- 30 Nov. 2018
- 20,799
- 3,938 แชร์
- แชร์เรื่องนี้
- บันทึกเรื่องนี้
Hakone Kamakura Pass : ชวนพักใจในพื้นที่แสนสุขท่ามกลางธรรมชาติที่เมืองฮาโกเน่และคามาคุระ
เรื่อง : แคทลียา ภิญโญ
ภาพ : Shimizu Soyo
- 30 Nov. 2018
- 20,799
- 3,938 แชร์
- แชร์เรื่องนี้
- บันทึกเรื่องนี้
สารบัญ
Hello, from Hakone then Kamakura.
เมืองฮาโกเน่และคามาคุระอาจไม่ใช่จุดหมายของคนที่เลือกไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก แต่หากวันไหนเกิดอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวนอกเมืองสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมใบหญ้าป่าเขา ล่องเรือพลางมองวิวกลางทะเลสาบ หรืออยากลองนั่งเรื่อยเปื่อยริมทะเลดูบ้างแนะนำให้ลองมาฮาโกเน่หรือไม่ก็คามาคุระกันดูสิ ฉันว่าคุณน่าจะชอบ 🙂
Our nice days with Hakone Kamakura Pass
ในขณะที่คนส่วนใหญ่เวลามุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่นมักเลือกเมืองหลวงอย่าง “โตเกียว” เป็นจุดหมายอันดับต้นๆ แต่หากใครที่เคยมาญี่ปุ่นบ้างแล้ว จะรู้ว่าประเทศนี้ช่างกว้างใหญ่และมีอะไรที่น่าสนใจอีกเพียบ ห่างจากโตเกียวราว 1 ชั่วโมง เป็นที่ตั้งของจังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) ฉันว่าที่นี่ได้รวมเอาทั้งความเจริญ ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความเชื่อ และวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน หากวันไหนเกิดอยากพักผ่อนหย่อนทั้งกายและใจ การนั่งรถไฟสั้นๆ แค่ชั่วโมงเดียวมาที่คานางาวะก็เป็นความคิดที่ดีนะ
ที่จังหวัดคานางาวะมีเมืองท่องเที่ยวที่ฉันบังเอิญเห็นภาพในแม็กกาซีนญี่ปุ่นฉบับหนึ่ง ภาพนั้นติดอยู่ในใจจนฉันเอ่ยกับตัวเองไว้ว่าถ้าไปญี่ปุ่นเมื่อไหร่จะต้องไปให้ได้ ซึ่งก็คือ “ฮาโกเน่ (Hakone)” และ “คามาคุระ (Kamakura)” ด้วยความที่ทั้งสองเมืองอยู่ไม่ไกลกันมากและประเทศญี่ปุ่นก็บังเอิญตอบโจทย์ความอยากไปของฉันด้วยการออกบัตรโดยสารให้สามารถเดินทางไปได้ทั้งฮาโกเน่และคามาคุระในบัตรเดียวชื่อว่า “Hakone Kamakura Pass”
Hakone Kamakura Pass เป็นบัตรโดยสารสำหรับเดินทางได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวในระยะเวลา 3 วันในเขตเมืองฮาโกเน่ คามาคุระ และเอโนชิมะภายในเส้นทางให้บริการของ Odakyu อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นส่วนลดของสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งได้ ออกตัวก่อนว่าใช้จริง คุ้มจริง ลองคำนวณดูแล้วว่าถ้าใช้แค่บัตรโดยสารเดียวแล้งสามารถนั่งได้ทุกระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถไฟ รถบัส เรือ กระเช้า รถราง ขนาดนี้ให้ตายเถอะ ยังไงก็ต้องบอกต่อ และจะเป็นอะไรไหมถ้าฉันบอกว่าอยากให้ทุกคนได้ลองใช้ Hakone Kamakura Pass จริงๆ
รู้จัก Odakyu Electric Railway
บริษัทรถไฟที่ให้บริการคมนาคมขนส่งจากชินจูกุในโตเกียว ไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว เช่น ฮาโกเน่, คามาคุระ,เอโนชิมะ, โอยาม่า เป็นต้น
Hakone Kamakura Pass
บัตรโดยสารสำหรับเดินทางได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวในระยะเวลา 3 วันในเขตเมืองฮาโกเน่ คามาคุระ และเอโนชิมะภายในเส้นทางให้บริการของ Odakyu
