3 ซามูไร แรงบันดาลใจสู่โลกการ์ตูน
“ซามูไร” อีกหนึ่งเรื่องราวที่โลดแล่นอยู่บนหน้ากระดาษ หน้าจอโทรทัศน์ จอโทรศัพท์ วิดีโอเกมส์ หรือบนแผ่นฟิล์ม นึกย้อนกลับไป ความทรงจำในวัยเด็กกับคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นอย่าง ยุคเอโดะ ยุคเมจิ โชกุนโทะกุงะวะ และอีกหลายๆ ชื่อบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ ได้ผ่านหู ผ่านตา และความทรงจำด้วยหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นในห้องของพี่ชาย ภาพวาดเท่ๆ กับวิถีบุชิโดผู้จงรักภักดีของเหล่าซามูไร เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น
การประลองเพลงดาบอันดุเดือดเลือดพล่าน การต่อสู้ต่อความโหดร้ายและความอยุติธรรมด้วยความกล้าหาญ องอาจ มีอุดมการณ์ และพร้อมเสียสละเพื่อคนรัก ด้วยเรื่องอะไรประมาณนี้ ก็ได้ใจเด็กชายในตอนนั้นไปเต็มๆ
กับแฟนพันธ์แท้มังงะคงไม่ต้องพูดถึง ส่วนใครที่พอจะติดตามหนังสือการ์ตูน อนิเมชัน หรือซีรีส์ภาพยนตร์เรื่องราวของซามูไรและประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นอยู่บ้าง น่าจะเคยสังเกตเห็นตัวละครซามูไร ที่ถูกกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ หลายเรื่อง หลายตัวละคร ผู้แต่งได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงของบุคคลในประวัติศาสตร์ ด้วยเรื่องราวเข้มข้นผสมจินตนาการ จึงทำให้ตัวละครเหล่านั้นมีเสน่ห์ ดูเท่แบบมีประวัติศาสตร์
Kawakami Gensai
“คาวาคามิ เกนไซ” ซามูไรยอดมือสังหารแห่งยุคบะกุมะสึ ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือดาบกับใบหน้าอันอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังมีภรรยาเป็นเจ้าของโรงฝึกดาบ ใช่เลย นี่คือบุคคลในประวัติศาสตร์ต้นแบบและแรงบันดาลใจ ตัวจริงเสียงจริง
ของมือสังหารพิฆาตบัตโตไซ “ฮิมุระ เคนชิน” จากเรื่อง Ruroni Kenshin หรือซามูไรพเนจร ที่เราๆ รู้จักกันมาตั้งแต่เวอร์ชั่นหน้ากระดาษไปจนภาพยนตร์ไตรภาคฉบับคนแสดง
ภาพลักษณ์ชายผมแดงผู้มีรอยบากกากบาทบนใบหน้า พกพาดาบสลับคมกับอดีตฝังใจอันเลวร้าย เดินทางพเนจรร่อนเร่ไปทั่วญี่ปุ่น ตามประวัติของเกนไซ เขาคือยอดมือสังหารฝ่ายปฏิวัติ ผู้ปลิดชีพนายทหารและนักการเมืองคนสำคัญของฝ่ายโชกุน ด้วยแนวคิด “จะสร้างยุคใหม่ ต้องทำลายของเดิม” คล้ายกับเรื่องราวของมือสังหารบัตโตไซฉบับการ์ตูน เพียงแต่ว่าตอนจบไม่ได้สวยหรูเหมือนการ์ตูนที่คุณหนูๆ อ่าน ยุคเมจิหลังสงครามจบ ฝ่ายรัฐบาลใหม่กลับเห็นว่า ในอนาคตซามูไรผู้จงรักภักดีอย่างเกนไซ อาจเป็นหอกข้างแคร่ คิดไม่ซื่อและอาจก่อกบฏต่อรัฐบาลใหม่ จึงใส่ร้ายพร้อมยัดข้อหาแล้วลากเข้าคุก จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต จบเรื่องราวของมือสังหารภายในคุกนั่นเอง
Okada Izo
“โอคาดะ อิโซ” ซามูไรผู้จงรักภักดีจนตัวตายเยี่ยงอาชญากร ต้นแบบตัวละคร “โอคาดะ นิโซ” จากการ์ตูนซามูไร
