได้แบบไม่ต้องเสียสตุ้งสตางค์ และบรรยากาศจะยิ่งใช่ถ้าเป็นช่วงใบไม้ผลิ ฤดูที่เหล่าซากุระกว่า 300 ต้นในแถบนี้ผลิบานอย่างน่าดูชม นอกจากนี้ในฤดูร้อนที่นี่ยังมีเทศกาลดอกไม้ไฟอาคางาวะ (Akagawa Fireworks Festival) ใครที่ชอบดูพลุเป็นชีวิตจิตใจสามารถมาที่นี่ได้เพราะเขาจัดได้อลังการมาก!
Akagawa Riverbank
Location: เมืองสึรุโอกะ (Tsuruoka) จังหวัดยามากาตะ
Sakura Period: กลางถึงปลายเดือนเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีสึรุโอกะ (JR Tsuruoka Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 20 นาทีจากสถานีสึรุโอกะ
03 ไมซุรุยามะ | Maizuruyama
เรียกได้ว่าสวยปังไม่เป็นสองรองใครสำหรับวิวซากุระภายในสวนเท็นโด (Tendo Park) บนยอดเขาไมซุรุยามะ (Maizuruyama) นอกจากจะเต็มอิ่มไปกับทิวทัศน์ของต้นซากุระที่มีอยู่อย่างหนาตามากถึง 2,000 ต้น จากทัศนียภาพด้านบนยังได้ชมวิวภูเขารวมถึงแม่น้ำโมกามิ (Mogami River) ที่สำคัญในช่วงกลางเดือนเมษายนในจังหวะที่ซากุระบานเต็มที่จะมีเทศกาลหมากรุกมนุษย์ให้เราได้รับชมอีกด้วย สำหรับปี ค.ศ. 2023 ตรงกับวันที่ 15-16 เมษายน
Maizuruyama
Location: เมืองเท็นโด (Tendo) จังหวัดยามากาตะ
Sakura Period: กลางถึงปลายเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีเท็นโด (JR Tendo Station)
Access: จากสถานีเท็นโด เดินประมาณ 20 นาที
จุดชมซากุระในอิวาเตะ
สวนคิตะคามิ เท็นโชจิ
“อิวาเตะ” จังหวัดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากฮอกไกโด นอกจากจะมีกิจกรรมสนุกๆ และพิกัดให้เราได้เที่ยวท่ามกลางอากาศเย็นๆ ตลอดทั้งปี ช่วงฤดูใบไม้ผลิของที่นี่เขาก็โดดเด่นไม้แพ้จังหวัดอื่นๆ ในญี่ปุ่น โดยจุดชมซากุระหลายแห่งของแต่ละเมืองก็น่าไปเยี่ยมเยือน ตั้งแต่ สวนคิตะคามิ เท็นโชจิ แหล่งชมซากุระขึ้นชื่อประจำเมืองคิตะคามิ, ซากุระเดียวดาย ไฮไลท์ต้องแวะให้ได้ที่ฟาร์มโคอิไว และ สวนสาธารณะปราสาทโมริโอกะ อดีตปราสาทเก่าที่ปัจจุบันเป็นศูนย์รวมความสบายตาสามารถมาฮีลใจเพิ่มพลังบวกได้ทุกคน
>> 🌸 คลิกดู 3 จุดชมซากุระแนะนำในอิวาเตะ 🌸 <<
01 สวนคิตะคามิ เท็นโชจิ | Kitakami Tenshochi Park
ภาพของทิวต้นซากุระนับหมื่นเรียงรายเลียบริมแม่น้ำคิตะคามิ (Kitakami River) ที่สวนคิตะคามิ เท็นโชจิ (Kitakami Tenshochi Park) คือจุดเช็คพอยท์ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ไปเห็นความสวยงามกับตาของตัวเองแทนที่จะมองผ่านจอสมาร์ทโฟนหรือตามเพจที่มีคนมารีวิว ที่นี่มีซากุระสายพันธุ์ต่างๆ กว่า 150 ชนิด และที่มากไปกว่าซากุระคือสวนแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยแดฟโฟดิลที่เข้ามาเพิ่มสีสันมอบความสดใส อีกทั้งในช่วงเทศกาลก็ยังมีรถม้าให้นั่ง อีกทั้งถ้าใครที่อยู่จนพระอาทิตย์ตกดินก็สามารถรอชมการจัดแสงไฟสวยๆ ได้อีกด้วย สวยงามไปอีกแบบ