ฮาโกเน่ (Hakone)
Hakone Tozan Line, Hakone Tozan Bus, KANKO SHITETSU-MEGURI Bus, Hakone Tozan Cable Car, Hakone Ropeway, Hakone Sightseeing Cruise, Odakyu Hakone Highway Bus, Tokai Bus Orange Shuttle
คามาคุระและเอโนชิมะ (Kamakura and Enoshima)
Enoden
*ยกเว้นรถไฟ Romance Car ต้องใช้ตั๋ว Limited Express Romance Car แยกต่างหาก
ราคา: ผู้ใหญ่ 7,000 เยน, เด็ก 2,250 เยน
อายุการใช้งาน: 3 วัน (*ระยะเวลาที่สามารถใช้ได้จะระบุบนตั๋วโดยสาร)
สั่งซื้อและสอบถามเพิ่มเติม: @qualityexpress (สาขารัชดา 02-277-9999/ สาขาลาดพร้าว 02-511-3000)
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.odakyu.jp/english/passes/hakone_kamakura
Day 1 |
And I Love Hakone
ไม่ว่าใครก็ตกหลุมรักฮาโกเน่ได้อย่างง่ายดาย เปิดทริปเที่ยวเมืองนอกของฉันด้วยย่านนอกเมืองในญี่ปุ่น “ฮาโกเน่ (Hakone)” ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงโตเกียวออกเดินทางโดยรถไฟจากชินจูกุแต่เช้าใช้เวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมงก็ถึง ฉันว่าฮาโกเน่เป็นเมืองที่มีความเป็นธรรมชาติสูงหมายถึงทั้งความไม่ปรุงแต่งของเมืองและทั้งธรรมชาติแบบจัดเต็ม ทะเลสาบ หุบเขา ภูเขาแสนอุดมสมบูรณ์ ตลอดจนทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิที่เราสามารถมองเห็นได้จากเมืองฮาโกเน่เองเลย
Hakone Shrine
เสาโทริอิสีแดงสดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในทะเลสาบ เป็นภาพที่เห็นบ่อยๆ ตามหน้าอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็คือศาลเจ้าประจำเมืองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ตีนเขาฮาโกเน่ ริมทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) นั่นเอง ฉันเลือกนั่งบัสมาสักการะที่ศาลเจ้าเป็นที่แรก แม้คนจะเยอะแต่กลับรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ฉันอวยพรให้ตัวเองเที่ยวอย่างปลอดภัยตลอดทั้งทริปด้วยเถอะ สาธุ
Bus Stop: Motohakone (Hakone Tozan Bus)
Lake Ashi
ทะเลสาบอาชิเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟฮาโกเน่ ที่นี่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาและเหล่าพรรณ-ไม้ที่คอยผลัดเปลี่ยนสีเอาใจเราไปในทุกฤดูกาล ฉันว่าที่นี่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่น่าจดจำของเมือง สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากทั้งริมทะเลสาบ ถีบเรือเป็ด หรือจะล่องเรือชมทัศนียภาพก็ได้เหมือนกัน ไม่ว่าใครที่ได้มา ยังไงก็ต้องแอบปันใจให้ทะเลสาบแห่งนี้เหมือนกับฉันแน่ๆ
Port: Motohakone-ko (Hakone Sightseeing Cruise), Togendai-ko (Hakone Sightseeing Cruise)
Hakone Sightseeing Cruise
เรือนำเที่ยวชมวิวรอบทะเลสาบขนาดใหญ่ให้บริการระหว่างท่าเรือ Motohakone และ Togendai เที่ยวละประมาณ 30 นาที ภายในมีบริการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก ส่วนจุดเด่นของเรือที่ใครๆ ที่ได้มาเยือนฮาโกเน่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากนั่งเรือสักครั้งคือ ตัวเรือได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือโจรสลัดของทางตะวันตกนั่นเอง บอกได้คำเดียวว่าเท่มาก