ชื่อดังสุดเพี้ยน Gintama และตัวละครที่ชื่อ “อุโด จินเบ” จากซามูไรพเนจร อิโซเกิดที่แคว้นโทสะ เติบโตและสนิทสนมกับ ทาเคชิ ฮัมเปตะ ซึ่งภายหลังได้เป็นหัวหน้ากลุ่มกองกำลังคนหนุ่มพิทักษ์แคว้นโทสะ โดยอิโซถือเป็นกำลังสำคัญในตำแหน่งมือสังหาร จนฝืมือดาบเลื่องชื่อไปทั่วญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งซามูไรยอดฝืมือแห่งยุคบะกุมะสึ
เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนใกล้จบ กลุ่มกองกำลังคนหนุ่มพิทักษ์แคว้นโทสะ ถูกกดดันจากฝั่งสนับสนุนจักรพรรดิ
จนต้องสลายกลุ่มแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง ทาเคชิ ฮัมเปตะ หัวหน้ากลุ่มถูกจับได้พร้อมตัดสินให้มีความผิด
รับโทษคว้านท้องเยี่ยงซามูไร ส่วนโอคาดะ อิโซ หลบหนีก่อนจะถูกจับได้ที่แคว้นโทสะบ้านเกิด ตลอดคำให้การอิโซแสดงถึงความจงรักภักดีต่อหัวหน้าฮัมเปตะและพวกพ้อง เชื่อมั่นในอุดมการณ์ที่จะพาญี่ปุ่นสู่สังคมสงบสุข และพร้อมสังหารใครหน้าไหนก็ตาม ที่คิดจะต่อต้านท่านโชกุน ท้ายที่สุด 2 ปีก่อนสงครามจบและเริ่มยุคสมัยเมจิ
โอคาดะ อิโซ ถูกตัดสินประหารชีวิตอย่างอัปยศด้วยการตัดคอเสียบประจานเยี่ยงอาชญากร หาใช่การคว้านท้องแสดงความกล้าหาญเฉกเช่นซามูไรผู้มีเกียรติ
Shinsengumi
รายสุดท้ายมากันเป็นแก๊ง “ชินเซ็งงุมิ” หรือกลุ่มชินเซ็ง กลุ่มตำรวจผู้พิทักษ์รัฐบาลบาคุฟุ ที่จัดตั้งโดยโชกุน
โทกุงะวะ มีชื่อเสียงและโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์จนไปโลดแล่นอยู่ในการ์ตูนและซีรีส์เรื่องต่างๆ มากมาย อย่างในเรื่องซามูไรพเนจร ที่ต้องอยู่ฝั่งตัวร้ายคอยต่อสู้กับพระเอก เรื่อง Gintama ที่ใส่เครื่องแบบของตะวันตก เรื่อง Hakuouki บุปผาซามูไรเรื่องราวในยุคเอโดะของสาวน้อยที่ออกตามหาพ่อ จนได้เข้ากลุ่มชินเซ็ง หรือเรื่อง Peace Maker Kurogane มือปราบดาบซามูไร ที่นำเสนอตั้งแต่ช่วงเวลารุ่งโรจน์จนถึงกาลล่มสลายของกลุ่มชินเซ็ง
“ชินเซ็งงุมิ” ถือเป็นกลุ่มซามูไรหัวรุนแรง ดูมีความเป็นแก๊ง สมาชิกแต่ละคนอายุยังน้อย ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมาจากตระกูลซามูไรก็ได้ ขอแค่พร้อมที่จะสังหารฝ่ายตรงข้าม เราก็จะเตรียมเครื่องแบบไว้ให้ ว่ากันว่าช่วงรุ่งโรจน์มีสมาชิกถึง 400 คน สมาชิกที่โดดเด่นอย่างผู้นำของกลุ่ม คอนโด อิซามิ และรองหัวหน้า ฮิจิคาตะ โทชิโซ แต่ที่ดูมีเสน่ห์และป๊อบปูลาร์ในโลกการ์ตูน เห็นจะเป็นหัวหน้าหน่วยที่หนึ่ง “โอคิตะ โชจิ” นักดาบอัจฉริยะแถวหน้าของยุคบะกุมะสึ ว่ากันว่าเป็นผู้มีฝีมือดาบเก่งกาจกว่าใครในกลุ่ม แถมยังอายุน้อยที่สุดอีกด้วย น่าเสียดายด้วยโรคประจำตัวและอาการป่วยเรื้อรัง โอคิตะ โชจิ ล้มป่วยและเสียชีวิตเพียงลำพังภายในบ้านพัก ทิ้งชื่อนักดาบอัจฉริยะไว้ด้วยอายุเพียง 25 ปี
ตลอดช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านประเทศญี่ปุ่น ในโลกของการ์ตูน ภาพสุดท้ายชองตอนจบอาจจะเป็นภาพพระเอกซามูไรของเรา ละทิ้งการต่อสู้และคมดาบยืนดูดอกไม้ไฟอยู่ในยุคอันสงบสุข แต่ประวัติศาสตร์ชีวิตจริง ซามูไรผู้จงรักภักดีเหล่านี้ ที่แม้อุดมการณ์จะต่างกัน เลือกยืนกันคนละฝั่ง แต่ที่เหมือนกันคือการมาถึงของวาระสุดท้ายต้องตายก่อนดอกไม้ไฟนัดแรกจะปรากฏ