Kitakami Tenshochi Park
Location: เมืองคิตะคามิ (Kitakami) จังหวัดอิวาเตะ
Sakura Period: กลางถึงปลายเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีคิตะคามิ (JR Kitakami Station)
Access: จากสถานีคิตะคามิ เดินประมาณ 15 นาที
02 ซากุระเดียวดายที่ฟาร์มโคอิไว | Solitary Cherry Tree at Koiwai FARM
นอกจากกิจกรรมในฟาร์มตั้งแต่รีดนมวัว ขี่ม้า ชมการแสดงของแกะ นั่งรถแทรคเตอร์ ฯลฯ รวมไปถึงอีเว้นท์ต่างๆ ภายในฟาร์มโคอิไว (Koiwai Farm) แหล่งท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดอิวาเตะยังมีไฮไลท์เด็ดที่หลายคนต่างแห่แหนกันมาชมก็คือซากุระเดียวดายยืนต้นโดดเด่นโดยมีฉากหลังสวยสตั้นเป็นภูเขาอิวาเตะ (Mt. Iwate) ว่ากันว่าซากุระพันธุ์เอโดะฮิกัง (Edo Higan) ต้นนี้ถูกปลูกขึ้นเมื่อ 100 ปีที่แล้ว และปัจจุบันก็ยังแผ่กิ่งก้านผลิดอกบานให้เราได้มาชื่นชม
Koiwai Farm
Location: แขวงอิวาเตะ (Iwate) จังหวัดอิวาเตะ
Sakura Period: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
Hours: 13 ก.พ.-14 เม.ย. 9:00-16:00 น., 15 เม.ย. เป็นต้นไป 9:00-17:00 น.
Entrance Fee: 15 เม.ย. เป็นต้นไป ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 300 เยน
Nearest Station: สถานีโคอิไว (JR Koiwai Station)
Access: จากสถานีโคอิไว นั่งแท็กซี่ต่อประมาณ 10 นาที
Website: www.koiwai.co.jp
03 สวนสาธารณะปราสาทโมริโอกะ | Morioka Castle Site Park
อดีตเป็นที่ตั้งของปราสาทโมริโอกะ ปัจจุบันคือสวนสาธารณะที่อุดมไปด้วยต้นซากุระ ต้นบ๊วย และเหล่าพรรณไม้ต่างๆ แม้ที่นี่จะสวยทุกฤดูกาลแต่ถ้าให้เราเลือกชอยส์เดียวก็คงต้องเป็นหน้าซากุระ แค่คิดว่าถ้าได้ไปเดินเล่นรับลมเย็นๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีชมพูก็ทำเอาใจแสนจะชื่นบาน และก็เช่นเดียวกันที่สวนสาธารณะปราสาทโมริโอกะ (Morioka Castle Site Park) แห่งนี้มีการจัดแสงไฟสีขาวให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับการชมซากุระยามค่ำคืน
Morioka Castle Site Park
Location: เมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ
Sakura Period: กลางถึงปลายเมษายน
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีโมริโอกะ (JR Morioka Station)
Access: จากสถานีโมริโอกะ เดินประมาณ 16 นาที
จุดชมซากุระในอาคิตะ
จุดชมซากุระริมแม่น้ำฮิโนกิไน