Bus Stop: Motohakone (Hakone Tozan Bus)
Ropeway Station: Togendai (Hakone Ropeway)
Website: hakone-kankosen.co.jp
ฉันเลือกนั่งเรือจากท่าเรือ Motohakone มาลงที่ท่าเรือ Togendai เพื่อจะมาขึ้นกระเช้า (Hakone Ropeway) ต่อไปยังหุบเขาโอวาคุดานิ (Owaku-dani) แต่จริงๆ แล้วสามารถนั่งเรือจากฝั่งไหนก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกเลย ราคาเท่าเดิม อีกทั้งค่าตั๋วเรือรถบัส กระเช้า ก็รวมอยู่ในพาส Hakone Kamakura Pass หมดแล้ว ไม่ว่าจะนั่งจากทางฝั่งไหนค่าใช้จ่ายก็เท่าเดิม บรรยากาศก็ดีเหมือนเดิม และทำให้รู้สึกสบายใจได้มากเหมือนๆ กัน
Hakone Ropeway
กระเช้าลอยฟ้าที่จะพาชมวิวฮาโกเน่จากมุมสูงกว่า 1,000 เมตร ให้บริการระหว่างสถานี Togendai และ Sounzan เราสามารถแวะพักหรือลงเที่ยวที่สถานีระหว่างทางได้ตามใจชอบ ฉันว่าที่คนติดใจการเดินทางแบบนี้อาจเพราะชอบการได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นหรือไม่ได้มีมาให้เห็นกันบ่อยๆ อย่างใบไม้สีสวยในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาไฟฟูจิในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ล้วนเป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือเรื่องจริง
Port: Togendai-ko (Hakone Sightseeing Cruise)
Cable Car Station: Sounzan (Hakone Tozan Cable Car)
Website: hakoneropeway.co.jp
Owakudani
หุบเขาโอวาคุดานิเป็นหนึ่งภูเขาไฟในญี่ปุ่นที่ยังคุกรุ่น จึงมีกำมะถันของภูเขาไฟและไอน้ำพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา ของขึ้นชื่อประจำหุบเขานี้คือ “ไข่ดำ (Kurotamago)” ซึ่งต้มด้วยน้ำแร่กำมะถันที่ผุดขึ้นมา และสีดำของเปลือกไข่มาจากสีของกำมะถันนั่นเอง คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าการได้กินไข่ดำ 1 ลูกจะทำให้อายุยืนขึ้นอีก 7 ปี ฉันกินไปตั้ง 3 ลูก ฉันคงมีเวลามาเที่ยวญี่ปุ่นอีกนานเลย
Ropeway Station: Owakudani (Hakone Ropeway)
Day 2 |
Today is Hakone Day
วันที่ 2 ฉันยังอยู่ที่เมืองฮาโกเน่มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายรอให้ฉันเข้าไปทำความรู้จัก ความหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ จะว่าอย่างไรดี ฮาโกเน่ช่างน่ารักรสชาติกลมกล่อมแบบกำลังดี เพราะแบบนี้ทำให้ฉันต้องอยู่เที่ยวที่ฮาโกเน่ต่ออีกวัน
Miyanoshita Station
สถานีนี้น่ารัก ฉันว่าบริเวณนี้รวมความน่ารักเอาไว้ คาเฟ่ เบเกอรี่ ร้าน Zakka หน้าร้านอาจจะตกแต่งไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย แต่ก็ชวนให้ต้องเดินเข้าร้านนู้นทีออกร้านนี้ทีอย่างเพลิดเพลิน หากอยากหาร้านนั่งชิลในฮาโกเน่ ขอแนะนำให้มาที่สถานีรถไฟ Miyanoshita รับรองว่าเพียบ นอกเหนือจากนี้ยังมีศาลเจ้าเล็กๆ หรือพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกมากมายถ้าสนใจก็เดินตามแผนที่ได้เลย
Naraya Cafe เป็นทั้งร้านขนมและแกลเลอรีในที่เดียวกัน นอกจากวิวจะดีมากแล้วความเก๋คือมีบ่อให้แช่เท้าได้ฟรีอีกด้วย
