Nebuta Matsuri : เติมความสนุกในวันอากาศอบอ้าวด้วยเทศกาลฤดูร้อนที่ใหญ่ติดอันดับท็อปทรีของภูมิภาคโทโฮคุ

‘Nebuta Matsuri เทศกาลฤดูร้อนที่ใหญ่ติดอันดับท็อปทรีของภูมิภาคโทโฮคุ’ 

ประโยคในหน้านิตยสารฉบับหนึ่งกับภาพโคมไฟกระดาษยักษ์ใหญ่ที่มีสีสันสดใสสะดุดตา ทำให้ฉันตัดสินใจแพ็คกระเป๋าบินข้ามน้ำข้ามทะเลและนั่งรถไฟเกือบ 4 ชั่วโมงจากโตเกียว ในที่สุดก็มายืนอยู่ที่นี่อาโอโมริ… เพราะบางครั้งคนเราก็ตัดสินใจอะไรง่ายๆ ด้วยภาพเพียงภาพเดียว

ฉันตัดสินใจเพิ่มงานเทศกาลฤดูร้อนเนบูตะมัตสึรินี้ลงในตารางเที่ยวของตัวเอง สำหรับคนที่สนใจโดยปกติแล้วงานจะจัดในช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี ในวันที่ไม่มีที่พักเหลืออยู่ในตัวเมืองอาโอโมริแล้ว เหลือเพียงแต่ที่พักอันเงียบสงบบนภูเขาแห่งหนึ่ง ก็เลยต้องขับรถขึ้นภูเขาไปนอนในป่าฟังเสียงลำธาร การเข้าไปเที่ยวในงานจึงต้องเช่ารถขับเข้าเมือง แล้วไปต่อรถบัสแทน (ถ้าแพลนล่วงหน้านานๆ แนะนำให้จองที่พักรอบบริเวณงานหรือใกล้สถานีรถไฟ JR Aomori ดีกว่า ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องขับรถขึ้นลงภูเขาอย่างเรา)

ฉันหาที่จอดรถเหมาะๆ และเดินมายืนรอรถที่ป้ายรถบัสด้วยความงุนงง

งงว่าจะต้องขึ้นคันไหนและต้องลงป้ายไหน ฉันมองสำรวจดูว่ามีใครที่น่าจะไปงานเทศกาลนี้บ้าง ก็หันไปเจอครอบครัวหนึ่งที่คิดว่าต้องไปงานเดียวกันเพราะน้องเด็กจิ๋วทั้งสองแต่งยูกาตะพร็อพจัดเต็ม เลยตัดสินใจตามน้องเขาไปนี่แหละ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม และแล้วเราก็มาถึงบริเวณที่จัดงานจนได้ เลยได้แต่อาริกาโตโกไซมัสในใจและลงรถบัสตามน้องไป

ฉันมาถึงบริเวณงานก่อนพระอาทิตย์ตกเลยได้เห็นการเตรียมขบวนเนบูตะตามจุดต่างๆ ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่มาเรื่อยๆ เดินลัดเลาะเก็บภาพบรรยากาศไปพลางๆ จนใกล้จะถึงเวลาเริ่มงาน เลยเดินหาซื้อเครื่องดื่มและเสบียงอาหารทั้งคาวหวานที่มีขายตลอดเส้นทาง  ฉันเลือกอาหารง่ายๆ มาสองสามอย่างแต่ที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลฤดูร้อนแบบนี้ต้องมีน้ำแข็งไสหวานชื่นใจที่มีขายตลอดทาง เมื่ออาหารและเครื่องดื่มพร้อมฉันก็มาปักหลักหาพื้นที่เหมาะๆ รอดูขบวน

ว่ากันว่าเทศกาลนี้เกิดขึ้นเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไป หรือบางตำนานก็บอกว่าเป็นการส่งวิญญาณ ซึ่งที่มาที่ไปก็ยังไม่ชัดเจนนักเป็นการเล่าต่อๆ กันหลายชั่วอายุคน โคมเนบูตะส่วนใหญ่เลยได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ละครคาบูกิ หรือตำนานดังๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งในสมัยก่อนโครงของเนบูตะจะทำจากไม้และใช้แสงสว่างจากเทียน แต่ในปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อความคงทนและมีสีสันมากขึ้น โดยบางส่วนจะเป็นโครงลวดและใช้หลอดไฟ LED แทนการใช้เทียน จะสังเกตได้จากสปอร์นเซอร์ของเนบูตะจะมีบริษัทหลอดไฟชื่อดังของญี่ปุ่นมาร่วมด้วย เป็นการร่วมกันระหว่างประเพณีดั้งเดิมและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