ไฮไลท์ของการทัวร์ชมซากุระใน “จังหวัดอาคิตะ” แน่นอนว่าไม่ควรพลาดกับ 3 พิกัดที่เรายกมาให้ไปตามรอยกัน อย่างที่แรกเป็น หมู่บ้านซามูไรคาคุโนดาเตะ สถาปัตยกรรมไม้โบราณที่ถูกแต่งแต้มด้วยซากุระชมพูระเรื่อ, ถนนสายซากุระนาโนะฮานะ นี่ก็น่าสนใจตรงที่มีทิวซากุระทอดยาวกว่า 11 กิโลเมตร และท้ายสุดกับจุดชมซากุระริมแม่น้ำฮิโนกิไน ซึ่งถ้าใครได้ลองไปเป็นต้องติดอกติดใจกันทุกราย
>> 🌸 คลิกดู 3 จุดชมซากุระแนะนำในอาคิตะ 🌸 <<
01 หมู่บ้านซามูไรคาคุโนดาเตะ | Kakunodate Samurai Residences
ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เกียวโตน้อยแห่งมิจิโนะกุ” สำหรับหมู่บ้านซามูไรคาคุโนดาเตะ (Kakunodate Samurai Residences) พื้นที่ที่ได้รับการอนุรักษ์ด้วยในอดีต ณ ที่แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านักรบซามูไร ปัจจุบันมีบ้านหลายหลังเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าไปศึกษาวิถีชีวิตซามูไรสมัยก่อน หรือใครที่ชอบถ่ายรูปพลางเดินชมนกชมไม้รอบๆ มากกว่า ช่วงซากุระกำลังบานเป็นอะไรที่เราว่าเหมาะ เพราะที่นี่คับคั่งไปด้วยซากุระกว่า 450 ต้น ทั้งหมดเป็นพันธุ์กิ่งย้อยที่เรียกว่าชิดาเระซากุระ (Shidare-zakura) โดย 162 ต้นได้รับตำแหน่งให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติประจำชาติญี่ปุ่นอีกด้วย
Kakunodate Samurai Residences
Location: เมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ
Sakura Period: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีคาคุโนดาเตะ (JR Kakunodate Station)
Access: จากสถานีคาคุโนดาเตะ เดินประมาณ 15 นาที
02 จุดชมซากุระริมแม่น้ำฮิโนกิไน | Hinokinai River
จุดชมซากุระริมแม่น้ำฮิโนกิไน (Hinokinai River) ถือว่าเป็นจุดชมซากุระอีกแห่งในจังหวัดอาคิตะที่ได้รับการยอมรับว่าสวยติดอันดับ 1 ใน 100 ของประเทศญี่ปุ่น ใครที่ตั้งใจจะไปเที่ยวชมหมู่บ้านซามูไรคาคุโนดาเตะอยู่แล้ว เราแนะนำให้ปักหมุดที่นี่เพิ่มไปในลิสต์ด้วย เพราะไม่ใช่แค่บรรยากาศที่แตกต่าง ต้นซากุระที่กำลังผลิดอกบานเรียงรายเลียบแม่น้ำยาวกว่า 2 กิโลเมตร ปลูกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1934 โดยคนท้องถิ่น น่าจะเป็นเอเนอจี้ดีๆ ที่ทำให้ยิ้มแฉ่งได้ไม่มากก็น้อย
Hinokinai River
Location: เมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ
Sakura Period: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีคาคุโนดาเตะ (JR Kakunodate Station)
Access: จากสถานีคาคุโนดาเตะ เดินประมาณ 22 นาที
03 ถนนสายซากุระ-นาโนะฮานะ | Sakura-Nanohana Road