เนิน Ajisai Zaka Slope
Mori-Meshi คาเฟ่วิวภูเขาจำหน่ายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม บรรยากาศอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่นมากๆ
ไอศกรีมวานิลลากับไซด้า กินแล้วสดชื่นรสชาติเข้ากันสุดๆ
บรรยากาศภายในร้าน Mori Meshi
Okada Museum of Art
โอะคะดะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีการจัดสวนญี่ปุ่นได้สวยมาก แม้คนที่ไม่ได้สนใจงานศิลปะมากนัก ก็จะสามารถเดินได้โดยไม่เบื่อ ที่นี่มีนิทรรศการศิลปะตะวันออกและญี่ปุ่นสลับเปลี่ยนหมุนเวียนมาจัดอยู่ตลอดทั้งปี ถ้าเดินชมงานจนรู้สึกเหนื่อย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีบ่อน้ำร้อนแช่เท้าคอยให้บริการด้วย
Bus Stop: Kowakien (Hakone Tozan Bus)
Website: okada-museum.com
Mishima Skywalk
สะพานแขวนยาวที่สุดในญี่ปุ่นที่มีความยาวถึง 400 เมตร ตัวสะพานทอดข้ามหุบเขาสูงจากพื้นดิน 70.6 เมตร ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่คนนิยมไปกัน หากสังเกตดีๆ ตรงกลางทางเดินจะทำเป็นตะแกรงเหล็กเพื่อลดแรงลม ไม่ให้เสียวท้องจนเกินไป ความน่ารักอีกอย่างคือความใส่ใจเพราะถูกออกแบบให้กว้างกว่าสะพานปกติ เพื่อให้ผู้ใช้รถเข็นก็สามารถมาชมวิว 360 องศา อีกทั้งยังสวนทางกันได้ไม่ต้องกังวลว่าจะขวางทางผู้อื่น นอกเหนือจากสะพานที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ซิปไลน์, ตลาดนัดขายอาหาร, เรือนกระจก, คาเฟ่น่ารักๆ และเส้นทางเดินป่าคิโคะโระ เป็นต้น
Bus Stop: Mishima (Tokai Orange Shuttle Bus)
Website: mishima-skywalk.jp
Gotemba Premium Outlets
โกเทมบะเป็นพรีเมียมเอาท์เล็ทแห่งแรกของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมร้านค้าแบรนด์ดังมากกว่า 200 ร้าน ด้วยความที่มีร้านค้าเยอะมากจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนคือฝั่งตะวันตกและตะวันออก โดยมีหุบเขาคั่นกลางและสะพานเชื่อมให้ไม่รู้สึกแน่นจนเกินไป ถ้าโชคดีก็จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ทำให้เอาท์เล็ทแห่งนี้น่าเดินขึ้นอีกเยอะ
Bus Stop: Gotemba (Hakone Tozan Bus)
Website: premiumoutlets.co.jp
Hakone Map
ดาวน์โหลดแผนที่ฮาโกเน่ที่นี่ hakone map
Day 3 |
Kamakura is calling you
วันที่ 3 จากฮาโกเน่ฉันเดินทางต่อมายังเมืองที่ชื่อว่า “คามาคุระ (Kamakura)” ที่นี่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมาหลายร้อยปี บรรยากาศเมืองเก่า เคล้าวัฒนธรรม แถมยังติดทะเลและภูเขาแบบนี้ ถูกจริตคนเสพติดความช้า ชอบชิลแบบฉันมากหากใครมีเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งวัน ขอแนะนำสถานที่น่าไปและของอร่อยชวนกินในเมืองคามาคุระ เผื่อเป็นไอเดียให้ได้ตามไปเที่ยวกันนะ
Kamakurakokomae
“อยู่ที่ไหนใครๆ ก็อยากดูพระอาทิตย์”
เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นภาพจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับถนน ที่มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าและผืนน้ำทะเลสีฟ้าสดใสเมื่อต้องแสงอาทิตย์ จังหวะดีหน่อยก็จะเห็นรถไฟสีเขียวสายเอโนะเด็น (Enoden) ผ่าน เนื่องจากถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์แอนิเมชันอยู่บ่อยครั้ง ที่นี่ตั้งอยู่ไม่ไกล สามารถเดินเท้าได้จากสถานีรถไฟ Kamakurakokomae