ในขบวนของเนบูตะจะประกอบไปด้วย โคมเนบูตะขนาดใหญ่ที่มี Takahari คอยออกแรงเข็นโคม และตามด้วยกลุ่มเครื่องดนตรีอย่าง กลอง ขลุ่ย และฉาบที่คอยบรรเลงเสียงเพลงให้มีชีวิตชีวา จากนั้นจะตามด้วยกลุ่ม Haneto ซึ่งจะแต่งชุดยูกาตะพร้อมผ้าพันเอวสีสันสดใสบวกกับหมวกงอบที่ตกแต่งอย่างสวยงาม Haneto จะส่งเสียงตะโกนโห่ร้องอย่างสนุกสนาน เสียงตะโกน “รัชเซรา รัชเซรา” ดังก้องไปทั่ว ซึ่งที่มาของคำนี้ว่ากันว่ามาจากในสมัยที่ยังใช้เทียนทำโคมเนบูตะให้สว่างไสวนั้น เด็กๆ จะตะโกนว่า “เอาเทียนออกมาหน่อยๆ” ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงคล้ายกับคำว่า รัชเซรา แล้วเพี้ยนมาจนเป็นคำที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ซึ่งจังหวะการพูดจะแตกต่างไปในแต่ละท้องถิ่น นอกจากเสียงดนตรีและเสียงโห่ร้องแล้วนั้น จะมีเสียงกระดิ่งดังมาเป็นระยะ ซึ่งมาจากกระดิ่งที่ติดที่ชุดยูกาตะของ Haneto นั่นเอง

เมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ขบวนเนบูตะก็เคลื่อนมาประจำที่ เวลา 19:10 น. เสียงกลองไทโกะก็ดังกระหึ่มตรงตามเวลาเป๊ะ! แสงไฟจากโคมกระดาษยักษ์ก็สว่างไสวขึ้น เสียงกลอง ขลุ่ย และฉาบเริ่มบรรเลงเป็นทำนองมาพร้อมกับเสียงตะโกน “รัชเซรา…รัซเซรา” เป็นจังหวะเคล้าไปตามเสียงดนตรี เพื่อส่งสัญญาณว่าขบวนเนบูตะมาแล้ว

เนบูตะแต่ละขบวนค่อยๆ เคลื่อนไปตามท้องถนนในเมือง เสียงดนตรีและกระดิ่งจากชุดของฮาเนโตบรรเลงไปเรื่อยๆ เสียงตะโกนโห่ร้องยังคงดังต่อเนื่องอย่างสนุกสนาน บางจุดเราจะได้เห็นการหมุนโคมยักษ์เป็นวงกลม เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นระยะ ค่ำคืนนี้คงยังอีกยาวไกลสินะ

ก่อนจะมาที่นี่ฉันจินตนาการไม่ออกว่าเทศกาลนี้จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว นอกจากความยิ่งใหญ่ของโคมไฟกระดาษ สิ่งที่ได้มาเพิ่มเติมคือรอยยิ้มและความสนุกสนานของผู้คนทั้งในขบวนและผู้ชมที่คอยส่งกำลังใจให้กันและกันนี่แหละที่ทำให้พิเศษ และเอเนอร์จี้ของผู้คนที่นี่ก็ล้นเหลือมาก สามารถแจกความสดใสได้ตลอดทั้งงาน

เมื่อขบวนสุดท้ายผ่านพ้นไป ไฟเนบูตะดับลง เสียงดนตรีค่อยๆ แผ่วเบาจนเงียบไปในที่สุด ฉันนั่งดูจนขบวนลับสายตา ผู้ชมทยอยกลับ เป็นการจบงานที่เรียบง่ายเกินคาดสุดๆ ฉันเองก็คงต้องกลับเหมือนกัน แต่ว่า…

รถบัสหมดแล้ว จะกลับยังไงนะ T_T
Info
Nebuta Matsuri
Website: www.nebuta.jp
Facebook: www.facebook.com/aomorinebuta