คนไหนอยากเห็นวิวซากุระแบบปังๆ แนะนำให้มาที่ถนนสายซากุระ-นาโนะฮานะ (Sakura-Nanohana Road) นี่เลย เพราะตลอดทั้งแนวถนนยาว 11 กิโลเมตร ถูกขนาบข้างไปด้วยทิวซากุระกว่า 3,700 ต้น ซึ่งบานสะพรั่งในช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม ที่สำคัญยังมาพร้อมกับดอกนาโนะฮานะสีเหลืองบานฉ่ำสร้างความชื่นใจให้แก่ผู้พบเห็น สามารถเดินทางมาโดยนั่งแท็กซี่จากด้านหน้าสถานีฮาจิโรกาตะ แนะนำให้แจ้งแท็กซี่ว่าต้องการให้จอดรอระหว่างลงไปเก็บภาพ มิเช่นนั้นจะหารถกลับไปยังสถานีได้ลำบาก
Sakura-Nanohana Road
Location: แขวงมินามิอาคิตะ (Minamiakita) จังหวัดอาคิตะ
Sakura Period: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีฮาจิโรกาตะ (JR Hachirogata Station)
Access: จากสถานีฮาจิโรกาตะ นั่งแท็กซี่ต่อประมาณ 10 นาที
จุดชมซากุระในอาโอโมริ
สวนฮิโรซากิ
หลายคนทราบว่า “จังหวัดอาโอโมริ” ดังเรื่องแอปเปิ้ล ทว่าด้านธรรมชาติของเขาก็อุดมสมบูรณ์ไม่เป็นสองรองใคร อย่างฤดูใบไม้ผลิที่นางเอกคือซากุระ อาโอโมริก็มีสถานที่น่าไปไม่ว่าจะเป็น สวนฮิโรซากิ ที่นี่นอกจากจะได้ชมปราสาทสวยๆ บริเวณรอบๆ ยังมีซากุระสวยหยาดเยิ้มให้ได้ชม อีกที่ที่เราภูมิใจนำเสนอและคิดว่าสุดแสนจะอันซีนก็คือ สวนสาธารณะฮายาคาเคนุมะ และ ถนนที่ทำการรัฐบาลประจำเมืองโทวาดะ อันนี้สายอารต์น่าจะชอบเพราะอยู่ติดกับ Towada Art Center เลย
>> 🌸 คลิกดู 3 จุดชมซากุระแนะนำในอาโอโมริ 🌸 <<
01 สวนฮิโรซากิ | Hirosaki Park
เป็นที่เลื่องลือเรื่องความสวยงามสำหรับสวนฮิโรซากิ (Hirosaki Park) นอกจากปราสาทจะมีประวัติยาวนาน ปราสาทฮิโรซากิยังเป็นสถาปัตยกรรมโบราณของญี่ปุ่นเพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงตั้งตระหง่านคอยต้อนรับคนรุ่นหลังที่เดินทางกันมาเยี่ยมชม ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่คืออีกจุดหมายของหลายๆ คนที่มาชมซากุระ เพราะไม่เพียงจะโด่งดังเรื่องต้นซากุระที่กิ่งรวมใจกันจนออกมาเป็นรูปหัวใจ ขณะที่รอบๆ บริเวณก็มีจุดที่น่าสนใจอย่างอุโมงค์ดอกซากุระ, พรมดอกซากุระ และการจัดแสดงแสงประดับต้นซากุระในยามค่ำคืน เป็นต้น
หมายเหตุ: ปัจจุบันมีการซ่อมแซมบริเวณฐานหินของปราสาท จึงย้ายตำแหน่งปราสาทจากจุดเดิมไปราว 70 เมตร โดยคาดว่าจะย้ายกลับมาตำแหน่งเดิมอย่างเร็วที่สุดในปี ค.ศ. 2025
Hirosaki Park
Location: เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ
Sakura Period: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 320 เยน, เด็ก 100 เยน *เก็บค่าเข้าชมเฉพาะช่วงเทศกาลซากุระ
Nearest Station: สถานีฮิโรซากิ (JR Hirosaki Station)
Access: จากสถานีฮิโรซากิ เดินประมาณ 28 นาที
02 สวนสาธารณะฮายาคาเคนุมะ | Hayakakenuma Park
ภาพ: Aomori Tourism