วันธรรมดาในคามาคุระผู้คนบางตา ที่ที่คนพลุกพล่านที่สุดเห็นจะเป็นสถานีรถไฟ มีความหวังที่สถานีรถไฟ มีความเศร้าที่สถานีรถไฟ มีความไร้เดียงสาที่สถานีรถไฟ มีความอบอุ่นที่สถานีรถไฟ เราว่ารถไฟคงไม่ต่างอะไรกับพระอาทิตย์ รถไฟแล่นเข้าชานชาลา ถึงเวลาก็แล่นผ่านไป “หรือว่าอยู่ที่ไหนใครๆ ก็อยากดูรถไฟ” อย่างน้อยก็ฉันคนนึงล่ะ : )
Train Station: Kamakurakokomae (Enoden)
Kotoku-in Temple
ทุกหนทุกแห่งในเมืองโบราณคามาคุระเต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้า หนึ่งวัดที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของเมืองคามาคุระและมีพระพุทธรูปสีเขียวสำริดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อว่า “พระใหญ่ไดบุทสึ (Daibutsu)” ตั้งอยู่กลางแจ้ง ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมโครงสร้างภายในองค์พระได้ด้วย
Train Station: Hase (Enoden)
Komachi-dori Street
ใจกลางเมืองเก่าไม่ไกลจากสถานีรถไฟคามาคุระ นั้นเป็นที่ตั้งของถนนสายช็อปปิ้งโคมาจิโดริ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าละลานตา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่แสนน่ารัก ร้านหนังสือ สินค้าทำมือ ฯลฯ จะว่าไปแล้ว ฉันก็เดินเล่นอยู่ที่นี่ได้ตั้งครึ่งค่อนวันเชียวล่ะ
Train Station: Kamakura (Enoden)
Simple Eats in Kamakura
หากรู้ตัวว่าเป็นสายกิน ขอให้ตามมาเที่ยวไป กินไป ในคามาคุระด้วยกันนะ
บ้านไม้แบบญี่ปุ่นโบราณกว่าหนึ่งร้อยปีที่ตั้งอยู่ริมทางรถไฟหลังนี้ จำหน่ายขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ อาทิ ขนมดังโงะกับถั่วแดงบด แต่ที่ฉันชอบมากคือโยเกิร์ตผลไม้ เมนูธรรมดาแต่กลับอร่อยมากอย่างบอกไม่ถูก เดินทางสะดวกไม่ต้องกลัวจะหาร้านไม่เจอเพราะห่างจากสถานีประมาณสิบก้าวเท่านั้น (จริงๆ)
Info
Mushinan
Hours: 10:00-17:00 น.
Close: วันพฤหัสบดี
Website: mushinan.chobi.net
Train Station: Wadazuka (Enoden)
ที่นี่เป็นร้านกาแฟสาขาย่อยของร้านกาแฟชื่อดังจากเมืองนาโกย่า แม้จะเป็นร้านกาแฟ แต่เมนูที่อยากแนะนำคือ Daibutsu Crepe เครปผลไม้ตามฤดูกาลและโยเกิร์ตที่มีจำหน่ายเฉพาะสาขาคามาคุระเท่านั้น อย่าลืมสั่งคุกกี้รูปพระพุทธรูปไดบุทสึอีกหนึ่งชิ้น เพิ่มอรรถรสการเที่ยวเมืองคามาคุระขึ้นได้อีกเยอะ
Info
Kannon Coffee Kamakura
Hours: 10:00-18:00 น.
Close: -
Website: kannoncoffeekamakura
Train Station: Hase (Enoden)
Oxymaron
ร้านแกงกะหรี่สุดเท่ที่เต็มไปด้วยความสดใหม่ ทั้งวัตถุดิบและความคิดที่รังสรรค์แต่ละเมนูออกมา ทำให้เราอยากลองไปซะทุกอย่าง นอกจากแกงกะหรี่ที่เป็นดาวเด่นของร้านแล้ว ขนมหวานของเขาก็อร่อยไม่แพ้กัน แอบบอกนิดนึงว่าที่ร้านคนแน่นตลอด ใครอยากชิมก็ต้องอดทนรอคิวกันหน่อยนะ
Info
Oxymaron
Hours: 11:00-18:00 น.
Close: วันพุธ
Website: oxymoron.jp
Train Station: Kamakura (Enoden)
Kamakura Map
ดาวน์โหลดแผนที่คามาคุระที่นี่ kamakura map