Kinosaki Onsen หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนที่กลายเป็นสีชมพูในฤดูซากุระ

คอนเซ็ปต์ของคิโนะซากิออนเซ็น – เรียวกังขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

ว่ากันว่าหมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนคิโนะซากิ หรือ คิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) เป็นต้นกำเนิดธรรมเนียมที่เรียกว่า ออนเซ็นฮ็อปปิ้ง หรือหมายถึง การตระเวนแช่บ่อน้ำพุร้อนหลายๆ แห่งที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพราะว่าที่นี่นั้นมีบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังตามตำนานโบราณที่รวมตัวกันถึง 7 แห่งซึ่งล้วนแต่มีเสน่ห์แตกต่างกันไป

ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวบ้านในคิโนะซากิออนเซ็นคิดว่าหมู่บ้านแห่งนี้เปรียบเสมือนเรียวกังขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง โดยโรงแรมและบ้านพักต่างๆ เปรียบเป็นห้องพักของเรียวกัง ถนนหนทางต่างๆ เป็นทางเดินภายในเรียวกัง ในขณะที่ชาวบ้านเปรียบเสมือนพนักงานเรียวกังที่คอยต้อนรับแขกที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเรียวกังของพวกเขาอย่างอบอุ่น

นั่งรถไฟจากสถานีเกียวโตมาประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาทีก็จะถึงคิโนะซากิออนเซ็น อย่างแรกที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือการสวมชุดยูกาตะเนื้อผ้าบางเบาซึ่งแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าของห้องพัก เปลี่ยนรองเท้าเป็นเกี๊ยะไม้ ซึ่งทั้งสองอย่างที่ว่ามานี้เหมาะแก่การสวมใส่เพื่อตระเวนแช่ออนเซ็นเป็นอย่างมาก เพราะทันทีที่ไปถึงบ่อออนเซ็นก็สามารถปลดเปลื้องออกไปพร้อมๆ กับความเหนื่อยล้าได้ทันใจ

ดอกซากุระสีชมพูระเรื่อที่เบ่งบานทั่วหมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อน

หากไปเที่ยว Kinosaki Onsen ในช่วงตั้งแต่ต้นถึงกลางเดือนเมษายน จะพบกับทิวต้น ซากุระ เรียงรายริมน้ำและตามตรอกซอกซอยท่ามกลางบรรยากาศของอาคารไม้เก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกว่า 1,300 ปี

การเปลี่ยนมาสวมชุดยูกาตะไม่ใช่เพียงสะดวกต่อการตระเวนแช่ออนเซ็นเท่านั้น แต่ยังทำให้เพลิดเพลินกับการชมซากุระสวยๆ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ภายใต้เนื้อผ้าที่ไม่หนาและไม่บางจนเกินไป เดินไปทางไหนก็ไม่รู้สึกอึดอัดเหนื่อยล้า เป็นการดื่มด่ำทัศนียภาพอันงดงามที่สัมผัสได้ที่หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนดีๆ อย่างคิโนะซากิออนเซ็นเท่านั้น

เติมความหวานด้วยขนมประจำฤดูใบไม้ผลิ

แม้จะเป็นหมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อน แต่ Kinosaki Onsen ก็มีคาเฟ่และร้านขนมหวานหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะไอศกรีม เค้ก ขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม ขนมตามฤดูกาลที่จำหน่ายในช่วงหน้า ซากุระ แช่ออนเซ็นเสร็จมานั่งพักกินขนมอร่อยๆ ก็เป็นอีกความเพลิดเพลินดีๆ ที่ทำให้ทริปแช่ออนเซ็นมีร้อยยิ้มในทุกช่วงเวลา

จุดชมดอกไม้ใกล้ๆ คิโนะซากิออนเซ็น

ที่ตั้งของคิโนะซากิออนเซ็นนั้นล้อมรอบไปด้วยภูเขาเขียวชอุ่ม น้ำทะเลใสพร้อมหาดทรายขาว รวมถึงทิวทัศน์ชนบทอันกว้างใหญ่ แน่นอนว่าในช่วงเดียวกันนั้นก็มีจุดชมซากุระสวยๆ ที่ล้วนแต่น่าไปด้วยกันทั้งนั้น

01 ชายหาดทาเคโนะ (Takeno Beach)

ต่อรถไฟไปทางตอนเหนือของคิโนะซากิออนเซ็นเพียงสถานีเดียวจะพบกับหมู่บ้านชาวประมงทาเคโนะ (Takeno) ซึ่งมีสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาทำกิจกรรมทางทะเลอย่างชายหาดทาเคโนะ แต่ในช่วงต้นถึงกลางเมษายนที่ซากุระเบ่งบานนั้นน้ำเย็นจนไม่สามารถเล่นได้ ทำให้จุดที่น่าสนใจคือซากุระที่บานอยู่ใกล้ๆ แม่น้ำทาเคโนะหรือซากุระที่บานอยู่ใกล้จุดชมวิวบนภูเขานั่นเอง

02 เมืองปราสาทอิซึชิ (Izushi Castle Town)

ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคิโนะซากิออนเซ็นเป็นที่ตั้งของเมืองปราสาทโบราณที่มีไฮไลท์อยู่ที่สวนซากุระที่รายล้อมปราสาทหลังเก่า ตลอดช่วงต้นถึงกลางเมษายนจึงมีผู้คนเดินทางมาเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันสวยงามที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วันในหนึ่งปี

03 ที่ราบสูงคันนาเบะ (Kannabe Highland)

ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของคิโนะซากิออนเซ็นเป็นภูเขาและที่ราบสูง หนึ่งในนั้นคือที่ราบสูงคันนาเบะซึ่งผู้คนนิยมมาเล่นร่มร่อนในฤดูร้อนหรือเล่นสกีในฤดูหนาว แต่คนแถวนั้นจะรู้กันดีว่าในฤดูใบไม้ผลิที่นี่ก็เป็นจุดที่เหมาะจะปิกนิกชมซากุระได้ดีเยี่ยมเช่นกัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเล ซากุระของที่ราบสูงคันนาเบะจึงมีให้ชมในช่วงกลางถึงปลายเมษายนซึ่งช้ากว่าคิโนะซากิออนเซ็น

04 หมู่บ้านทันโต (Tanto)

หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ชนบทซึ่งค่อนข้างไกลจากคิโนะซากิออนเซ็นแต่ยังคงอยู่ในพื้นที่ของเมืองโทโยโอกะ (Toyooka) เช่นเดียวกับคิโนะซากิออนเซ็น แม้หมู่บ้านแห่งนี้จะไม่มีจุดชมซากุระยอดนิยม แต่ในช่วงกลางถึงปลายเมษายนของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลดอกทิวลิปที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ ถ้าเช่ารถขับแนะนำให้แวะมาเที่ยวเทศกาลนี้ด้วย