มาจังหวัดอาโอโมริและตั้งมั่นมาตั้งแต่ที่ไทยว่าทริปนี้ต้องได้เซลฟี่กับซากุระ ถ้าเป้าหมายคุณเป็นแบบนั้นเราขอแนะนำสวนสาธารณะฮายาคาเคนุมะ (Hayakakenuma Park) แห่งนี้เลย เพราะหนึ่งที่นี่เขามีซากุระให้เราชมความงดงามมากถึง 16 สายพันธุ์ ขณะที่สวนยังเป็นที่รู้จักเฉพาะคนท้องถิ่น นั่นหมายความว่าพื้นที่จะไม่แออัดไปด้วยนักท่องเที่ยว และที่สำคัญมากๆ เลยก็คือสวนสาธารณะฮายาคาเคนุมะนี้มีซากุระพันธุ์เกียวอิโก (Gyoiko) ซึ่งเป็นซากุระที่มีดอกสีขาวแกมเขียวอ่อน ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกตาน่าดูชมเอามากๆ ห้ามพลาด!
ภาพ: Aomori Tourism
Hayakakenuma Park
Location: เมืองมุตสึ (Mutsu) จังหวัดอาโอโมริ
Sakura Period: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีชิโมคิตะ (JR Shimokita Station)
Access: จากสถานีชิโมคิตะ นั่งแท็กซี่ประมาณ 15 นาที
03 ถนนที่ทำการรัฐบาลประจำเมืองโทวาดะ | Towada City Government Office Street
ภาพ: Aomori Tourism
ถ้ามาเที่ยวชม Towada Art Center ก็อย่าลืมแวะมาชมแนวซากุระตรงถนนที่ทำการรัฐบาลประจำเมืองโทวาดะ (Towada City Government Office Street) ซึ่งอยู่ตรงด้านหน้าศูนย์ศิลปะด้วยนะ เพราะระหว่างทางจะพบกับต้นซากุระจำนวนกว่า 165 ต้นบนถนนเส้นยาวประมาณ 1.1 กิโลเมตร โดยมีรูปปั้นน้องม้าให้เซลฟี่ด้วยระหว่างเดิน ถ้าจังหวะดีได้ไปช่วงที่กลีบซากุระเริ่มร่วงโรยลงมาประมาณหนึ่งแล้วจะพบทิวทัศน์ของกลีบซากุระที่ปกคลุมถนนพร้อมกับต้นซากุระที่ยังคงบานสะพรั่งพร้อมกัน สวยจนถูกรับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ถนนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ภาพ: Aomori Tourism
Towada City Government Office Street
Location: เมืองโทวาดะ (Towada) จังหวัดอาโอโมริ
Sakura Period: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
Entrance Fee: ฟรี
Nearest Station: สถานีฮาจิโนเฮะ (JR Hachinohe Station)
Access: จากสถานีฮาจิโนเฮะ นั่งรถประจำทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
จบแล้วกับ พิกัดชมซากุระ น่าไปทั้ง 18 แห่ง ใน 6 จังหวัด ทั่วภูมิภาค โทโฮคุ ซึ่งทุกที่ล้วนมีกิมมิกดึงดูดเหล่านักชมซากุระ บางแห่งอยู่ใจกลางเมืองไปง่ายนั่งรถไฟชินคันเซ็นไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเลยก็ถึง แต่บางสถานที่ก็อันซีนสุดๆ สำหรับใครที่สนใจอยากวางแผนทริปเส้นทางซากุระและต้องการประหยัดค่าเดินทาง อย่าลืมซื้อบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) เอาไว้ด้วยนะ คุ้มค่าแน่นอน
พิกัดชมซากุระ โทโฮคุ พิกัดชมซากุระ โทโฮคุ